๘
และขุนนางเหล่านั้นพากันยกซุยยินสีซึ่งเป็นพระราชบุตรพระเจ้าอิวเซ่าสีขึ้นเป็นฮ่องเต้ มีขุนนางผู้ใหญ่ซึ่งมีสติปัญญานั้นสี่คน ชื่อเม่งอิวคนหนึ่ง ชื่อปิดอวนคนหนึ่ง ชื่อเซงภักคนหนึ่ง ชื่ออุนชิวคนหนึ่ง มีน้ำใจซื่อสัตย์ช่วยพระเจ้าซุยยินสีฮ่องเต้ทะนุบำรุงแผ่นดิน แล้วผู้รักษาเมืองทั้งปวงนำสิ่งของเครื่องบรรณาการเข้ามาถวายพระเจ้าซุยยินสีฮ่องเต้ ครั้นอยู่มาพระเจ้าซุยยินสีฮ่องเต้ตรัสแก่ขุนนางว่า ฮ่องเต้แต่ก่อนท่านได้สอนให้ราษฎรปลูกห้างปลูกหอปลูกโรงปลูกเรือนขึ้นเป็นที่อาศัยมีความสุขมาจนทุกวันนี้ แต่ในปัจจุบันนี้มนุษย์ทั้งหลายก็ยังพากันบริโภคแต่ของดิบเป็นอาหาร กินของสุกไม่เป็นเลย เรามีความวิตกนัก ท่านทั้งปวงจะคิดเห็นอุบายประการใด มนุษย์ทั้งปวงจึงจะพ้นจากบริโภคซึ่งของดิบ ขุนนางทั้งปวงจึงทูลว่าข้าพเจ้าสติปัญญาเขลา ขอพระองค์จงทรงพระดำริให้อุบายที่จะให้มนุษย์พ้นจากบริโภคซึ่งของดิบเถิด ขุนนางทั้งปวงทูลแล้วคำนับลาออกไปจากที่เฝ้า พระเจ้าซุยยินสีฮ่องเต้ก็เสด็จเข้าข้างใน ในวันนั้นเป็นเวลากลางคืนพระองค์เสด็จออกทอดพระเนตรพิจารณาดูอากาศและแผ่นดิน ก็ทรงเห็นว่าไฟในอากาศและแผ่นดินมีอยู่เป็นแน่ และธาตุทั้งห้าคือธาตุทองหนึ่ง ธาตุไม้หนึ่ง ธาตุน้ำหนึ่ง ธาตุไฟหนึ่ง ธาตุดินหนึ่ง ก็คงมีไฟอยู่ทุกธาตุ ถ้าบุคคลทั้งหลายเอาทองหรือเหล็กถูกับไม้ไฟก็คงจะบังเกิดขึ้น หรือไม้ต่อไม้ถูกันเข้าแล้วไฟก็จะบังเกิดขึ้นเป็นแน่ ครั้นพระองค์นึกเห็นดังนั้นแล้ว รุ่งขึ้นเช้าเสด็จออกข้างหน้าพร้อมด้วยข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเฝ้าตามตำแหน่ง จึงตรัสว่าเมื่อเวลาคืนนี้เรามีความวิตกนัก จึงพิจารณาดูแผ่นดินและอากาศและธาตุทั้งห้า ก็เห็นว่าของเหล่านี้คงจะมีไฟเป็นแน่ ถ้าบุคคลทั้งหลายเอาเหล็กหรือทองถูกับไม้ หรือเอาไม้ต่อไม้ถูกันแล้วไฟก็จะบังเกิดขึ้น เราคิดเห็นเป็นเช่นนี้ท่านทั้งปวงจะเห็นประการใด ขุนนางทั้งปวงก็ทูลสรรเสริญว่าพระองค์ทรงมีสติปัญญาลึกซึ้งถึงเพียงนี้ ที่ไหนข้าพเจ้าทั้งปวงจะพิจารณาเห็นได้ แล้วรับสั่งให้ประกาศแก่ราษฎร ให้เอาไม้มาถูกันก็เกิดไฟขึ้น แล้วให้ทำหม้อใส่น้ำต้มของกินให้สุกและต้มของที่เหม็นนั้นก็หายกลิ่นเหม็น มนุษย์ทั้งปวงบริโภคมีรส ครั้งนั้นก็มีไฟหุงข้าวและต้มแกงกิน ทั้งคิดทำเครื่องภาชนะใช้สอยขึ้นบ้าง และไฟนั้นก็สืบต่อมาจนทุกวันนี้ ยังแต่ธรรมเนียมอาจารย์ผู้สั่งสอนศิษย์นั้นยังหามีไม่ พระเจ้าซุยยินสีฮ่องเต้รับสั่งให้มีอาจารย์สอนราษฎร เอาเชือกมาผูกขอด ๆ ใหญ่นั้นเป็นการใหญ่ ขอดเล็กเป็นการเล็ก แล้วสอนให้ขีดเขียนเป็นเครื่องหมายไว้ แล้วให้หาสิ่งของต่าง ๆ คือเพชร คือพลอย คือหยก แก้วซึ่งมีรัศมีสว่าง และทองและเงินของเหล่านี้จัดเป็นของประเสริฐยิ่งกว่า ของสิ่งอื่นๆ มาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันตามชอบใจ พระเจ้าซุยยินสีฮ่องเต้ครองราชสมบัติประมาณได้ห้าร้อยสามสิบปีสิ้นพระชนม์ แล้วยงเซงสีได้เป็นฮ่องเต้ การสิ่งใด ๆ ซึ่งฮ่องเต้แต่ก่อนและพระเจ้าซุยยินสีฮ่องเต้สอนไว้นั้น ก็เป็นธรรมเนียมต่อ ๆ มา