ว่าด้วยลักษณะรูปสัตรีแลรูปกุมาร

ปฐมจินดาผูก ๒ บริเฉท ๑ ว่าด้วยลักษณะรูปสัตรีแลรูปกุมาร ว่าด้วยลักษณะปักษี แลปิศาจกระทำโทษ ว่าด้วยลักษณะน้ำนมมีโทษ ๓ ประการ ว่าด้วยลักษณะดวงทรางโจร ทรางแดง ทรางเหลืองมาเกิด ว่าด้วยลักษณะทรางนิลปัฏนิลหละ มาเกิดโดยสังเขป

ปุน จปรํ ลำลับนี้จะว่าด้วยกุมารทั้งหลาย อันบังเกิดโรคเปนต้น ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยสังเขป

อันว่าลักษณะนนทปักษีกระทำโทษแก่กุมารนั้น ให้ท้องขึ้นท้องร้อนหลังร้อนดังนี้ อันว่าลักษณะกาฬปักษีกระทำโทษแก่กุมารนั้น ให้รากออกทางปากแลจมูกดังนี้ อันว่าลักษณะอสุนนทปักษีกระทำโทษแก่กุมารนั้น ให้สดุ้งร้องไห้ทั้งหลับแลผวาร้องตกใจขึ้นดังนี้ อันว่าลักษณะเทพีปักษีกระทำโทษแก่กุมารทั้งหลายนั้นให้ท้องขึ้น ให้มือแลเท้าเย็นเปนเหน็บให้หัวร้อนดังนี้ ถ้ากุมารผู้ใดเจ็บครบทั้ง ๔ ประการดังนี้ แต่เขตร์ถึง ๑๑ เดือน แต่ขวบ ๑ กับ ๖ เดือนปี ๑ ตาย ทรางเกิดเปนที่อากาศ แลทราง ๘ จำพวก ถ้ากุมารผู้ใดบังเกิดเปนดังนี้ ได้ชื่อว่าอมนุษย์รูป แพทย์จะรักษายากนัก เมื่อขณะออกจากไฟแล้วเขม่าขึ้นมาร้ายที ๑ เมื่อรู้ชันฅอธาตุให้ลงท้องให้อาเจียนเปนตานทรางแลเหือดหัดร้ายที ๑ เมื่อรู้ยืนยันกระหม่อมลั่นแลเส้นเอ็นนั้นไหวร้ายที ๑ เมื่อรู้บริโภคอาหารแลอาหารนั้นแปลกธาตุจะเกิดตานทรางขึ้นร้ายที ๑ เมื่อรู้ย่างแลตับปอดไส้พุงทั้งปวงคลอน แลเปนจมูกเลือดเปนตานทรางขึ้นร้ายที ๑ ถ้าแปรดังนี้มีสุนทรวาตทราง เหตุว่ายอดทรางนั้นบาง แลเสมหะที่ปกยอดทรางก็บาง ให้เจ็บเปนประการต่างๆ แลบังเกิดเปนทราง ๑๐ ประการ คือทรางแดง ๑ ทรางขาว ๑ ทรางเขม่า ๑ ทรางขุม ๑ ทรางช้าง ๑ ทรางเสี้ยน ๑ ทรางขวัก ๑ ทรางไฟ ๑ ทรางโจร ๑ ทรางตะมอย ๑ เปน ๑๐ ประการ ถ้าทรางช้างนั้นทำให้ฅอฟก ถ้าทรางเสี้ยนเปนดังยอดผดทำให้คัน ถ้าทรางขวักเปนที่ฅอหนีบให้คัน ถ้าทรางโจรให้เปื่อยมีแม่ลายดังปลากะทิงให้ปวดทั้งตัว ห้ามอย่าให้มารดานั้นกินเนื้อ ๑๐ ประการ รักษายากนัก

อนึ่งชื่ออทิศรูปนั้นกระหม่อมใหญ่ แลกระหม่อมลึกก็ดี เมื่ออยู่ในเรือนไฟเขม่าขึ้นแล้วหายไป แต่เมื่ออยู่ในเรือนไฟนั้นเสมหะแลโลหิตเปนธาตุ

อนึ่งนนทปักษีนั้นถ้ามีครรภ์เดือน ๕, ๖, ๗, แลออกวัน ๑, ๓, ๔, ๗, ถ้าออกเวลาตวันบ่ายเลี้ยงยากนัก เกิดทรางแดง, ทรางโจร, ทรางไฟ, ทรางสกอ, แลทรางนิลปัฏนิลหละมาเกิด

ปุน จปรํ พระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวไว้ในพระคำภีร์ปฐมจินดาผูก ๒ บริเฉท ๑ นั้นต่อไป ว่าด้วยรูปสัตรีมีลักษณะ ๘ ประการเปนต้นดังนี้ อันว่ารูปสัตรีภาพมีลักษณะ ๘ ประการนั้น คืออุดมรูปต้องด้วยนรลักษณ์เบ็ญจกัลยาณี อาการ ๓๒ ประการ ดำหรือแดง, ขาวหรือเหลืองก็ดี ถ้าขาวเหลืองโลหิตนั้นสัณฐานดำแดงเลหิตนั้นขม

อนึ่ง มนุษย์รูปนั้น รูปเปนปานกลางต้องลักษณะ ๕ ประการ ถ้ามิต้องประการใดประการ ๑ ขาวก็ดีดำก็ดีดุจดังกัน อนึ่งอาดุกรูปแลพานรรูป ขาวก็ดีดำก็ดีดุจดังกัน อนึ่งไชยรูปนั้นมีลักษณะ ๔ ประการ คือดำแลแดงขาวแลเหลืองก็ดี ให้พิจารณาดูรูปสัตรีภาพเปนดังนี้

อนึ่งถ้าสัตรีใดขาวไหล่รวบเลี้ยงลูกมิคง อนึ่งสัตรีใดตาพองแลตาขาวมากกว่าตาดำเลี้ยงลูกมิคง อนึ่งถ้าสัตรีใดนมห่างตกราวข้าง หญิงนั้นมักแท้งลูก อนึ่งถ้าสัตรีใดนมแบะตกพวงเอวกลม ไหล่ผายหลังราบแขนส้วย สีเนื้อดังการะเกด ตาลิบคือตาทราย กลิ่นตัวหอมดังการะเกด สัตรีนั้นต้องนรลักษณ์ ๘ ประการดีนัก

อนึ่งอันว่าประเทศที่เกิดนั้นก็มี ๔ ประการ คือเกิดในประเทศน้ำตมแลน้ำเค็มหวานแลหวานต่อกัน อันว่าบุคคลนั้นเมื่อบังเกิดโรคมีเสมหะเปนต้นเหตุ ถ้าบุคคลผู้ใดเกิดในประเทศที่สูง เมื่อเกิดโรคนั้นมีกำเดาเปนต้นเหตุ ถ้าผู้ใดเกิดในประเทศน้ำตมแลน้ำฝนต่อกัน เมื่อบังเกิดโรคนั้นมีลมเปนต้นเหตุ ถ้าผู้ใดเกิดในประเทศป่าแดงแลที่มีกรวดทราย เมื่อบังเกิดโรคมีโรคเรื้อนเปนต้นเหตุ อันนี้บอกประเทศที่เกิดเปนที่ตั้งสมุฏฐานโรค

ปุน จปรํ ลำดับนี้จะกล่าวด้วยกุมารทั้งหลายมีลักษณะ ๔ ประการ คืออทิศรูปประการ ๑ หริตรูปประการ ๑ มนุษย์รูปประการ ๑ มหัศรูปประการ ๑ แลลักษณะรูป ๔ ประการนี้มีแก่กุมารกุมารีทั้งหลายอันบังเกิดมาในโลกนี้

อันว่ามหัศรูปนั้น มีสันฐานกระหม่อมน้อยห่าง ไส้พอง อัณฑะยาน เมื่ออยู่ในเรือนไฟบ่ห่อนจะมีตานทรางแลเขม่า เหตุด้วยกินนมแม่นั้นร้อน ครั้นออกจากเรือนไฟแล้วจึ่งเปนเขม่าแลทราง ไส้นั้นพองเปนขด ร้องไห้เสียงแหบเปนเสียงแมว แลท้องขึ้นให้รากออกทางจมูก อนึ่งหริตธาตุนั้นให้หวั่นไหวบังเกิดโรคร้ายทีหนึ่ง

อนึ่งว่าลักษณะอทิศรูปนั้น เมื่ออยู่ในเรือนไฟเขม่าขึ้นแต่พอประมาณ ทรางขึ้นในลิ้นจนปลายลิ้น ครั้นหล่นแล้วแต่ในเรือนไฟนั้นให้ลงแลอาเจียนก็ดี เสมหะก่อเปนธาตุให้บังเกิดทราง ๒ ประการ

อันว่าลักษณะหริตรูปนั้น เมื่ออยู่ในเรือนไฟเขม่าขึ้นในทรวงอกจนปลายลิ้น ครั้นได้ ๕ วันก็ตกลงไปทำท้องให้ลงให้ราก ไอก็ดี เปนประการต่างๆ โลหิตเปนธาตุให้เกิดทราง ๒ ประการ ดังนั้น

อันว่าลักษณะมนุษย์รูปนั้น เมื่ออยู่ในเรือนไฟหาเขม่าตานทรางมิได้ ครั้นออกไฟแล้วจึ่งให้บังเกิดทราง ๘ จำพวก มีกำเดาเปนธาตุ แลทรางนั้นตั้งแต่นาภีขึ้นมาถึงหัวอกยอด ๑ แต่ทรวงอกขึ้นมาถึงฅอยอด ๑ แต่ลำฅอขึ้นมาถึงคางเพดาลยอด ๑ แต่เพดาลขึ้นมาถึงกระหม่อม อยู่ในกระหม่อม ๓ ยอด อยู่กลางสันหลัง ๓ ยอด

อนึ่งชื่อว่ามหัศรูปนั้น ออกไฟแล้วได้ ๓ เดือน ๖ เดือน ปีจอเทพีปักษีขึ้นมา ปีจออสุนนทปักษีขึ้นมา ปีกุนกาฬปักษีลงมา ปีกุนอสุนนทปักษีลงมา นนทปักษีทรางโจรครีบกรด กาฬปักษีทรางแดงนิลปัฎมาบังเกิด เทพีปักษีทรางไฟประฐมกรรม์ อสุนนทปักษีครีบกรดดาดตะกั่ว อันว่ามหัศรูปนั้น กระหม่อมใหญ่ไส้พอง อัณฑะยาน เมื่ออยู่ในเรือนไฟหาเขม่าตานทรางมิได้ อันว่าหริตรูปนั้นกระหม่อมเปนร่อง เมื่อออกไฟแล้วเขม่าขึ้นแต่ปลายลิ้นสักหน่อย ทรางนั้นชื่อทรางแดงตัวผู้ อันว่าอทิศรูปนั้นกระหม่อมลึก เมื่ออยู่ในเรือนไฟทรางขึ้นแล้วหลบไป ถ้าจะรักษาร้ายนัก อันว่ามนุษย์รูปนั้นชื่อทรางโจร เมื่ออยู่ในครรภ์มารดานั้น ให้มารดาอยากของคาว แลกุมารนั้นเมื่อคลอดจากครรภ์มารดาได้ ๓ เดือน ๖ เดือนก็ดี จึ่งกระทำให้ผอมแห้งไปจะรักษาร้ายนัก มหัศรูปนั้นชื่อทรางนิลมาเกิด อทิศรูปนั้นชื่อทรางแดงตัวผู้มาเกิด อมนุษรูปชื่อทรางโจรมาเกิด อันว่าทราง ๘ จำพวกนี้ ก็บังเกิดมีแก่กุมารกุมารีทั้งปวงนั้น

ปุน จปรํ ลำดับนี้จะกล่าวด้วยยาทาหละ ทาทราง ทาเขม่าต่อไปดังนี้ ยาทาหละขนานนี้ ท่านให้เอาชาตหรคุณ ๑ พิมเสน ๑ ใบนมพิจิตร์ ๑ ใบมะระ ๑ ขี้แมลงสาบ ๑ ดีงูเหลือม ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดทำแท่งไว้เอาเกลือรำหัด ทาหละแลยอดทรางที่ขึ้นลิ้นนั้นหายดีนัก

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาชาตหรคุณไทย ๑ ชาตหรคุณจีน ๑ ชาตก้อน ๑ ชะมด ๑ พิมเสน ๑ น้ำประสานทอง ๑ สีเสียด ๑ จุณสี ๑ ขี้แมลงสาบ ๑ เมล็ดมะกอกเผาไฟ ๑ รากดินขั้ว ๑ รวมยา ๑๑ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ ละลายน้ำเกลือทาหหะแลทรางหายแล

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาใบทองหลางใบมน ๑ น้ำประสานทอง ๑ น้ำตาลโตนด ๑ ยา ๓ สิ่งนี้เอาบดปั้นแท่งไว้ทาหละหายแล

ยาน้ำมันทาเขม่าขนานนี้ ท่านให้เอาน้ำเปลือกหว้าจอก ๑ น้ำพริกไทยจอก ๑ น้ำกรามช้างจอก ๑ น้ำสีเสียดเทศจอก ๑ น้ำมันงากึ่งจอก ๕ สิ่งนี้หุงให้คงแต่น้ำมัน หายดีนักแล

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาเทียนเทศ ๑ ใบชิงช้าชาลี ๑ บดด้วยน้ำผึ้งทาเขม่าหายดืนัก

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอายาดำ ๑ กระเทียม ๑ น้ำประสานทอง ๑ บดทาเขม่าแลทรางหายดีนัก

ยาแก้พิศม์ทรางขนานนี้ ท่านให้เอาลูกสวาด ๑ กระเทียม ๑ น้ำประสานทอง ๑ การบูร ๑ น้ำปูนใส ๑ น้ำมันงาดิบ ๑ ยา ๖ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดทาแก้ปวดดับพิศม์ทรางหายดีนัก

ยาแก้ทรางหล่นลงไปทำท้องขนานนี้ ท่านให้เอาใบแมงลัก ๑ ใบผักเสี้ยนผี ๑ ใบบรเพ็ด ๑ เขากวาง ๑ กรามช้าง ๑ หวายตะค้า ๑ จันทน์แดง ๑ เนรภูสี ๑ ยา ๘ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากันตำเปนผง บดทำแท่งไว้ละลายน้ำท่ากินดีนัก

ยาเหลืองน้อย แก้พิศม์ทรางขนานนี้ ท่านให้เอาสานส้ม ๑ น้ำประสานทอง ๑ เมล็ดในมะกรูด ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ เมล็ดในส้มส้า ๑ เมล็ดในมะงั่ว ๑ เปลือกมะรุม ๑ เปลือกทองหลางใบมน ๑ หอมแดง ๑ ดีปลี ๑ กำมะถันแดง ๑ ยา ๑๑ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะกรูด มะงั่วก็ได้ น้ำเปลือกทองหลางก็ได้ ตามแต่โรคนั้นเถิด

ยาเหลืองใหญ่ขนานนี้ ท่านให้เอาพริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ กระชายแห้ง ๑ กระทือแห้ง ๑ ไพลแห้ง ๑ ขมิ้นอ้อยแห้ง ๑ กระเทียมแห้ง ๑ หอมแดง ๑ ลูกสารพัดพิศม์ ๑ ต้นสังกระณี ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ลูกประคำดีควาย ๑ เมล็ดผักกาด ๑ สานส้ม ๑ ดินประสิวขาว ๑ กำมะถันแดง ๑ ลูกจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ ดีปลี ๑ รวมยา ๑๒ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำเหล้า กินแก้พิศม์ตานทรางดีนัก

ยาชื่อมหานิลขนานนี้ ท่านให้เอาลูกจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ น้ำประสานทอง ๑ เทียนทั้ง ๕ หนึ่ง ขมิ้นอ้อย ๑ ขิงแห้ง ๑ กระเทียมสุก ๑ รวมยา ๑๑ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน เอารากดินเท่ายาทั้งหลายขั้วให้เกรียม ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำท่า กินแก้พิศม์ตานทรางหายดีนัก

ยารุกุมารขนานนี้ ท่านให้เอาใบพลับพึง ๑ ไพล ๑ เมล็ดผักกาด ๑ ว่านน้ำ ๑ น้ำมันงูเหลือม ๑ ยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำคุลิการกันเข้าอุ่นไฟให้ร้อน ห่อผ้าประทับชายโครง ให้เสมหะในโครงนั้นเลื่อนลงไปอยู่ท้อง เปนยาแก้พิศม์ตานทรางหายดีนัก

ยาชื่อเกสรารุเสมหะขนานนี้ ท่านให้เอาเกสรบัวหลวง ๑ เกสรบุนนาก ๑ ไคร้หอม ๑ จันทน์ขาว ๑ ชะเอม ๑ ขิง ๑ เมล็ดราชพฤษ ๑ รากขี้กาทั้ง ๒ น้ำประสานทอง ๑ หญ้าตีนนก ๑ ยา ๑๑ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากันต้ม ๓ เอาหนึ่ง เมื่อจะกินแซกขันทศกร ๑ กินตามกำลังกุมารแก้ตัวร้อนเพื่อเสมหะแลกำเดา แก้พิศม์ตานทรางทั้งกินอาหารก็ได้เจริญอรรคนีผล

ยารุเสมหะเหน้าขนานนี้ ท่านให้เอายาดำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ ใบกระเพราะ ๑ ผักเสี้ยนผี ๑ ลูกกระดอม ๑ บรเพ็ด ๑ น้ำประสานทอง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ยา ๘ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากันตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ ละลายน้ำกินตามกำลัง รุเสมหะเหน้าทั้งปวงดีนัก

ยารุกุมารขนานนี้ ท่านให้เอาเมล็ดในสลอด ๙ เมล็ด ใส่ในเข้าสุก ๓ ปั้นๆ ละ ๓ เมล็ดเผาไฟให้เกรียม กานพลู ๙ ดอก ไพล ๑ พิมเสน ๑ บดปั้นแท่งเท่าเมล็ดพริกไทย ให้กินตามกำลัง

ยารุกุมารขนานนี้ ท่านให้เอาการบูรส่วน ๑ รงทองส่วน ๑ พริกไทยส่วน ๑ ขิงส่วน ๑ ยาดำ ๒ ส่วน ลูกสลอด ๘ ส่วน รวมยา ๖ สิ่งนี้ตำเปนผง เอาน้ำส้มมะขามเปียกเปนกระสายบด ปั้นแท่งไว้เท่าเมล็ดพริกไทย ถ้ากุมารอายุขวบหนึ่งกิน ๓ เมล็ด ถ้าธาตุหนักกิน ๕ เมล็ด ละลายน้ำเหล้ากินดีนัก

ยาชื่อเทพสัมฤทธิ์ธุเลาธาตุขนานนี้ ท่านให้เอาสานส้ม ๑ ดินประสิวขาว ๑ น้ำประสานทอง ๑ ฝักส้มป่อย ๑ ลูกประคำดีควาย ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน เอาน้ำมะนาวเปนกระสายบดปั้นแท่งไว้เท่าเมล็ดพุดทรา ละลายน้ำเหล้าน้ำมะนาวก็ได้ กินเมล็ด ๑ ถ้าไม่ลงกิน ๓ เมล็ดลงดีนัก

ยาแก้ขัดอุจาระขนานนี้ ท่านให้เอาถ่านไม้สัก ๑ ลูกจันทน์ขั้ว ๑ รงทอง เอาใบบัวที่ตายกลางสระนั้นมาห่อรงปิ้งไฟให้ไหม้ แล้วจึ่งประสมเข้าด้วยกัน ละลายน้ำมะนาวกินคูธตกดีนัก

ยาแก้ปัสสาวะมิออกขนานนี้ ท่านให้เอาโคกกระสุน ๑ ยอดขี้เหล็ก ๑ ขมิ้นอ้อย ๗ ชิ้น ต้ม ๓ เอา ๑ ให้กุมารกินมูตร์ออกดีนัก

ขนานหนึ่งเอาด่างใบบัวหลวง ละลายน้ำผึ้งรวงกินประจุปัสสาวะออกดีนัก

ยาแก้กุมารอ่อนลงท้องนักขนานนี้ ท่านให้เอาลูกมะตูมอ่อน ๑ ลูกทับทิม ๑ ดีปรี ๑ รากหนาด ๑ ขิงสด ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดละลายน้ำผึ้งกินหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา ใบคนทีสอ ๑ ใบผักเสี้ยนผี ๑ ไพล ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ยาดำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดละลายน้ำหยัดเหล้ากินแก้ตานทรางหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา มหาหิงคุ์ ๑ น้ำประสานทอง ๑ ลูกจันทน์ ๑ สมอเทศ ๑ การบูร ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน เอาเจตมูลเพลิงเท่ายาทั้งหลาย ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ ละลายให้กุมารกินหายดีนัก

ปุน จปรํ ลำดับนี้จะกล่าวด้วยกุมารทั้งหลาย เอากำเนิดใน ๑๕ วันก็ดี เดือน ๑ ก็ดี ๒ เดือน ๓ เดือน ๔ เดือนก็ดี แต่เดือน ๑ เกิดเปนเขม่าตานทราง เลือดกระสายแลเอ็นทั้ง ๓๗ จึ่งเกิดทรางทั้ง ๙ จำพวก จำพวกหนึ่งเกิดขึ้นภายใน ย่อมกินไส้พุงตับปอดแลหัวใจนั้นก็มี อนึ่งชื่อว่าเบ็ญจขันธ์ ถ้าผู้ใดรู้จักวิเศษนัก คือทรางฝ้ายดวงดังนี้ <img> ขึ้นในลิ้นในปากก็มีมิเปนไรเลย ทรางขุมดวงดังนี้ <img> ถ้าว่ากลางนั้นซีดขาวสองวันตานก็จะหาย ทรางเข้าเปลือกเปนในลิ้นในปากดุจดังลิ้นวัว ครั้นถึงสองวันก็หล่นลงไปที่ท้อง ทรางเข้าดวงดังนี้ <img> ทรางควายดวงดังนี้ <img> ถ้าดำถึง ๑๒ วันตาย ทรางม้าดวงดังนี้ <img> ครั้นถึง ๒ วัน ก็ติดกันเข้ามีสีดำเขียวร้ายนัก ทรางช้างดวงดังนี้ <img> ถ้าหวำแลกลางแดงมักให้ลงท้อง ทรางโจรดวงดังนี้ <img> มักขึ้นไส้พุงแลหัวตับกระดูกสันหลัง เมื่อแก่หนักขึ้นมาดุจดอกบุกใหญ่ดังนี้ <img> แลทรางดังนี้ <img> ถ้าแดงให้หวำ ทรางไฟดวงดังนี้ <img> ถ้าขึ้นกลางลิ้นนั้นดำริมแดงร้ายนัก ครั้นตกโลหิตก็ตาย

อนึ่งแพทย์ทั้งหลายผู้จะพยาบาล ให้พิจารณาดูลักษณะอาการแลประเภทให้รู้ดังนี้ก่อน ถ้ากินไส้พุงให้ลงท้อง ถ้ากินหัวใจให้ตกโลหิตสดแลเสมหะ ถ้ากินหัวตับโลหิตตกพอประมาณ ถ้ากินฅอหอยให้ฅอแลปากแห้ง ถ้ากินนอกไส้แลในอกให้กระหายน้ำ

อนึ่งถ้ากุมารผู้ใด เมื่อตื่นนอนแลปากแดงแล้วให้น้ำลายตก ทรางจับที่ลิ้นก่อนจึ่งขึ้นฅอ เมื่อป้อนเข้าให้ไอแลรากแล้วก็หล่นลงไปให้ทำท้อง ครั้นนานมาให้อยากน้ำแล้วให้สันหลังแข็ง ถ้าลักษณะดังนี้คือทรางโจรกระทำ ให้เปนไข้หวัด แล้วให้ผอมเหลืองให้ตัวดุจดังเปนปาน อันว่าทรางฝ้ายนั้นให้ขาวจับไพรปากแล้วให้น้ำลายตก ถ้าเหลืองเข้าแล้วแพทย์พึงรักษาด้วยยาชื่อละอองพระบาท อันว่าทรางริดสีดวงนั้นกระทำให้ปากเปื่อยร้ายนัก ครั้นแก่ไปให้บิดท้อง

ถ้าจะแก้ให้เอายาขนานนี้ ท่านให้เอาหญ้าไทร ๑ ใบตานหม่อน ๑ ใบกระเพรา ๑ ใบสวาด ๑ ใบมะกล่ำเครือ ๑ ผักคราด ๑ ใบมะยมตัวผู้ ๑ มะกรูด ๑ ชะมด ๑ รวมยา ๙ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำเหล้า ยาฝิ่นรำหัดกินแก้บิดหาย ถ้าเปนละอองพระบาท เมื่อแรกให้ขาวขึ้นมา ครั้นคล้ำเหลืองเข้าให้น้ำลายตกร้ายนัก ถ้าจะแก้ให้แก้ด้วยมนต์นี้, (อุม์มาครูปมุก์ขา วา คัน์ต๎วาส๎วาห อุม์มาครูปมุก์ขา วา คัน์ต๎วาส๎วาห) คู่กันกับมนต์เสกหมากแลไพลก็ได้ ๗ คาบ เคี้ยวป้อนปากกุมารแก้ลอองพระบาทหาย

ยาแก้ลอองพระบาทขนานนี้ ท่านให้เอา ใบกระเพรา ๑ พริก ๗ ขิง ๗ กระเทียม ๗ เกลือ ๗ ต้มกินหายแล

ขนานหนึ่งท่านให้เอา น้ำประสานทอง ๑ ฝิ่น ๑ เบ็ญจกานี ๑ น้ำตาล ๑ กระเทียม ๑ เอาเกลือรำหัดบดให้เลอียดชุบสำลี อมแก้ในลิ้นในปากหาย

ยาแก้ละอองพระบาทลงไปทำท้องขนานนี้ ท่านให้เอาลูกเบ็ญจกานี ๑ เนรภูสี ๑ จันทน์แดง ๑ ดีงูเหลือม ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำเหล้ากินหาย

ยาแก้ลอองพระกฤษขนานนี้ ท่านให้เอา รากเถาหญ้านาง ๑ ดีงูเหลือม ๑ ฝนละลายน้ำเหล้ากินหาย

ยาแก้ทรางแดงขนานนี้ ท่านให้เอา กรามแรด ๑ กรามช้าง ๑ เขากวาง ๑ สมุลแว้ง ๑ เนรภูสี ๑ จันทน์แดง ๑ ดีงูเหลือม ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน เอาน้ำเหล้าเปนกระสาย บดทำแท่งไว้ทั้งกินทั้งทาหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา น้ำประสานทอง ๑ ขิง ๑ กระเทียม ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ พิมเสน ๑ กระดูกงูทับทาง ๑ นอแรด ๑ งาช้าง ๑ กรามแรด ๑ กรามช้าง ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวจรเข้ ๑ เขี้ยวหมู ๑ รวมยา ๑๗ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดปั้นแท่งไว้ทาทรางแดง, ดำ, ขาว, เหลือง, หายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา กรามแรด ๑ กรามช้าง ๑ งาช้าง ๑ นอแรด ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวจรเข้ ๑ เขี้ยวหมู ๑ กระดูกงูทับทาง ๑ โกฐทั้ง๕ ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ ดีตะพาบน้ำ ๑ ดีงูเหลือม ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๑๘ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ ละลายน้ำเหล้ากินแก้ทรางทั้งปวงหาย

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาหอยอีรมเผาไฟ ๑ หมึกหอม ๑ รากคันซุน ๑ ชาตหรคุณ ๑ น้ำประสานทอง ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดละลายน้ำมันงาดิบทาทรางหาย

ยาแก้ทรางโจรขนานนี้ ท่านให้เอา บรเพ็ด ๑ ใบคนทีสอ ๑ ใบกระเพรา ๑ ใบอังกาบ ๑ ใบพลูแก ๑ ไพล ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดทำแท่งไว้ละลายน้ำเหล้ากินหายแล

ขนานหนึ่งท่านให้เอา เจตมูลเพลิง ๑ ดินกิน ๒ หัวอุตพิษ ๒ ตรีกระฏุก ๓ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำเหล้ากิน แก้ทรางโจรหายแล

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาขมิ้นอ้อย ๑ พริก ๑ ขิง ๑ กระเทียม ๑ ใบกระเพรา ๑ ยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ ละลายน้ำเหล้ากินแก้ทรางโจรหายแล

ยาชื่อเบ็ญจนารายน์ขนานนี้ ท่านให้เอาลูกราชดัด ๑ ยาดำ ๑ ลูกมะคำดีควาย ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ดีงูเหลือม ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำเหล้ากินแก้ทรางโจรตกมูกตกโลหิตหาย

ขนานหนึ่งท่านให้เอา ข่า ๑ ไพล ๒ ส่วน ยาดำ ๓ ส่วน ขมิ้นอ้อย ๔ ส่วน ใบกระเพรา ๕ ส่วน รวมยา ๕ สิ่งนี้ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำเหล้ากิน แก้ทรางโจรทรวงอกหายดีนัก

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาผักคราด ๑ ตานหม่อน ๑ ขอบชะนางทั้ง ๒ หนึ่ง ยา ๔ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเอาน้ำละลายพริก ๗ ขิง ๗ กระเทียม ๗ กินตัวพยาธิ์ตาย ทั้งอุจาระที่เหม็นนักนั้นกิหาย

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาตานตำ ๑ ตานขะโมย ๑ พริกไทย ๑ ผักเสี้ยนผี ๑ กุ่มทั้ง ๒ หนึ่ง เกลือ ๑ กระดูกเสือ ๑ กระดูกงูเหลือม ๑ การบูร ๑ หุงด้วยน้ำมันงาดิบทั้งกินทั้งทาก็ได้แก้ทรางโจร ถ้าให้หลังแข็งทาก็หายดีนัก

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาไพล ๑ ขิง ๑ ข่า ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวอุ่นไฟให้ร้อน ทั้งกินทั้งทาหาย

ยารุทราง ขนานนี้ท่านให้เอาลูกสลอด ๑ ใบมะกา ๑ ใบราชพฤกษ์ ๑ หญ้าใต้ใบ ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ใบกระเพรา ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาสลอด ๑ ส่วน เอาใบไม้ทั้ง ๕ สิ่งนี้เอาสิ่งละ ๒ ส่วน ตำเปนผงบดปั้นแท่งเท่าเมล็ดนุ่น กินตามกำลังกุมารดีนัก

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาเมล็ดผักกาด ๑ เทียนดำ ๒ ส่วน สลอด ๓ ส่วน รวมยา ๓ สิ่งนี้ตำเปนผง เอาน้ำมะนาวเปนกระสายบดปั้นแท่งไว้เท่าเมล็ดพริกไทย กินตามกำลังกุมารเปนยาประจุเสมหะน้ำเหลือง หายดีนัก

ยาหยอดตา ขนานนี้ ท่านให้เอา รากกระทกรก ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เปลือกหอยโข่ง ๑ ยา ๓ สิ่งนี้แช่น้ำหยอดตาแก้หมอกหาย

ขนานหนึ่ง ท่านให้เอารากผักคราด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รากพันงูแดง ๑ เกลือ ๗ เมล็ด แช่น้ำหยอดตาห้ามไม่ให้ทรางขึ้นได้ดีนัก

ยาแก้ต้อขึ้นตา ให้ขาวไปทั้งตา ขนานนี้ ท่านให้เอาไพล ๑ รากอังกาบ ๑ รากอัญชันขาว ๑ ยา ๓ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน เอาน้ำมะนาวเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ฝนหยอดตาทรางโจรหาย

ยาแก้เอ็น ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาใบมะระ ๑ ใบหางจรเข้ ๑ ใบตำลึงแฉก ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ดินประสิวขาว ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดพอกหายแล

ยาแก้ลิ้น ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาน้ำประสานทอง ๑ กานพลู ๑ ใบหนาด ๑ ไคร้หอม ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ใบกระเพรา ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำเปนผงเอาน้ำมะนาวเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้เมื่อจะกินรำหัดพิมเสนแซกน้ำผึ้งรวงกิน แก้ลิ้นดูดนมมิได้หายดีนัก

ยาแก้กุมารกินเข้าไม่ได้ ขนานนี้ ท่านให้เอาบรเพ็ด ๑ ใบกระเพรา ๑ ไคร้หอม ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ น้ำประสานทอง ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาส่วนเท่ากัน บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำผึ้งรวงกิน ๆ เข้าได้ดีนัก

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ