๑๖

อยู่มาวันหนึ่งพระเจ้าเอี้ยมเต้สินล่งสีฮ่องเต้มีพระทัยกรุณาแก่ราษฎร จึงเสด็จพระราชดำเนินไปเที่ยวฟังทุกข์และสุขของราษฎร เห็นราษฎรป่วยเจ็บเป็นโรคต่าง ๆ ก็มีความเวทนาเป็นอันมาก ครั้นกลับมาพระราชวังขุนนางก็คำนับพร้อมกันจึงรับสั่งว่า เห็นราษฎรทั้งปวงมีหน้าอันเหลืองมีตัวนั้นบวมผอม เห็นจะมีความไข้เจ็บเป็นอันแน่ จะต้องจัดหาสรรพคุณยาต่าง ๆ คือยาที่มีรสเย็นบ้างร้อนบ้างขมบ้างฝาดบ้างเผ็ดบ้าง จะได้ประกอบให้เป็นยารักษาโรคต่าง ๆ แต่รสยานั้นเราจะต้องทดลองดูก่อน ท่านทั้งปวงกับบรรดาหัวเมืองทั้งหลายจงช่วยกันจัดหาสรรพคุณยาให้จงได้ ขุนนางทั้งปวงได้รับสั่งดังนั้นก็เป่าร้องจูเฮ้าผู้รักษาเมืองต่าง ๆ ตามรับสั่ง ครั้นจัดหาได้ใบไม้และรากไม้ที่มีรสต่าง ๆ เป็นอันมากแล้วก็ส่งเข้ามาถวาย พระเจ้าเอี้ยมเต้สินล่งสีฮ่องเต้จึงรับสั่งให้ตั้งโต๊ะเครื่องบูชาบวงสรวงเทพยดาฟ้าและดิน แล้วก็เสวยใบไม้รากไม้ลองดู ใบไม้รากไม้ที่พระองค์เสวยนั้นรสต่าง ๆ กัน ที่เป็นของเบื่อเมาเทพารักษ์ก็ช่วยรักษามิให้พระองค์เป็นอันตราย แล้วจึงรับสั่งให้นางเทงปวดมเหสีเลือกจัดใบไม้รากไม้เปลือกไม้นั้นไว้เป็นอย่าง ๆ แล้วจัดผสมเป็นตำรายารักษาโรคแจกไปให้ราษฎร ๆ ก็ทำกินแก้โรคต่าง ๆ จึงเกิดยาแก้โรคขึ้นแต่ครั้งนั้น พระเจ้าเอี้ยมเต้สินล่งสีฮ่องเต้จึงรับสั่งให้ขุนนางเขียนหนังสือประกาศแก่ราษฎรให้รู้ทั่วกันว่า ถ้าน้ำขังอยู่ในบ่อไม่มีตาน้ำไหลมานั้น เรียกว่าน้ำตายห้ามไม่ให้กินจะมีโรค ถ้าน้ำเกิดมาแต่เขาไหลเป็นลำธารลงมา และน้ำในสระที่ขุดมีตาน้ำไหลไปมาได้แล้วก็กินได้ไม่มีโรค ราษฎรจึงเอาตำราของพระเจ้าเอี้ยมเต้สินล่งสีฮ่องเต้มาเรียนหัดเป็นหมอรักษาโรคตั้งแต่วันนั้นมาจนทุกวันนี้ ครั้งนั้นราษฎรมีความสุขขึ้นมาก และสัตย์ซื่อมิได้พูดจาล่อลวงแก่กัน

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ