วัสสานฤดู

กมลฉันท์ ๑๒  
นฤโฆษคะนองศัพ- ทะสดับคะเครงครืน
ณนภางคะกลางคืน ขณะบ้างก็กลางวัน
พละวายุพาเมฆ อดิเรกระเรียงรัน
ตะละก้อนและกลุ่มอัน ชระอุ่มคะคลุ้มฝน
ละเลาะฟ่องละล่องฟ้า จระฝ่าโพยมยล
แน่ะพยับชะอับจน ระวิจันทร์ก็เจื่อนแสง
บ สว่าง และบางที อสนีก็สำแดง
สุรฤทธิเริงแรง ระยะแลบปละแปลบหาว
และจะเห็นมิเว้นห่าง นภะคราง, ณบางคราว
เหมาะก็ผ่าก็ซ่าพราว พระพิรุณธโรยฝน
ผิวะใฝ่หทัยเฝ้า พิเคราะห์, เราก็ร้อนรน
เพราะฤดูสิสู้ทน ทรมานประมวลวัน
ก็มีน้อยและคอยแต่ ตริจะแปรจะเปลี่ยนผัน
ภพะ “อุณหภูมิ” อัน ระอุเฝือก็เหลือฝืน
วิเคราะห์เห็นเพราะเป็นตาม อุตุยามนิยมฝืน
คติเยี่ยงจะเลี่ยงขืน ละก็ขัดกะโลกเขา
ขณะนี้แหละที่นับ ณระดับฤดูเรา
ปะทะร้อนจะผ่อนเพลา และก็พลันจะสำราญ
ระบุวาระอาณัติ ดุจะวัตถุสัญญาณ
ยุติโดยบันดาล มรสุมสมัยมา
ประลุมาสและยาตรย่าง ณ ระหว่างและเวลา
ปริวรรตนะวัสสา- น ฤดูก็ดีใจ
รุจิจิต บ ผิดเรา นระเขาและใครไหน
ก็นิยมจะรมย์ใน ทินฤกษะเบิกเย็น
และก็ย่อมจะพร้อมชื่น มนะรื่นระเริงเป็น
สุขะกายสบายเพ็ญ พละภาพภิย์โยชนม์
ก็เพราะธรรมชาติช่วย ทะนุด้วยผดุงปรน
ประดิพัทธ์กะสัตว์คน และกะของแน่ะมองดู
ดรุพฤกษ์สะพรั่งหญ้า และลดาระดาษภูว์
ก็ผลิช่อละออชู ผลดอกและออกใบ
สระและบึง ณ บางแห่ง ชละแหล่งสิแลไป
ก็ปทุมกระพุ่มไพ- จิตรภาพพินิจเห็น
ณนภาทิชาพร้อง สรร้องจรัลเป็น
รมสุขมิทุกข์เข็ญ ยุคะร้อนจะผ่อนหาย
ฯลฯ ฯลฯ ลักษณาการ กลผ่านประสบภาย
ณวิถีและที่หมาย เหมาะจะเพ่งจะพึงมอง
ก็ประมวลละล้วนผา- สุกะสาวะภาพผอง
ผิพิจารณาตรอง จะตระหนักประจักษ์ใจ
เฉพาะอ้างแหละอย่างยิ่ง น่ะก็หญิงและชายใน
วยะสาวและหนุ่มไส- ยนะตื่นก็ชื่นบาน
บทจร ณ ตอนเช้า พิศเพราพะพราวปาน
บุษบาผกามาลย์ ณ สมัยอุทัยเทียว

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ