ว่าด้วยกุมารเกิดวันศุกร์

พระคัมภีร์ประฐมจินดาผูก ๓ บริเฉท ๖ ว่าด้วยกุมารเกิดวันศุกร์ เปนลักษณะแห่งทรางช้างเจ้าเรือน หละชื่อแสงพระจันทร์ ลมชื่อลมอริด โดยสังเขป

สิทธิการิยะ พระอาจาริย์เจ้าจะกล่าวลักษณะกุมารกุมารี เกิด/*275*/วันศุกร์นั้นต่อไป กำเนิดทรางช้างเปนเจ้าเรือนแห่งกุมารกุมารีผู้นั้น ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยลักษณะ สังเขปดังนี้

(ลักษณทรางช้างนั้น มีแจ้งอยู่ในน่า ๑๙๐ แห่งเล่มนี้แล้ว บัดนี้ได้คัดแต่ตำรายาแก้ทรางช้างนอกจากที่ได้กล่าวไว้ในน่า ๑๙๒ นั้นมาลงต่อไป)

ยาแก้ทรางช้าง ให้เอาใบทรงบาดาล หญ้าไซร รวม ๒ สิ่งนี้ตำเอาน้ำสิ่งละจอก แล้วคุลีการกันเข้าเอาดีงูแทรกลง กินบ้างทาบ้างหาย

ยาแก้ลงทรางช้าง ขนานนี้ท่านให้เอา แก่นสน ๑ ผลประคำดีควาย ๑ แก่นประดู่ ๑ รากส้มป่อย ๑ รากทรงบาดาน ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้ทรางช้างลงท้องหายดีนักได้เชื่อแล้ว

ยาต้มแก้ทรางช้าง ขนานนี้ท่านให้เอา ยอดชุมเห็ด ๑ ยอดทับทิม ๑ ยอดพุดทรา ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ กินหายดีนัก

ยากวาดแก้ทรางช้าง ขนานนี้ท่านให้เอา เปลือกน้ำเต้าขม ๑ หอยขมเผา ๑ ใบคนทีสอ ๑ หัวตะไคร้ ๑ ขมิ้นหัว ๑ ควักเอาเนื้อในออกให้บางแล้ว จึ่งเอาน้ำประสานทอง ๑ บาท ยัดเข้าในขมิ้นอ้อยนั้นสุมไฟแกลบให้ระอุดี แล้วจึงเอามาบดด้วยกันกับยาทั้งนั้นแทรกพิมเสน บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำเปลือหมากสงกวาด ถ้ามิฟังละลายน้ำมะนาว กวาดทาปากก็ได้หายดีนัก

/*276*/ยากวาดชื่อแมลงป่อง กวาดทรางหล่นทันใจขนานนี้ ท่านให้เอา รากถั่วภู ๑ ใบถั่วแระ ๑ ผักบุ้งเทศ ๑ ผลประคำดีควาย ๑ ใบหัศคุณ ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาสิ่งละ ๑ สลึง ดีงูตะบองพะลำ ๑ เฟื้อง ทำเปนจุณเอาละลายน้ำสุราเปนกระสายบดปั้นแท่ง แก้ทรางช้าง, กิน, กวาด, หรือทาปากก็ได้ ถ้ามิฟังแซกว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง ดีงูเหลือม รำหัดลง ถ้าจะให้ลงเร็ว แซกจันทน์แดง แซกเนระภูสี กวาดหล่นเร็วดีนัก

ยากวาดแก้ทรางช้าง ขนานนี้ท่านให้เอา นอแรดเผา ๑ เขากวางเผา ๑ หนังกระเบนเผา ๑ ผมคนเผา ๑ หวายตะค้าขั้ว ๑ รากมะแว้งทั้ง ๒ ขั้ว ตรีกระฏุก กะเทียม ๑ รวมยา ๑๑ สิ่งนี้ เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากวาดหายดีนัก

ยาชื่อหิงคุวัจจา ขนานนี้ท่านให้เอา ตรีกระฏุก ๑ มหาหิงคุ์ ๑ เนระภูสี ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ โกฐเขมา ๑ โกฐสอ ๑ เทียนดำ ๑ เทียนขาว ๑ จันทั้งสอง ผลเบ็ญจกานี ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง กะเทียม ๑ ใบสวาด ๑ ใบเทียน ๑ ใบผักคราด ๑ ใบกะเพรา ๑ ใบกะพังโหม ๑ ใบสมี ๑ กระทือ ๑ ไพล ๑ หอม ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เอาสิ่งละ ๒ บาท ฝิ่น ๑ ดีจรเข้ ๑ ดีตะพาบน้ำ ๑ ดีงูเหลือม ๑ เอาสิ่งละ ๒ ไพ รวมยา ๓๑ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาสุราเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากินเปนยาประจำท้องมิให้ทรางกระทำพิศม์ได้ แลแก้ตาลแก้ทรางกินชายตับให้ลงเปนโลหิตสดๆ ออกมาด้วยก็ดี แล/*277*/ทรางขึ้นในทวารหนักทวารเบาก็ดี แลขึ้นในปากในฅอในลิ้นก็ดี ให้กระหายน้ำนักแลให้เชื่อมมึนไปก็ดี กินยานี้หายวิเศษนัก

ยาชื่ออินทรจักร ขนานนี้ท่านให้เอา เทียนดำ ๑ เทียนแดง ๑ เทียนขาว ๑ เทียนเยาวภานี ๑ เทียนสัตบุษย์ ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ มหาหิงคุ์ ๑ ยาดำ ๑ การะบูร ๑ พริกไทย ๑ กะเทียม ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง ดีปลี ๑ บาท รวมยา ๑๕ สิ่งนี้ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ แก้หลังแข็งตาแข็งคางแขงที่ใด ให้เอายานี้ละลายน้ำมะกรูด เอาฝิ่นรำหัดทาที่นั้นเถิด ถ้าเชื่อมมึนเปนเพื่อลมก็ดี แลเปนบิดตกมูกเลือดก็ดี ละลายสุรากินแก้ได้ทุกสิ่งดีนักอย่าสนเท่ห์เลย

ยาชื่ออินทรบรรจบคู่กัน ขนานนี้ท่านให้เอา ชมด ๑ พิมเสน ๑ จันทน์ทั้งสอง กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ ขอนดอก ๒ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ผลมะขามป้อม ๑ ยาดำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ กะเทียม ๑ ดีงูเหลือม ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง เทียนดำ ๑ เทียนขาว ๑ เทียนแดง ๑ เทียนเยาวภานี ๑ เทียนสัตบุษย์ ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กานพลู ๑ กระวาน ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง รวมยา ๒๓ สิ่งนี้ทำเปนจุณ แล้วจึงเอาดีงูเห่า ๑ ดีจรเข้ ๑ ดีตะพาบน้ำ ๑ ดีปลาช่อน ๑ ดีปลาไหล ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง แช่เอาน้ำเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำดอกไม้กินแก้อับจน ถ้ามิฟังละลายสุรากินแก้สรรพตาลทรางทั้งปวง แลแก้ชักเท้ากำมือกำหายดีนัก

/*278*/ยาชื่อนันทไกรวาต ขนานนี้ท่านให้เอา กระดูกงูเหลือม ๑ กระดูกงูทับทาง ๑ งาช้าง ๑ กรามแรด ๑ คางปลาช่อนข้างล่าง ๑ โกฐสอ ๑ โกฐกระดูก ๑ เทียนดำ ๑ ผลโหระพา ๑ ผลผักชี ๑ น้ำประสานทอง ๑ ใบพิมเสน ๑ ใบสันพร้าหอม ๑ ใบผักหวานบ้าน ๑ รากทองหลางหนาม ๑ รากสลอดน้ำ ๑ รากฟักเข้า ๑ รากตำลึง ๑ รากถั่วภู ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ หวายตะค้า ๑ ผลสาระพัดพิศม์ ๑ ไคร้เครือ ๑ เกสรสารภี ๑ เกสรพิกุล ๑ เกสรบุนนาค ๑ รวมยา ๒๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคกระทำให้เปนจุณ ใช้น้ำดอกไม้เปนกระสายบดปั้นแท่งไว้ แก้ชักทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ แก้เชื่อมแซกดีงู เอาพิมเสนรำหัด แก้กระหายน้ำหอบพักแลแก้ลิ้นกระด้างคางแข็ง ละลายน้ำดอกไม้น้ำซาวเข้าก็ได้ ทั้งกินทั้งชะโลมหายดีนักได้เชื่อแล้ว

จบลักษณะทรางช้างแต่เพียงนี้

---

ทีนี้จะว่าด้วยลักษณะหละอันชื่อว่าแสงพระจันทร์นั้น ต่อไป หละจำพวกนี้บังเกิดเพื่อทรางช้าง (แลทรางน้ำ) ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยสังเขป

อันว่าลักษณะหละแสงพระจันทร์นั้น เมื่อจะบังเกิดขึ้นเม็ดเติบเท่าเม็ดเข้าโภชน์ มีสีเหลือง ขึ้นตั้งแต่ต้นขากันไกร/*279*/ซ้ายฤๅขวาก็ดุจกัน แล้วจึงกระทำให้ลงท้องตาแขง แล้วให้ลิ้นกระด้างคางแข็ง แลให้ร้องไห้น้ำตาไม่มี ให้หน้าผากตึงแล้วให้ตัวเย็นดังนี้

ยาจุดแก้หละแสงพระจันทร์ ให้เอาเทียนดำ ๑ สานส้ม ๑ กัมถันแดง ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ น้ำประสานทอง ๑ ผิวมะกรูด ๑ พริกไทยขั้ว ๑ เกลือขั้ว ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำผลมะแว้งเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวจุดหละแสงพระจันทร์อันบังเกิดเพื่อทรางช้างนั้นหาย

ยากินแก้หละแสงพระจันทร์ ท่านให้เอา ปู่เจ้าพุงแก ๑ ปู่เจ้าสมุงกุย ๑ ฉัตร์พระอินทร์ ๑ นมแมวน้อย ๑ สีหวดใหญ่ ๑ สีหวดน้อย ๑ ตับเต่าน้อย ๑ ตับเต่าใหญ่ ๑ รากระย่อม ๑ รากไคร้เครือ ๑ พิศนาด ๑ เนระภูสี ๑ จันทน์แดง ๑ จันทน์ขาว ๑ งวนหมู ๑ รากหญ้านาง ๑ รากประคำดีควาย ๑ โคนไม้ไผ่ป่า ๑ ผักแพวแดง ๑ รวมยา ๑๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำดอกไม้ทั้งกินทั้งชะโลมหาย

ยากวาดหละแสงพระจันทร์นั้น ท่านให้เอายาที่กวาดแก้นิลเพลิง ซึ่งเกิดเพื่อทรางสกอมีอยู่ในประฐมจินดาบริจเฉท ๔ นั้น มาใช้กวาดเถิดได้ดุจกันดีนักอย่าสนเท่ห์เลย

จบลักษณะหละแสงพระจันทร์แต่เพียงนี้

---

/*280*/ทีนี้จะว่าด้วยลักษณะลมอันชื่อว่าลมอริต เกิดเพื่อทรางช้างนั้นต่อไป ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้ลักษณโดยสังเขปดังนี้

อันว่าลักษณะลมอริตนั้น เมื่อจะเกิดให้ฅอเขียวให้ชักเท้ากำมือกำ บางทีให้ชักแต่จำระซ้าย บางทีให้ชักแต่จำระขวา บางทีให้ชักแต่ข้างซ้าย แต่ข้างขวาให้กระด้างคางแข็ง ร้องไห้ไม่ออก น้ำลายฟูมปากออกมา แลให้ลูกตากลับกลอกไป ให้ยักคิ้วหลิ่วตา แลเปนเสมหะปะทะฅอดังครอก ๆ ถ้าแลกุมารผู้ใดเปนดังกล่าวมานี้ ได้ชื่อว่าลมอริตกระทำโทษ เมื่อตายแล้วให้ตัวเหลืองดังรดด้วยน้ำขมิ้นสด เพราะลมจำพวกนี้บังเกิดเพื่อละอองพระบาท กาลสิงคลีดุจกล่าวมานี้

ยาแก้ลมอริตให้เอา คุคะ ๑ รากหญ้านาง ๑ เชือกเขามวก ๑ เปลือกน้ำเต้าแตก ๑ สาแหรกขาด ๑ คานหัวด้วน ๑ ตรีกฎุก ๑ การะบูร ๑ มหาหิงคุ์ ๑ ว่านน้ำ ๑ ผิวมะกรูด ๑ กะเทียม ๑ รวมยา ๑๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งละลายน้ำร้อนกิน แก้ลมอริต, ลมสุนทรวาต, ลมวาตะภัค, แลลมอักขมูขี, ลมสะแกเวียน, ลมบ้าหมู, ลมทั้งนี้หายดีนัก ได้เชื่อแล้ว

ขนานหนึ่งท่านให้เอา น้ำอ้อยแดงทะนาน ๑ มูตร์โคดำทนาน ๑ น้ำรากสอึกทะนาน ๑ น้ำใบอัญชันทั้งสองอย่างละหนึ่งทะนาน น้ำใบกะเช้าแดงทะนาน ๑ น้ำใบกะเช้าขาวทะนาน ๑ น้ำใบผักโหมหินทะนาน ๑ น้ำใบผักโหมหัดทะนาน ๑ น้ำมะนาว ๒ ทะนาน กระวาน ๑ /*281*/กานพลู ๑ สมุลแว้ง ๑ เทียนเยาวภานี ๑ ผักแพวแดง ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง โกสอ ๒ สลึง ดีปลี ๑ ขิงแห้ง ๑ ว่านน้ำ ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท มหาหิงคุ์ ๑ ไพล ๑ เอาสิ่งละ ๒ บาท ยาทั้งนี้ทำเปนจุณแล้ว จึงคุลีการเช้าด้วยกันใส่กะทะตั้งไฟกวนให้เข้ากัน แต่พอปั้นได้เปนลูกกลอนกินแก้ลมอริต แลลมทั้งปวงหายดีนัก

ยาชื่อประสะลม ขนานนี้ท่านให้เอา ใบพิมเสน ๑ การะบูร ๑ ผิวมะกรูด ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง กะเทียมกรอบ ๑ พริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ ใบหนาด ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท รวมยา ๗ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำมะนาวเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะกรูดน้ำมะนาวน้ำส้มซ่าก็ได้ กินแก้ลมจุกเสียดขบแทงแลลมอริตลมทรางทั้งปวงหาย

ยาแก้ชักลมอริต ขนานนี้ท่านให้เอา การะบูร ๑ บาท ว่านน้ำ ๑ บาท ยาดำ ๒ บาท หิงคุ์ยางโพ ๒ บาท ผลจันทน์ ๒ บาท เปราะหอม ๒ บาท หัวหอม ๒ บาท พิมเสน ๙ สลึง ยา ๘ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ให้กุมารกินตามกำลัง อายุเดือน ๑ กิน ๑ เม็ด อายุ ๒ เดือน กิน ๒ เม็ด ทวีขึ้นไปตามอายุกุมารทั้งกินทั้งชะโลม แก้ชักลมอริตแลลมทรางทั้งปวงหายดีนัก ได้เชื่อมาแล้วอย่าสนเท่ห์เลย

---

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ