เวทัพพะชาดกคำฉันท์

๏ นอบน้อมพระจอมอาจารย์ คเณศเวทชาญ
กวีลุวากย์ วุฒิไกร ฯ  
อินทรวงศ์ฉันท์ ๑๒  
๏ ขอขานสุภาณภา- ษิตะสาระฉันทนัย
วาจกวจีไข คติเรื่องบุราณนิทาน
๏ ชักจุงพยุงปลุก สติยุกติและปรีชะญาณ
ปราโมทย์ประโยชน์สาร สุตะอรรถนิทัศน์กถา
๏ มาในนิบาตเอ- กะนิเทศะพรรณนา
เวทัพพะชื่อชา- ดกะแจ้งประจักษ์วิจารณ์
๏ สาธกละโมภโทษ ทุระโหดและอาจประหาร
ชีพิตพินาศลาญ ลุพิบัติอนัตถะผล
๏ ดำเนินอดีตนัย ณ สมัยพระภูวดล
พาราณสีมณ- ฑละรัฐประเทศไผท
๏ ไท้พรหมทัตราช วรนารถชนาดิศัย
ผ่านกรุงผดุงไอ- สุริยราชย์นราภิบาล
๏ ครั้นนั้นและมีพราหม- ะ ณะนามสมัญญะขาน
เวทัพพะโดยการณ์ ธ เฉลียวฉลาดณมนต์
๏ สังเกตผิว์อากาศ และประกอบกะฤกษะ บน
ร่ายอิทธิมนต์ฝน วิธะวัตถุรัตน์ประการ
๏ ตกได้เพราะฤกษ์บน นภะดลและเป็นประมาณ
หาไม่พิรุณธาร ทิพะนั้นบสมประสงค์
๏ ปางโพธิสัตว์เบื้อง อุปบัติพระชาติพระองค์
เป็นกุลบุตร จง จิตะสืบเสาะสนแสวง
๏ เวทัพพ พราหมณ์ อา- จริยานุสาสน์แสดง
ซึ่งศิลปศาสตร์แจง แนะประสิทธิวิทยา
๏ สำนักสมัครหมั่น มนะมั่นเสมออุสาห์
โดยชอบประกอบคา- รวะเรียนและเพียรนิรันดร์
๏ อาจารย์ก็จำนง จิตะสงเคราะห์ศิลปะสรรพ์
สอนไสยศาสตร์บรร- พะระบอบระบิลยุบล ฯ
อุเปนทรวิเชียรฉันท์ ๑๑  
๏ ณกาละวันหนึ่ง วุฒิครูพิเศษมนต์
กิจานุกิจตน ขณะมีกระนี้พราหมณ์
๏ จะต้องคระไลไป ธุระในนิคมคาม
ลุเจตะรัฐนาม ทุระเขตประเทศฐาน
๏ ระหว่างวิถีจร และก็ค่อนจะกันดาร
อเนกนิกรพาล ผิวะพบจะบีฑา
๏ ณวาระจากคาม พฤฒิพราหมณ์ก็ชวนพา
พระโพธิสัตว์คลา ทวิเพื่อนพนาสัย
๏ และต่างก็พากัน บทะมรรคะครรไล
ทุรัศ ทุเรศไป ณระหว่าง วนาสัณฑ์
๏ จะถึงนิคมถ้า คณนาก็หลายวัน
อนาถพนัศครัน และสยดสยองภัย
๏ ทิวาและราตรี ฤ จะมีสบายใจ
ระอิด ระอาใจ ขณะพักจะกินนอน
๏ ระแรมระรอนเถื่อน ทวีเพื่อนพเนจร
ลุถึงสถลตอน วนะเวิ้งวิเวกเหลือ
๏ พนัสสงัดคลุม ทุมะซุ้มคระครุมเครือ
ระย่อยะเยือกเจือ จิตนึกระทึกหนาว
๏ จรัลอรัญผลู อุระครูและศิษย์คราว
สะทกสะท้านสาว บทะรีบ ระวังภัย
๏ ลุที่สถิตโจ- ระสถานะอาศัย
เลาะซุ่มประชุมใน ระยะทางระหว่างเดิน ฯ
สุรางคนางค์ฉันท์ ๒๘  
  ๏ ละผู้ละคน
ละล้วนกมล มุโมหะเกิน
ณพฤกษะไพร ผิว์ใครเผอิญ
เคราะห์ชักเผชิญ ปะพบละมัน
  ๏ ก็ไล่เลาะลัด
และก้าวสกัด ฉกาจฉกรรจ์
เพราะโลภะทรัพย์ ก็สับก็ฟัน
ประทุษทัณฑ์ ดุร้ายระราน
  ๏ มนุษย์นิกร
แสยงสยอน อะไรมิปาน
เพราะกลัวประสล พะพบพะพาน
บอาจบหาญ จะไคลจะคลา
  ๏ จะลับตะวัน
และโจระพรรค์ ประมวลคณา
ก็คอยกระทำ ทุกรรมณกา
ละนั้นและมา ประชุมสมาน
  ๏ พระโพธิสัตว์
กะพราหมณ์เลาะลัด ลุในพนานต์
ตระบัดก็สรร พะอันธพาล
ก็โห่ก็ขาน ประกาศกะกัน
  ๏ ก็พรั่งก็พรู
ก็เกรียวก็กรู ก็เกริ่นก็พลัน
ทะมัดทะแมง และแบ่งละพรร
คะหัตถะสรร พะสาตถว์คระวี
  ๏ ก็ควบก็คุม
คะคึกระรุม ก็ล้อมและตี
ตรลบตลอด บรอดจะหนี
ละหมู่และมี ประทุษสถุล
  ๏ ประดุจะกา
กระนั้นสิมา ปะลูกสกุณ
ระดมเกาะกวน บหวนกรุณ
ประโยชน์จะภุญ ชะภักษ์ประสงค์
  ๏ ทมิฬทโมน
มหิจฉะโจร ก็จับทิชงค์
กะโพธิสัตว์ ก็มัดจะปลง
ชีพิตพระองค์ และพฤฒิพราหมณ์ ฯ
สาลินีฉันท์ ๑๑  
๏ ชุมนุมโจรพวกนั้น วิสัยธรรมะดาตาม
เยี่ยงอย่างอันเคยความ นิยมยึดประพฤติมา
๏ จับคนสองคนได้ ผิว์คิดใคร่แสวงหา
ธนแทนถ่ายชีวา บห่อนคิดจะปลิดปลง
๏ มีทรัพย์สำหรับให้ ก็ปล่อยไปและยังคง
เหลือคนหนึ่งจำนง จะไว้เป็นประกันตน
๏ ครั้งนั้นครั้นจับโพ- ธิสัตว์พราหมณ์พิเศษมนต์
ครูศิษย์ทั้งสองคน ก็ให้สัจวาจา
๏ ปล่อยไปไป่ฝ่าฝืน จะขอคืน ณ เคหา
นำทรัพย์แลกลับมา จะมอบหมายและถ่ายชนม์
๏ โจรยอมพร้อมปล่ยโพ- ธิสัตว์เพื่อประโยชน์ธน
คุมพราหมณ์ไว้เป็นคน ประกันชีวะสัญญา ฯ
วังสัฏฐฉันท์ ๑๒  
๏ พระโพธิสัตว์เมื่อ ธจะเมื้อนิราศะคลา
นิวัตินิวาสคา- มะก็สั่งกระซิบกะพราหมณ์
๏ ประมาณมินานช้า ผิวะข้าพเจ้า ลุคาม
จะกลับก็สองสาม ทินะแน่ บแปรบปรวน
๏ ก็โจรดุร้ายนัก สิและจักกระทำ มิควร
ณทัณฑะทั้งมวล เถอะก็สู้ ระงับหทัย
๏ สะกดและอดเอา จิตะเขา บ เป็นกระไร
มิควร จะทำใจ เหลาะแหละท้ออุสาหะทน
๏ ไฉนก็ตามเทอญ คะรุเชิญประหยัดกมล
มิควรจะตีตน ขณะก่อนพยาธิภัย
๏ เพราะดำริเกรงว่า ผิวะข้าพเจ้าสิไป
บทันจะถึงไหน มนะ ท่านมิทาน มิทน
๏ ประกอบระกำกาย ก็จะร่ายวฤทธิมนต์
และหากผิว์รัตน์ฝน ทิพะตกประดุจประสงค์
๏ กระนั้น ละแน่อัน ชิวะท่านจะปลดจะปลง
เพราะโจระมั่นคง บมิเห็นจะรอดไฉน
๏ พระโพธิสัตว์สั่ง กิจะเสร็จก็ลาคระไล
นิวัติโดยใน พนะมรรคะเมื่อ ธ มา ฯ
มาณวกฉันท์ ๗  
๏ พราหมะณะผู้ ครูพฤฒิเฒ่า
ศิษย์จระเข้า แนววนะคลา
สับนัยะน์บถ หมดมิตระหา
ใครบมิอา ทรอุปการ
๏ ดวงสุริย์ด่วน จวนอัสดง
ลับนภะลง แสงอวสาน
โจระก็จัด มัดบมินาน
พันธนะปาน เปรียบอยะตรึง
๏ พื้นปถพี ที่นิทระขอน
กัษฐะและหมอน หนุนศิระรึง
สุขฤจะหา กายะก็ตึง
พราหมณะถึง ทุกขะประการ
๏ มดฤก็ไต่ ไรฤก็ตอม
ยุงฤก็ล้อม กัดและระราน
อาดุระผล ทนทรมาน
เวทนะปาน ในอวิจี
๏ โจระระวัง ตั้งคณะคุม
อรรคนิสุม มันและขมี
กลัวภยะใด ใจบมิหนี
ต่างจิตะปรีดิ์ เปรมอภินันท์
๏ คุยสิโขมง โยงมนะชื่น
หาสิยะรื่น เริงหฤหรรษ์
กิจอวะหาร การดุฉกรรจ์
กักขฬะพรรณ พื้นขะระคำ
๏ พราหมะณะนอน ค่อนจะอนาถ
หวิววนะหวาด หวามทุษะกรรม
แห่งทุระโม่ห์ โจระกระทำ
สาหัศะลำ บากดุจะวาย
๏ โอ้อุระกู ดูก็ประหลาด
อยู่คฤหาสน์ แสนจะสบาย
อยากดละที่ ชีวะมลาย
ใคร่เคราะห์ตะกาย กรรมะกระไร
๏ ยิ่งทุมนัศ อัดอุระตื้น
โศกะสะอื้น อัสสุก็ไหล
พักตระชุ่ม กลุ้มหฤทัย
ใคร่มุติภัย พ้นคณะพาล
๏ หวั่นวิปโยค โศกมนะพลาง
เพ่งณนภางค์ ทัศนะการ
เหตุอุปบัติ อัจฉริย์วาร
จินตนะนาน แน่นภะดล
๏ ฤกษะนิมิต พิศผิว์ฉะนี้
ไสยะวิธี ร่ายวระมนต์
พลันจะอุบัติ รัตนะฝน
แท้ทิพะธน เที่ยงอนุมาน
๏ ง่ายกิจะงาม พราหมะณะครู
พลางพิศะดู ดำริหะการณ์
ชีวิตะกู อยู่ก็จะลาญ
แหลกบมินาน แน่ละซิหนอ
๏ ศิษย์น่ะจะคอย หน่อยจะมิกลับ
ฤๅผิวะทรัพย์ ได้บมิพอ
โจระไฉน ไยนะจะรอ
กูละก็คอ ขาดละกระมัง
๏ ทนทุระเข็ญ เป็นนฤสุข
รับขะระทุกข์ สุดจะประทัง
กูก็ประสิทธิ์ วิทยะขลัง
ยอมดุจะดัง นี้ก็มิดี
๏ จำจะขยาย ร่ายวระเวท
มนตะวิเศษ ศาสตระวิธี
วรรษะอุทก ตกปถพี
โจรก็จะมี ความกรุณา
๏ ได้ธนะรัตน์ วัตถุอนันต์
แจกคณะปัน ต่างก็จะคลา
ปล่อยชิวะกู สูคฤหา
เลี่ยงละพญา มัจจุผจญ ฯ
อุปชาติฉันท์ ๑๑  
๏ ตริการณ์ประจักษ์ชัด สุมนัส ณ บัดดล
พราหมณ์ผู้พิเศษมนต์ ก็ประกาศกะโจรผอง
๏ ดูก่อนนิกรท่าน ผิวะท่านหทัยปอง
ประสงคะเงินทอง ธนะสาระสิ่งสรรพ์
๏ ก็จักสะดวกได้ ดุจะใจนิยมพลัน
เออเราจะให้บรร- ลุประสิทธิทรัพย์สม
๏ ไป่เป็นอุบายเจ- ตนะเล่หะลวงลม
เพราะมีวิชาคม จะกระทำก็เป็นมา
๏ เถอะแก้ประจากพัน- ธนะสรรพะตรึงตรา
ผ่อนกายสบายสา- ทระภัตตะการกิน
๏ อีกาคบอุทกชำ- ระสกนธะมลทิน
ธุลีละอองดิน รชะปราศสะอาดพรรณ
๏ และเราก็จักร่าย วระฤทธิเวทพลัน
ให้สัตรัตน์วรร- ษะปวัตตนาการ
๏ พวกโจรก็ดีใจ ขณะได้สดับสาร
และต่างก็ลนลาน อุปฐากกระทำตาม
๏ มิช้าก็สำเร็จ กิจะเสร็จประดุจพราหมณ์
มิปรารถนาความ สุขการะพร้อมสรรพ์
๏ เชิญพราหมณ์สถิตอา- สนะสูงและแบ่งพรรค์
พิทักษ์ระวังกัน ยละฤกษ์และคอยฝน ฯ
ฉบัง ๑๖  
๏ พราหมณ์ครูพลางดูฤกษ์บน โอมอ่านอิทธิมนต์
พระเวทวิเศษทันใด  
๏ บันดาลมืดมัวทั่วไป เมฆคลุ้มกลุ้มใน
นภาพิลึกเหลือหลาย  
๏ วิทยุปลาบแลบแปลบปราย อากาศประกาย
คะนองสนั่นครั่นครวญ  
๏ พายุพัดตรลบทบทวน แห่งห้องหาวหวน
คระโหยคระหึมครึมคราง  
๏ สารพัดอัศจรรย์หลากลาง ลพภูว์เพียงพาง
จะหล่มจะล่มแลพัง  
๏ อำนาจสิทธิเดชเวทขลัง บัดเดี๋ยวสมดัง
มโรรถะประสงค์  
๏ บังเกิดวลาหกตกลง ที่นั้นพลันบง
พิรุณก็หายทันใด  
๏ เกลื่อนกลาดดาษดาเต็มไป ด้วยรัตนามัย
ประมวลละล้วนแหล่หลาม  
๏ เงินทองกองแก้วแวววาม สุกสดงดงาม
ละสิ่งละอย่างพร่างพราย  
๏ ธนะสารสมบัติทั้งหลาย มั่วมูลมากมาย
ณ เมทนีดลสถาน  
๏ ปวงโจรเอิกเกริกเบิกบาน ต่างตนลนลาน
และกอบและเก็บตามกัน  
๏ รวบรมสำเร็จเสร็จสรรพ์ ปล่อยพราหมณ์เร็วพลัน
แสะต่างก็ต่างชุมพล  
๏ พากันกลับแหล่งแห่งตน โดยทางวนาสณฑ์
และพราหมณ์ก็ตามครรไล  
๏ วิถีถิ่นแถวแนวไพร จำเป็นจำไป
กะโจรก่อนจึงถึงทาง  
๏ ที่แยกกันได้ในกลาง ป่าเป็นอันวาง
กมลมิพรั่นอันใด  
ภุชงคประยาตรฉันท์ ๑๒  
๏ นิกายโจรและพราหมณ์จร พนันดรมิถึงไหน
ก็เกิดอันตรายใน ระหว่างมาอุบัติมี
๏ ประสบโจระอีกพวก ละล้วนพาละราวี
และต่างตนก็ตัวดี ดุกราดเกรี้ยวมิเกรงใคร
๏ สกัดซุ่มประชุมหมู่ ประทุษผู้จะมาไป
ณ ผลูพฤกษะพงไพร ประสงค์ทรัพย์เสมอมา
๏ ก็เร้นกายสงบศัพท์ ระงับซ่อน ณ ทางคลา
ระวังตัวระแวงตา ขมึงมองเขม้นหมาย
๏ ตระหนักเสียงสิมีคน และเดินด้นสถลชาย
พนัสชัฏถนัดหลาย ละแน่แล้วมิแคล้วไป
๏ และต่างตนก็เตรียมตัว บ่คิดกลัวอะไรใด
ตระเตรียมชุดและจุดไฟ สว่างโพลงโขมงเพลิง
๏ ก็ครบมือและถือสรร- พะอาวุธระวังเชิง
กระลึงมั่นกระสันเริง ฤดีเรียกและเพรียกเสียง
๏ ก็โห่ฮึกคะคึกห้อม สะพรั่งพร้อมสะพรึบเพรียง
ขนานหน้ากระดานเรียง ประชิดต่างระดมตี
๏ เลาะลัดโอบตรลบอ้อม ตลอดล้อมจะลอดหนี
ณ ช่องไหนก็ไป่มี และหมดทางจะต้านทาน
๏ นิกรโจระพวกก่อน ประมาทห่อนระวังวาร
จะป้องกันบทันกาล ก็แพ้พ่ายกระจายพล
๏ ประมวลหมู่มิติดต่าง วะวุ่นวางวะวิ่งวน
ละล้า ล่าละลานลน พว้าหน้าพะวงหลัง
๏ ปะป่วนป่นปะปนไป มิเป็นใครและใครฟัง
บได้ศัพท์ประสานดัง ประดาอึกกะทึกอึง
๏ ประชุมโจระพวกหลัง เหมาะท่าแล้วฉะนั้นจึง
กระโจนโถมกระโจมถึง ก็จับได้สะดวกดาย
๏ บเหลือเลยและแม้ถึง จะคนหนึ่งมิพึงหมาย
จะหลีกปลอดจะรอดกาย ตลอดจนทิชาจารย์ ฯ
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙  
๏ โจรพวกก่อนบมิพรางและพลางพจนะขาน
แก่หมู่อมิตรพาล ณ พลัน
๏ เราโจรท่านและก็โจรประดุจะกัน
รู้เชิงและรู้ทัน สกล
๏ ท่านจับเราก็เพราะจงประสงคะเฉพาะธน
เท่านั้นกมลหวัง แสวง
๏ อยากได้บ้างก็บังจะบอกยุบละแจง
ตามจริงจะคลางแคลง ไฉน
๏ จับเราไว้ก็มิได้ประโยชน์ผละอะไร
พราหมณ์นี่สิดีใคร จะปาน
๏ จับได้เถิดจะประเสริฐประสงคะธนะสาร
ทุกสิ่งผิว์ต้องการ ก็สม
๏ โดยแกมีพิทยาคมากระอุดม
ได้มนต์มหาพรหม ประสิทธิ์
๏ อาจให้ฝนทิพะธนปวัตตนะวิวิธ
สัมฤทธิจิต ปรารถ- ะนา
๏ พวกเราได้ก็เพราะใครเพราะพราหมะณะชรา
ร่ายมนต์วิเศษมา อุบัติ
๏ โจรพวกหลังขณะฟังก็แสนจะสุมนัส
โลภเจตนารัด หทัย
๏ จึ่งปล่อยโจรคณะเดิมประดาวิมุติภัย
ทั้งหมดและทันใด ก็คม
๏ พราหมณ์ครูไว้เพราะละโมบมหิจฉะก็ประชุม
ปลอบขู่และรุมขอ กะพราหมณ์ ฯ
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔  
๏ เวทัพพ์ทิชงค์สวนะพลัน อุระหวั่นวะหวิวหวาม
นิ่งขึงประหนึ่งสริระดาม ดรุท่อน ตะลึงดู
๏ หนีเสือสิมาปะจรเข้ เฉพาะเวระกรรมกู
พ้นปากพญามฤตยู ภยะแล้วบแคล้วไป
๏ มาพบประสบทุเคราะหะอีก สิจะหลีก ณ ทางใด
จำเป็นก็จำจิตะไข พจนารถะวิงวอน
๏ พ่อมิพึงมนะพิโรธ นฤโกรธและอาทร
ผ่อนโทษประทังทุษะปกรณ์ ดุจะข้าขมาขอ
๏ อันสรรพะทรัพย์ก็นฤสง- สยะคงจะได้พอ
ความปรารถนานิยมะรอ ศุภะฤกษ์นิมิตมาน
๏ บัดนี้จะร่ายวิทยะมนต์ ทิพะฝนมิบันดาล
ฤกษ์บน บ มีประดุจะกาล คณะโจระก่อนขอ
๏ ปีหน้า ณ ปลายสมยะขวบ ลุประจวบประจักษ์พอ
ร่ายมนต์จะมีธนะเพราะรอ อุปสรรคะขัดขวาง
๏ ผัดก่อนผิวกาลกษณะนั้น แลจะบรรลุลาภวาง
ใจเคืองประเทืองประนุทะจาง จิตะกุธประทุษกรรม
๏ ทวยโจรสดับ ทวิชะอา- จริยาภิยาจนดำ
ต่างตนก็ต่าง มุทะลุดำ- ริหะเดือด ณ ทันใด
๏ ดังอัคคิขันธะ ขณะกรุ่น นระก่อก็โพลงไฟ
คุกคามตะคอกผรุสะไข วจะว่ากะพราหมณ์ ครู
๏ เฒ่านี่กระนี้และนะอุเหม่ เหลาะแหละเล่หะลวงกู
เอื้อนอำอุบายพิเคราะหะดู บมิมั่นมิคงคำ
๏ พวกโน้น ประสงค์แหละเพราะไฉน ธนะได้สะดวกทำ
พวกเราอนาคตะ ฉนำ ลุและจึ่งจะบันดาล
๏ หวังคุณกรุณวิรุธะโทษ อประโยชน์ ก็ป่วยการ
ปล่อยไปและไว้ชิวิตะปราณ ก็บเห็นจะเป็นผล
๏ ว่าพลางก็เงื้อติขิณะตาว บทะก้าวและสุดพล
ฟันฟาดณมัชฌิมะสกน- ธะก็ขาด ณ ทันใด
๏ ริกริกสรีระทวิขัณฑ์ พิศะควรสลดใจ
ชีวาตมอนาถอนิจะใน ขณะนั้นก็พลันมรณ์ ฯ
อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑  
๏ ครั้นเสร็จกิจะปลง ทวิชงคะชีพรอน
จึ่งโจระนิกร ก็ประกาศกะกันพลัน
๏ ต่างอาวุธะครบ กรทายนิกายปัน
เตรียมเพื่ออนุพันธ์ คณะโจระพวกเดิม
๏ แซศัพทะกุลา- หละลาละวนเหิม
เอาฤกษ์ชะยะเสริม สุระโห่สนั่นไพร
๏ เร่งรีบจระถั่น บทะมรรคะตามไป
โจรก่อนสิคระไล บมิช้าก็มาทัน
๏ รุกไล่ปะทะหลัง แลบรั้งบรอพลัน
ไป่ฟังพจะพรร- ณนะขานประการใด
๏ โจตีมิละยั้ง มนะหวังจะเอาชัย
ต่างตนตะละใจ มุหะเหี้ยมอหังการ
๏ ฤๅผ่อนขณะพัก ปรปักษ์จะต้านทาน
หมายมุ่งจะประหาร ชิวะจ้วงทะลวงฟัน
๏ แย้งยุทธะพิฆาฏ บมิอาจจะหนีทัน
หักด้วยพละขัน พละเข้าตลุมบอน
ฟันฟาดระดะดาษ ศิระขาดตะลุมบอน
ปั่นกายะลุมรณ์ ยละน่าอนาถใจ
๏ กลาดเกลื่อนปถพี ฉวะชีวิตักษัย
ทั้งสิ้นและประลัย บมิเหลือจะรอดชนม์
๏ ครั้นแล้วทุระพา- ละก็เก็บก็รวมธน
แห่งโจระสกล ปะระพรรคะอันมรณ์
๏ เสร็จสรรพก็ประมวล พละชวนนิวัติจร
สู่ซ่องพนะดอน ดละกึ่งวิถีเผือน ฯ
กมลฉันท์ ๑๒  
๏ อุปบัติเหตุหา- ยนะภาวะมาเยือน
คณะโจระลืมเลือน มิตระพันธะไมตรี
๏ เพราะลุโลภะอำนาจ วิปลาสและต่างมี
พหุเจตนาปี- ฬิตะมุ่งละโมภครัน
๏ บมิยอมก็เกี่ยงแย้ง ขณะแบ่งและปันกัน
ตะละคนก็ดึงดัน ทะเลาะเชิงวิวาทชวน
๏ ธุระข้าแหละเหนื่อยยาก ธนะมากสิจึงควร
เกะกะโกงกระนี้กวน กุธะจิตบคิดเครง
๏ เฉพาะนี่สิของกัน และก็นั่นซิของเอง
ยุติธรรมะนักเลง ก็เหมาะแล้วมิถูกหรือ
๏ ตะละตนก็ต่างใจ ดุจะไฟกระโหมฮือ
กละห์เมธคาถือ ทิฐิต่างบยอมกัน
๏ และก็แยกก็ยกพวก ทวิภาคเสมอพรรค์
เอะอะโทษะโมหันธ์ ชุลมุน และวุ่นวาย
๏ ทวิหัตถะศาสตรา- วุธะคว้ากระลึงทาย
คณะตนกมลหมาย ชิวะหมู่ริปูตน
๏ ก็กระโจนกระโจมยุทธ์ อุตลุดและสับสน
มิระย่อมิท้อทน ปะทะเข้าประจัญบาน
๏ บมิเห็นกะชีวิต มนะคิดจะหักหาญ
พละใครผิว์ต้านทาน บมิได้ก็วายชนม์
๏ อวสานต์สมัยหยุด ยุคะยุทธะแย่งธน
คณะโจรประดาดล ชิวิตันตะรายราย
๏ ศพะเรียงระดาษกลาด ระกะขาดสกนธ์กาย
ศิระวิ่นและบ้างตาย เพราะประหารฟันแทง
๏ ทัศนาสินองโล- หิตะโอ้อนาถแดง
ตละภูมิพึงแสยง จิตะเยือกสยดยล
๏ คณนาอเนกเมือ ชีวะเหลือแหละสองคน
ทวิมิตรชไมชน ธนะสารพันผอง
๏ และก็รวบก็รวมห่อ พหุพอหทัยปอง
ทุระโจระทั้งสอง อนุจรอรัญคลา ฯ
วิชชุมาลาฉันท์  
๏ สองโจรครรไล มาใกล้เขตคาม
แห่งหนึ่งจึงความ หิวโหยมีมา
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยอ่อน จำผ่อนกายา
หยุดพักเพื่อหา ภักษ์ภุญชาหาร
๏ ซุกซอนซ่อนทรัพย์ ไว้ลับกำบัง
โจรหนึ่งจึงนั่ง รักษาธนสาร
เฝ้าคุมกุมดาบ คมปลาบปราบพาล
อันจักมาราญ รังแกรังกล
๏ อีกคนหนึ่งเล่า ถือข้าวสารไป
ยืมหม้อขอไฟ ตามหมู่บ้านคน
หาอาหารเพื่อ มาเผื่อเพื่อนตน
สั่งกนบัดดล โดยด่วนครรไล
๏ โจรผู้เฝ้าทรัพย์ กลายกลับความคิด
เหตุโลภหากจิต ให้แปรปรวนไป
มุ่งหมายร้ายกาจ ชีพฆาตมาทใจ
เพื่อมิตรบรรลัย เสียโดยเร็วพลัน
๏ หวนฮึกตรึกว่า แม้ถ้าเพื่อนกู
มีชีวิตอยู่ ลาภถอยน้อยครัน
๏ ทรัพย์ควรส่วนสอง จำต้องแบ่งปัน
ไปเป็นของมัน ภาคหนึ่งแน่นอน
๏ อย่าเลยอย่างนั้น เอามันไว้ไย
อ้ายเพื่อนจัญไร เหมือนกับหญ้าบอน
๏ ในกำมือเรา จักเอาชีพมรณ์
เมื่อไรคงรอน สำเร็จดังใจ
๏ จึ่งโจรจัณฑาล โหดพาลหีนเพศ
จองจิตจงเจตน์ ผลาญชีวาลัย
แห่งมิตรคิดว่า หากมาเมื่อไร
ฟันให้ตายไป ด้วยดาบทันที
๏ ฝ่ายโจรผู้ไป อยู่ในหมู่บ้าน
หุงหาอาหาร เห็นช่องคล่องดี
พลางปรารภพลัน ทรัพย์สรรพ์อันมี
เพื่อนคงชีวี ลำบากยากใจ
๏ แบ่งสรรพ์ปันสอง เป็นของเขาส่วน
นึกไปไม่ควร ให้มันทำไม
ยาพิษติดตัว อยู่กลัวมันไย
จักเจือเบื่อใน หม้อข้าวส่วนมัน
๏ ข้าวสุกสำเร็จ กินเสร็จสรรพแล้ว
จึ่งโจรใจแกล้ว โรยยาพิษพลัน
๏ ถือกุมภ์ดุ่มเต้า เร่งเท้าผายผัน
ถับถึงเพื่อนกัน ปลงหมอพอวาง
๏ โจรผู้คอยฆ่า สบท่าได้ที
ไม่ผ่อนให้มี เวลาท่าทาง
๏ เงื้อดาบโดดปราด ฟันฉาดขาดกลาง
กายดิ้นแด่วพลาง ชีวันบรรลัย
๏ เสร็จฆ่าเพื่อนแล้ว ผ่องแผ้วล้นพ้น
ค้นข้าวกินจน อิ่มหนำช่ำใจ
๏ พิษยาซ่าซ่าน เสือกคลานซานไป
โจรนั้นทันใด ถึงซึ่งความตาย
๏ เหลือแต่ทรัพย์สรรพ์ มากครันอันทิ้ง
เกลื่อนกลาดดาษกลิ้ง ตกอยู่เรี่ยราย
บรรดาโจรหาก โลภมากลาภหาย
ชีวาตม์วางวาย ดุจกล่าวแล้วมา ฯ
โตฏกฉันท์ ๑๒  
๏ คณโจระก็หาย ยละฝ่ายคะรุตน
ก็บมีเอะพิกล วิปลาศละซิหนา
๏ อนุกรมจระจัก- ษุมลักทศนา
ยละริมรถะยา- บถะเรี่ยระกะราย
๏ ธนะอากิณะสรรพ์ พหุภัณฑะกระจาย
พระประจักษ์กิจะหมาย มนะแม่นอนุมาน
๏ คะรุอาตม์เพราะมิเอา พจะเราอุปการ
กะนิกรหินะพาล นิระผลคุณะภาว์
๏ ธ และผองนระพรร- คะอนันต์คณนา
ลุพินาศนฤสา- ระประโยชนะผล
๏ อนุจรจรัล ขณะพลันพระก็ยล
ทิชะพราหมณ์วุฒิมนต์ ณวิถีถละคลา
๏ ทุระพาละพิฆาต ชิวะขาดธวิชา
สริราพยพะกา- ยะอนาถนิทระมรณ์
๏ พระก็เที่ยวละเลาะตัด ตะรุกัษฐะก็ทอน
และประกอบอุปกร กิจะอรรคะนิขันธ์
๏ อุปการะกะสา- ธนะฌาปนะพลัน
ธุระเสร็จพระก็สัญ- จระเก็บบุษบา
๏ อนุสรคุณะสาร และสการกสะมา
ครุด้วยจิตะคา- ระวะแล้วก็คระไล ฯ
อีทิสังฉันท์ ๒๐  
๏ พบประดาทุพาละชีพกษัย
แหละเกลื่อนระหว่าง ณ ทางธไป ประมาณหลาย
๏ ข้าวและหม้อก็ทิ้งกระจัดกระจาย
พระแจ้งประจักษ์มิพักฉงาย ฉงนความ
๏ การณ์ประกอบวิบัติอนัตถะตาม
ปวัตติมาก็น่าจะขาม และสังเวช
๏ ผองกะลีก็โลภะมูละเหตุ
มุหันธะจิตมหิจฉะเจตน์ ผจญผลาญ
๏ หน่อพิสุทธิพุทธะพงศ์ณวาร
แสดงสลดก็กล่าวอุทาน พระวาจา
๏ เชิญสดับคดีฤดีประสา-
ทะเนติ์ ณจันทพรรณนา เสนอกรรณ์ ฯ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑  
๏ โอเหล่ามนุษย์โลก ภพะโอฆอนาถครัน
โลภเหลิงละเลิงบรร- ลุพินาศฉกาจหนา
๏ ฟุ้งซ่านทะยานคิด ณอนิษฐะเหตุปรา-
รภเพื่อแสวงหา กิจะสิ่งประสงค์สรรพ์
๏ อันใช่อุบายชอบ มิประกอบระบอบธรรม์
ฤๅปราศประโยชน์อัน จะลุปรารถนาสม
๏ อยากได้สิเกินไป ผิว์บได้ก็เกรียมกรม
ยิ่งหาจะปรารมภ์ คติผิดและดำเนิน
๏ อีกใคร่จะได้ที่- บมิมีละโมภเกิน
ใช่ฐานะอย่าเพลิน ผิวะพลาดละเต็มที
๏ ถึงแม้ผิว์จักได้ ดุจะใจนิยมมี
อย่าเพ่อมะเมอปี- ติตะเกียกตะกายหา
๏ ใคร่ครวญจะควรเหตุ ผิว์ลุเจตน์จะนำมา
ซึ่งคุณประโยชน์ผา- สุกะผลประการใด
๏ ได้โดยประกอบโทษ อประโยชน์และนำภัย
มาสู่ดะนูใน ขณะหนึ่งก็พึงถอน
๏ อย่าหลวงพะวงตั้ง สติหยั่งประหยัดรอน
ห้ำหั่นและบั่นทอน ก็จะเปลื้องประเทืองเบา
๏ รู้สึกระลึกตน อกุศลกุศลเรา
จักอวยวิบากเอา- ธุระสุดจะเป็นไป
๏ คราวควรจะได้คง ลุประสงค์ บ เป็นไร
ดลคราวมิได้ใคร จะทะเยอทะยานหวัง
๏ ดังฤๅจะสำเร็จ ผละเผล็ดจะตึงตัง
ตื่นเหิ่มกระเหิมกัง- วละไปก็ป่วยการ
๏ ผลไม้วิสัยมัน รสะธรรมะชาติหวาน
ยังติดกะต้นวาร ผละดิบประดุจกัน
๏ ด้วยกินละพอเคี้ยว ก็จะเปรี้ยวแลฝาดครัน
รอสุกซิหวานมัน พิเคราะห์ดูไฉนดี
๏ อันโลภะโทษนั้น สิมหันต์อนันต์มี
เช่นฉันทวาที นยะเล่าแถลงมา
๏ โจรเจตะรัฐเหตุ สุภะเจตนาพา
เวทัพพะ พราหมณ์คลา ดละเพื่ออนัตถ์ภัย
๏ โลภมากก็ลาภหาย ชิวะวายวินาศไป
ควรจัดนิทัศน์ใคร ยละเยี่ยงพยานตรง ฯ
สัทธราฉันท์ ๒๑  
๏ ภาษิตปรารภก็จบลง วระทศะพละองค์
โพธิสัตว์พงศ์ ธ เลือกสรร
๏ ทรัพย์สิ่งทิ้งใคร บ เกียจกัน พิพิธะธนะและภัณฑ์
พจน์กะภารอัน จะนำไป
๏ กลับสู่เคห์คามะอาศัย มิละพิริยะหทัย
ถอยละทิ้งใน ประโยชน์สาร
๏ เพียบพูนไพบูลย์ ณบุญทาน นิยมะสุคติฐาน
ตามสะดวกการ- ณเป็นไป
๏ ครอบครองชีพิตสถิตใน มนุษะภพะสมัย
ควรกะขัยวัย ระหว่างมี
๏ ได้ยังข้อมรรคะอันดี ศุภะกุศละนิธี
บุญะราศี ณโอสาน ฯ
๏ สาธกชาดกพจมาลย์ เวทัพพ์นิทาน
ณบรรพะจบบริบูรณ์ ฯลฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ