ว่าด้วยกุมารเกิดวันจันทร์

พระคัมภีร์ประฐมจินดาผูก ๓ บริเฉท ๒ ว่าด้วยลักษณะกุมารเกิดวันจันทร์ เปนลักษณะแห่งทรางน้ำเปนทรางเจ้าเรือน ทรางฝ้ายเปนทรางจร หละแสงพระจันทร์ ละอองแก้ววิเชียรโดยสังเขป

สิทธิการิยะพระอาจาริย์เจ้าจะกล่าวลักษณะกุมารกุมารี เกิดวันจันทร์นั้นต่อไป กำเนิดแห่งทรางน้ำเปนเจ้าเรือนแห่งกุมารกุมารีผู้นั้น ให้แพทย์สำคัญพึงรู้โดยสังเขปดังนี้

(ลักษณะทรางน้ำนี้ ต้นฉบับกล่าวซ้ำกัน ดังแจ้งอยู่ในน่า ๑๘๐ แห่งเล่มนี้ครั้ง ๑ แล้ว แต่เนื้อความต่างกันบ้างจึ่งได้คัดมาพิมพ์ไว้อีก แล้วแต่จะกำหนดเอาเถิด)

อันว่าลักษณะทรางน้ำนั้นมีแม่ ๑๙ ยอด ในเมื่อครรภ์มารดาตั้งขึ้นได้ ๓ เดือนนั้น มักให้มารดาปวดศีศะแลเจ็บนม แลให้อยากของอันหวาน แลให้เมื่อยแขนทั้งสองข้าง ให้หูหนักตาฟางมักให้เปนลมมึนตึง แลให้รากให้กระหายน้ำเปนกำลัง ไปจนถึงกำหนดคลอด อันว่าแม่ทรางน้ำทั้ง ๑๙ ยอดนั้นมีสัณฐานยอดแต่ละยอดโตเท่าใบพุดทรา มีสีอันแดงดังผลผักปลังห่าม ขึ้นที่ต้นแข้งขาแลกลางหลัง ขึ้นหน้าแข้งแลแก้มทั้งสองข้าง รายกันขึ้นละยอดจนอายุได้ ๒ ขวบกับ ๖ เดือน ย่อมแตกเปนน้ำเหลืองเปื่อยไปรอบตัว ครั้นแห้งลงก็หลบเข้าไปทำภายใน จึ่งกระทำให้หัวแลตัวร้อนแล้วก็ทำให้เจ็บท้อง ถ้าแพทย์ผู้ใดจะรักษาให้แต่งยากระทุ้งให้กิน ให้ออกเสียให้สิ้นเชิงแล้ว จึ่งวางยาทุเลาให้กินไป ๔ เวลา ๕ เวลาจึ่งจะหายขาด อันลักษณะทรางน้ำนี้หาบริวารมิได้ ท่านให้เกรงแต่ทรางจรกับทรางละออง ถ้าผู้มาแขกนั้นร้ายอยู่แล้ว เจ้าเรือนก็พลอยฉิบหายด้วย ทรางจรนั้นคือทรางฝ้าย จรสำหรับประจำทรางน้ำ หละชื่อแสงพระจันทร์ประจำทรางน้ำ ละอองพระบาทชื่อละอองแก้ววิเชียรประจำทรางน้ำ อันว่าลักษณะ ๓ ประการนี้ ถ้าบังเกิดขึ้นแก่กุมารกุมารีผู้ใดก็ดุจราหูมาทับลักษณ์

จบลักษณะทรางน้ำแต่เท่านี้

(ถ้าจะดูตำรายาแก้ทรางน้ำ ให้ดูน่า ๑๘๐)

----------------------------

สิทธิการิยะ ทีนี้จะกล่าวลักษณะกำเนิดทรางฝ้าย ซึ่งเปนทรางจรมาแซกประจำสำหรับทรางน้ำเจ้าเรือนนั้นต่อไป ให้แพทย์พึงรู้โดยสังเขปดังนี้

อันว่าลักษณะทรางฝ้ายนั้นหาเมล็ดยอดมิได้ จำเภาะขึ้นเพดาลกะพุ้งแก้มไรฟัน แลขึ้นลิ้นขาวดาษไปดังยวงฝ้าย มีใยดุจสสำลีดีดแก้ว จึงกระทำพิศม์ให้ร้อนไปทั่วทั้งตัว ให้ปากนั้นร้อนให้ปากแห้งหาน้ำลายมิได้ แล้วให้หุบปากมิลงอ้าปากร้องอยู่ กินเข้ากินนมมิได้มักให้อาเจียนเปนกำลัง แล้วกระทำให้ลงท้องเหม็นดังไข่เหน้า ถ้าแพทย์เห็นดังนี้แล้วให้พิจารณาดูให้แม่นแท้ คือทรางฝ้ายกระทำโทษดุจกล่าวมานี้

ยาแก้ทรางฝ้าย ขนานนี้ท่านให้เอา ใบน้ำเต้า ๑ ขอบชนางทั้งสอง ๑ ใบตาลหม่อน ๑ ใบชุมเห็ด ๑ ใบระงับ ๑ ใบขี้กาแดง ๑ กะทือ ๑ ไพล ๑ หอมแดง ๑ พริกไทย ๑ กะเทียม ๑ ขิงแห้ง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รวมยา ๑๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ กินแก้ทรางฝ้ายแลตาลทรางทั้งปวง แลแก้ตกมูกตกเลือด ถ้าให้เหม็นโขงเหน้าโขง แซกยาดำลงกินหายดีนัก

ยาแก้ทรางฝ้าย ขนานนี้ท่านให้เอา ใบกะเพรา ๑ ใบชุมเห็ด ๑ ใบสวาด ๑ ใบตาลหม่อน ๑ ใบขอบชนางทั้งสอง ใบผักคราด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท กะทือหนักบาทเฟื้อง ไพล ๑ พริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ กะเทียม ๑ เอาสิ่งละ ๑ เฟื้อง รวมยา ๑๓ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้ทรางฝ้ายแลทรางแดงทรางโจรทรางเพลิง ถ้าจะแก้ลงละลายน้ำใบตาลหม่อนกิน ถ้าจะให้ผายละลายน้ำใบกะเพรากิน ถ้าจะแก้ท้องขึ้นละลายน้ำใบสวาดกิน ถ้าทรางขึ้นลิ้นแซกน้ำประสานทองกวาดหายดีนัก

ยาชื่อเทพนิมิตร ขนานนี้ท่านให้เอา ใบสันพร้าหอม ๑ หมึกหอม ๑ ผลจันทน์ ๑ ดีปลี ๑ กัมถันแดง ๑ สานส้ม ๑ ชมด ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้แก้ทรางน้ำทรางฝ้าย แลทรางอันใดๆ ก็ดี ซึ่งกระทำให้ อก,ฅอ, ลิ้น, นั้น ถ้าขึ้นลิ้นละลายน้ำมะนาวกวาดก็ได้กินก็ได้ ถ้าขึ้นในอกละลายสุรากิน ถ้าขึ้นฅอแซกดีงูกวาดหายดีนัก

ยาทาปากแก้ทรางฝ้าย ขนานนี้ท่านให้เอา ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ เปลือกมะรุม ๑ เปลือกทองหลางใบมน ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ สานส้ม ๑ หอม ๑ กัมถันแดง ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง กะเทียม ๑ ดีปลี ๑ เอาสิ่งละ ๑ เฟื้อง น้ำประสานทอง ๒ สลึง พริกไทย ๓ เมล็ด รวมยา ๑๒ สิ่งนี้ทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้แก้ทรางน้ำทรางฝ้ายแลทรางทั้งปวงซึ่งขึ้นในอกแลลำไส้นั้น แก้ปวดแก้มวนแลตกมูกเลือด แก้เขม่าขึ้นลิ้น แก้ทรางลามปากให้เปื่อยอุจจาระเหม็นเหน้า เอายานี้ฝนทาแซกหญ้ายองไฟหน่อยหนึ่ง ฝนทาหายดีนักได้เชื่อแล้วอย่าสนเท่ห์เลย

ยาชื่อมหาประการ ขนานนี้ท่านให้เอา สังกะระณี ๑ ดีงูเหลือม ๑ ผลประคำดีควาย ๑ ตุมกาแดง ๑ ฤๅษีผสมแล้ว ๑ ผลราชดัด ๑ กะเทียม ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาน้ำตุมกาแดงต้มเปนกระสาย บดทำแท่งไว้เท่าเมล็ดฝ้าย แก้พิศม์ทรางซึ่งกระทำให้อ้าปากมิออกนั้น เอายาขนานนี้กรอกเข้าไปเถิดหายดีนัก

ยาประจำท้องแก้ทรางฝ้ายแลทรางทั้งปวง ขนานนี้ท่านให้เอา พริกไทย ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ กะเทียม ๑ สานส้ม ๑ ดินประสิวขาว ๑ เกลือสินเธาว์๑ เอาขมิ้นชันเท่ายาทั้งหลาย รวมยา ๘ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาน้ำมะนาวเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาวกินวิเศษนัก

ยาแก้ทรางน้ำทรางฝ้าย ขนานนี้ท่านให้เอา ใบกะเพราะ ๑ ใบตาลหม่อน ๑ ใบฝ้ายแดง ๑ ใบกะพังโหม ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายสุรากินหายวิเศษนัก

ยาน้ำมัน แก้ทรางน้ำซึ่งกระทำให้เปื่อยนั้น ขนานนี้ท่านให้เอาน้ำเปลือกฝิ่นต้นจอก ๑ น้ำดีงูต้ม (ต้นฉบับว่าน้ำดีงูต้น) จอก ๑ น้ำรากถั่วภูจอก ๑ น้ำมันงาจอก ๑ หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วเอาผลเบ็ญจกานี ๕ ผล สีเสียดเทศ ๑ ดีงูเหลือม ๑ รวมยา ๓ สิ่งนี้ทำเปนจุณปรุงลงในน้ำมัน ทาทรางน้ำซึ่งเปื่อยทั้งตัวนั้น ถ้าจะกินแซกการะบูรหายดีนัก

ยาทาปากแก้ทรางน้ำทรางฝ้าย ขนานนี้ท่านให้เอา การะบูร ๑ ใบมะไฟ ๑ น้ำประสานทอง ๑ รวมยา ๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ทาปาก แก้ทรางน้ำหายดีนัก

พระอาจาริย์เจ้าท่านไว้ว่า ถ้าแพทย์ผู้ใดจะรักษาทรางน้ำเจ้าเรือน แลทรางฝ้ายเปนทรางจรนั้น อย่าให้เสียยาชื่อว่าเบ็ญจตาลแลประสะกระเพรานั้นเลย

จบลักษณทรางฝ้ายซึ่งเปนทรางจร สำหรับประจำทรางน้ำนั้นแต่เพียงนี้โดยสังเขป

ลำดับนี้พระอาจาริย์กล่าวด้วยลักษณหละอันชื่อว่าแสงพระจันทร์ ซึ่งประจำทรางน้ำเจ้าเรือนนั้นต่อไปดังนี้

อันว่าลักษณหละแสงพระจันทร์นั้นไซร้ ใช่จะประจำอยู่แต่ทรางน้ำนั้นหามิได้ ขึ้นประจำอยู่ในทรางช้างเจ้าเรือนนั้นด้วย ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยไนยดังนี้ อันลักษณอาการแลประเภทหละแสงพระจันทร์ แจ้งอยู่ในลักษณทรางบริเฉท ๖ โน้นแล้ว

ในลักษณทรางน้ำบริเฉท ๒ นี้ พระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวไว้แต่สรรพยา ซึ่งจะให้แก้หละแสงพระจันทร์นั้น ประจำสำหรับทรางน้ำเจ้าเรือนนั้นต่อไปดังนี้

ยากวาดแก้หละแสงพระจันทร์ ขนานนี้ ท่านให้เอาเทียนดำ ๑ สานส้ม ๑ ผลมะแว้งทั้ง ๒ ดีปลี ๑ รวมยา ๕ สิ่งนี้เอาเสมอภาคทำเปนจุณเอาน้ำสุราเปนกระสาย บดทำแท่งไว้กวาดหละแสงพระจันทร์หายดีนัก

ยาจุดหละแสงพระจันทร์ขนานนี้ ท่านให้เอาน้ำประสานทอง ๑ มูลตุกแก ๑ มูลแมลงสาบสิ่งละ ๒ กล่ำ เมล็ดในมะนาว ๗ เมล็ด รวมยา ๔ สิ่งนี้ทำเปนจุณ เอาสุราเปนกระสาย บดทำแท่งแซกชมดพิมเสน จุดหละแสงพระจันทร์หายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอาหัวสุนักข์ดำ ๑ กระดูกกา ๑ กระดูกแร้ง ๑ กระดูกงูเหลือม ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เผาไฟให้ไหม้ ลิ้นทะเล ๑ น้ำประสานทอง ๑ กานพลู ๑ พิมเสน ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเสมอภาค เอารากดินเผาเท่ายาทั้งหลาย ทำเปนจุณเอาสุราเปนกระสาย บดทำแท่งไว้ละลายสุราทาปาก แก้หละแสงพระจันทร์หายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา ชาตหรคุณจีน ๑ มูลแมลงสาบ ๑ ลิ้นทะเล ๑ ฝักส้มป่อยขั้ว ๑ น้ำประสานทอง ๑ สานส้มสตุ ๑ จุณสีสตุ ๑ รวมยา ๗ สิ่งเอาเสมอภาค ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ ละลายน้ำเกลือทาปากแก้หละแสงพระจันทร์หายวิเศษนัก ถ้ากุมารผู้ใดไม่ฟังยา ๔ ขนานนี้แล้ว อย่าให้รักษาทรางน้ำต่อไปเลย

จบลักษณะหละแสงพระจันทร์แต่เท่านี้

----------------------------

ทีนี้จะว่าด้วยละอองพระบาทอันชื่อว่าละอองแก้ววิเชียรนั้นต่อไป แลละอองจำพวกนี้บังเกิดเพื่อทรางน้ำ ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยสังเขปดังนี้

อันว่าลักษณละอองแก้ววิเชียรนั้น ท่านให้พิจารณาดูในเพดานแลลิ้นแลกะพุ้งปากทั้ง ๒ ถ้าเห็นขาวเปนดังกล้ามมพร้าวยังไม่ได้ขูดนั้นชื่อว่าละอองพระบาท เกิดเพื่อหละแสงพระจันทร์กระทำให้ลงไปจนตาแขงจะนับเวลามิได้ ส่วนลงให้ลงไป สวนท้องขึ้นก็ให้ขึ้นไปกำลัง สมมุติว่าทั้งขึ้นทั้งล่อง แพทย์จะรักษายากนัก ถ้าแลพิจารณาเพดานแลลิ้น แลกะพุ้งแก้มทั้ง ๒ นั้นเห็นขาวเปนมันเลือกดุจมะพร้าวกะทิ ชื่อว่าละอองแก้ววิเชียร เกิดเพื่อทรางน้ำกระทำให้เลือกไปทั้งปากจะกินเข้ากินนมมิได้ ถ้าแพทย์วางยาชอบจึ่งตกไปทีเดียวมิได้กลับขึ้นอีก ถ้าแลยามิชอบ เปนแต่ประทังอยู่ ถ้ากวาดข้างเย็นตกข้างเช้าขึ้นดังเก่า ถ้ากวาดข้างเช้าตกข้างเย็นขึ้นดังเก่าเปนแต่ดังนี้ จึงกระทำพิศม์ให้ร้อนนอนมิหลับ มักหวาดสดุ้งบางทีทำให้ลงท้อง บางทีกระทำให้ผูก แล้วท้องขึ้นตาเหลือกตาช้อน แล้วให้ไอเปนกำลัง อันว่าละอองแก้ววิเชียรจำพวกนี้ ถ้าขึ้นแก่กุมารผู้ใดแล้วร้ายนัก ถ้าแพทย์วางยามิชอบใน ๓ วันรักษามิได้เลย ถ้าจะกวาดให้กวาดเมื่อตวันตกดิน ละอองจึ่งจะตกห้ามมิให้กวาดเวลาเช้าไซร้ จะห้ามแต่ละอองแก้ววิเชียรนั้นหามิได้ ท่านห้ามไปทุกๆ ทราง ทุกๆ ละออง ทุกๆ หละ ให้แพทย์ทั้งหลายพึงรู้โดยในดังกล่าวมานี้

ยาแก้ละอองแก้ววิเชียร ขนานนี้ท่านให้เอา รากมะกรูด ๑ รากมะนาว ๑ รากมะงั่ว ๑ รากพุดซ้อน ๑ รากมะลิ ๑ รากอัญชันขาว ๑ รากระย่อม ๑ รากพิศนาด ๑ รากเจ็ตภังคี ๑ รากกรามแดง ๑ รากกรามช้าง ๑ รากครามดี ๑ ข่าแก่ ๑ รวมยา ๑๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ทำเปนจุณบดทำแท่งไว้ละลายน้ำหยัดเล่าทั้งทาทั้งกิน แก้ละอองแก้ววิเชียรหายดีนัก

ขนานหนึ่งท่านให้เอา ปู่เจ้าลอยท่า ๑ รากส้มกบ ๑ รากหางหรอก ๑ รวมยา ๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำสุรากิน แก้ละอองแก้ววิเชียรหายดีนัก

ยาทาปากแก้ลอองแก้ววิเชียรละอองพระบาท เพื่อแสงพระจันทร์ขนานนี้ ท่านให้เอา ผิวไม้รวก ๑ เปราะหอม ๑ ลิ้นทะเล ๑ น้ำประสานทอง ๑ รวมยา ๔ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำปูนใส ทาปากกุมารหายดีนัก

ยาทาปากแก้ลอองแก้ววิเชียรให้ตกขนานนี้ ท่านให้เอาชาตหรคุณ ๑ พิมเสน ๑ ใบนมพิจิตร ๑ ใบมะระ ๑ มูลแมลงสาบ ๑ ดีงูเหลือม ๑ เกลือ ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ ละลายน้ำมะนาวทาปากหายวิเศษนักได้เชื่อแล้ว

ยาชื่อฝนแสนห่า ขนานนี้ ท่านให้เอา รากบัวหลวง ๑ ก้ามปูทะเล ๑ ลิ้นทะเล ๑ ใบฆ้องสามย่าน ๑ รากถั่วภู ๑ ดินสอพอง ๑ รวมยา ๖ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำซาวข้าวชโลมแก้ละอองแก้ววิเชียร แลละอองพระบาทเพื่อหละแสงพระจันทร์หาย

ยาสมานแก้ละอองแก้ววิเชียร ซึ่งกระทำให้เปื่อยนั้นขนานนี้ ท่านให้เอา พิมเสน ๑ น้ำประสานทอง ๑ ชาตหรคุณ ๑ รวมยา ๓ สิ่งนี้เอาเสมอภาค ทำเปนจุณบดปั้นแท่งไว้ ทาปากกุมารที่เปื่อยนั้นหายดีนัก

พระอาจาริย์เจ้าท่านกล่าวมาในลักษณะกุมารอันเกิดวันจันทร์กำเนิดทรางน้ำเปนเจ้าเรือนทำโทษ กำเนิดทรางฝ้ายเปนทรางจรมาแซกทำโทษประจำทรางน้ำ กำเนิดหละอันชื่อว่าหละแสงพระจันทร์ทำโทษประจำทรางน้ำ กำเนิดละอองอันชื่อว่าละอองแก้ววิเชียรทำโทษประจำทรางน้ำ จบบริบูรณ์แต่เท่านี้

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ