เขาย่อมเป็นผู้เก้อเขิน

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เมืองใดผิไร้นรบดี ก็ บ มีสราญรมย์
ชุมราษฎร์อนาถมะระทม ทุรทุกข์ขะขุกเข็ญ
หาผู้จะพึงสรณะผ่อน อุระร้อนประเทืองเย็น
แลเหลียวก็เปลี่ยว บ ยนะเห็น มุขะใครจะมาครอง
โรงการละเล่นผิและจะขาด พิณะพาทย์ตะโพนกลอง
นักลำก็ทำบทะละบอง บถนัดเพราะขัดเขิน
ที่เล่นจะเป็นดุจะสุสาน มิสนานสนุกเพลิน
พลอยเหงาและเปล่าสุขะเจริญ นยะน์รื่นจรุงชม
เคหาสน์ผิปราศยุวะกุมา- ระประสาวิสัยสม
โดยธานะทารกะนิยม กิละย่อมกระซิกสรวล
เรือนเหย้าก็เซาสรคะครื้น บ มิชื่นมิชูชวน
เซือมซึมคะครึมกมละครวญ เพราะสงบสงัดเสียง
เหล่านี้จะเงียบและผิจะเหงา ก็มิเท่ามิเทียบเคียง
ความเงียบจะเปรียบก็ บ มิเพียง อุปไมยเสมอเหมือน
เงียบดั่งแสดงนยุปมา บ มิน่าคะนึงเฟือน
ใฝ่เฝ้าระเร่าอดุระเตือน จิตะครุ่นละอายใคร
เงียบเล่ห์แถลงแหละ บ มิยาก ผิวะหากจะแก้ไข
ง่ายดายสะดวกประดุจะใจ แลประสิทธิ์ประสงค์เรา
เงียบใด บ ดุจมนุษะเงียบ เพราะมิเฉียบมิชาญเชาวน์
เข้าที่ประชุมกษณะเขา สหะสนทนากัน
ในสาระวากยะประโยค คติโลกคดีธรรม์
ลึกซึ้งสภาพสุขุมะสัณห์ นยะศัพทะภาษา
ส่วนตนสิใช่ชนพหู สุตะผู้จะพูดจา
กับเขาเพราะเขลานิระวิชา ปฏิภาณจะทานเถียง
มีปากก็เป็นประดุจจะเปล่า กลเต่าและหอยเพียง
แย้มโอษฐ์จะเอื้อนพจนะเสียง ก็ บ ออก บ อาจเผย
สุดแสนจะแค้นหทยะยาก และกระดากกระไรเลย
จักนิ่งจะนั่ง บ มิเฉลย พจิใดก็ดูเขิน
ทนฟังและตั้งมนะไฉน ก็มิได้เพราะไป่เพลิน
อายใจก็จำจิตะแลเดิน ละปราศจากสภาไป
ความจริงฉะนี้แหละนระเรา กุละเหล่าอุบัติใน
โลกเลอเสนอนิยมะไพ- บุละชาติสมัญชาย
ควรฤๅจะให้บุรุษะชน ณประชุมละเมิดหมาย
หมิ่นหยามและเหยียดเพราะดนุบาย บ มิอาจจะเอ่ยคำ
เหตุเราสิไร้พิทยะวุฒิ พหุสุตและทรงจำ
แจ้งสรรพะสาระคติธรรม คติโลกตลอดมวล
พึงมีสมรรถกมละมั่น นิจะหมั่นและสอบสวน
เพื่อว่องวิชาคมะขบวน บทะแบบฉบับบูรพ์
ทราบเจนประจักษ์กิจะสมัย นิติใหม่และเก่ามูล
รู้รอบจะกอปรสกละธูร พิธะถ่องนะธรรมเนียม
ถูกฐานะนามะพหูสูต ผิจะพูดก็พลเทียม
ทันเพื่อนก็เพื่อนจะเหลาะแหละเลียม และเยาะเล่น บ มีเลยฯ

กุมภาพันธ์ ๒๔๕๙

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ