วันที่ ๑ ๑๒ฯ ๒ ค่ำ

วันที่ ๑ ๑๒ ๒ ค่ำ

๏ เมื่อตอนเช้าปรอทหนาวหกสิบสี่ มากกว่าเมื่อคืนนี้นับขีดขาน
แต่ร้อนนั้นราวกันกับเมื่อวาน แต่อายแดดดูประมาณไม่จัดนัก
เวลาบ่ายเสด็จลงสรงสนาน เหมือนเมื่อวานว่าไว้ได้ประจักษ์
แต่ไม่นานสรงอยู่สักครู่พัก เสด็จคืนสู่สำนักที่นั่งใน
พอบ่ายสี่โมงครึ่งถึงเวลา ก็เสด็จไคลคลาหาช้าไม่
ทรงเรือคอนโดเล่อล่องลงไป ยังบ้านไร่ใต้น้ำกาญจน์บุรี
นาวาล่องมาตามท้องนทีธาร เห็นเรือพ่านจอดหลามตามวิถี
เรือในกรุงจอดคุ้งฟากข้างนี้ เรือค้าขายรายที่ข้างหน้าเมือง
ไปหน่อยหนึ่งถึงแพรกแม่น้ำน้อย แลเห็นดอยยาวตั้งอยู่ข้างเขื่อง
ไม้ตะพดขึ้นสพรั่งประนังเนือง แลออกเหลืองไปทั้งเขาดูเข้าที
ถึงหาดทรายปลายแหลมเลียบเข้าจอด ตะพานทอดเทียบเข้าไปได้ถึงที่
เดินตามหาดทรายล้าช้าเหลือดี สักสามสี่เส้นได้ไปพลับพลา
อย่างยี่ปุ่นปันไว้ข้างในข้างนอก เข้าโพดรอบรายดอกดกนักหนา
แก่เสียมากด้วยว่าเนิ่นเกินเวลา ต้องเสาะหาเปลือกเขียวเหลียวชำเลือง
แตงอุลิตติดจะน้อยในไร่นอก ฉลากบอกไว้มีที่สุกเหลือง
ฉันมองดูกลิ้งอยู่ออกนองเนือง แต่ลูกเขื่องเต็มทนจนปัญญา
ที่แถวถั่วฝักยาวขาวเปนพืด เห็นเปนยืดยืนเก็บมานักหนา
ที่ริมนี้มีต้นพริกชี้ฟ้า ทั้งพริกล่อนก็เอามาเปนเครื่องแกง
เจอะมะเขือลูกเดียวเจียวทั้งไร่ พบต้นงางงไปไม่รู้แจ้ง
ต่อถามไต่ได้ความไม่คลางแคลง เม็ดยังแดงเพราะไม่แก่แต่เห็นเค้า
พบยายกริมริมกระท่อมค่อมมาหา แกบอกว่าปลูกแตงต้องหยอดเท่า
ทั่วทุกหลุมมิให้ว่างได้จึงเบา หาไม่เต่ามากินสิ้นทั้งนั้น
ฉันเข้าใจหมายว่าเต่าในน้ำแน่ ไปอือออเสียออกแย่นึกก็ขัน
ถามต่อไปว่าทำไมไม่จับมัน ไปให้ปันซื้อขายสบายดี
แกบอกว่าเต่าบกตัวเหลืองเหลือง นึกว่าเรองเต่ากูบเช่นที่นี่
/*ถามแกใหม่ว่าเขาใช้กินกันมี คนที่นี่เขาไม่กินกันฤๅไร
แกบอกว่าตัวมันเล็กเหลือจะจับ ปีกแขงเหมือนแมงทับกินไม่ได้
เล็กเท่าปลายนิ้วก้อยบินก่ายไป จึงเข้าใจว่าเต่าทองทึ่งเกือบตาย
แต่ปลูกไปก็ไม่ได้ต้องรดน้ำ จนถึงกำหนดลูกเติบโตหลาย
ต้องเอาลูกที่ดกลงหมกทราย หาไม่หายหวานโสกโพรกแดดไป
แรกปลูกใหม่ในเดือนสิบเอ็จสิบสอง ไม่ขัดข้องคราวดีสี่เดือนได้
ของยายกริมเคยทำได้กำไร สิ้นทั้งไร่ตลอดปีสี่ห้าร้อย
แม้ถูกปีที่ไม่ดีเปนคราวขาด ได้เพียงยี่สิบบาทก็บ่อยบ่อย
แล้วกล่าวโทษเจ้าเมืองจ้ำร่ำตบอย ว่าโลภใหญ่ใช่น้อยหยุมหยิมนัก
เล่าว่าเขาวังหีบมีเสือใหญ่ ที่ข้างไร่เคยได้ยินเสียงตระหนัก
พระยาพลับพลาเคยมายั้งหยุดพัก ขัดจั่นดักตั้งห้างค้างหลายคืน
คิดอย่างไรกไม่ได้ต้องไปเปล่า ด้วยว่าเปนเสือเจ้ามิใช่อื่น
เจ้าแม่นี้ศักดิสิทธิฤทธิยั่งยืน ใครไม่อาจขัดขืนต้องเคารพ
แกบูชาขมาโทษท่านทุกวัน จึงคุ้มกันไว้มิได้ให้เสือขบ
มักมาร้องก้องป่าเวลาพลบ เงียบเมื่อใดคงได้พบทุกวันไป
พระราชทานเงินตราห้าตำลึง ได้เก็บแตงหน่อยหนึ่งหามากไม่
เปนได้มากเต็มทีแกดีใจ นั่งทุ่มเหวพวกข้างในใส่พอแรง
ว่าช่างงามนี่กระไรไม่เคยเห็น ดูเหมือนเช่นกับละคอนเขาตกแต่ง
ชวนร่ำไปแต่จะให้เที่ยวเก็บแตง ประจบประแจงทั่วหน้าไม่ว่าใคร
พอสิ้นแสงสุริยาก็คลาคลาศ ออกจากหาดทวนมหาชลาไหล
น้ำเชี่ยวตืดฝืดช้าเหลืออาไลย จนสองทุ่มจึงได้ไปถึงพลับพลา
การทำไร่ในกาญจน์บุรีนี้ พื้นที่อุดมดีเปนหนักหนา
มีชื่อเสียงดังไปนั้นไรยา ที่เรียกว่าเกาะกร่างเปนอย่างดี
เปนที่สองรองเมืองเพชรบูรณ์ ถามไต่ได้เค้ามูลมาถ้วนถี่
วิธีทำไร่ยาตำรามี พวกเมียจีนเมืองนี้เขาบอกมา
ว่าลงมือพวนดินในเดือนหก เอาแกลบโปรยเม็ดหมกเหมือนตกกล้า
ไม่เว้นงดรดน้ำทุกเวลา ครบเดือนหนึ่งจึงเอามาปลูกชำไว้
ยี่สิบวันบรรจบจึงยกร่อง แล้วก็ต้องหยุดยี่สิบวันใหม่
ถึงกำหนดเด็ดยอดแล้วยั้งไป กึ่งเดือนได้ลิดแขนงให้แต่งตัว
ต่อนั้นไปในกำหนดเจ็ดวันครั้ง ลิดแขนงถ้ายั้งแล้วยาชั่ว
ครบเจ็ดวันเจ็ดคราแล้วอย่ากลัว ใบยาจะหนาทั่วถูกวิธี
แต่ปลูกใหม่มาได้ร้อยทิวา ถึงเวลาเก็บใช้เปนได้ที่
จึงเก็บใบใกล้ดินที่แก่ดี สามราตรีบ่มไว้ให้สุกพลัน
แล้วฉีกก้านเก็บแต่ใบที่ใช้ได้ ม้วนใหญ่ใหญ่เอามาขึ้นม้าหั่น
ผึ่งแดดวางตากน้ำค้างไว้สามวัน ตัดเปนอันอันตามกระบวน
ห้าอันซ้อนกันนับเปนตั้ง ยาลังลังใหญ่นั้นไม่ผันผวน
สามพันร้อยห้าสิบอันปันจำนวน หกร้อยสามสิบถ้วนทางตั้งนับ
ยาริมดินเลวไปสูบไม่ได้ ถึงกลางต้นพอใช้ไม่จำหนับ
ต่อใบยอดอย่างดีที่บังคับ ขายราคาว่าลำดับเอกโทตรี
ยอดยาดีนั้นว่ามีต้นละใบ แล้วยังไม่เหมือนกันไปทุกที่
ต่อบางไร่เจ้าของไร่บำรุงดี จึงจะมีน้ำมันมากไม่ผากคลาย
อันไร่ยาถ้าทำถึงสามปี ต้องเปลี่ยนที่เพราะว่าจืดจำขยาย
ยาเมืองนี้ปีหนึ่งออกมากมาย เคยจำหน่ายทุกปีมากว่าหมื่นลัง
แต่พวกไทยไม่ใคร่จะทำมาก เพราะลำบากจู้จี้เปนที่ตั้ง
จีนเขยสู่เปนผู้ทำประจำรัง สิ่งอื่นยังมีบ้างในทางนี้
ยังไรฝ้ายไร่อ้อยน้อยไม่มาก เพราะโรงหีบหายากอยู่ที่นี่
ถึงว่าอ้อยตาลพานจะดี ก็ไม่มีทุนทำจำต้องงด
ยังไรพริกมากมีที่ศรีสวัสดิ์ ผลไม้ข้องขัดอยู่ข้างอด
ส้มโอกล้วยเปนดีของมีรส แต่กินหมดกันไปในเมืองนี้
จนหมากพลูก็อยู่ข้างจะขัดสน แม่กลองต้องทนส่งมาถึงนี่
นาเข้าทำไม่ใคร่จะได้ดี กินเข้าที่หนองขาวแลบ้านน้อย
มักวิบัติขัดข้องด้วยน้ำท่า เข้าปลาไม่ใคร่ดีมีบ่อยบ่อย
ต้องกินเข้าต่างเมืองฝืดเคืองคอย เข้านับร้อยเกวียนมีที่เข้ามา
ส่วนคนไทยเลิกนาแล้วหาฝาง ไม้แดงเสาส้างเที่ยวเสาะหา
ไม้สักไม้เต็งรังตั้งตัดมา ไม้ไผ่ป่าไม้รวกหลายร้อยแพ
บันทุกเกวียนขนลงสู่ท่า แล้วปล่อยลอยล่องมาตามกระแส
แต่ไม้สักข้างนี้ไม่ดีแท้ มีอยู่แต่ตามระยะสระสี่มุม
ส่วนผักปลาหาไม่ได้ถึงขายซื้อ จำนวนชื่อที่ว่าเปนเห็นเกลื่อนกลุ้ม
ปลากระพากปลาตะเพียนพอมีชุม ปลากดปลาเค้าคุ้มค่าคนกิน
แต่ปลาดุกปลาช่อนชั้นปลาหมอ ต้องเที่ยวถ่อมาแต่ราชบุรีสิ้น
คนในเมืองนี้ก็ไม่ใคร่จะชิน ไม่เปนถิ่นสินค้าข้างปลาเลย
เอะเพ้อไปได้เปนกองพึ่งรู้สึก นี่มิดึกแล้วฤๅทำเจียวกรรมเอ๋ย
ขอจบทีเพียงเท่านี้ต้องลงเอย ไว้เฉลยต่อไปในพรุ่งนี้ ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ