ว่าด้วยกุมารเกิดวันพุฒ

พระคัมภีร์ประฐมจินดาผูก ๓ บริเฉท ๔ ว่าด้วยกุมารเกิดวันพุฒ เปนลักษณะแห่งทรางสกอเปนเจ้าเรือน ทรางกระตังเปนทรางจร หละชื่อเนียรกันถีชื่อเนียรเพลิง ละอองชื่อแสงเพลิง ลมชื่อสุนทรวาตโดยสังเขป

(ลักษณทรางสกอนั้นมีแจ้งอยู่ในน่า ๑๘๕ แห่งเล่มนี้แล้ว)

อนึ่งถึงสิ้นกำหนดทรางสกอเจ้าเรือนนั้นแล้วก็ดี ให้ระวังละอองพระบาท แลทรางจรสำหรับทรางสกอนั้นต่อไป

บัดนี้จะว่าด้วยลักษณะทรางกระตัง ซึ่ง เปนทรางจรมาแซกสำหรับทรางสกอเจ้าเรือน ให้แพทย์พึงรู้โดยสังเขปดังนี้

อันว่าทรางกระตังนั้น มีแม่ ๓ ยอดมีบริวาร ๓๐ ยอด เมื่อกุมารอยู่ในเรือนเพลิงเขม่าหามีไม่ ครั้นได้เดือนหนึ่งออกจากเรือนเพลิงแล้วเขม่าจึงขึ้น ครั้นสิ้นเขม่าแล้วแม่ทรางจึ่งรายกันขึ้นๆ ในนาภียอด ๑ บริวาร ๑๐ ยอด ขึ้นในฅอยอด ๑ บริวารขึ้นด้วย ๑๐ ยอด ครั้นกุมารได้เดือน ๑ กับ ๑๕ วัน บริวาร ๑๐ ยอดซึ่งขึ้นอยู่ในนาภีนั้น ก็รายกันขึ้นมาในลำไส้อ่อนลำไส้แก่ จนถึงทรวงอก ทรางบริวาร ๑๐ ยอดซึ่งขึ้นอยู่ในทรวงอกนั้น ก็ถอยลงไปขึ้นในกะเพาะน้ำกะเพาะเข้า แลทรางบริวาร ๑๐ ยอดซึ่งขึ้นอยู่ในฅอนั้นก็รายกันออกไปขึ้นเพดาลบ้าง ขึ้นริมฝีปากบ้าง แลขึ้นลิ้นขึ้นกะพุ้งแก้มบ้าง หนาสามชั้นดุจดังหญ้ายองไฟ ถ้าขึ้นพร้อมกันทั้งสามแห่งดังกล่าวมานี้ ทรางที่ขึ้นในสำไส้ก็ทำให้เปนบิด ทรางที่ขึ้นในกะเพาะน้ำนั้นทำให้ขัดเบา ทรางที่ขึ้นในกะเพาะเข้านั้นก็ทำให้จุกเสียด มิให้อยากอาหารนอนไม่หลับ ทรางที่ขึ้นในฅอนั้นทำให้ฅอแห้งร้องไห้มิออก ทรางที่ขึ้นในเพดาลนั้นทำให้ปวดศีศะหายใจขัดดูดนมมิได้ อันว่าลักษณะทรางกระตังนี้ถ้าบังเกิดแก่กุมารกุมารีผู้ใดห้ามมิให้วางยารุผาย แลทรางจำพวกนี้บางทีขึ้นแซกทรางเจ้าเรือน บางทีต่อสิ้นกำหนดทรางเจ้าเรือนแล้ว จึ่งทำต่อไปจนอายุกุมาร ๑๒ ขวบ อันว่าเภททรางกระตังนี้ย่อมจะสู้ยา บางทีกวาดแต่เช้าถึงเที่ยงจึงหล่นไปจนรุ่ง ครั้นรุ่งเช้ากลับขึ้นมาดังเก่า ย่อมทำให้ท้องขึ้นตัวร้อนแสยงขน ครั้นถึงถ้วน ๓ เดือนแล้ว แม่ทรางแลบริวารซึ่งรายไปขึ้นทุกแห่งนั้นก็รายกันมาขึ้นอยู่ในนาภีทั้งสิ้น จึ่งเข้าไปขึ้นในลำไส้สองยอดบ้างสามยอดบ้าง ทำให้กุมารร้องไห้บิดตัว ถ้ากุมารได้ ๖ เดือน ๗ เดือน แพทย์จะรักษานั้นให้แต่งยาพอกจึ่งจะหาย เมื่ออายุได้ ๑๑ เดือน จะทำให้ลงท้อง แลท้องขึ้นกระหายน้ำให้วิปริตต่างๆ เมื่อรู้ย่างรู้เดินไส้พุงกระฉ่อน จึ่งทำให้ตกมูกเลือดอิกครั้งหนึ่ง ถ้าแพทย์จะรักษาให้แต่งยาชะโลมสำหรับตัวร้อนด้วย อันว่าทรางจำพวกนี้มิใช่ทรางตัด วางยาผิดรู้ไม่ถึงจึ่งเสียที ถ้าแพทย์จะวางยาให้พิจารณาให้แม่นแท้ ดุจกล่าวมานี้เถิด

ยาแก้ทรางสกอเจ้าเรือน ทรางกะตังเปนทรางจร ขนานนี้ท่านให้เอา ใบหญ้านาง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ใบเนระภูสี ๑ ใบกรอบแกรบ ๑ ใบสันพร้านางแอ ๑ ใบหมากผู้ ๑ รวมยา ๖ สิ่งเอาเสมอภาค เอาน้ำหญ้าปากควายเปนกระสาย บดทำแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้า ชโลมแก้ร้อนภายนอกภายในหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา ใบมระ ๑ ใบฝ้ายเทศ ๑ ใบผักขวง ๑ ใบระงับพิศม์ ๑ ใบน้ำเต้า ๑ ใบชุมเห็ดเทศ ๑ ใบเพกา ๑ ใบการ่อน ๑ ใบฟักเข้า ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้าชะโลมหาย ยาซึ่งแก้พิศม์ทรางนั้นให้กินยาเบ็ญจตาลก่อน ถ้ามิฟังให้แต่งยาเหลืองสรรพคุณให้กินต่อไป

ยาชื่อเหลืองสรรพคุณ ขนานนี้ท่านให้เอา ใบคนทีสอ ๑ ใบหนาด ๑ ใบกะเพรา ๑ ใบผักคราด ๑ ใบหญ้าใต้ใบ ๑ ใบฆ้องสามย่าน ๑ ใบหางจรเข้ ๑ ใบว่านน้ำ ๑ ใบว่านหางช้าง ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ กะทือ ๑ กะชาย ๑ ตรีกะฏุก ข่าลิง ๑ ข่าหอม ๑ ข่าตาแดง ๑ กัมถันเหลือง ๑ ลิ้นทะเล ๑ ครั่ง ๑ โหราเท้าสุนักข์ ๑ โหราอำมฤตย์ ๑ มูลแมลงสาบ ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ เทียนดำ ๑ เทียนแดง ๑ เนระภูสี ๑ ดินประสิวขาว ๑ สานส้ม ๑ น้ำประสานทอง ๑ ฝักส้มป่อย ๑ หอม ๑ กะเทียม ๑ ไคร้หอม ๑ เมล็ดในมนาว ๑ ใบผักเสี้ยนผี ๑ ใบเทียน ๑ ใบทับทิม ๑ รวมยา ๔๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาสารพัดดีแช่น้ำเปนกระสายบดแช่ไว้กิน แก้ทรางสกอทรางกะตัง กระทำพิศม์ต่าง ๆ หาย

ยาแก้เชื่อมแก้มึน ขนานนี้ท่านให้เอา จันทน์ทั้งสอง กฤษณา ๑ ชะลูด ๑ ขรดอก ๑ ดอกบุนนาก ๑ เกสรบัวหลวง ๑ เกสรสัตบุตย์ ๑ ชาตจอแส ๑ ชะมด ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำค้างเปนกระสาย บดใส่ใบลานตากให้แห้งหนหนึ่ง แล้วจึ่งเอามาบดกับน้ำดอกไม้อิกทีหนึ่ง ปั้นแท่งไว้กินแก้ทรางสกอทรางกะตังทรางโจร จับทรวงอกให้ซึมให้มึนระส่ำระสาย แลให้กระหายน้ำหอบพักหายดีนัก

ยาชื่อพัดวาลวิชนี ขนานนี้ท่านให้เอา ใบหญ้าไทร ๑ จันทน์ทั้งสอง สักขี ๑ แก่นไข่เหน้า ๑ ชะเอมเทศ ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำดอกไม้ทำเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้าชะโลมหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา ใบคนทีสอ ๑ ใบเสดา ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ แก่นสน ๑ กรักขี ๑ ดินประสิวขาว ๑ โกฐสอเทศ ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้าน้ำเถาตำลึงก็ได้ชะโลมหายดีนัก

ยาแก้กุมารท้องขึ้นเวลาค่ำ ขนานนี้ท่านให้เอา เทียนขาว ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง หญ้าใต้ใบ ๒ สลึง ใบตาลหม่อน ๑ ใบสวาด ๑ ยาดำ ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท มหาหิงคุ์ ๒ บาท เนระภูสี ๑ ดีปลี ๑ ใบชุมเห็ดเทศ ๑ ใบกะเพรา ๑ เอาสิ่งละ ๔ บาท รวมยา ๑๔ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำซาวเข้าเปนกระสาย บดปั้นเม็ดไว้เท่าเมล็ดนุ่น ถ้ากุมารนั้นอ่อนได้เดือน ๑ ให้กินเม็ด ๑ ให้กุมารกินทวีขึ้นตามอายุขึ้นไปเถิดดีนัก

ยากวาดทรางสกอขนานนี้ ท่านให้เอา ผลมะแว้งเครือ ๑ ตรีกะฏุก ๑ กะเทียม ๑ กัมถันแดง ๑ ผิวมะกรูด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ สานส้ม ๑ ดินประสิวขาว ๑ รวมยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำประสานทองเท่ายาทั้งหลายบดปั้นแท่งไว้ ถ้าจะกวาดทรางละลายน้ำมะนาวกับเกลือ รำหัดกวาดแซกพิมเสนด้วย ถ้าจะแก้รากละลายน้ำผลยอต้มกิน ถ้าจะแก้ฅอแห้งละลายน้ำชะเอมกิน ถ้าจะแก้ขัดเบาแก้เปนนิ่วก็ดี ละลายน้ำแตงกวากินหายดีนัก

ยากวาดทรางสกอทรางกระตัง ขนานนี้ท่านให้เอา แววนกยูงเผา ๑ หางปลาช่อนเผา ๑ มูลแมลงสาบเผา ๑ หัวตะใคร้ ๑ เปลือกแมงดา ๑ ตรีกะฎุก ๑ หญ้ายองไฟ ๑ ดินประสิวขาว ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ ดอกผักคราด ๑ กะเทียม ๑ ลิ้นทะเล ๑ รวมยา ๑๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำมะนาวเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้กวาดทรางสกอทรางกระตังหายดีนัก

จบลักษณะทรางสกอเจ้าเรือนทรางกระตังเปนทรางจรแต่เพียงนี้

----------------------------

ทีนี้จะว่าด้วยลักษณะหละอันชื่อเนระกันถี นิลเพลิงก็ว่า หละจำพวกนี้เกิดเพื่อทรางสกอ ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยสังเขป

อันว่าลักษณะหละ เนระกันถี นิลเพลิงนั้น เมื่อแรกจะบังเกิดขึ้นนั้น เห็นเขียวดังใบไม้สด แล้วเปนสายโลหิตผ่านไป อยู่ใน ๕ วันจะให้ลงท้องท้องขึ้นแล้ว ให้ฝีปากฅอแห้ง

ยาแก้หละเนระกันถี นิลเพลิง ท่านให้เอาใบน้ำเต้า ๑ ใบผักไห่ ๑ ใบประดู่ ๑ ผลประคำดีควาย ๑ ใบฟักเข้า ๑ ใบจันทน์หอม ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาค บดปั้นแท่งไว้ละลายสุราชะโลมหาย

ยาแก้หละชื่อ เนระกันถี นิลเพลิง ขนานนี้ท่านให้เอาเทียนดำ ๑ ใบหนาด ๑ ดินประสิวขาว ๑ พริกไทย ๑ ดอกจันทน์ ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายสุราทาปากกุมารหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา แมลงสาบตายทราก ๑ น้ำประสานทอง ๑ ใบกะเพรา ๑ กระวาน ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคบดทำแท่งไว้ ละลายสุราทาปากกุมารหายดีนัก

จบลักษณะหละอันชื่อว่า เนรกันถี นิลเพลิงแต่เพียงนี้

----------------------------

ทีนี้จะว่าด้วยลักษณะละอองอันชื่อว่าแสงเพลิง นั้นต่อไปให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยสังเขปดังนี้

อันว่าลักษณะละอองแสงเพลิงนั้น บังเกิดขึ้นเพื่อทรางสกอ เมื่อแรกเกิดนั้นกระทำให้กระขาวข้างกระพุ้งปาก อยู่วันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ก็ให้คล้ำเขียวเข้าดังใบไม้ แล้วทำพิศม์ให้เชื่อมมึน ให้ลงท้องให้อุจจาระเขียวดังใบไม้ ด้วยเหตุว่าละอองนั้นลั่นลงไปจับเอาไส้อ่อน แลขั้วดี ถ้าจะแก้ละอองหมู่นี้ ท่านให้เอามะนาวทั้งผลทั้งใบทั้งราก ตาไม้ไผ่ ๑ บรเพ็ด ๑ ฝาง ๑ หอม ๑ ระย่อม ๑ พิศม์นาศ ๑ เจตภังคี ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำปูนใสทาปาก ถ้าจะกินละลายสุรากินหาย

ถ้ามิฟังขนานนี้ ท่านให้เอาใบครามทั้ง ๓ ใบรักขาว ๑ ใบพลูแก ๑ ใบกะเพรา ๑ ผักแพวแดง ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ เมล็ดในมะกรูด ๑ เมล็ดในมะงั่ว ๑ เมล็ดทั้ง ๓ สิ่งนี้ขั้วให้เกรียม รวกดินเผา ๑ ฝักส้มป่อยปิ้ง ๑ ตรีกะฏุก ๑ กะเทียม ๑ นอแรด ๑ งาช้าง ๑ เขากวาง ๑ ดีงูเหลือม ๑ ฝิ่น ๑ รวมยา ๒๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาสุราเสนกระสาย บดทำแท่งไว้ละลายน้ำท่าทาปากกุมารหาย ถ้ามิฟังแพทย์จะยายากนัก ด้วยลิ้นขาวไปขึ้นอยู่ต้นลิ้นไก่นั้น จะกระทำให้กายซูบผอมตัวเหลืองดังขมิ้นทา เมื่อจะตายนั้นจึ่งขาวออก ให้แพทย์พึงรู้ดังนี้เถีด

จบลักษณละอองอันชื่อว่าแสงเพลิงแต่เพียงนี้

----------------------------

ทีนี้จะว่าด้วยลักษณลมอันชื่อว่าสุนทรวาต เกิดเพื่อทรางสกอนั้นต่อไป ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยสังเขปดังนี้

อันว่าลักษณสุนทรวาตนั้น ตั้งขึ้นมาแต่สดือแลท้องน้อย มักให้เจ็บท้องแลท้องขึ้นก่อนแล้ว จึ่งทำให้ลงท้องนัก มักให้นอนหลับไป ให้ชักเท้ากำมือกำให้ท้องให้หน้าเขียว

ยาประสระแก้ลม ๗ จำพวก ให้เอาใบพิมเสน ๑ การะบูร ๑ ผิวมะกรูด ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง มะหาหิงคุ์ ๒ สลึง ใบหนาด ๑ บาท กะเทียม ๑ บาท พริกไทย ๑ บาท ขิงแห้ง ๑ บาท รวมยา ๘ สิ่งนี้ทำเปนจุณบดละลายน้ำมนาวกิน แก้ลมจุกเสียดแลลมขบแทงลมอริก แลลมทรางทั้งปวงแก้ลมทั้ง ๗ จำพวก อันบังเกิดขึ้นประจำทรางทั้ง ๗ วันนั้นหายดีนัก

ยาต้มแก้ลมสุนทรวาตให้ลง ขนานนี้ท่านให้เอา หญ้าลูกเคล้า ๑ เปลือกแทงทวย ๑ ใบเทียน ๑ ใบทับทิม ๑ กะทือ ๑ ไพล ๑ ข่า ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ หอม ๑ รวมยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาค เหล้าครึ่งน้ำครึ่งเปนกระสายต้ม ๓ เอา ๑ กินหายดีนัก

(ยาแก้ลมสุนทรวาตอีก ๒ ขนาน ให้ดูน่า ๑๒๐ บรรทัดที่ ๓ แห่งเล่มนี้)

พระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวมาในลักษณะกุมาร อันเกีดวันพุฒกำเนิดแห่งทรางสกอเปนเจ้าเรือนกระทำโทษ กำเนิดทรางกะตังเปนทรางจรมาแซก กำเนิดหละชื่อว่าเนระกันถีก็ว่า นิลเพลิงก็ว่า แลกำเนิดละอองชื่อว่าแสงเพลิง กำเนิดลมเชื่อว่าสุนทรวาต กระทำโทษประจำทรางสกอจบบริบูรณ์แต่เพียงนี้

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ