วัน ๓ ๗ฯ ๒ ค่ำ

วัน ๓ ๒ ค่ำ

๏ คุณท้าวอินเหลวใหญ่มิใช่หยอก เที่ยวบอกเลิกทรงบาตรเพราะท่านฝัน
ว่าจะมีเข้ากระทงเปลี่ยนตรงกัน ข้างในส่งคืนขันเสียหลายราย
จนสี่ทุ่มจึงเที่ยวบอกจะทรงบาตร ยังซ้ำคาดว่าคงจะทรงสาย
ไปเตรียมบนลานพระกะยักย้าย ต้องวุ่นวายแต่งที่ตะลีตะลาน
กว่าโมงหนึ่งจึงได้ทรงกลางชลา ที่ตรงหน้าพระที่นั่งดังไขขาน
พระร้อยยี่สิบเศษสังเกตการ พระราชทานธูปเทียนทั้งหีบดำ
ท่านสมภารวัดโพธิ์เปนผู้เถ้า อายุเก้าสิบแปดดูหงอมหงำ
ยังเดินได้ใจฅอก็แม่นยำ ไม่งมงำตาหูดูยังดี
เมื่อเดินเทียนเวียนได้ถึงสองรอบ จนเต็มบอบไปไม่ไหวจึงได้หนี
มารับบาตรที่ข้างในด้วยวันนี้ ชื่อท่านดีได้เปนอธิการ
ประทานเงินชั่งหนึ่งถึงขนาด เปนพระราชกุศลผลพิศาล
ท่วงทีจะอยู่ไปได้อิกนาน ไม่ซมซานปั๋งปั๋งยังแขงแรง
รับสั่งถามคุณท้าวอินเรื่องไฟไหม้ เมื่อไปเพ็ชรบุรีให้แถลง
ว่าติดขึ้นเพราะอะไรให้ชี้แจง ท่านทูลแจ้งว่าโคมลอยย้อยลงมา
รับสั่งว่าเล็กใหญ่เท่าไหนแน่ ท่านกางไม่เต็มแล้จนถึงอ้า
คุณท้าวภู่อยู่ที่นั้นผันหน้ามา ช่วยทำท่าอ้าเขื่องขลังเต็มที
ทรงบาตรเสร็จแล้วเสด็จยุรยาตร ข้างในตามประพาสสถานที่
ภูเขาขอบรอบองค์พระเจดีย์ จนสายแสงสุริยศรีสามโมงปลาย
เสด็จกลับมาประทับในนิเวศน์ ห้าโมงเศษรับสั่งให้ไปถวาย
เข้ากระทงพระสงฆ์สิ้นทุกราย ฉันแล้วหมายให้มารับสดัปกรณ์
บรมทนต์ทั้งพระทนต์ที่เชิญมา บนพลับพลาท้องพระโรงดังครั้งก่อน
พระสองร้อยหกสิบสองท้องนคร ทั้งที่จรจากภารามามัสการ
พระประถมเจดีย์เปนที่เก่า มีเรื่องเล่ามากมายหลายสถาน
นัยหนึ่งนั้นว่าพระยาพาน เมื่อสังหารพระยากงส์องค์บิดร
พอสิ้นชีพรีบไปถามยายหอม ที่ถนอมเลี้ยงรักษามาแต่ก่อน
บอกว่าเปนบิตุรงค์ทรงเดือดร้อน ซ้ำฟันฟอนยายหอมม้วยด้วยขัดเคือง
ว่าไม่ทูลให้พระองค์เธอทรงทราบ แล้วกลัวบาปเปนกำลังทั้งสองเรื่อง
ประชุมพระอรหันต์อนันต์เนือง ถามทางเปลื้องปลดกรรมที่ทำไว้
พระอรหันต์นั้นทูลให้ฐาปนา พระมหาเจดีย์ที่สูงใหญ่
กำหนดนกเขาเหินเดินขึ้นไป จะปลดเปลื้องกรรมให้ได้เบาบาง
ยังจดหมายของเก่าเล่าหลายฉบับ กำหนดมีสร้างนับเปนหลายอย่าง
ไม่ต้องกันฉันคิดคเนทาง คงสร้างบ้างซ่อมบ้างต่างจดไว้
เรื่องหนึ่งเล่าว่าพระเจ้ามาไสยาสน์ เห็นจะคาดตามที่เรียกหาจริงไม่
เขาเรียกว่าพระประทมมีถมไป มอญมักใช้อักษรต่ำคำจึงกลาย
หนึ่งกล่าวมาว่าบรรจุพระเขี้ยวแก้ว ภายหลังแล้วได้พระธาตุสมมาดหมาย
ทนานหนึ่งจึงบรรจุไว้มากมาย ยังตอนปลายเติมใหม่ได้ร้อยองค์
เมื่อคิดความตามที่มีเค้าเงื่อน ก็ดูเหมือนจะได้ความตามประสงค์
พระเจดีย์นี้เก่าเปนมั่นคง ไม่ต่ำลงมากว่าสองพันปี
จักรศิลาทั้งคาถาพิมพ์กระเบื้อง พอเปนเครื่องเทียบถนัดชัดถั่วนถี่
เมืองอินเดียเขาก็ได้ในเจดีย์ ชื่ออิสีปัตนะพระโบราณ
พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช สร้างสถูปแจกพระธาตทุกถิ่นฐาน
นครนี้คงจะมีไมตรีนาน จึงทำการให้ลม้ายคล้ายคลึงกัน
ทรงสัณฐานเจดีย์นี้แต่ก่อน เปนสามตอนชัดเจนเห็นได้มั่น
เดิมเปนเจดีย์กลมคมคายครัน แล้วพังเสียสิ้นทั้งนั้นอิฐกองนูน
แล้วมีผู้ศรัทธามาสร้างใหม่ จะโตใหญ่เหลือกำลังจึงตั้งสูนย์
เกลี่ยดินรอบประกอบเปนเค้ามูล ก่อเจดีย์ที่สมบูรณ์ขึ้นบนนั้น
ครั้นภายหลังพังอิกคราวที่สอง ชรอยเพียงปล้องไฉนไม่รู้มั่น
ถ้าไม่มียอดอย่างอินเดียนั้น คนสำคัญว่าทำลายจึงย้ายแปลง
เปนพระปรางค์อย่างใหม่ใช้แทนยอด ก่อกระไดขึ้นตลอดเปนอย่างแผลง
หลังเจดีย์ยอดพระปรางค์วางกำแพง กันพลาดแพลงเดินรอบประกอบไว้
ของเก่าเขาสูงสี่สิบวา ทรงสถาปนาเปลี่ยนรูปใหม่
สูงสามเส้นหกนิ้วแน่แก่ใจ สร้างวิหารลงใหม่ทั้งสี่ทิศ
รเบียงกลมสมควรเปนเครื่องล้อม ชักชนวิหารห้อมให้ต่อติด
ซุ้มระฆังยี่สิบสี่ไม่ถี่ชิด เติมกระเปาะก่อติดยื่นออกมา
มีโรงธรรมอุโบสถอยูู่สองหลัง พลับพลาโปรยทานตั้งอยู่ตรงหน้า
ทิศใต้มีเจดีย์แลศาลา ตวันตกต่อมามีต้นไม้
ถ้วนเจ็ดต้นชั้นบนโพธิ์ลังกา ทิศเหนือคลังแลศาลาที่อาศรัย
คนที่มามัสการสำราญใจ เที่ยวเดินไปเหนื่อยอ่อนได้ผ่อนพัก
หว่างกระเปาะทั้งสี่มีภูเขา แล้วข้างหนึ่งแต่ว่าเก่าซุดโซมหัก
หน้าเขาปลูกโพธิ์ใหม่ใหญ่โตนัก ถัดไปกำแพงชักเปนปีกกา
ถ้าดูทั้งกำแพงนี้เปนสี่เหลี่ยม ระเบียงเทียมอย่างเขมรเห็นสง่า
กั้นรอบนอกไปอิกชั้นถัดกันมา แต่บันดาที่ได้เห็นเปนเช่นนี้
ต้นไม้ใหญ่ในสถานลานภายนอก เปนไม้ดอกร่มรื่นตามพื้นที่
รวยรื่นกลิ่นเกสรสารภี ดลรดูดอกมีเหลืองกลาดไป
ขนุนต้นหนึ่งใกล้บันไดนาค มีลูกมากห้อยย้อยยังไม่ใหญ่
เบ็ดเสร็จมีสักสิบสี่สิบห้าใบ ฉันอยากได้มาเล่นน่าเอนดู
มตูมเตี้ยต้นหนึ่งก็ลูกติด ยังนิดนิดงามดีไม่มีคู่
แสนสนุกละที่เขาเข้าถ้ำคู ถ้าตุ๊กตายังอยู่จะน่ารัก
ยังอยู่แต่ปราสาทราชฐาน คชสารคนร่วงงวงงาหัก
ต้นพฤกษาโซมตายเสียดายนัก ขอหยุดพักพล่ามใหญ่ไว้สักครั้ง
เย็นวันนี้มีที่เสด็จประพาส ชมตลาดฉันตามไปข้างหลัง
ออกประตูเลี้ยวทางไปข้างวัง คับคั่งเกวียนจ่ายเรียงรายไป
บ้างก็ขนสิ่งของกองบันทุก น่าสนุกคนผู้ดูไสว
ถึงท้ายวังยังตึกที่ทำไว้ เปนที่ได้เสด็จพักตำหนักนาน
ไปจากนั้นนิดหนึ่งถึงตลาด เปนโรงจากมิได้ขาดระยะย่าน
ติดกันกว่าห้าสิบห้องประมาณ สองข้างร้านของขายรายเต็มไป
เครื่องใช้สอยสารพัดไม่ขัดข้อง แม้จะต้องการอันใดก็หาได้
ทั้งของกินเล่าก็มากไม่ยากใจ วางขายไว้จนเหล่าพวกเข้าแกง
ต่อออกไปไม่มีโรงที่กลาง มีแต่โรงสองข้างขายของแห้ง
ราวหกสิบโรงได้ไม่คลางแคลง จนกะรองกะแร่งอยู่ตอนปลาย
พอสุดโรงแถวเสร็จเสด็จกลับ มาทางเดิมโดยลำดับค่อยผันผาย
ทรงซื้อโถจะประทานให้เจ้านาย เจ้าของเขาบอกถวายไม่ทรงรับ
อิกหน่อยหนึ่งถึงเด็กแฝดทั้งคู่ ไม่น่าเอนดูผอมผ่อยหงอยหงุบหงับ
นมแม่ไม่พอกินไร้สินทรัพย์ เสด็จกลับเลยขึ้นพระเจดีย์
มัสการตามวิหารทั้งสี่ทิศ แล้วพระสนิทสมภารที่อยู่นี่
ถวายเทศน์ทรงธรรมแล้ววันนี้ ตั้งบายศรีมีแว่นเวียนเทียนพระ
จนราตรีไม่มีคนพอรายนั่ง จึงรับสั่งว่าอย่าเลยจะเอะอะ
ทรงเดินเทียนตามเคยไม่เลยละ แต่ว่าจะใช้แว่นแทนเทียนราย
พราหมณ์โหรามาพร้อมน้อมคำนับ จุดเทียนสรรพจับแว่นส่งถวาย
ทูลกระหม่อมสามพระองค์อิกเจ้านาย เสด็จผายผันพระพักตร์ทักษิณพลัน
อันทางรอบพระเจดีย์นั้นสี่เส้น ประมวญเปนสิบสองถ้วนไม่ผวนผัน
ครบสามรอบพราหมณ์รับดับโบกควัน เจิมจุณจันทน์ตามวิธีที่เคยใช้
แล้วจึงพระฝ่ายคณะธรรมยุติ มาเดินเทียนเปนที่สุดสามรอบใหม่
แล้วทำวัตสวดมนต์อิกต่อไป เสด็จครรไลจดดอกไม้เหมือนเมื่อวาน
เสด็จกลับสองทุ่มถึงพระที่นั่ง ดำรัสสั่งครอกผอบรับบรรหาร
จัดเงินสี่สิบบาทพระราชทาน ด้วยสงสารเด็กแฝดทั้งสองนั้น
ส่วนข้างในได้มาตามเสด็จนี้ ต่างยินดีเลื่อมใสเฝ้าใฝ่ฝัน
จะทำบุญรายตัวให้ทั่วกัน ออกเงินบาทรวมพันหกร้อยปลาย
อุทิศไว้ในองค์พระประถม ต่างมีจิตต์ชื่นชมด้วยสมหมาย
มาครั้งนี้เปนที่สนุกสบาย ที่เมามายเรือรถหมดตำรา
มีคนเดียวที่ไปอิกไม่ได้ เมายิ่งใหญ่กว่าทเลไม่แกล้งว่า
ไม่มีใครได้เคยเห็นแต่เกิดมา ต้องกลับกรุงในเพลาพรุ่งนี้เช้า
รับสั่งล้อทูลกระหม่อมจะให้กลับ ไม่ทรงยอมเถียงยับไปจนเก่า
ทูลหม่อมใหญ่แว่นก่อนส้อนเบาเบา ทูลหม่อมเล็กไม่ทุเลาเล่นถึงแจ
ทูลหม่อมโตโฮใหญ่ขึ้นภายหลัง ไปทรงชังสมเด็จเสียเต็มแก่
ทูลหม่อมเล็กเลยไม่ให้ใครตอแย ทรงเก่าอึ้งบึ้งแต้จนตกเย็น
สิ้นเท่านั้นวันนี้ฉันขอจบ ด้วยหาวนอนเกือบสลบเปนเหลือเข็น
เขียนยังค่ำทำจนดึกมิได้เว้น จะต้องนอนไว้ไปเห็นอื่นต่อไป ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ