- คำนำ
- บานแพนก
- ฉันทศาสตร์
- ว่าด้วยทับ ๘ ประการ
- ว่าด้วยคำภีร์ตักกะสิลา
- ว่าด้วยกำเนิดไข้, ด้วยที่อยู่, ฤดู, อาหาร, แลธาตุ
- ว่าด้วยลักษณะน้ำนมดีแลชั่ว
- ว่าด้วยลักษณะอาการไข้ที่เข้าเพศเปนโทษ ๔ อย่าง
- ว่าด้วยกำเนิดแห่งไข้ (โรค) ต่าง ๆ
- ว่าด้วยชีพจร ให้ระวังในการระบายยา
- ว่าด้วยลักษณะธาตุ
- ว่าด้วยป่วง ๘ ประการ
- ตำรายาแก้สันนิบาต สองคลอง และอะหิวาตะกะโรค
- ว่าด้วยสมุฏฐาน
- ว่าด้วยอติสาร
- ว่าด้วยมรณะญาณสูตร์
- ว่าด้วยโรคไภยต่าง ๆ แห่งกุมาร
- พระคัมภีร์ประฐมจินดา
- ว่าด้วยลักษณครรภ (ผูก ๑ บริเฉท ๑)
- คำภีร์ครรภรักษา ลักษณะครรภวารกำเนิด (ผูก ๑ บริเฉท ๒)
- ครรภ์วิปลาศ ครรภ์ปริมณฑล ครรภ์ประสูตร
- ว่าด้วยลักษณกุมาร กุมารออกจากครรภ์ ฝังรกแห่งกุมาร กุมารอยู่ในเรือนเพลิง (ผูก ๑ บริเฉท ๓)
- ว่าด้วยสังโยชน์ลักษณ์สัตรีดีแลชั่ว แลรศน้ำนมดีแลชั่ว (ผูก ๑ บริเฉท ๔)
- ว่าด้วยลักษณะรูปสัตรีแลรูปกุมาร (ผูก ๒ บริเฉท ๑)
- ว่าด้วยลักษณะปักษี แลปิศาจกระทำโทษ ลักษณะน้ำนมมีโทษ ๓ ประการ
- ว่าด้วยลักษณะทราง
- กำเนิดทรางทั้งปวง
- อาการไข้อันบังเกิดแห่งกุมารกุมารีทั้งหลาย
- ว่าด้วยกุมารเกิดวันอาทิตย์ (ผูก ๓ บริเฉท ๑)
- ว่าด้วยกุมารเกิดวันจันทร์ (ผูก ๓ บริเฉท ๒)
- ว่าด้วยกุมารเกิดวันอังคาร (ผูก ๓ บริเฉท ๓)
- ว่าด้วยกุมารเกิดวันพุฒ (ผูก ๓ บริเฉท ๔)
- ว่าด้วยกุมารเกิดวันพฤหัศบดี (ผูก ๓ บริเฉท ๕)
- ว่าด้วยกุมารเกิดวันศุกร์ (ผูก ๓ บริเฉท ๖)
- ว่าด้วยกุมารเกิดวันเสาร์ (ผูก ๓ บริเฉท ๗)
- คัมภีร์เตร็จซึ่งคัดมาจากคัมภีร์อภัยสันตา ว่าด้วยทรางต่างๆ (ผูก ๔)
- ลักษณะกำหนดทรางแลทรางจร กำลังไข้ กิมิชาติแลตานโจร (ผูก ๕)
- ตานโจรเกิดด้วยธาตุทั้ง ๔ ตานโจรอันเกิดเพื่ออะติสาร (ผูก ๖)
- ตานโจรเกิดเพื่ออติสาร แลว่าด้วยกาฬต่าง ๆ
- ว่าด้วยอุจจาระปัสสาวะแห่งกุมารแลกุมารี แลลักษณะตานจร
- พระคัมภีร์ธาตุวิภังค์
- คัมภีร์สรรพคุณ (แลมหาพิกัด)
- สรรพคุณยาแก้ไข้ทรพิศม์
ลักษณะกำหนดทรางแลทรางจร กำลังไข้ กิมิชาติแลตานโจร
พระคัมภีร์ปฐมจินดาผูก ๕ ว่าด้วยลักษณะตานโจรเปนกำหนด ทรางเจ้าเรือนแลทรางจร, กำลังไข้ทรางเจ้าเรือน, กิมิชาติประจำกาย, สิ้นทรางเจ้าเรือนแลทรางจร, ทรางโจรแล้ว เพื่อพยาธิโดยสังเขป
อันว่าแพทย์ผู้ใด อภิบาลรักษากุมารกุมารีไปเมื่อปลายมือนั้น คือกุมารกุมารีผู้ใดเมื่อสิ้นกำหนดทรางเจ้าเรือน แลทรางจรนั้นแล้ว ตานโจรจึงกระทำต่อไป ถ้าจะใคร่รู้ว่าทรางเจ้าเรือนนั้นสิ้นกำหนดสักเพียงใด แลทรางจรนั้นกำหนดสักเพียงใดจึงสิ้น ท่านให้แพทย์ทั้งหลายผู้มีปัญญาอันน้อย พิจารณาสังเกตดูเอาตามพระอาจาริย์เจ้ากล่าวไว้ดังนี้เถิด
ถ้ากุมารกุมารีผู้ใดเกิดวันอาทิตย์ ทรางเพลิงเปนเจ้าเรือน ทรางกรายเปนทรางจร กำหนดทรางเพลิงเจ้าเรือนกระทำโทษนั้นขวบ ๑ กับ ๑๑ เดือน ทรางจรกำหนด ๗ เดือน รวมเข้าด้วยกันเปน ๒ ขวบกับ ๖ เดือน มีเศษ ๖ วัน สิ้นกำหนดทรางเพลิงแต่เพียงนี้
ถ้ากุมารกุมารีผู้ใดเกิดวันจันทร์ ทรางน้ำเปนเจ้าเรือนทรางฝ้ายเปนทรางจร กำหนดทรางน้ำเจ้าเรือนกระทำโทษนั้นขวบ ๑ กับ ๖ เดือน ทรางจรกำหนด ๖ เดือน รวมเข้าด้วยกันเปน ๒ ขวบกับมีเศษ ๑๕ วัน สิ้นกำหนดทรวงน้ำแต่เพียงนี้
ถ้ากุมารกุมารีผู้ใดเกิดวันอังคาร ทรางแดงเปนเจ้าเรือน ทรางกระแหนะเปนทรางจร กำหนดทรางแดงเจ้าเรือนกระทำโทษนั้น ๓ ขวบกับ ๖ เดือน ทรางจรกำหนดขวบ ๑ กับ ๖ เดือน รวมเข้าด้วยกันเปน ๕ ขวบกับมีเศษ ๘ วัน สิ้นกำหนดทรางแดงแต่เพียงนี้
ถ้ากุมารกุมารีผู้ใดเกิดวันพุฒ ทรางสกอเปนเจ้าเรือน ทรางกระตังเปนทรางจร กำหนดทรางสกอเจ้าเรือนกระทำโทษนั้นขวบ ๑ กับ ๔ เดือน ทรางจรกำหนดขวบ ๑ กับ ๓ เดือน รวมเข้าด้วยกันเปน ๒ ขวบ ๗ เดือน กับมีเศษอีก ๑๗ วัน สิ้นกำหนดทรางสกอแต่เพียงนี้
ถ้ากุมารกุมารีผู้ใดเกิดวันพฤหัศบดี ทรางโคเปนเจ้าเรือน ทรางเข้าเปลือกเปนทรางจร กำหนดทรางโคทำโทษนั้น ๒ ขวบกับ ๕ เดือน ทรวงจรกำหนดขวบ ๑ กับ ๖ เดือน รวมเข้าด้วยกันเปน ๓ ขวบกับ ๑๑ เดือน มีเศษวันอีก ๑๙ วัน สิ้นกำหนดทรางโคแต่เพียงนี้
ถ้ากุมารกุมารีผู้ใดเกิดวันศุกร์ ทรางช้างเปนเจ้าเรือน ทรางกระดูกเปนทรางจร กำหนดทรางช้างกระทำโทษนั้น ๒ ขวบ กับ ๙ เดือน ทรางจรกำหนด ๗ เดือน รวมเข้าด้วยกันเปน ๓ ขวบ กับ ๔ เดือน กับมีเศษวันอีก ๒๑ วัน สิ้นกำหนดทรางช้างแต่เพียงนี้
ถ้ากุมารกุมารีผู้ใดเกิดวันเสาร์ ทรางโจรเปนเจ้าเรือน ทรางนางริ้นเปนทรางจร กำหนดทรางโจรกระทำโทษนั้น ๓ ขวบกับ๘ เดือน ทรางจรกำหนดขวบ ๑ กับ ๗ เดือน รวมเข้าด้วยกันเปน ๕ ขวบกับ ๓ เดือนมีเศษอีก ๑๐ วัน สิ้นกำหนดทรวงโจรแต่เพียงนี้
ทั้งนี้เปนกำหนดทรางเจ้าเรือนแลทรางจรทั้ง ๗ จำพวก อันกระทำโทษนั้นสิ้นกำหนดดุจกล่าวมาแต่เพียงนี้
ทีนี้จะว่าด้วยกำหนดวันไข้ ซึ่งบังเกิดแก่กุมารกุมารีทั้งหลายต่อไป ว่าจะหาย, จะหนัก, จะตาย, สักเพียงใด ดังพระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวโดยไนยกำหนดดังนี้
ทรางเพลิงแต่แรกล้มไข้มา กำหนด ๑๑ วันจึงถอย ถ้าไม่ถอยตาย
ทรางน้ำแต่แรกล้มไข้มา กำหนด ๑๒ วันถอย ถ้าไม่ถอยไข้นั้นหนักอยู่
ทรางแดงเมื่อแรกล้มไข้มา กำหนด ๑๓ วันจึงถอย ถ้าไม่ถอยไข้นั้นตาย
ทรางสกอเมื่อแรกล้มไข้มา กำหนด ๑๔ วันจึงถอย ถ้าไม่ถอยไข้นั้นมากไป
ทรางโคเมื่อแรกล้มไข้มา กำหนด ๑๕ วันจึงถอย ถ้าไม่ถอยตาย
ทรางช้างเมื่อแรกล้มไข้มา กำหนด ๑๖ วันถอย ถ้าไม่ถอยตาย
ทรางโจรเมื่อแรกล้มไข้มา กำหนด ๑๗ วันจึ่งถอย ถ้าไม่ถอยตายเปนเที่ยง
นี้แลท่านว่าไว้เปนกำหนดกำลังไข้ ถ้าพ้นกำหนดแล้วไซ้ไข้นั้นไม่ถอย ก็เปนกำหนดแห่งกุมารผู้นั้น เข้าอยู่ในเงื้อมมือพระยามัจจุราชแล้ว ในเมื่อไข้สิ้นกำหนดทรางเจ้าเรือนแลทรางจรนั้นแล้ว จึงบังเกิดโรคทั้ง ๗ จำพวก คือสมมุติว่าตานโจรนั้นดุจเปนไข้ขี้ฉ้อ แลแพทย์ทั้งหลายมิได้รู้จักกำเนิดแลหลับจักษุรักษากุมารดุจหนึ่งประหารกุมารนั้นด้วยเพลิง ก็จะตายเปนอันเที่ยงอย่าพึงสงไสยเลย
ว่าด้วยกิมิชาติแลตานโจร
ทีนี้จะว่าด้วยกุมารกุมารี อันมีอายุล่วงพ้นกำหนดทรางเจ้าเรือนแลทรางจรแล้ว คือกุมารนั้นอายุตั้งแต่ ๕ ขวบ ๖ ขวบขึ้นไปเปนลักษณะแห่งตานโจรด้วยบริโภคอาหารต่างๆ ที่ไม่เคยบริโภค เหมือนเมื่อพรหมลงมากินดินง้วนดังนั้น ก็มีกายอันวิปริตต่างๆ ด้วยแต่ก่อนเคยเสวยซึ่งทิพยวิมาน ครั้นประดิษฐานลงมากินง้วนดิน กายก็แปรไปตามเภทเปนมนุษย์จึงมีประเวณีตามพืชน์แผ่นดิน อันว่ากุมารซึ่งมาเอาชาติปฏิสนธิในครรภ์แห่งสัตรีภาพต่างๆ นั้น ครั้นได้รับประทานอาหารซึ่งแปลกอันที่ไม่เคยบริโภคก็ให้บังเกิดโรคต่าง ๆ แล้วก็ให้บังเกิดซึ่งหมู่กิมิชาติหมู่หนอน ๘๐ จำพวก อันจะเบียดเบียฬทุกตัวสัตว์มิได้เว้นเลย เมื่อสัตว์ทั้งหลายบริโภคซึ่งอาหารหยาบดังนั้น จึ่งบังเกิดกิมิชาติหมู่หนอน ๘๐ จำพวก อาไศรยกินอยู่ ณ ภายในแห่งสัตว์ทั้งปวงต่างๆ ดุจกล่าวมานี้
อันว่ากิมิชาติอาไศรยอยู่ในกะเพาะอาหารเก่า, กะเพาะอาหารใหม่นั้น ๗ จำพวก ชื่อตะกะจำพวก ๑ ชื่อโอตะกะจำพวก ๑ ชื่อคันทุปาจำพวก ๑ ชื่อตาลหิระจำพวก ๑ ชื่อสุจิมุขะจำพวก ๑ ชื่อปะวัตนันตุจำพวก ๑ ชื่อสุกะตะจำพวก ๑ เปน ๗ จำพวกด้วยกันดังนี้
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในสมองกระดูกนั้น ๒ จำพวก ชื่อยาวะจำพวก ๑ ชื่อโสภาจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ที่ม้าม ๒ จำพวก ชื่อตะกะจำพวก ๑ ชื่อราตวัตถาจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในหทัย ๔ จำพวก ชื่อทะนันตะจำพวก ๑ ชื่อมหาทะนันตะจำพวก ๑ ชื่อโลหิตะจำพวก ๑ ชื่อมหาโลหิตะจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในปิตตังในเสมหังนั้น ๓ จำพวก ชื่อนิละกะจำพวก ๑ ชื่ออุปวะจำพวก ๑ ชื่อลามุขะจำพวก ๑
อันว่ากิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในกระบอกตา ๓ จำพวก ชื่อมาณะจำพวก ๑ ชื่อตะกาจำพวก ๑ ชื่อณะวะจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในบุพโพ ๓ จำพวก ชื่อมัญชุจำพวก ๑ ชื่อมุขะจำพวก ๑ ชื่อมิกขะละจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในตับ ๓ จำพวก ชื่อวระณะจำพวก ๑ ชื่อตะณะจำพวก ๑ ชื่อสวะระจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในพุง ๖ จำพวก ชื่ออิวิชาจำพวก ๑ ชื่ออะธิวิชาจำพวก ๑ ชื่อวัตธาจำพวก ๑ ชื่อสิธาจำพวก ๑ ชื่อทสะหะจำพวก ๑ ชื่อมุนขะจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในมันเหลว ๒ จำพวก ชื่อพิมันชาจำพวก ๑ ชื่อเลมขะจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในทวารเบื้องต่ำนั้น ๓ จำพวก ชื่อกิททาจำพวก ๑ ชื่อภะยะจำพวก ๑ ชื่อปาลาตะจำพวก ๑
อันว่ากิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในกลางตัว ๔ จำพวก ชื่อโลหะมุขะจำพวก ๑ ชื่อมหาโลหะมุขะจำพวก ๑ ชื่อมุนะชาจำพวก ๑ ชื่อมหามุนะชาจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในปอดนั้นมี ๖ จำพวก ชื่อเสตะจำพวก ๑ ชื่อโลหิตะจำพวก ๑ ชื่อจะวะกาลจำพวก ๑ ชื่อสิวาจาจำพวก ๑ ชื่ออัคคะจำพวก ๑ ชื่อมหาอัคคะจำพวก ๑
อันว่ากิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในลำไส้น้อยไส้ใหญ่นั้น ๖ จำพวก ชื่อวะระสิมหาจำพวก ๑ ชื่อวะระนะตาจำพวก ๑ ชื่อมหาวะระนะตาจำพวก ๑ ชื่อสิบปาจำพวก ๑ ชื่อมหาสิบปาจำพวก ๑ ชื่อสันตะอันตาจำพวก ๑ เปน ๖ จำพวกด้วยกันดังนี้
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในมันข้นนั้น ๓ จำพวก ชื่อสุธาชะจำพวก ๑ ชื่อสิเนหะชาจำพวก ๑ ชื่อมหาสิเนหะชาจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในเบื้องต่ำอโธคะทวาร จนถึงที่สุดแห่งปลายเท้านั้น ๕ จำพวก ชื่อวิสรรหาจำพวก ๑ ชื่อสิวาระจำพวก ๑ ชื่อเตชันตะจำพวก ๑ ชื่อสิวะราจำพวก ๑ ชื่อมหาสิวะราจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยอยู่ในเกษานั้น ๒ จำพวก ชื่อพะละวาจำพวก ๑ ชื่อมหาพะละวาจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในฆานะบริโภคน้ำมูกนั้น ๓ จำพวก ชื่อณะหาปัตระจำพวก ๑ ชื่อฉละมุคะจำพวก ๑ ชื่อสัตมุคะจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในชิวหานั้น ๓ จำพวก ชื่อกาละจำพวก ๑ ชื่อมุกขาจำพวก ๑ ชื่อมันนะเปละจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ ใต้เล็บมือเล็บเท้านั้น ๓ จำพวก ชื่อเลหะจำพวก ๑ ชื่อราคะจำพวก ๑ ชื่ออะวัณณะจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในเนื้อ แลตามแถวเส้นแถวเอ็นนั้น ๓ จำพวก ชื่อกันนะจำพวก ๑ ชื่อรัชชะกะจำพวก ๑ ชื่อโลหิตะจำพวก ๑
กิมิชาติอาไศรยกินอยู่ในฅอนั้น ๒ จำพวก ชื่อวัมมะหาจำพวก ๑ ชื่อมหารัมมะหาจำพวก ๑
อันว่ากิมิชาติ ๘๐ จำพวกนี้ ย่อมอาไศรยกินอยู่ในภายในกายแห่งมนุษย์ แลสัตว์ทั้งหลายทุกตัวสัตว์มิได้เว้น ครั้นว่ากิมิชาติทั้งหลายเหล่านี้เจริญขึ้นเมื่อใดแล้ว ก็ย่อมกระทำเบียดเบียฬสัตว์ แลมนุษย่ให้บังเกิดโรคแปรปรวนเปนประการต่าง ๆ ดุจดังกล่าวมาแต่หลัง แลยังจะมีต่อไปข้างน่านั้น ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้ดุจดังพระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ประฐมจินดานี้ จบลักษณะกิมิชาติ์ ๘๐ จำพวกยุติแต่เพียงนี้
ทีนี้จะกล่าวด้วยลักษณะตานโจรอันบังเกิดขึ้น เปนเพื่อพยาธิ ๑๑ จำพวกนั้นต่อไป พระอาจารย์เจ้าท่านกล่าวไว้เปนสังเขป หวังจะสงเคราะห์แพทย์ซึ่งจะรักษาโรคทารกเมื่อปลายมือนั้น ให้แพทย์พึงพิจารณาดูลักษณะ แลอาการแห่งกุมารกุมารีทั้งหลาย ให้แม่นยำตามลักษณะพยาธิทั้ง ๑๑ จำพวกนั้นเถิด
ไนยหนึ่งลักษณะตานโจรนั้น ก็ย่อมระคนปนไปด้วยธาตุทั้ง ๔ ด้วย ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้ดุจกล่าวมานี้
อันว่าลักษณะพยาธิ ๑๑ จำพวกนั้น ชื่อปุระธาตุบทจำพวก ๑ ชื่อปัตชิวหาจำพวก ๑ ชื่อสันตาจำพวก ๑ ชื่ออุทราจำพวก ๑ ชื่อพลพะหะจำพวก ๑ ชื่อคงสทานไฟจำพวก ๑ ชื่อพรมกิศจำพวก ๑ ชื่ออุมุธาตุจำพวก ๑ ชื่อมุษกายธาตุจำพวก ๑ ชื่อรัตนปัลลาธาตุจำพวก ๑ พยาธิ ๑๑ จำพวกนี้คือตานโจรสิ้นทั้งนั้น
ลักษณะพยาธิอันชื่อว่าปุระธาตุบทนั้น บังเกิดเพื่อทรางเพลิงข้างตอนต้นนั้น กระทำให้ลงเปนโลหิตออกมาก่อนแล้วจึ่งให้ตัวเหลืองหาแรงมิได้ ให้อยากของสดของคาวเปนกำลัง อันหนึ่งชื่อปัตฉันนะธาตุกระทำบั้นปลาย จึงให้ขึ้นในช่องนาสิกให้ตึงดังเปนหวัดเหม็นเหน้า แล้วก็ลงทางต้นลิ้นตลอดปลายเท้า ให้น้ำลายตกมิรู้ขาด ให้ฅอแห้งกินอาหารมิได้ ครั้นอาหารมิได้ตั้งเปนที่ตั้งแล้ว โรคนั้นก็วิปริตต่างๆ กุมารผู้นั้นยายากนัก
ถ้าแพทย์ผู้ใดจะแก้พยาธิคือตานโจร ๒ ประการนี้ ท่านให้แก้ลิ้นแก้ฅอให้ตกเสียก่อน จึงให้กินยาหน่วงแก้โลหิตต่อไปเถิด
ยาแก้ลิ้นตานโจร ให้ฅอแห้งกินเข้ากินนมมิได้ ขนานนี้ท่านให้เอารากสนเทศ ๑ สีเสียดเทศ ๑ ชะเอม ๑ น้ำตาลทราย ๑ รวมยา ๔ สิ่งเอาเสมอภาคบดทาลิ้น
ยาแก้น้ำลายใหลขนานนี้ ท่านให้เอายาอันชื่อว่าตรีผลาหอมนั้น ๘ ส่วน รากกะพังโหม ๑ ส่วน รากผักหวานบ้าน ๑ ส่วน รากกะเพรา ๑ ส่วน รากมะกล่ำเครือ ๑ ส่วน รวมยา ๕ สิ่งนี้ทำเปนจุณบดทำแท่งไว้ละลายน้ำผึ้งทาฅอ
ขนานหนึ่งท่านให้เอา หญ้าใต้ใบ ๑ จันทน์แดง ๑ กรามแรด ๑ กรามช้าง ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคบดทำแท่งไว้ละลายสุราทาปากทาลิ้นก็ได้
ยาชำระตานโจรขนานนี้ ท่านให้เอาผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ตรีกระฎุก ๑ เทียนทั้ง ๕ ยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๑ ส่วน ผลสลอดประสะแล้ว ๒ ส่วน เมื่อจะประสะผลสลอดนั้น ให้เอาแช่น้ำปลาร้าปากไหไว้คืน ๑ แล้วจึงเอายัดเข้าไว้ในผลมะกรูด สุมไฟแกลบให้ระอุดีแล้ว จึงเอาบดเข้ากับยาทั้งผลมะกรูดด้วยกัน ทำเปนเม็ดไว้เท่าเมล็ดพริกไทยให้กิน ๕ เม็ด ๖ เม็ด ๗ เม็ด ถ้ากุมารอายุได้ ๓ ขวบ ๖ ขวบขึ้นไป ให้กิน ๑๑ เม็ด ๑๕ เม็ด ตามธาตุตามกำลังกุมารนั้นเถิด
ขนานหนึ่งท่านให้เอา กะเทียม ๑ รากเจ็ตมูลเพลิง ๑ ผิวมะกรูด ๑ การะบูน ๑ พริกไทย ๑ ดีปลี ๑ รากจิงจ้อ ๑ ใบสลอด ๑ ใบมตูม ๑ ใบสวาด ๑ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน แต่ใบไม้ทั้ง ๒ สิ่งนั้นนึ่งเสียก่อนแล้วจึงชั่ง รงทอง ๑ ยาดำ ๑ รากตองแตก ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน รวมยา ๑๒ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำส้มซ่าเปนกระสายบดทำเปนเม็ดเท่าเมล็ดฝ้าย ละลายสุรากินได้ตั้งแต่ ๑ เม็ด จนถึง ๙ เม็ดตามกำลังธาตุแห่งกุมารนั้นหนักเบา เปนยาชำระโทษร้ายให้ตกสิ้น แล้วจึงแต่งยาหน่วงให้กินต่อไป ท่านให้เอา ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ จันทน์แดง ๑ เบ็ญจกานี ๑ เนระภูสี ๑ ผลประคำดีควาย ๑ สีเสียดเทศ ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย์ทำเปนจุณ เอาน้ำส้มซ่าเปนกระสายบดทำแท่ง ละลายสุรากินแก้พิศม์ทรางโจร แลลงเพื่อทรางโจร
ถ้ามิฟังท่านให้เอา ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ จันทน์ทั้ง ๒ เบ็ญจกานี ๑ เนระภูสี ๑ รากคันทรง ๑ พริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ หอม ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ผลประคำดีควาย ๑ รวมยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย์ทำเปนจุณ บดทำแท่งไว้ละลายสุรากินแซกดีงูเหลือมกิน ถ้ามิฟังยาเหล่านี้แล้ว จึงให้เอายาตำหรับหลังแก้ต่อไป
ยาชื่อนาษพิศม์ขนานนี้ แก้พิศม์ทรางโจร ทรางเพลิง ท่านให้เอา ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ จันทน์ทั้ง ๒ ดีงูทั้ง ๒ (คือดีงูต้นแลเครือ) กรุงเขมา ๑ รากไคร้เครือ ๑ เนระภูสี ๑ ผลราชดัด ๑ รากระย่อม ๑ ผลประคำดีควาย ๑ ใบประคำไก่ ๑ ฝิ่นทั้ง ๒ สังกระนี ๑ จุกกะโรหินี ๑ ดีงูเหลือม ๑ ยาฝิ่น ๑ รวมยา ๑๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย์ทำเปนจุณ เอาดีงูเหลือมแช่น้ำเปนกระสายบดทำแท่งไว้ ละลายสุรากินดับพิศม์ภายในทั้งปวง แม้นพิศม์จะกระทำสักเท่าใดๆ ก็ดี ให้คัดปากเอายานี้กรอกเข้าไป, ได้เคยหายมามากแล้ว
ยาแก้เสมหะตีขึ้น ขนานนี้ท่านให้เอา, ตรีกะตุก ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ รากส้มกุ้ง ๑ ฝักส้มป่อย ๑ รากมูลกาแดง ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย์ทำเปนจุณ แล้วจึ่งเอาขันทศกร, น้ำตาลกรวด, น้ำตาลทราย, น้ำมนาว, น้ำส้มมะขามเปียก, กวนเข้าด้วยกันกับยาทั้งนั้น ทาลิ้นบ่อยๆ จนกลืนเข้าไปได้
ยาแก้กินเข้า, กินนมมิได้แลกำลังน้อย ท่านให้เอา ศีศะบัวขม ๑ เข้าสาร ๑ ยาทั้ง ๒ สิ่งนี้บดด้วยน้ำนมโค หรือน้ำนมคนก็ได้ ให้ทารกกินมีกำลังทั้งเจริญอาหารด้วยดีนัก
ขนานหนึ่ง ท่านให้เอา กระจับบก ๑ เกสรบัวหลวง ๑ รากละหุ่งแดง ๑ รวมยา ๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย์ บดละลายน้ำเข้าที่แรกเดือดให้กิน
ยาชะโลมแก้ร้อนทรางเพลิงขนานนี้ ท่านให้เอา รากโมง ๑ รากลำดวน ๑ หญ้าแพรก ๑ ดินประสิวขาว ๑ บดละลาย น้ำซาวเข้าชะโลมแก้ตัวร้อนทรางเพลิง
ยาแก้ระหายน้ำแก้ร้อนทรางโจร, ทรางเพลิง, ท่านให้เอารากเข้าสาร ๑ รากบัวหลวง ๑ รากถั่วภู ๑ รากทองหลางหนาม ๑ รากสลอดน้ำ ๑ จันทน์ทั้ง ๒ รากสลิด ๑ รากเท้ายายม่อม ๑ รากน้ำนอง ๑ รากคาคลอง ๑ ปู่เจ้าลอยท่า ๑ รากพิศนาด ๑ รากสีหวด ๑ รากหญ้านาง ๑ สันพร้านางแอ ๑ รวมยา ๑๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย์ ทำเปนจุณบดทำแท่งไว้ละลายน้ำซาวเข้าทั้งกินทั้งชะโลมแก้กระหายน้ำ แก้ร้อนทรางโจร, ทรางเพลิง, หาย
ยาแดงแก้ตานโจรกระทำท้อง ท่านให้เอา จันทน์ทั้ง ๒ เปลือกมะเกลือเลือด ๑ เปลือกขี้อ้าย ๑ เปลือกหางกราย ๑ เนระภูสี ๑ สังกระณี ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ ขิงแห้ง ๑ เปลือกมะทราง ๑ รวมยา ๑๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาคย์ทำเปนจุณ เอาน้ำเปลือกมะรุมเปนกระสาย บดทำแท่งละลายน้ำเปลือกมะม่วงพรวน, เปลือกมะเดื่อ, เปลือกมะกอก, ก็ได้ กินแก้ตกมูกตกเลือดตานโจร อันบังเกิดพยาธิอันชื่อว่าบุรธาตุบทกล่าวมาดังนี้ตกสิ้น กุมารนั้นจึ่งจะรอดจากความมรณไภย
อันว่าลักษณะพยาธิอั้นชื่อว่าสันตาธาตุนั้น บังเกิดเพื่อทรางน้ำกระทำให้ตัวเย็น แลท้องขี้นมิรู้ขาด เมื่อคุกเข่ากระทำให้ขนลุกให้ตกโลหิต ให้ปิดอุจจาระ, ปัสสาวะ แลปัสสาวานั้นขาวดุจดังน้ำเข้า สมมุตว่านิ่วน้ำนม
พยาธิอันหนึ่งชื่อว่าอุทราธาตุเกิดขึ้นในสะดือภายในอุทร มักให้เชื่อมแล้วให้ผอมให้หอบ ถ้าแพทย์จะแก้ เปนแต่พอประทัง ถ้าแลให้เปนไปถึงสามเดือนสี่เดือน จะทำให้ไส้พองท้องใหญ่ บางทีท่านว่าตับบวมใหญ่ขึ้นคับโครงแล้วก็ตาย
ยาทาท้องแก้ท้องขึ้นขนานนี้ ท่านให้เอา ใบหนาด ๑ ใบคนทีสอ ๑ ใบประคำไก่ ๑ ใบผักเค็ด ๑ ใบผักเสี้ยนผี ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ เมล็ดในสะบ้ามอญ ๑ มดยอบ ๑ กำยานผี ๑ ตรีกะฎุก ๑ สารส้ม ๑ ดินประสิวขาว ๑ น้ำประสารทอง ๑ กระชาย ๑ กระทือ ๑ ไพล ๑ หอม ๑ กระเทียม ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ กระดูกงูเหลือม ๑ กระดูกงูเห่า ๑ กระดูกห่าน ๑ กระดูกเลียงผา ๑ มหาหิงคุ์ ๑ ยาดำ ๑ รงทอง ๑ รวมยา ๒๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่งละลายน้ำมะกรูดทาท้อง แก้ท้องรุ้งท้องมาร แก้มารกระไษยลม แก้ไส้พองท้องใหญ่ท้องขึ้นท้องเขียว, อุจจาระปัสสาวะมิออก, แก้ชักเท้ามือกำ, หมชักหลังแข็งแลสะพั้นอักขมุขี, แก้ลมบาทยักษ์, ลมกุมภัณฑยักษ์, ลมทักขิณคุณ, ลมประวาตคุณ, หายสิ้น
ยาชื่อประสะกะเพรา (น้อย) ขนานนี้ ท่านให้เอา ยาดำ ๑ หิงคุ์ยางโพ ๑ กระเทียม ๑ พริกไทย ๑ ดีปลี ๑ ว่านน้ำ ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาค เอาใบกะเพราเท่ายาทั้งหลายทำเปนจุณ บดทำแท่งละลายน้ำมะกรูดก็ได้, น้ำสุราก็ได้ กินแก้ท้องขึ้น เปนยาประจำท้องกุมารทั้งปวง
ยาชื่อมงคลระงับ, ท่านให้เอา เทียนทั้ง ๕ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ สังกระณี ๑ เนระภูสี ๑ ไคร้เครือ ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ เมล็ดพรรผักกาด ๑ ใบระงับ ๑ ใบกะเม็ง ๑ ใบขี้กาแดง ๑ ใบน้ำเต้า ๑ ตรีกะฎุก ข่า ๑ กระชาย ๑ กระทือ ๑ ไพล ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ หอมแดง ๑ กระเทียม ๑ รวมยา ๒๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่งน้ำมะนาวเปนกระสาย ละลายสุรากินแก้ตาลโจรซึ่งกระทำให้ท้องขึ้น, อุจจาระเน่าเหม็น แลแก้พิศม์ตานทรางทั้งปวง
ยาชื่อมะหากะเพรา, ท่านให้เอา เทียนทั้ง ๕ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน ตรีกะฏุกเอาสิ่งละ ๔ ส่วน มหาหิงคุ์ ๑ กระเทียม ๑ เอาสิ่งละ ๘ ส่วน ใบกะเพราเอาเท่ายาทั้งหลาย รวมยา ๑๑ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาสุราเปนกระสายบดทำแท่งละลายสุรากินแก้ตกมูก, ตกเลือด, ปวดมวน,
ยาชื่อหิงคุ (เปนยาผาย) ขนานนี้, ท่านให้เอา พริกไทย ๑ ส่วน ใบกะเพรา ๒ ส่วน ดีปลี ๓ ส่วน มหาหิงคุ์ ๑ การบูร ๑ ผิวมะกรูด ๑ ว่านน้ำ ๑ ไพล ๑ เอาสิ่งละ ๔ ส่วน รวมยา ๘ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาสุราเปนกระสายบดทำแท่ง ละลายน้ำมะกรูดกินบ้างทาท้องบ้าง แก้เจ็บท้องแลท้องขึ้นตัวเย็น
ยาภายในแก้ตานโจร ขนานนี้ ท่านให้เอา ผิวมะกรูด ๑ ผิวส้มซ่า ๑ รากมะรุมบ้าน ๑ รากมะแว้งต้น ๑ ผลสลอดประสะแล้ว ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ทำเปนจุณตำคั้นเอาน้ำใบว่านหางช้างเปนกระสาย บดทำเปนเม็ดเท่าเมล็ดพริกไทย กินมื้อละ ๑ เม็ด ดูตามธาตุหนักธาตุเบา ถ่ายจนสิ้นโทษร้าย ตัวพยาธิอันชื่อว่าอุทราธาตุนั้นออกสิ้น
อนึ่งถ้าจะแก้ไส้พองท้องใหญ่ แลท้องรุ้งพุงมาร ให้บวมในที่แห่งใดๆ ก็ดี ให้บวมทั้งตัวก็ดี ที่เปนเพื่อตาลโจรนั้น ถ้าจะแก้เอายาขนานนี้ ท่านให้เอา ใบมะขาม ๑ ใบส้มป่อย ๑ ใบส้มเซี่ยว ๑ ใบมะนาว ๑ รากสลอดกินลง ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ต้ม ๓ เอา ๑ รินเอาแต่น้ำ แล้วจึงเอาน้ำผึ้ง ๑ ถ้วย สุรา ๑ ถ้วย รงทอง ๑ ยาดำ ๑ ดินประสิวขาว ๑ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน ดีเกลือ ๒ ส่วน ผสมด้วยกันพอปั้นได้ ถ้าจะให้กุมารอายุ ๕ ขวบ ๖ ขวบกินเท่าผลบัวเกราะ, ลงสดวกดีนัก แลหายโรคทั้งปวงด้วย
ยาแก้ตานโจรอันซื่อว่าสะเตาธาตุ (หรือสันตาธาตุ) อันกระทำให้เชื่อม, ให้มึนขนานนี้ ท่านให้เอา จันทน์แดง ๑ จันทน์ขาว ๑ กฤษณา ๑ กระลำภัก ๑ ชะลูด ๑ ขอนดอก ๑ ดอกบุนนาก ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ดอกสัตบุษย์ ๑ ชาดจอแส ๑ ชะมด ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำค้างเปนกระสายบด แล้วเอายาที่บดนั้นทาใบตาลตากให้แห้ง แล้วจึงบดด้วยน้ำดอกไม้อิก ทำแทงไว้ละลายน้ำดอกไม้กิน แก้สลบ, แก้กระสับกระส่าย, ถ้าจะแก้อ่อนเพลียละลายน้ำรากถั่วภูต้ม แกลงละลายน้ำผลสมอไทยต้ม แก้ตาแข็งละลายน้ำมะนาวแซกสมองปลาช่อนทาหลังตา
ยาชื่อทิพสว่างอารมณ์ ท่านให้เอา เมล็ดถั่วภู ๑ ผลบัวเกราะ ๑ รากถั่วภู ๑ รากบัวหลวง ๑ หัวบัวขม ๑ หัวบัวเผื่อน ๑ หัวบัวผัน ๑ แห้วสด ๑ กระจับสด ๑ รากหญ้านาง ๑ กฤษณา ๑ กระลำภัก ๑ ชลูด ๑ ขอนดอก ๑ จันทน์ชะมด ๑ ชะเอมเทศ ๑ อบเชยทั้ง ๒ โกฐหัวบัว ๑ โกฐเชียง ๑ เปราะหอม ๑ เกสรบัวหลวง ๑ เกสรบัวเผื่อน ๑ เกสรบัวขม ๑ เกสรสัตบุษย์ ๑ เกสรสัตบงกช ๑ เกสรจงกลนี ๑ เกสรสาระภี ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกมะลิซ้อน ๑ ดอกมะลิลา ๑ กรุงเขมา ๑ ชะมด ๑ พิมเสน ๑ หญ้าฝรั่น ๑ อำพันทอง ๑ รวมยา ๓๗ สิ่งนี้ เอาเสมอภาคทำเปนจุณบดทำแท่ง ละลายน้ำดอกไม้กิน แก้เชื่อมมึนแก้อิดโรยกำลัง แก้ได้สาระพัดทรางทั้งปวงทุกประการ แก้ทรางจับหัวใจแลในอก ให้นอนแน่นิ่งลืมตามิขึ้นก็ดี กินยานี้หาย
ยาชื่อมหาไชยมงคลแก้หอบ (บางฉบับเรียก “มหาใจภัก”) ท่านให้เอา กฤษณา ๑ จันทน์ชมด ๑ เปลือกสันพร้านางแอ ๑ หญ้าพันงูแดง ๑ กำมถันแดง ๑ มูลแมลงสาบ ๑ ผลผักชี ๑ นอแรด ๑ งาช้าง ๑ เขากวาง ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งละลายน้ำมะนาวกินแก้หอบทราง ถ้าจะแก้ไข้เหนือละลายน้ำใบทับทิมต้ม
ยาชื่อสุขุมแท่งหอมแก้หอบขนานนี้ ท่านให้เอา กระดูกงูเหลือม ๑ กระดูกงูทับทา ๑ กระดูกงูเห่า ๑ หางปลาช่อน ๑ กฤษณา ๑ กระลำภัก ๑ สนเทศ ๑ อบเชย ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ จันทน์ทั้ง ๒ ชะลูด ๑ ขอนดอก ๑ ชะเอมเทศ ๑ รากหญ้านาง ๑ โกฐสอ ๑ โกฐพุงปลา ๑ เทียนดำ ๑ เทียนขาว ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกมะกรูด ๑ ดอกมะนาว ๑ ดอกชะลูด ๑ รวมยา ๒๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาค เอาโกฐหัวบัวเท่ายาทั้งหลายทำเปนจุณ เอาน้ำดอกไม้เปนกระสายบดทำแท่ง ละลายน้ำดอกไม้แซกพิมเสนชมดกิน
ยาต้มแก้ตานโจรขนานนี้ ท่านให้เอาใบทับทิม ๑ ใบเทียน ๑ บระเพ็ด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ใบคนทีสอ ๑ รากอ้ายเหนียว ๑ เปลือกไข่เน่า ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาค เอามะกรูด ๑ ผล ฝักส้มป่อย ๗ ฝัก ต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้ตานโจร เพื่อทรางน้ำ
ยาต้มแก้ตานโจรขนานนี้ ท่านให้เอา รากกระจับ ๑ รากสะแก ๑ รากมะเกลือ ๑ รากเล็บมือนาง ๑ เปลือกฝิ่นต้น ๑ ใบชุมเห็ดเทศ ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้ปวดมวน, แก้กระหายน้ำ,
ยาต้มแก้ตกโลหิตเพื่อตานโจร ขนานนี้ ท่านให้เอา รากซองแมว ๑ รากต่อไส้ ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ศีศะ รวมยา ๓ สิ่งนี้ท่านให้พลีเอาทุกสิ่ง ต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้ไส้พองท้องใหญ่เพื่อตานโจร, อันชื่อว่าอุทรธาตุนั้นหาย,
อันว่าลักษณะพยาธิชื่อว่าพะละพะหะนั้น เกิดเพื่อทรางแดง คือกุมารเกิดวันอังคาร เมื่อสิ้นกำหนดทรางแดงเจ้าเรือน แล้วจึ่งตั้งขึ้นที่ในลำไส้ตอนข้างใต้สดือ ข้างซ้ายนั้นโตเท่าผลมะขามป้อม จึ่งกระทำให้เจ็บท้องขบเสียด เพราะว่าตั้งเปนเสมอขึ้นด้วยกำเนิดแห่งทรางแดงนั้น กินขั้วตับ อันมีแจ้งอยู่ในพระคัมภีร์ประฐมจินดาผูก ๓ บริเฉท ๓ ซึ่งลงไว้ในแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์เล่มนี้น่า ๑๘๑ แล้ว ในที่นี้ว่าแต่เพื่อตานโจร ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้ ในเมื่อตั้งขึ้นได้แล้วก็กระทำให้ตัวร้อน แลให้จับเปนเวลา สมมุติว่าเปนป้างแลม้ามย้อยนั้นหามิได้ คือโรคตานโจรนั้นหากจะเปนเอง มีตัวดังหนึ่งเอือนปลา จึงตั้งเปนดานเข้าแล้วก็กำเริบขึ้น มีเมือกหรือเสมหะหุ้มห่ออยู่ เมื่อแก่เข้าได้ ๓ เดือนจึงกระทำให้ลงดังน้ำล้างเนื้อ แลให้ตกมูกตกเลือด ปวดมวนเปนกำลัง แล้วให้เบ่งจนดากออกแลผอมเหลือง อยากเผ็ด, เค็ม, แลสดคาว แล้วให้พรึงขึ้นตามตัว สมมุติว่าประดงนั้นหามิได้เลย คือโจรทรางแดงนั้นเอง แลแม่ทรางที่อยู่ต้นลิ้นนั้นก็ตั้งเปนเม็ดกำเริบขึ้น กระทำให้ตัดอาหาร บางทีให้ลิ้นกระด้างคางแข็ง อันแม่ทรางแดงที่อยู่ในหูเบื้องซ้ายนั้น ก็กระทำให้เจ็บหูแล้วจึ่งเปนน้ำหนวก แม่ทรางอีกจำพวกหนึ่งขึ้นตาทั้งสองข้างซ้ายขวา ให้กำเรีบขึ้นเปนดังเกล็ดกระดี่ก่อน ถ้าวางยามิฟังครั้นแก่เข้าก็เปนต้อก้นหอย ครั้นอยู่ได้ประมาณ ๗ วันก็ให้ตาแตก ถ้าเปนทั้งสองข้างก็แตกทั้งสองข้าง แล้วจึงแม่ทรางจำพวกหนึ่ง ขึ้นอยู่ที่น่าแข้งทั้งสองข้าง เปนดังหนึ่งหนังกระเบนอันคมมีรากดุจสิวเสี้ยน เมื่อแพทย์จะรักษา ถ้าแก้ตากับน่าแข้งหายไปได้แล้วเมื่อใด กุมารนั้นจึงจะรอดชีวิตร ครั้นเมื่อคลายไปได้ ๗, ๘, ๙, เดือน จึงเกิดพยาธิอันหนึ่งชื่อว่าพรมกิจ เกิดแต่ลำไส้มีสันถานดังตัวไรปากดำ มักให้กุมารนั้นกินอาหารมิรู้อิ่ม อุจาระมากแลขาว, เหม็น, ให้ตาฟางมักอยากกุ้งปลาแลของสดคาวต่างๆ ที่เปนดังนี้ก็เกิดเพราะทรางแดง ซึ่งแพทย์จะรักษายากนัก เปนไปต่างๆ ดุจกล่าวมานี้ ถ้าแลแพทย์แก้ถูกกับโรคนั้นจึ่งจะหลุดไปได้ ถ้ามิหลุดไปตกอยู่ที่ใดที่หนึ่งก็ดี เมื่ออายุกุมารนั้นได้กึ่งตัวกระทำทีหนึ่ง เมื่ออายุค่อนตัวกระทำทีหนึ่ง คือริดสิดวงแห้งนั้นกระทำโทษต่อไป ถ้าแพทย์ผู้ใดจะแก้ทรางหมู่นี้ อย่าวางยาผายเลยเปนอันขาดทีเดียว แล้วห้ามมิให้ป้อนเข้าให้อิ่มเต็มที่นัก โรคนั้นจะแปรปรวนไป ทำยากเมื่อปลายมือ ถ้าจะแก้ให้แต่งยาชำระลำไส้เสียก่อน แต่ห้ามไม่ให้ใช้ยาเข้าสลอด ให้แพทย์รักษาดุจไข้สันนิบาต ด้วยเหตุว่าทรางจำพวกนี้ เกิดเพื่อโลหิตกำเดาเปนต้น มาแต่ครรภรักษาแรกกุมารเอาปฏิสนธิ คือมารดาให้เจ็บอย่างไรก็ดี กำเดาสิ้นทั้งนั้น ดังมีแจ้งอยู่ในพระคัมภีร์ปฐมจินดาผูก ๑ ว่าด้วยครรภรักษานั้นแล้ว
ยาต้มชำระลำไส้ตานโจน ขนานนี้ ท่านให้เอา ตรีผลาสิ่งละ ๓ ผล ใบมะขาม ๑ ใบส้มป่อย ๑ รากขี้กาทั้ง ๒ หอม ๑ รากตองแตก ๑ รวมยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาค เอาฝักราชพฤกษ์เท่ายาทั้งหลาย ต้ม ๓ เอา ๑ แซกดีเกลือตามธาตุหนักธาตุเบา กินเปนยาล้างลำไส้เสียก่อน แล้วจึงต้มแก้จับให้กินต่อไป
ยาต้มแก้จับตานโจร ขนานนี้ท่านให้เอา แก่นขี้เหล็ก ๑ แก่นสะเดา ๑ แก่นสน ๑ จันทน์ทั้ง ๒ รากหญ้านาง ๑ ผลมะขามป้อม ๑ ผลกระดอม ๑ บระเพ็ด ๑ แห้วหมู ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาค เอาน้ำฝักราชพฤกษ์เปนกระสาย ต้ม ๓ เอา ๑ กินตามกำลัง แก้ตานโจรเปนเพื่อกำเดาเสมหะกระทำให้จับ
ยาชื่อจันทรรัศมี ขนานนี้ท่านให้เอา กุ่มทั้ง ๒ ใบมะยมตัวผู้ ๑ ใบผักขวง ๑ ใบพุดทรา ๑ ใบผักบุ้งขัน ๑ ใบขี้กาแดง ๑ ใบประคำไก่ ๑ ใบมะกรูด ๑ ใบมะนาว ๑ ใบมะงั่ว ๑ ใบส้มซ่า ๑ ข่า ๑ กะชาย ๑ กะทือ ๑ ไพล ๑ หอม ๑ กะเทียม ๑ ตรีกะฎุก ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เมล็ดพรรผักกาด ๑ จันทน์ทั้ง ๒ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ รวมยา ๒๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาค เอาพริกไทยเท่ายาทั้งหลายทำเปนจุณบดทำแท่ง ให้กินตามกำลังกุมารแซกดีงูเหลือม แก้ดานเสมหะ, แก้จับเปนเวลา, แก้ตัวพยาธิอันเกิดขึ้นในอุทร เปนยาล้อมตับดับพิศม์ทราง ถ้าเจ็บฟกบวมแห่งใดให้ละลายน้ำสุราทา ถ้าจะแก้จับสท้านแลแก้คลั่งละลายน้ำดอกไม้กิน ถ้าจะแก้ลมบ้าหมูละลายสุรากิน แก้หอบละลายน้ำส้มซ่าก็ได้ น้ำดอกไม้ก็ได้ น้ำขันทศกรก็ได้ แก้ตาลทรางตกมูกเลือดละลายสุรากิน แก้ป่วงละลายน้ำขิงกิน แก้ลมละลายน้ำข่ากิน แก้สันนิบาตละลายน้ำส้มซ่ากิน แก้หืดแก้ไอละลายน้ำฝักส้มป่อยกิน แก้เจ็บหูละลายน้ำทะลายหมากดิบ หยอดบ้างทาบ้าง แก้นอนไม่หลับละลายสุรากิน
ยารุพยาธิในท้อง ขนานนี้ท่านให้เอา ขมิ้นอ้อย ๑ ผลในสะแก ๑ ผลมะกล่ำตาช้าง ๑ ผลมะเกลือ ๑ ผลผลาญสัตรู ๑ น้ำประสานทอง ๑ ลิ้นทะเล ๑ สมอทั้ง ๓ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน ใบแมงลัก ๑ ใบกะเพรา ๑ ใบสลอด ๑ รากสลอดกินลง ๑ การะบูร ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน เอาโกฐน้ำเต้า ๘ ส่วน รวมยา ๑๖ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาสุราเปนกระสายบดทำเม็ดเท่าเมล็ดพริกไทย ถ้ากุมารอ่อนนักกินมื้อละ ๑ เม็ด ถ้ากุมารอายุได้ ๔ เดือน ๕ เดือนกิน ๒ เม็ด อายุ ๓ ขวบ กิน ๓ เม็ด ละลายด้วยน้ำสุรา แก้พยาธิดังกล่าวมาในทรางแดงนั้นตกสิ้น ถ้าจะรุไส้เดือนก็ได้ ตกดุจกัน
ยาแก้หละขึ้นที่ฅอ, ที่ลิ้น, ขนานนี้ ท่านให้เอาน้ำประสานทอง ๑ หางปลาช่อนเผา ๑ ฝาหอยโข่งเผา ๑ งาช้าง ๑ มูลลูกอ่อน ๑ ใบกะเพรา ๑ เขม่าไฟ ๑ ก้นหม้อแกง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่งละลายน้ำมะนาวทาลิ้น
ยาแก้ทรางยอดเอกขึ้นต้นลิ้น ขนานนี้ ท่านให้เอาจุณสีสตุ ๑ ส่วน น้ำประสานทองสตุ ๒ ส่วน เกลือขั้ว ๓ ส่วน ดีปลีเผา ๕ ส่วน รวมยา ๔ สิ่งนี้ทำเปนจุณบดทำแท่ง ละลายน้ำมะนาวแซกดีจรเข้กวาดทรางแดงปถมกัลป์ อันกลายเปนพยุยหะนั้นหาย
ยาแก้ต้อเกล็ดหอยขนานนี้ ท่านให้เอาเบ็ญจผักบุ้งไทย ๑ ศีศะกะชาย ๑ ดอกตำลึง ๑ ดอกแตงกวา ๑ ดอกมะขาม ๑ ศีศะหญ้าชันกาด ๑ เกล็ดปลาหมอขั้ว ๑ รวมยา ๑๑ สิ่งนี้เอาเสมอภาค บดรำหัดพิมเสนทำแท่ง ฝนด้วยน้ำแตงกวาใส่ตาต้อเกล็ดหอย แลต้อทั้งปวงแก้ปวด, แก้เคือง, ทั้งเจริญสีตาด้วย
ยาแก้ต้อสายโลหิตขนานนี้ท่านให้เอา บระเพ็ด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รากบานมิรู้โรยขาว ๑ รากหญ้างวงช้าง ๑ คุลีการ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาค แช่น้ำดอกไม้แซกดีจรเข้ หยอดตาแก้ต้อสายโลหิตแดงดาษไปทั้งนั้นก็ดี ดังสีควันเทียนก็ดีหายสิ้น
ยานัดถุ์ชื่อสาวกัลยาณีขนานนี้ท่านให้เอา ชมด ๑ พิมเสน ๑ โกฐหัวบัว ๑ กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ ลิ้นทะเล ๑ แก้วแกลบ ๑ สังข์ ๑ รากส้มกุ้ง ๑ ตุกต่ำน้ำทอง ๑ รวมยา ๑๐ นี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณนัดถุ์กุมาร แก้ลมจับปวดศีศะตาแดงตาฟางแล้วสุมยาต่อไป
ยาสุมขนานนี้ท่านให้เอา ดอกมะลิ ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกกะดังงา ๑ ใบพุดทรา ๑ ใบผักเป็ด ๑ รากเข้าสาร ๑ รากสลิด ๑ รากอัญชัน ๑ รากมูลกาทั้ง ๒ หัวหอม ๑ ดินประสิวขาว ๑ รวมยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาค บดสุมกระหม่อมแต่เช้าจนเที่ยงจึ่งเอาออกเสีย แล้วจึงทำยาพอกศีศะแม่เท้าต่อไป
ยาพอกศีศะแม่เท้าขนานนี้ท่านให้เอา หญ้าเกล็ดหอยใหญ่ ๑ ใบบัวบก (ผักหนอก) ๑ สานหนู ๑ ของทั้ง ๓ นี้เอาพอพอกศีศะแม่เท้า เอาดินประสิวขาว ๒ ไพ ปรอท ๑ สลึง บดพอกศีศะแม่เท้าทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ แก้ต้อขึ้นตา
ยาหยอดตาสำหรับกันขนานนี้ท่านให้เอา นอแรด ๑ น้ำนมเสือ ๑ ผลสมอเทศ ๑ รากตำลึงตัวผู้ ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคบดทำแท่ง ฝนด้วยน้ำค้างหยอดแก้สาระพัดตานทรางทั้งปวงขึ้นตา แล้วจึ่งแต่งยาชื่อว่าสรรพคุณลิกานั้น สำหรับแก้ตานโจรพวกนี้ต่อไป
ยาชื่อสรรพคุณลิกา เอาขิงแห้ง ๑ บดในวันอาทิตย์ตากให้แห้ง แห้วหมู ๑ บดในวันจันทน์ตากให้แห้ง ผลพลังกาสา ๑ บดในวันอังคารตากให้แห้ง ขมิ้นอ้อย ๑ บดในวันพุฒตากให้แห้ง พริกไทย ๑ บดในวันพฤหัศบดีตากให้แห้ง ดีปลี ๑ บดในวันศุกร์ตากให้แห้ง ใบสะเดา ๑ บดในวันเสาร์ตากให้แห้ง รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคแช่มูตร์โคดำไว้ เมื่อถึงเพ็ญวันจันทร์จึงเอายานี้ไปบดในพระอุโบสถ แล้วให้บูชาด้วยธูปเทียนดอกไม้แลบายศรีสำรับหนึ่งจึงประสิทธิ แลผู้ที่จะบดนั้นต้องสมาทานรักษาศีล ๕ ศีล ๘ ประการด้วย เมื่อเข้าพิธีบดยานั้น ให้บริกรรมด้วยพระคาถานี้ไปกว่าจะแล้ว “สรรพโรควินิมุตโต สรรพเวระมติกกันโต นิพพุโตจตุวํพวะ สัพพีติโยวิวัชชันตุ สรรพโรโควินัสสตุ มาเตภวัตวันตราโย สุขีทีฆายุโกภวะ ฯ ล ฯ” ครั้นบดแล้วเมื่อกำลังทำแท่งนั้น ให้เศกด้วยสัพพาสี ฯ พระอิติปิโส ฯ สิ่งละ ๑๐๘ คาบ แล้วจึ่งใช้เถิดประสิทธิทุกประการ ถ้าจะแก้ตานโจรตกมูกเลือดปวดมวนแลดากออกก็ดี ละลายน้ำเปลือกแคต้ม แก้น่าแข้งเปนเกล็ดกะดี่แลเปนหนามดังหนังกระเบน ละลายน้ำปูนใสกิน ถ้าถอนรากออกมาได้ดังสิวเสี้ยนจึงหายขาด แก้ผอมแห้งละลายน้ำผลสมอไทยต้มกินประจำท้องทุกวัน ถ้าเจ็บฟกบวมละลายน้ำปูนใสทา ถ้าแก้เส้นเคล็ดแคลงช้ำ แลกระดูกแตกหักในที่ใดๆ ก็ดี ละลายน้ำมันงาทา ถ้าแก้ท้องขึ้นละลายน้ำมะกรูดกิน
ยาแก้ต้อต่าง ๆ ท่านให้เอา ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกสาระภี ๑ ดอกพุทธรักษา ๑ เกสรบัวหลวง ๑ โกฐทั้ง ๕ เปลือกพุดทรา ๑ สหัศคุณเทศ ๑ สมุลแว้ง ๑ แก่นสน ๑ สักขี ๑ จันทน์ทั้ง ๒ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน เอายาสรรพคุณลิกา ๒๐ ส่วนทำเปนจุณเอาน้ำดอกไม้เปนกระสายบดทำแท่ง แก้นอนมิหลับละลายน้ำเย็นทาหลังตา ๓ วันจะนอนหลับ, แก้ต้อตานโจรละลายน้ำตำลึงหยอดตา, แก้ถูกโหรายาพิศม์แลสารหนู ละลายน้ำเปรียงพโคกิน, แก้น้ำตาตกละลายน้ำค้างทาหลังตา, แก้ปวดฟันรัมมะนาดละลายน้ำมะนาวพาบ้างอมบ้าง, ถ้าจะบำรุงกำลังละลายน้ำนมโคก็ได้ น้ำนมคนก็ได้กินมีกำลัง, แก้ตานโจรซึ่งแปรไปเปนประเภทต่างๆ ดังกล่าวมาแต่หลังนั้นหายสิ้นทุกประการ
ยากวาดแก้ทรางแดงขนานนี้ท่านให้เอา สังข์ ๑ ชาตทั้ง ๓ บัลลังก์สิลา ๑ มูลแมลงสาบขั้ว ๑ กรามแรด ๑ กรามช้าง ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวจรเข้ ๑ เขาฟาน ๑ หญ้าใต้ใบ ๑ เกสรบัวหลวง ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๑๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่งละลายน้ำทลายหมากดิบทาปาก แก้ทรางแดงอันเหน้าเปื่อย
อนึ่งถ้าทรางขึ้นในรูหูนั้น ให้เหน้าเปื่อยแลเหม็นก็ดี เปนน้ำเหลืองก็ดี ท่านว่ามีตัวดังมะเร็งไรกินอยู่ในหูนั้น ถ้าแพทย์จะแก้ให้หุงน้ำมันนี้ใส่จึงหาย
น้ำมันใส่หูขนานนี้ท่านให้เอา น้ำใบเลี่ยน ๑ จอก น้ำใบผักบุ้งขัน ๑ จอก น้ำขมิ้นอ้อย ๑ จอก น้ำมันมะพร้าว ๑ จอก น้ำเปลือกมะขามขบ ๑ จอก ดินปลักควายแช่เอาน้ำ ๑ จอก น้ำผลลำโพง ๑ จอก น้ำมันงา ๑ จอก ยา ๘ สิ่งนี้หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วจึงเอาผลเบ็ญจกานี ๑ สีเสียดทั้ง ๒ ฝิ่น ๑ ศิลายอน ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ ปรุงลงในน้ำมันให้เข้ากัน ใส่หูแก้ฝีในหูแลตานทราง แลต้อขึ้นตาก็ได้
น้ำมันทาหูขนานนี้ท่านให้เอา น้ำสมอฝ้ายเทศอ่อน ๑ จอก น้ำใบฝ้ายเทศอ่อน ๑ จอก น้ำใบมูลกาแดงอ่อน ๑ จอก น้ำใบชิงช้าชาลี ๑ จอก น้ำใบบระเพ็ด ๑ จอก น้ำมันงา ๑ จอก รวมยา ๖ สิ่งนี้หุงให้คงแต่น้ำมันใส่หูเหน้า, หูเปื่อย
อนึ่งถ้าแลกุมารเกิดทรางในหู แล้วกลายเปนฝีมีแม่, มีตัวแลเปนฝีมะเร็งเรื้อรังมาหลายปีหลายเดือนแล้วก็ดี ถ้าจะแก้ท่านให้หุงน้ำมันนี้ใส่
น้ำมันใส่หู เอาน้ำเปลือกประดู่ ๑ ทนาน น้ำเปลือกสเดา ๑ ทนาน น้ำเปลือกมะม่วงคน ๑ ทนาน น้ำเปลือกหว้า ๑ ทนาน น้ำผักบุ้งขัน ๑ ทนาน น้ำผลลำโพง ๑ ทนาน น้ำเปลือกเลี่ยน ๑ ทนาน น้ำเปลือกตาเสือ ๑ ทนาน น้ำมันงา ๑ ทนาน รวมยา ๙ สิ่งนี้หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วเอาดีนกยูง ๑ ดีหมี ๑ สารหนู ๑ สิ่งละ ๔ ส่วน รากระย่อม ๘ ส่วน เมล็ดกะเบาขั้ว ๑ เมล็ดลำโพง ๑ สีเสียด ๑ ยางตะเคียน ๑ ยา ๘ สิ่งนี้ทำเปนจุณ แล้วปรุงลงในน้ำมันใส่หูเหน้า, หูเปื่อย
น้ำมันใส่หูขนานหนึ่ง เอาน้ำผลลำโพง ๑ ถ้วย น้ำเมล็ดในมะนาว ๑ ถ้วย น้ำผลประคำดีควาย ๑ ถ้วย น้ำยาฝิ่น ๑ ถ้วย น้ำเห็ดมูลโค ๑ ถ้วย น้ำเนระภูสี ๑ ถ้วย น้ำดีงูเหลือม ๑ ถ้วย น้ำมันงา ๑ ถ้วย รวมยา ๘ สิ่งนี้หุงให้คงแต่น้ำมัน ใส่ฝีมีแม่, มีตัวในหู ถ้าลามเปื่อยออกมาข้างนอกเอาน้ำมันนี้ทาหาย ถ้าเปนน้ำหนวกไหลออกมาเอากระดาดฟางม้วนเล็ก ๆ จุ้มน้ำมันแล้วยอนคาไว้ในหูสักครึ่งชั่วโมง
ยาแก้ตกมูกเลือดตานโจร เอาพิมเสน ๑ เทียนทั้ง ๕ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ จันทน์ทั้ง ๒ กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ ชะเอมเทศ ๑ อบเชยเทศ ๑ เปราะหอม ๑ การะบูร ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ดีปลี ๑ ลิ้นทะเล ๑ กันชา ๑ เมล็ดพรรผักกาด ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ดอกมะลิซ้อน ๑ ดอกมะลิลา ๑ ดอกพิกุล ๑ เอาสิ่งละ ๓ ส่วน ยาฝิ่น ๑ ส่วน รวมยา ๒๙ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาดีงูเหลือมละลายน้ำเปนกระสายบดทำแท่ง ละลายน้ำดอกไม้กิน แก้ตานโจรกระทำให้ลงท้อง, ตกมูก, ตกเลือด, ปวดมวน
ยาต้มชื่อมหาสงเคราะห์ เอาเถาหญ้านางทั้งต้นทั้งราก ๑ ทับทิมทั้งต้นทั้งราก ๑ มะเกลือทั้งต้นทั้งราก ๑ สะแกทั้งใบทั้งราก ๑ พุงดอทั้งใบทั้งราก ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ พริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ ดีปลี ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ น้ำประสานทอง ๑ ฝักราชพฤกษ์ ๑ บระเพ็ดรอบศีศะคนไข้ เถาชิงช้าชาลีรอบศีศะคนไข้ มูลกาทั้ง ๒ รวมยา ๑๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้มด้วยเหล้าครึ่งน้ำครึ่ง ใช้ไฟแกลบ กินแก้ตกมูก, ตกโลหิตเพื่อตานโจร
ยาต้มตัดรากตานโจร เอาโกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ สังกระณี ๑ เนระภูสี ๑ จันทน์ทั้ง ๒ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ กัมถันแดง ๑ ยาดำ ๑ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน ตาลทั้ง ๕ รากเจ็ตพังคี ๑ รากกะเพรา ๑ รากไข่เหน้า ๑ รากมะเกลือ ๑ รากพยามูลเหล็ก ๑ รากพุงดอ ๑ รากมะแว้งทั้ง ๒ รากมะเขือทั้ง ๒ รากทับทิม ๑ รากเล็บมือนาง ๑ รากสะแก ๑ รากกะพังโหม ๑ รากชาพลู ๑ รากสลอดน้ำ ๑ รากเจ็ตมูลเพลิง ๑ รากมะกล่ำทั้ง ๒ รากก้างปลาแดง ๑ รากต่อไส้ ๑ รากกรด ๑ รากผักคราด ๑ รากคนทีสอ ๑ บระเพ็ด ๑ เถาชิงช้าชาลี ๑ แห้วหมู ๑ เถาสะค้าน ๑ ข่า ๑ ไพล ๑ ฝักส้มป่อย ๑ หญ้าใต้ใบ ๑ กระทืบยอด ๑ ขอบชะนางทั้ง ๒ เอาสิ่งละ ๔ ส่วน ผลมูลกาแดง ๓ ผล ผลมูลกาขาว ๓ ผล ขมิ้นอ้อย ๓ หัว ผลมะกรูด ๓ ผล รวมยา ๖๘ สิ่งนี้ต้มด้วยเหล้าครึ่งน้ำครึ่ง กินแก้ตกมูกตกโลหิต เปนยาล้างท้องตานโจร แลตานทรางทั้งปวง
ยาชื่อทองแนบเนื้อ (ใหญ่) เอาเนื้อผลยอสุกเอาแต่เนื้อ ๑ เนื้อผลสมอเทศ ๑ ดินถนำ ๑ เทียนเยาวภานี ๑ โกฐสอ ๑ รากไคร้เครือ ๑ กำลังวัวเถลิง ๑ การะบูร ๑ ชะเอมเทศ ๑ น้ำประสานทอง ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๑๑ สิ่งนื้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่งละลายน้ำผลสมอไทยต้ม กินเจริญมังษะแลเจริญอาหารด้วย
ยาชื่อทองเนื้องาม เอาเทียนทั้ง ๕ สิ่งละ ๑ ส่วน ไพล ๑ การะบูน ๑ สิ่งละ ๒ ส่วน เนื้อสมอไทย ๑ เนื้อสมอพิเภก ๑ ยาดำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ ผิวมะกรูด ๑ ว่านน้ำ ๑ สิ่งละ ๔ ส่วน ใบสมอทะเลเท่ายาทั้งหลาย รวมยา ๑๖ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาสุราเปนกระสาย บดทำแท่งละลายน้ำมะกรูดก็ได้ น้ำมะนาวก็ได้ กินเจริญมังษะเจริญอาหาร ถ้าจะให้ผายละลายน้ำส้มมะขามเปียกแซกดีเกลือ, ดีงูเหลือม,
อันว่าลักษณะพยาธิอันชื่อว่าอมุลธาตุนั้น บังเกิดเพื่อทราง ตั้งขึ้นในลำไส้ใต้สดือเท่าเมล็ดเข้าโภชน์ ตั้งอยู่กำหนด ๙ วัน ๑๐ วันก็แตกออก ทำให้ลงท้องเปนน้ำคาวปลาออกมาจะนับเวลามิได้ แล้วให้ตกโลหิตออกมาเปนก้อน ๓ วันบ้าง ๔ วันบ้าง ภายหลังจึงเปนโลหิตเสมหะเหน้าระคนกันออกมา ให้มีอาการกระหายน้ำ, เชื่อมซึม, ตัวร้อน, เบื่ออาหารซูบผอม ถ้าแพทย์จะแก้ ให้แก้ทางบิดปวดมวนเปนเสมหะโลหิตเสียก่อน ถ้ายังมิหาย จึงต้มยาชำระให้กินต่อไป
ยาชำระโทษตานโจร เอากะเพราทั้ง ๕ กะพังโหมทั้ง ๕ ผลขี้กา ๒ ผล กับ ๑ เสี้ยว มะกรูด ๒ ผล กับ ๑ เสี้ยว บระเพ็ดยาวเท่าฝ่าเท้าคนไข้ ขมิ้นอ้อย ๗ ชิ้น ฝักส้มป่อย ๗ ฝัก สมอทั้ง ๓ สิ่งละ ๓ ผล ยาดำ ๑ บาท ฝักราชพฤกษ์ ๑ บาท รวมยา ๑๒ สิ่งนี้ต้ม ๓ เอา ๑ แซกดีเกลือกินตามกำลังธาตุ ชำระ โทษร้ายดังกล่าวมานั้นตกสิ้น แล้วจึงแต่งยาคุมให้กินต่อไป
ยาแก้มูกเลือดตานโจร ขนานนี้ ท่านให้เอา ใบเทียน ๑ ใบทับทิม ๑ ใบผักขวง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณบดทำแท่งไว้ ละลายน้ำเปลือกแคต้มกิน ถ้ามิฟังให้ต้มยาขนานนี้ เอาเมล็ดในมะม่วงกะล่อน ๓ เมล็ด จันทน์ทั้ง ๒ กฤษณา ๑ สักขี ๑ ผลจันทน์ ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ เปลือกปะโลง ๑ เปลือกฝิ่นทั้ง ๒ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาชื่อมหาอุด ขนานนี้เอา ครั่ง ๑ ผลจันทน์ ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ สีเสียดเทศ ๑ ยางตะเคียน ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ แล้วยัดเข้าในผลทับทิมอ่อน เอามูลโคพอกสุมไฟแกลบให้สุกดี จึงเอามาบดทั้งผลทับทิม ทำแท่งไว้ละลายน้ำปูนใสกิน ๕ เม็ด แล้วท่านให้แซกด้วยยาชื่อตรีผลาหอม ให้แซกหัวหอมรำหัดพิมเสนกิน แล้วจึงแก้ด้วยยาชื่อว่าเบ็ญจตาล ตามซึ่งกล่าวข้างต้นนั้นแล้ว อุปเทห์ยาเบ็ญจตาลนี้ ถ้าจะแก้ในเรื่องตานโจร แก้เชื่อมให้เอาใบขัดมอน น้ำผลจันทน์ น้ำผลเสนียดต้ม แซกพิมเสนกินแก้ตกมูกตกโลหิต
ยาชื่อทองพันชั่งขนานนี้ เอารากตาลทั้ง ๕ รากมะแว้งทั้ง ๒ รากจิงจ้อ ๑ รากมะเกลือ ๑ รากมะเขือขื่น ๑ รากเล็บมือนาง ๑ ข่า ๑ ขิง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ตรีผลา ๓ ผลมูลกาทั้ง ๒ ผลโหระพา ๑ เทียนเยาวภานี ๑ แห้วหมู ๑ บระเพ็ด ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท ยาดำ ๓ บาท รวมยา ๒๔ สิ่งนี้ ต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้ตานทรางแลตานโจร เปนยาล้างท้องแลแก้ตกมูกตกเลือด แก้ทรางทั้ง ๗ จำพวก ตั้งแต่กุมารอายุได้ ๓ เดือนนั้นไปจนถึง ๑๒ ขวบเปนพ้นกำหนด ครั้นกินยาชำระล้างท้องแล้ว จึ่งเอายาชื่อทองเนื้องามละลายน้ำส้มซ่าให้กินประจำท้องต่อไป ทั้งชูรศอาหารแลปลูกผิวเนื้อหนังให้บริบูรณ์ด้วย
อันว่าลักษณมุสกายธาตุนั้น บังเกิดเพื่อทรางโคแลทรางอันนี้เมื่อแรกจะเกิดขึ้นนั้น ให้พรึงขึ้นทั่วทั้งตัวดังยอดหัดกระทำให้คัน แต่ยอดนั้นขาวหาน้ำมิได้ อยู่ได้ประมาณ ๘ วัน ๙ วัน ก็จมเข้าไปกระทำท้องให้ลงดังน้ำล้างเนื้อ มักให้อยากของสดของคาว เมื่อแก่ไปถึง ๒ เดือน ๓ เดือนก็ทำให้เชื่อมให้ตาแดง แลทรางยอดเอกได้ขึ้นข้างลิ้นเม็ด ๑ โตเท่าเมล็ดเดือยแข็งดังตาปลา ถ้าแพทย์กวาดด้วยยาเม็ดนั้นมิจม โรคนั้นก็ไม่ถอย อยู่ประมาณได้ ๖ เดือน ให้นับแต่แรกวันล้มเจ็บมา อันว่าทรางที่ผุดออกมาจากตัวแล้วแลจมเข้าไปอยู่นั้นก็กลับผุดออกมา เปนเม็ดแดงๆ ดุจไข้ระบุชาติแล้วกระทำให้จับเปนเวลา ให้ตัวร้อน แต่มือท้าวเย็นเสมอไปหาเปนเวลาไม่ ให้ระหายน้ำให้หอบให้ลิ้นกระด้างคางแข็ง ถ้ากุมารกุมารีผู้ใดเปนดังกล่าวมานี้ ท่านว่ากุมารกุมารีผู้นั้นตกอยู่ในเงื้อมมือแห่งพระยามัจจุราช ถ้าแพทย์ผู้ใดจะแก้ให้แก้แต่ยังอ่อนอยู่ คือเมื่อตัวกำลังพรึงขึ้นครั้งก่อนนั้น ท่านให้เอายาอันชื่อว่าพระสุริยจันทนังนั้นมาชะโลมก่อน แล้วจึงแก้ด้วยยาทั้งปวงต่อไป
ยาแก้คันขนานนี้ เอาใบพร้ามอญ ๑ ใบพุดซ้อน ๑ ใบชิงช้าชาลี ๑ ใบบระเพ็ด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ใบกระบือเจ็ดตัว ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาคบดแซกการะบูนแต่น้อย ทำแท่งไว้ละลายน้ำท่าทาตัวแก้คันหาย
ยาแดงแก้ลงขนานนี้ เอาจันทน์ทั้ง ๒ สน ๑ สัก ๑ กรักขี ๑ สังกระณี ๑ เนระภูสี ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ฤๅษีประสมแล้ว ๑ ใบระงับ ๑ ใบผักขวง ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ ผลเบ็ญจกานี ๑ สีเสียดทั้ง ๒ รวมยา ๑๗ สิ่งนี้ เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาสุราเปนกระสายบดทำแท่งไว้ละลายน้ำเปลือกแคแดงกินแก้ลง ถ้ามิหยุดให้เอายาประสระแดงใหญ่นั้นมาแก้ต่อไป
ยากวาดแก้ตัวร้อนขนานนี้ เอาผวมะกรูด ๑ ตรีกะฏุก กะเทียม ๑ ผลมะแว้งเครือ ๑ ไพล ๘ สุพรรณถันแดง ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำประสานทองเท่ายาทั้งหลายบดทำแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวกวาด ถ้ามิฟังให้แซกจุณสีสตุ ๑ กล่ำ เอากะปิดีเผาใหโชน ๒ กล่ำ เอายานั้น ๑ เม็ด ละลายน้ำสลอดน้ำกวาดตกดีนัก
ยากวาดแก้ไอแก้รากขนานนี้ เอาแววนกยูงเผา ๑ เปลือกแมลงดาเผา ๑ หางปลาช่อนเผา ๑ น้ำประสานทองสะตุ ๑ กะเทียม ๑ หัวหอม ๑ ไคร้หอม ๑ ดอกผักคราด ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวกวาดแก้ไอ ถ้าจะแก้รากละลายน้ำผลยอต้มกวาด ถ้าแลด้านอยู่กวาดด้วยยาอันใดๆ มิฟัง ท่านให้เสี้ยมไม้ฝางแทงเสีย ถ้าแทงไม่ถนัดท่านให้แกะเอาด้วยเล็บให้แตกแล้วจึงเอายาชื่อสรรพคุณลิกาละลายน้ำขมิ้นอ้อยกวาดเสียวันหนึ่งให้ได้ ๓ เวลา ๔ เวลา แล้วจึ่งแต่งยาสมานกวาดสมานต่อไป
ยาชื่อไพจิตรมหาวงษ์เปนยาสมานขนานนี้ เอารากมะขามป้อม ๑ รากมะกล่ำทั้ง ๒ จันทน์ทั้ง ๒ น้ำประสานทองสตุ ๑ ผลเบ็ญจะกานี ๑ สีเสียดเทศ ๑ เขากุย ๑ เขากวาง ๑ งาช้าง ๑ นอแรด ๑ รวมยา ๑๒ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่งไว้ละลายน้ำท่าแซกพิมเสน, ฝิ่น, น้ำผึ้ง, เกลือสินเธาว์ทาปากแก้ลิ้นกระด้างคางแข็งแก้โลหิตออกทางปาก
ยาชื่อแสงกระบิลพัสดุ์ขนานนี้ เอาสรรพดีทั้ง ๘ เทียนทั้ง ๕ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน โกฐทั้ง ๕ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน ภลราชดัด ๑ ผลสาระพัดพิศม์ ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ สังกระณี ๑ เนระภูสี ๑ กระเช้าทั้ง ๒ อัคนีชวา ๑ สุรามฤตย์ ๑ ซะเอมทั้ง ๒ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ หญ้ารากขาว ๑ หญ้ารากดำ ๑ รากไคร้เครือ ๑ รากเข็มแดง ๑ รากแตงหนู ๑ ใบระงับ ๑ ใบสวาด ๑ ใบสะเดา ๑ ใบกะเพรา ๑ ใบประคำดีควาย ๑ เอาสิ่งละ ๔ ส่วน รวมยา ๖๒ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำเปลือกมะรุมต้มเปนกระสาย บดทำแท่งไว้ละลายน้ำสุรากินแก้คลั่งเพ้อแก้สลบ ถ้าจะกวาดทราง ละลายน้ำมะนาวแซกน้ำประสานทองสารส้มกวาด ถ้าจะแก้คลั่งให้เอากระดูกแร้งเผา ๑ หนังแรดเผา ๑ แซกลงกับยาบดให้กิน ถ้าจะแก้พิศม์ฝีพิศม์งูละลายน้ำสุรากิน ถ้าจะแก้พิศม์ทราง พิศม์ตานโจร พิศม์ไข้ ละลายน้ำดอกไม้แซกพิมเสน แก้สาระพัดพิศม์ทรางอันเกิดเพื่อมุสกายธาตุนั้นตกสิ้น
ยาชื่อประสะการะบูนเปนยาประจำท้องขนานนี้ เอาตรีกระฏุก ๒ ส่วน กานพลู ๕ ส่วน มหาหิงคุ์ ๖ ส่วน พริกไทยล่อน ๑ เจ็ตมูล ๑ การะบูน ๑ เอาสิ่งละ ๘ ส่วน ใบหนาด ๑ หัวดองดึง ๑ เอาสิ่งละ ๒๐ ส่วน รวมยา ๒๐ สิ่งนี้ ทำเปนจุณบดทำแท่งไว้ละลายน้ำมะกรูดก็ได้ น้ำส้มซ่าก็ได้กินแก้สาระพัดลมทราง ถ้าจะแซกไพล ๑ ว่านน้ำ ๑ ผิวมะกรูด ๑ กะเทียม ๑ ลงอีกสิ่งละ ๘ ส่วนดังนี้ ชื่อว่ายาวาโยนาศกินแก้ลมผู้ใหญ่ก็ได้
อันว่าลักษณพยาธิอันชื่อว่าสุจิมุกขกาลหิระนั้น บังเกิดเพื่อทรางช้างแลซึ่งแปรมาเปนทรางโจรนั้น แลพยาธิจำพวกนี้เกิดขึ้นเปนอุปปาติกะอยู่ในไส้อ่อนไส้แก่ เปนตัวดังงูเล็ก ตัวนั้นขาวประมาณเท่าไม้ม้วน สมมุติเรียกว่าไส้เดือน มีจิตรวิญญาณเกิดพืชเปนรังอยู่ในไส้ใหญ่ เมื่อมันแก่ขึ้นพร้อมกันแล้วจึงเบียฬอายุสัตว์ กระทำให้ซูบผอมให้ท้องโรกินอาหารมิรู้อิ่ม บางทีให้จุกเสียดขบในท้องบางทีให้อาเจียน ครั้นถ้วนกำหนดเดือนหนึ่งตัวนั้นแก่หนักเข้าแล้ว ก็ทำให้ดิ้นเสือกสนไปมา พันกันเปนกลุ่มเปนก้อนกลิ้งไปมา แลในท้องลั่นเสียงดัง บางทีก็เลื้อยออกมาทางปากบางทีก็เลื้อยออกมาทางทวารหนัก ย่อมกระทำให้กุมารแลกุมารีผู้นั้นเจ็บปวดลำบากนัก แล้วให้จับเปนเวลากระทำให้ตัวร้อนแล้วก็ขึ้นจับเอาในตาให้ตาเปนสายโลหิต ถ้าแพทย์ผู้ใดจะรักษาให้รักษาแลวางยารุไส้เดือนนั้นให้ระวังรุให้จงดี ถ้าไส้เดือนออกมิทันจะขึ้นกลัดเอาลำฅอกลัดทวารตายเสียเช่นนี้เปนอันมากมาแล้ว แลพยาธิจำพวกนี้ย่อมเกิดทั่วไปทุกๆ ทรางทั้ง ๗ วัน แต่อาไศรยเหตุจำเภาะเปนด้วยอาหารแปลกธาตุ, จึงเปน ถ้าแพทย์จะรักษาท่านให้เอายาสรรพคุณลิกาละลายน้ำผลมะเกลือสดให้กินดูก่อน แล้วจึงแก้ด้วยยาทั้งปวงต่อไป
ยาแก้ไส้เดือนขนานนี้ เอาสุพรรณถันแดง ๑ ส่วน เมล็ดผลสแก ๑ ผลสลอด ๑ เมล็ดในมะเกลือ ๑ เอาสิ่งละ ๔ ส่วน รวมยา ๔ สิ่งนี้ทำเปนจุณไว้ แล้วจึงเอาฟองไก่ ๑ ฟอง เอายาผงที่ทำไว้หนัก ๒ ไพ กวนเข้าด้วยกันกับฟองไก่นั้น แล้วเจียวขึ้นกินให้หมดแก่ไส้เดือน ถ้าแลให้สวิงสวายรันทดไป ละลายน้ำตาลกรวด น้ำมะนาวรำหัดพิมเสน แล้วจึงให้กินยาหอมทั้งปวงต่อไป
ยาต้มชำระไส้เดือนทั้งสมานลำไส้ด้วยขานนี้ เอารากเล็บมือนาง ๑ ส่วน ผลาชดัด ๑ ผลผลาญสัตรู ๑ ผลกราย ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน โกฐกัดกรา ๔ ส่วน ยาดำ ๘ ส่วน รากปริก ๑ รากทับทิม ๑ เอาสิ่งละ ๑๘ ส่วน ผลมูลกา ๓ ผล ฝักส้มป่อย ๗ ฝัก ผลมะกรูด ๓ ผล ขมิ้นอ้อยหัวยาว ๑ คืบ บระเพ็ดรอบศีศะคนไข้ รวมยา ๑๔ สิ่งนี้เอาสุราครึ่งหนึ่งน้ำครึ่งหนึ่งเปนกระสายต้มกิน แก้ตัวไส้เดือนตกสิ้นทั้งกระชับลำไส้มิให้ท้องใหญ่
พยาธิจำพวกหนึ่งบังเกิดเพื่อทรางโจรเกิดแต่กระดูกสันหลัง ถึงสมองศีศะแล่นไปในเอ็นทุกแห่ง แล้วก็ให้เปนลมแล่นเข้าในไส้ใหญ่ให้ขัดขึ้นขัดลงแล้วแล่นลงไปในกะเพาะปัสสาวะให้ขัดปัสสาวะเปนนิ่ว แล้วให้ท้องใหญ่ไส้พองกระทำให้จักษุมืดจักษุฟาง ให้ตกมูกเลือดปวดมวนนัก ดัวก็ซูบผอมไปด้วยพยาธิจำพวกนี้เกิดขึ้นในเนื้อ แลตามเอ็นนั้นทั้งตัวมี ๓ จำพวก ชื่อกัณณะจำพวกหนึ่ง ชื่อรัชชะกะจำพวกหนึ่ง ชื่ออะวัณณะจำพวกหนึ่ง เปน ๓ จำพวกด้วยกันดังนี้ มีตัวดังตัวไรไต่ตามกันอยู่ในเนื้อ จึงกระทำให้ซูบผอมไปดุจดังกล่าวมาแต่หลังนั้น ถ้าแพทย์ผู้ใดจะแก้ให้แต่งยาชำระตัวเสียก่อนจึงจะคลาย ให้แพทย์ทั้งหลายรู้ดุจกล่าวมานี้
ยารุเสมหะตานโจรขนานนี้ เอาผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ พริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ ดีปลี ๑ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน ผลสลอดฆ่าแล้ว ๒ ส่วน รวมยา ๘ สิ่งนี้ทำเปนจุณ แต่เมื่อจะฆ่าสลอดนั้นจงปอกเปลือกเสียให้หมด เอาแช่น้ำเกลือไว้ ๒ คืน แล้วจึงเอายัดในผลมะกรูดหมกไฟให้สุกเกรียมแล้ว จึงเอามาทั้งผลมะกรูดประสมเข้ากับยาทั้งนั้น บดทำแท่งไว้ลลายสุรากิน ๗ เม็ด ถ้ากุมารนั้นอายุได้ ๓ ขวบ ๔ ขวบให้กิน ๙ เม็ด รุเสมหะตานโจรตกสิ้น
ยารุตัวพยาธิตานโจรขนานนี้ เอาพิมเสน ๑ การบูร ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กานพลู ๑ ใบกะเพรา ๑ ใบสวาด ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน รวมยา ๗ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาผลสลอดนั้น ๑๔ ส่วน ปอกเปลือกเอาไส้ในออกเสียล้างน้ำให้หมด เอาผ้าขาวห่อใส่หม้อกับเข้าไห้แห้งกวน ๓ หน แล้วเอามาขั้วกับน้ำปลาดีให้เกรียมแล้วทับน้ำมันออกเสีย แล้วจึงเอามาประสมเข้ากับยาทั้งนั้น บดทำแท่งไว้เท่าเมล็ดถั่วเขียว ให้กุมารกินแก้ผอมเหลืองให้ลงเปนมูกเลือด ถ้ากุมารอายุได้ ๑ ขวบให้กิน ๗ เม็ด ถ้ากุมารอายุได้ ๒ ขวบกิน ๙ เม็ด ถ้ากุมารอายุได้ ๓ ขวบให้กิน ๑๑ เม็ด ให้กินตามกำลังเด็กแลผู้ใหญ่ ถ้าไม่ลงจะให้ลงเอาจันทน์หอมทาตัว ถ้าลงนักเอาผลมะตาดกวนกับน้ำอ้อยงบต้มให้กินหยุดลง
ยารุตานโจรขนานนี้ เอาดีปลี ๑ กระวาน ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ ผลผักชี ๑ ผลสมอไทย ๑ ผลสมอเทศ ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ ชาตก้อน ๑ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน ผลสลอดเอาที่เปลือกดำ ๒ ส่วนอย่าประสะเอาทั้งเปลือก กานพลู ๔ ส่วน รวมยา ๑๐ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำผึ้งเปนกระสาย บดทำแท่งไว้เท่าเมล็ดพริกไทย ถ้าธาตุหนักกิน ๓ เม็ด ธาตุเบากิน ๑ เม็ด รุชำระตัวตัวพยาธิตานโจรตกสิ้นมีคุณดุจกัน
ยารุกุมารอันได้เดือน ๑ ขึ้นไปจนถึงขวบ ๑ แล ๒, ๓ ขวบก็ดีขนานนี้ เอากานพลู ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ เข้าสุก ๑ ผลสลอด ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ แต่ฆ่าสลอดนั้นด้วยใบมขาม, ใบส้มป่อยสิ่งละกำมือ เกลือกำมือ ๑ ต้มกับสลอดให้สุกแล้ว เอาผึ่งให้แห้งเก็บเอาแต่เนื้อสลอดนั้น มาบดเข้ากับยาทั้งนั้นทำแท่งไว้เท่าเมล็ดนุ่น ใส่ป้อนกับเข้าสุกให้กุมารกินเถิด อันว่ายารุขนานนี้ท่านมิได้ว่าจำเภาะยาทรางอันใด แต่ว่าให้แพทย์ผู้ฉลาดพิจารณาตามกำลังโรคซึ่งหนักแลเบานั้นเถิด อันนี้ท่านกล่าวไว้ว่า กุมารกุมารีเกิดมาวันใดก็ดี ถ้าแลยังมิพ้นกำหนดทรางเจ้าเรือนแลทรางจร ท่านว่ามิให้วางยาผายแลยาเข้าสลอดเปนอันขาดทีเดียว ด้วยเหตุว่ากำหนดอายุนั้นอ่อนนักยังวางยามิได้ แลกำลังนั้นก็ยังน้อยอยู่ ถ้าจะวางยาให้วางตั้งแต่อายุ ๕ ขวบขึ้นไป ถ้าสูงอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป ท่านมิให้วางยาเข้าสลอดเปนอันขาด เหตุว่าชราแล้วกำลังน้อยถอย พระอาจารย์เจ้าท่านว่าสลอดนี้มีฅุณยิ่งมหันต โทษอนันต์เท่าฟ้า ถ้ารู้วางยาก็วางง่ายกว่าสิ่งทั้งปวง
อนึ่งพยาธิภายนอก ซึ่งมีตัวอันกินซึมซาบออกตามผิวเนื้อนั้น แลสำแดงอาการต่างๆ ดุจกล่าวมาแต่หลัง ถ้าจะแก้ท่านให้แต่งยาทาตัว แก้ตัวพยาธิภายนอกให้ตก
ยาทาตัวแก้พยาธิขนานนี้ เอารากปลาไหลเผือก ๑ เอื้องเพ็ดม้า ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ เมล็ดในชุมเห็ดเทศ ๑ ผลมูลเหล็ก ๑ เปลือกกระเบา ๑ เปลือกกระเบียน ๑ เปลือกเลี่ยน ๑ รากทองหลางหนาม ๑ รากทองพันชั่ง ๑ ผลมะแว้งเครือ ๑ ผลมะเขือขื่น ๑ บัลลังก์ศิลา ๑ หอระดานทอง ๑ ยาฝิ่น ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๒๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำมะนาวเปนกระสายบดทำแท่งไว้ละลายน้ำจันทน์แดงทาตัวแก่พยาธิ อันเปนแผ่นเปนเม็ดก็ดีตกสิ้น
พยาธิจำพวกนี้กินออกถึงผิวเนื้อแลกระดูกสันหลัง จึงให้ผอมแห้งซูบไป ถ้าจะแก้ให้แต่งยาน้ำมันทาแก้
ยาน้ำมันแก้พยาธิแก้เส้นขนานนี้ เอาน้ำบุก ๑ ทนาน น้ำกลอย ๑ ทนาน น้ำมันงา ๑ ทนาน น้ำมูตร์โคดำ ๔ ทนาน หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วจึ่งเอาเมล็ดในสลอด ๑ บาท ขิงแห้ง ๑ บาท ดีปลี ๒ บาท ยา ๓ สิ่งนี้ทำเปนจุณ แล้วจึงปรุงลง ในน้ำมันไว้ทาพยาธิ แล้วให้นวดเส้นเอ็นแลกระดูกอันเมื่อยล้าแลง่อยเปลี้ย แล้วจึ่งแต่งยาอันชื่อว่าพิศดารละลายสุราให้กินต่อไป ตัวพยาธินั้นจึ่งตกสิ้น
ยาต้มแก้พยาธิให้ตก เอารากลั่นทม ๑ รากเล็บมือนาง ๑ รากสะแก ๑ สมิ้นอ้อย ๑ เชือกเถาคัน ๑ เบ็ญจมะดัน ๑ รวมยา ๑๐ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้ตัวพยาธิ, แก้ไส้เดือนตกสิ้น ถ้าแลรถ่ายลงจนหมดโทษร้ายแล้ว อันว่าลมที่กลิ้งขึ้นกลิ้งลงแลลั่นอยู่ในท้องที่เปนป้างเปนคลื่นดุจดังลูกฟูกนั้นก็หาย ถ้าไม่หายท่านให้แต่งยาอันชื่อว่าอินท์จักร์นั้นให้กินต่อไป ถ้ามิฟังยาอันใดแล้ว ท่านให้แต่งยาอันชื่อว่าไฟอาวุธนั้นให้กินต่อไป
ยาชื่อไฟอาวุธขนานนี้ เอาผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ โกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ชะเอมเทศ ๑ กันชา ๑ แก่นแสมทะเล ๑ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน อุตพิด ๑ เปลือกสมุลแว้ง ๑ ดีปลี ๑ ใบพิมเสน ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน รากจิงจ้อ ๑ รากส้มกุ้ง ๑ รากเปล้าน้อย ๑ รากเปล้าใหญ่ ๑ รากสะค้าน ๑ รากพาชไหน ๑ เอาสิ่งละ ๓ ส่วน สหัศคุณเทศ ๔ ส่วน บุกรอ ๙ ส่วน พริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ รากเจ็ตมูล ๑ เอาสิ่งละ ๑๖ ส่วน รวมยา ๓๒ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำมะนาวเปนกระสายบดทำแท่งไว้ กินแก้ทราง ๗ จำพวก แก้ตานโจรทั้ง ๑๒ จำพวก แก้หืดน้ำนมทั้ง ๗ จำพวก แก้ไอผอมเหลือง แลแก้ไส้พองท้องใหญ่ แก้พุงโรแลลมจุกเสียด แลแก้ป้างแก้ม้ามแก้ดานเสมหะให้ปวดมวนเสียดแทง แก้อุจจาระเปนเสมหะ โลหิตระคนกันมักให้ถอยกำลัง มักให้เปนไข้ไม่รู้ศึกตัวให้ลงเปนโลหิต แก้ไข้เพื่อเสมหะเพื่อลม
ยาชื่อตรีผลาทุเลาขนานนี้ เอาพิมเสน ๑ สมอไทย ๑ สมอพิเภก ๑ เทียนดำ ๑ เทียนแดง ๑ เทียนเยาวภานี ๑ ผลโหระพา ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน ไพล ๔ ส่วน ผลมะขามป้อม ๑๒ ส่วน ฝักราชพฤกษ์เอาแต่เนื้อเท่ายาทั้งหลาย รวมยา ๑๐ สิ่งนี้ทำเปนจุณบดทำเปนเม็ดไว้เท่าเมล็ดพริกไทย ละลายสุรากิน ๑ เม็ดลง ๑ หน สำหรับถ่ายกุมารอ่อน
ยาต้มชื่อปราบพระนครขนานนี้ เอาเบ็ญจมะไฟ ๑ รากตาลหม่อน ๑ รากตาลเสี้ยน ๑ รากต่อไส้ ๑ รากตะขบ ๑ รากก้างปลาแดง ๑ รากตะโก ๑ รากสะแก ๑ หญ้าใต้ใบ ๑ รวมยา ๑๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ กินแก้ตกมูกตกเลือด แลแก้ทั้งนั่งหลับตากัดเล็บอยู่ก็ดีหายสิ้น
ยาต้มแก้ตานโจรขึ้นไนยตาให้ตาฟางขนานนี้ ท่านให้เอาเบ็ญจกะเพรา ๑ กะพังโหมทั้ง ๒ ไพล ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ บระเพ็ด ๑ เบ็ญจหญ้างวงช้าง ๑ เบ็ญจถอบแถบ ๑ ฝักส้มป่อย ๑ รากอัญชันขาว ๑ หัวหญ้าชันกาด ๑ ตรีกระฏุก ๑ หัวหอม ๕ หัว ผลขี้กา ๓ ผล มะกรูด ๓ ผล รวมยา ๑๗ สิ่งนี้ต้มกินแก้ตานโจรขึ้นตา แลเปนต้อให้ตาฟางก็ดี ยาขนานนี้ตัดรากภายในหาย
ยาหยอดตาแก้ตานโจรขึ้นตา ขนานนี้เอา เบ็ณจผักบุ้ง ๑ สังข์ ๑ ดินถนำ ๑ รวมยา ๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่งไว้ฝนด้วยน้ำเถาตำลึงหยอดตา
ยานัดถุแก้ตานโจรขนานนี้ เอาเทพทาโร ๑ ว่านน้ำ ๑ จันทน์ทั้ง ๒ กฤษณา ๑ ชะเอมเทศ ๑ ลิ้นทะเล ๑ ชะมด ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๙ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ นัดถุ์แก้กุมารตามืดตาฟาง
ยาพอกสดือแก้ต้อตานโจรขนานนี้ เอาดอกพิกุน ๑ ดอกกระดังงา ๑ หัวหอม ๑ ดินประสิวขาว ๑ ใบทรงบาดาน ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาค บดพอกสดือแก้ตากุมารเปนต้อ แลตามืดตาฟาง
ยาต้มแก้นิ่วตานโจรขนานนี้ เอาหญ้าชันกาด ๑ แห้วหมู ๑ ไพล ๑ ไคร้หางนาก ๑ ยาเข้าเย็น ๑ รากกะทุงหมาบ้า ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ รากหญ้านาง ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาพอกหัวเหน่าแก้ขัดเบาขนานนี้ เอาใบน้ำเต้า ๑ ผลสวาด ๑ บดด้วยน้ำซาวเข้าพอกหัวเหน่าให้เบาออก
ขนานหนึ่งเอาหัวปลาทูแห้งฝนด้วยน้ำมะนาว พอกหัวเหน่าเบาตกดุจกัน
ยาต้มแก้เบาเปนโลหิตตานโจร เอาใบคนทา ๑ นมตำเยีย ๑ รากกำจาย ๑ เปลือกไม้แดง ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคต้ม ๓ เอา ๑ กินหาย
ขนานหนึ่งท่านให้เอา สารส้ม ๑ แก่นสน ๑ ต้ม ๓ เอา ๑ กินหาย
ขนานหนึ่งท่านให้เอา เบี้ยผู้ ๓ เบี้ย สังข์ ๔ บาท แช่น้ำมะนาวไว้คืน ๑ จึงเอายอดขี้เหล็ก ๗ ยอดลนไฟพอตายนึ่ง พริกไทย ๘ เมล็ด ขิง ๗ ชิ้น กระเทียม ๗ กลีบ บดด้วย
น้ำมะนาวกิน
ยาต้มแก้ตานโจรขนานนี้ เอายอดขี้เหล็ก ๑ รากอ้อยแดง ๑ รากหญ้าคา ๑ น้ำแกลบต้มเอาหัวกะทือแช่ผึ่งแดดผึ่งน้ำค้างไว้วันกับคืนหนึ่ง จึงเอาสุราหยัดลงกิน
ยาต้มแก้นิ่วตานโจร อายุกุมารได้ ๑๐ ขวบ เอายอดละมุดสีดา ๗ ยอด ยอดลำเจียก ๗ ยอด ต้ม ๓ เอา ๑ กิน
ยาแก้นิ่วอายุกุมารได้ ๑๒ ขวบ เอาด่างสะแก ๑ น้ำผลแตงกวา ๑ ขันทศกร ๑ ดินประสิวขาว ๑ คุลิการเข้าด้วยกันกิน
พระอาจารย์เจ้ากล่าวมาแต่ในลักษณะกำหนดทรางแลทรางจร กำหนดกำลังไข้ทั้ง ๗ จำพวก แลสิ้นกำหนดทรางเจ้าเรือนทรางจรแลกิมิชาติ ๘๐ จำพวก แลตานโจรเกิดเพื่อพยาธิ ๑๖ จำพวก อันจะให้บังเกิดเปนตานโจรขึ้นนั้น จบบริบูรณ์แต่เพียงนี้