วัน ๓ ฯ๑๓ ๒ ค่ำ

วัน ๓ ๑๓ ๒ ค่ำ

๏ จากท้องช้างมาวันนี้สี่โมงครึ่ง ชั่วโมงหนึ่งวังกระแจะพอจวบใกล้
เพราะฝีพายถูกเอ็ดจึงเข็ดไป ไม่ปล่อยไหลลอยลงมาตามวารี
พอเที่ยงครึ่งถึงแก่งสารวัด แปลกถนัดนึกว่าไม่ใช่ที่นี่
เห็นศิลาโผล่ขวางกลางนที หลายก้อนมีรายระระกะไป
เมื่อขามานึกว่าเขาตื่นเต้น ยังไม่เห็นขึ้นลำบากยากตรงไหน
ศิลาปริ่มริมน้ำเห็นรำไร กลัวเกินไปกว่าที่จริงแต่นิ่งฟัง
พึ่งเห็นสองวันนี้ว่ามีมาก ถึงทั้งยากก็ไม่เข็นเช่นครั้งหลัง
ไม่เอะอะอออึงเสียงตึงตัง บางทีนั่งเผลอไปไม่ทันรู้
บ่ายวันนี้หนอช่างร้อนจนอ่อนจิตต์ ปรอทชิดเก้าสิบเอ็จจนเข็ดอยู่
นานนานทีมีพระพายชายชื่นชู พัดอู้อู้พอรงับกลับร้อนรน
ถึงลุ่มสุ่มคลุ้มฟ้านภาพยับ ดูอ้าวอับลมหวนชวนเปนฝน
บ่ายสามโมงสี่สิบห้าก็มาดล ดูเร็วกลกันกับว่ามาเรือไฟ
เขาเห็นว่าเสด็จมาถึงแต่บ่าย จึงถวายทางประพาสจากหาดใหญ่
สู่บ้านลุ่มสุ่มตั้งหลังขึ้นไป ทางไม่ไกลครู่หนึ่งก็ถึงเรือน
มีหลังเดียวกับยุ้งเข้าเน่าปรากฎ จึงได้งดไม่เสด็จเข็ดเปรอะเปื้อน
จะไม่ว่าพลับพลาทิ้งนิ่งแชเชือน แต่ฟั่นเฟือนเลอะไหลไม่ได้การ
พลับพลานี้มีปะรำลำเรือจอด กว้างตลอดปูลาดสอาดสอ้าน
ดาดใบไม้เปนปะรำทำเพดาน ที่กลางย่านนั้นมีที่อาบน้ำ
กันเปนกรงลงไปที่ชายหาด น้ำขนาดเพียงน่องท่องเย็นฉ่ำ
มีข่ายลวดขึงตรางวางประจำ เห็นคล่ำคล่ำหมู่มัจฉาว่ายมาไป
ล้วนปลาซิวปลาแขยงลัดแลงลอด จำต้องตอดตามเช่นเว้นไม่ได้
น้ำเชี่ยวคว้างอย่างจะคล้อยลอยครรไล เปนน้ำใสพื้นหาดลาดกรวดทราย
พลับพลาบกยกขึ้นไปไว้บนหาด ประรำขาดกับข้างล่างห่างขยาย
ต้องขึ้นหาดสูงเหินเดินตกาย พลับพลาบ่ายหน้าขวางข้างนที
เหมือนแห่งอื่นยืนตำราเช่นว่าก่อน เปนแต่ผ่อนกันฝาเข้ามาถี่
เปนสามตอนท่อนหน้าท่าก็ดี กันมุลี่เฉลียงโถงโปร่งด้านใน
ห้องเข้าที่มีพระแท่นตั้งแน่นอัด ดูร้อนจัดจนประทับแทบไม่ได้
เพราะหาดต้องแตดตลบอบเข้าไป ผ้ากันใกล้บังพระพายไม่ชายเชย
พอแดดดับเปนพยับพยุฝน ครวญคำรนกระหึมฟ้าเจ้าข้าเอ๋ย
ลมยิ่งจัดพัดรุดไม่หยุดเลย จนปัดเผยผ้าค่ายกระจายฟู
สายวิชชุลดาเข้าตาแปลบ เปนไฟแวบวาบจ้าฝนซ่าซู่
บัดเดี๋ยวหย่อนผ่อนร่ำตกพร่ำพรู ไม่ร้างรู้สักกี่รื้ออื้อสำเนียง
ฟ้าคนองในนภางค์ครางครั่นครื้น ยิ่งกว่าปืนใหญ่ลั่นสนั่นเปรี้ยง
ดูยังสายอสนีลงที่เคียง รู้ว่าเลี่ยงหลีกไม่ได้ใจยังกลัว
พลับพลาทำไม่สำหรับจะรับฝน ทุกแห่งหนตามเหล่านี้มีแต่รั่ว
หากว่าตกไปยังรุ่งจะนุงนัว นี่รอดตัวตกไม่ถึงกึ่งราตรี
เมื่อเสด็จถึงพลับพลาเวลาบ่าย กะเหรี่ยงหลายคนพากันมานี่
ของถวายชายข้างจะอย่างดี ด้วยว่ามีเสือผู้หญิงเปนสิ่งงาม
อยากทรงทราบเรื่องกะเหรี่ยงเลี้ยงชีวิต จึงได้คิดซักไซ้ไล่เลียงถาม
เปนข้อข้อพอให้ได้ใจความ ฉันเรียงตามจดหมายถวายมี
กะเหรี่ยงนี้มีชาติหนึ่งต่างหาก รูปไม่หลากกันกับไทยในทรงสี
แต่ภาษาต่างแตกแปลกวิธี รู้พาทีภาษาได้ทั้งไทยมอญ
ประพฤติกายคล้ายกันหมดทั้งสิ้น เข้าที่กินทำไร่ใช้ผันผ่อน
อาศรัยฝนทนทำในที่ดอน คอยแต่ต้อนสัตวร้ายทำลายรวง
ครั้นแก่เกี่ยวเก็บซ้อนเปนฟ่อนมัด แล้วฟาดฟัดไปให้ป่นจนเมล็ดร่วง
แล้วซ้อมเปนเข้าสารไม่ขายตวง เปนแต่หวงเก็บไว้กินจนสิ้นปี
กับเข้านั้นสัตวป่าทั้งปลาผัก ทั้งจับดักหนูอ้นจนป่นปี้
กับเข้าทำซ้ำอย่างทางวิธี ทาเกลือจี่ปิ้งไฟใช้เปนพื้น
ถ้าแม้ปลาหาได้ใช้ต้มย่าง บ้างหมักค้างเปนปลาร้าจนราหืน
เกลือกระปิเปนเวลามาไม่ยืน ลูกค้าอื่นมาจำหน่ายขายเปนรดู
ผลไม้เผือกมันพรรณแฟงฟัก อิกแตงผักทั้งสิ้นปลูกกินอยู่
น้ำตาลรสเปนอย่างไรเกือบไม่รู้ ต่อมีผู้บันทุกไปจึงได้กิน
การแต่งตัวหัวไว้ผมมวยหมด แต่เกล้าลดทางท้ายทอยหน่อยหน่อยสิ้น
ถ้าป่วยไข้โรคาเปนราคิน ก็มักสินลงถึงโกนโล้นก็มี
เด็กเด็กใช้ไว้เปียเปนเจ๊กบ้าง มีห่างห่างไว้เล่นเปนการอี๋
ผู้ชายใช้สวมแต่เสื้อเห็นเหลือดี เห็นที่มีนุ่งผ้ามาก็ชุม
ใช้ส้าโหร่งตาโก้งลายต่างต่าง บ้างนุ่งกางเกงสอดตลอดหุ้ม
ส่วนที่ผมมวยนั้นผ้าพันคลุม ที่ห่อหุ้มไปทั้งหัวไม่ทั่วกัน
ส่วนผู้หญิงนุ่งซิ่นทุกถิ่นฐาน เสื้อสครานสอดแสงชอบแดงฉัน
ปักลูกเดือยหลายอย่างมีต่างพรรณ ใช้ปักคั่นลวดลายหลายทำนอง
ผมมวยมักแสกกลางหว่างกระหม่อม น้ำมันหอมนั้นมพร้าวซาวไม่หมอง
ทั้งหญิงชายไม่มีเว้นเห็นทั้งกอง เจาะหูช่องสองข้างกว้างกะไร
มีตุ้มหูเช่นต่างอย่างม้วนสอด เงินตลอดจนทองเหลืองเปนเครื่องใส่
สักหลาดแดงบ้างอย่างเลวไป สร้อยฅอใช้หลายสิ่งทั้งหญิงชาย
ล้วนลูกเดือยลูกปัดจัดเรียงร้อย ทำเปนสร้อยผูกสอดตลอดสาย
ห่วงเงินสวมคอไว้ใช้มากมาย ดูคล้ายคล้ายญวนใช้ใส่ชินตา
เรือนกะเหรี่ยงไล่เลียงเอาความได้ ใช้เสาไม้แก่นบ้างห่างห่างหา
เสาไม้ไผ่นั้นเปนพื้นดื่นธรรมดา มุงหลังคาไม่ใคร่แปลกแฝกทั้งนั้น
ไม้ไผ่ผ่าหายากไม่มากหลัง ฝาแตะบังบ้างใช้ไม้ไผ่กั้น
มีระเบียงชานทอดตลอดกัน ครัวไฟนั้นตั้งไว้ที่ในเรือน
ยุ้งเข้าไว้ใกล้ที่นอนอิกตอนหนึ่ง ฝาแล่นถึงเรือนอยู่ดูรูปเหมือน
อุส่าห์ทอผ้าใช้ไม่แชเชือน มีกลาดเกลื่อนฟูกหมอนที่นอนปู
อันหยูกยาที่รักษาเมื่อเจ็บไข้ ก็บอกให้สืบกันมาแต่ย่าปู่
วิชาแพทย์หมอไม่มีใครรู้ เคยทำอยู่แต่ทางข้างผดุงครรภ์
แม้นคลอดลูกอยู่ไฟใช้นอนพื้น เพียงเจ็ดคืนอย่างช้าไม่กว่านั่น
รกเด็กกรอกกระบอกไม้ไปฝังกัน ไม่ฉนั้นซอกคบไม้ไว้ก็มี
อันโรคาที่รักษากันอยู่ได้ คือจับไข้คลอดลูกทำถูกที่
โรคผิวหนังนั้นยังไม่เคยมี คนพวกนี้เด็กผู้ใหญ่มิได้เปน
สำหรับบุรุษอย่างไรไม่รู้จัก จนถามซักไม่มีใครได้เคยเห็น
มีโรคจรจำลำบากต้องยากเย็น ไม่ว่างเว้นถ้าถึงตายวายชีวี
โรคพยุปัจจุบันนั้นขยาด กับฝีดาดถ้าแม้เปนแล้วเล่นหนี
ฤๅพาไปทิ้งไว้ในพงพี กำลังมีอยู่ไม่ตายวายชีวา
เมื่อคราวหลังรับสั่งให้ปลูกไว้ ได้พ้นไภยไปไม่น้อยถึงร้อยกว่า
คราวเสด็จครั้งนี้หนองมีมา ก็ทราบว่าปลูกให้ไว้เหมือนกัน
หมากพลูรู้จักกินกันมาก ซื้อลูกค้ามาจากในเขตรขัณฑ์
หายางไม้เปอชี่ใช้สีฟัน ดำเปนมันไปทั่วทุกตัวคน
ต้นหมากมีที่สระสี่มุมบ้าง แต่เปนอย่างขายไม่ได้ใช้ขัดสน
ต้นพลูมีอยู่ทุกตำบล เขาปลูกจนพอใช้ไม่กันดาร
ปูนขาวเขาเผาใช้ไม่เจือขมิ้น ไม่เคยกินกัดยับจนกลับบ้าน
ต้นยาสูบปลูกไว้พอใช้การ แต่ว่าพานจืดไปไม่ฉุนแรง
สาสนาว่าถือพระพุทธเจ้า แต่ข้อเค้าปฏิบัติไม่ชัดแจ้ง
จนศีลห้าถามไต่ให้แสดง ก็เคลือบแคลงเหลวไปไม่ได้ความ
อันสวดมนต์ขึ้นต้นอุกาสะ แล้วเละละต่อไปต้องไต่ถาม
ว่าเปนภาษากะเหรี่ยงเสียงโครมคราม ไม่ใช้ตามคำมคธบทบาฬี
ว่าบางคนมีศรัทธามาบวชบ้าง แต่เลยค้างอยู่ไม่กลับไปที่
มีทั้งโพธารามกาญจน์บุรี ที่ถือผืนั้นก็มากหลากหลากกัน
ผีทุ่งกว้างนางไม้ในพฤกษา ทั้งเจ้าดงพงป่าพนาสัณฑ์
เข้ารคนสาสนาพาพัวพัน เปนเส้นไหว้ไปทั้งนั้นในวิธี
สิ่งสินค้าขมิ้นชันพรรณเมล็ดฝ้าย ได้ซื้อขายกันเปนใหญ่ในที่นี่
ยังเครื่องยาต่างต่างบางอย่างมี ไม่เว้นปีมีลูกค้ามาเปนนิจ
บันทุกเกลือเยื่อเคยขึ้นมาขาย แลกเมล็ดฝ้ายขมิ้นชันต่อกันติด
พวกเดียวกันนั้นต่างหาเลี้ยงชีวิต มิได้คิดแจกจ่ายแลกขายซื้อ
การปกครองปรองดองกันเปนหมู่ ย่อมมีผู้ใหญ่บังคับที่นับถือ
แล้วแต่กาญจน์บุรีสั่งตั้งถอดรื้อ ล้วนมีชื่อเปนตำแหน่งตั้งแต่งไว้
อันถ้อยความเปนอย่างไรไม่ใคร่รู้ เพราะต่างคนต่างอยู่มิใช่ใกล้
ไม่ต้องเสียส่วยสาอากรใด ถูกเกณฑ์ใช้ราชการเปนบางครา
คือเกณฑ์เสื่อเกณฑ์เครื่องยาให้หาส่ง อย่างยิ่งยงก็ไม่เกินไปกว่าห้า
ครั้งหนึ่งสองครั้งบ้างอย่างธรรมดา ผู้เกณฑ์มาแต่สถานกาญจน์บุรี
วิชาช่างที่เปนอย่างผู้ชายใช้ คือตัดไม้ทำเรือนฟันเกลื่อนที่
จักตอกสานต่างต่างหลายอย่างมี การสตรีเย็บปักทั้งถักทอ
อย่างอื่นนอกนี้ไปทำไม่ได้ หนังสือไม่มีผู้รู้กอข้อ
หนังสือมอญบางผู้ที่รู้พอ อ่านย่อย่อได้บ่างอย่างรวมรวม
ของทำได้ใช้เองในพวกนี้ คือเสื้อผ้าตามมีที่สอดสวม
ย่ามลว้าประจุล้นของปนกรวม ไม่ใช่ร่วมเรียงตนคนละใบ
เครื่องทองเหลืองเครื่องเหล็กล้วนซื้อสิ้น จนหม้อดินโอ่งอ่างกระถางไห
ต้องคอยคราวลูกค้าพาขึ้นไป จึงซื้อใช้ตามของที่ต้องการ
หลวงพลแจ้งอยู่ในแขวงลุ่มสุ่มนี้ พวกหนึ่งมีเรียกกะหร่างอยู่ต่างบ้าน
ภาษาผิดกับกะเหรี่ยงเพียงประมาณ มอญกับม่านต่างเค้าไม่เข้าใจ
พวกกะหร่างอย่างสกกระปรกยิ่ง กินจนกิ้งก่าว่าหาเลือกไม่
ที่เรือนอยู่ดูยิ่งกับครัวไฟ จะอาศรัยแห่งใดไม่ได้เลย
ขอจบเรื่องกะเหรี่ยงเรียงเพียงเท่านี้ ตามที่มีเค้ามูลทูลเฉลย
เข้าที่ในเรือที่นั่งเหมือนดังเคย ต้องลงเอยกันเสียทีไม่มีอะไร ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ