๒๑

ฝ่ายฮืนฮวงครั้นเห็นพระเจ้ายุฮวยฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ ก็ให้ต่อหีบใส่พระศพแล้วฝังไว้ที่ตำบลปันจัว ตั้งแต่พระเจ้าเอี้ยมเต้สินล่งสีฮ่องเต้ได้เป็นกษัตริย์ได้สืบวงศ์ต่อ ๆ มา จนถึงพระเจ้ายุฮวยฮ่องเต้ได้เป็นกษัตริย์ขึ้นนั้น รวมกษัตริย์แปดพระองค์ด้วยกัน รวมปีที่กษัตริย์แปดพระองค์นี้ครองราชสมบัติอยู่นั้นได้ห้าร้อยยี่สิบปี ครั้งนั้นบรรดาจูเฮ้าผู้รักษาเมืองทั้งหลายรู้ว่าฮืนฮวงฆ่าซีอิ้วซึ่งคิดกบฏตาย มาจนถึงพระเจ้ายุฮวยฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ จึงปรึกษากันว่า ซึ่งฮืนฮวงนั้นแซ่ซุนเป็นบุตรอิวหิว มารดาชื่อจูบ๊อเป็นบุตรของหลานตีหลี ๆ เป็นวงศ์ในพระเจ้าเอี้ยมเต้สินล่งสีฮ่องเต้ และเมื่อนางจูบ๊อจะเกิดฮืนฮวงนั้น นางไปเที่ยวที่เขาซื้อเอีย นางเห็นสายรุ้งเข้าพันดาวปักเต๊า ๆ นั้นคือดาวจระเข้ ตั้งแต่นางได้เห็นสายรุ้งเข้าพันดาวปักเต๊านั้นมานางก็มีครรภ์ ครั้นนางมีครรภ์ได้ยี่สิบสี่เดือนก็คลอดบุตรชายที่ตำบลฮืนฮวง จึงให้นามบุตรชื่อว่าฮืนฮวง ๆ คนนี้เป็นคนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด รู้วิชาการและกระบวนรบก็ชำนาญ จูเฮ้าผู้รักษาเมืองและราษฎรทั้งปวงพร้อมใจกันยกฮืนฮวงขึ้นเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามพระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ ครองราชสมบัติอยู่เมืองซอกเต๊ก ครั้งนั้นฝนก็ตกตามฤดู ข้าวปลาอาหารและผลไม้ก็บริบูรณ์เป็นปกติตามกาล ราษฎรทั้งหลายได้ความสุขต่างคนต่างมีความยินดี ก็สรรเสริญพระบารมีพระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ทั่วทั้งแผ่นดิน จูเฮ้าผู้รักษาเมืองที่ยังแข็งเมืองอยู่เมืองใด พระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ก็เสด็จยกกองทัพไปปราบปราม จูเฮ้าผู้รักษาเมืองนั้นก็ยอมสามิภักดิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้มีพระอำนาจแผ่พระราชอาณาเขตไปทุกทิศ ข้างฝ่ายทิศตะวันออกนั้นไปถึงตำบลไหเปียน ข้างฝ่ายทิศตะวันตกนั้นไปถึงตำบลกงถอย ข้างฝ่ายทิศใต้นั้นไปถึงตำบลกังตก ข้างฝ่ายทิศเหนือนั้นไปถึงตำบลฮืนตอก แล้วรับสั่งให้หาบรรดาจูเฮ้าผู้รักษาเมืองทั้งปวงให้มาประชุมพร้อมกันที่เขาฮูซัว แล้วตรัสสั่งสอนในกระบวนพิชัยสงครามเพื่อจะให้ป้องกันซึ่งหมู่อริราชไพรีที่จะคิดประทุษร้าย แล้วพระองค์จึงแบ่งจูเฮ้าทั้งหลายให้เป็นแปดพวกไปรักษาอยู่ในทิศทั้งแปด พวกจูเฮ้าก็คำนับลาไปรักษาเมืองตามรับสั่งเหตุ ด้วยพระองค์มีพระทัยใส่ในราษฎรและการบ้านเมืองอยู่เป็นนิจ คืนหนึ่งพระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้เข้าที่บรรทมหลับสนิท ครั้นเวลาสามยามทรงพระสุบินว่าลมพายุใหญ่พัดผงธุลีอันโสโครกในแผ่นดินปลิวไปหมด แล้วมีชายผู้หนึ่งถือธนูไล่แพะมาเป็นอันมาก ครั้นตื่นจากที่บรรทมจึงทรงพระดำริซึ่งความฝัน ทรงทำนายด้วยพระองค์เองว่า ซึ่งฝันว่าลมพายุใหญ่พัดผงธุลีอันโสโครกในแผ่นดินปลิวไปหมดสิ้นนั้น คือจะได้แก่คนที่มีปัญญา และฝันว่าคนถือธนูมามากนั้น คือจะได้แก่คนที่มีฝีมือและกำลังมากจะมาเป็นทหาร และฝันว่าไล่ฝูงแพะมาเป็นอันมากนั้น คือจะได้แก่คนที่เป็นผู้สั่งสอนจะให้มีความดีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และคนที่มีปัญญาและคนที่มีฝีมือและกำลังมาก และคนที่เป็นผู้สั่งสอนนั้นคงจะมีอยู่ในแผ่นดินของเราเป็นแน่ ถ้าได้คนเหล่านี้มาไว้ให้ทำราชการอยู่กับเรา ก็คงจะกำจัดอันธพาลในแผ่นดินของเราเสียให้สิ้นได้ ทรงพระดำริฉะนี้แล้ว ครั้นเวลาเช้าก็เสด็จออกว่าราชการพร้อมด้วยขุนนางเฝ้าอยู่ตามตำแหน่ง จึงตรัสเล่าความที่พระองค์ทรงพระสุบินให้ขุนนางทั้งปวงฟัง แต่ที่พระองค์ทรงทำนายของพระองค์เองนั้น มิได้ตรัสบอกให้ขุนนางฟัง ขุนนางทั้งปวงฟังแล้วก็หารู้ที่จะทูลทำนายพระสุบินนั้นว่าประการใดไม่ พระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ตรัสแก่ขุนนางทั้งปวงว่า ในฝันของเราที่ข้อว่าลมพายุใหญ่พัดกล้านั้น คือคำจีนเรียกว่าฮวง กับข้อที่ฝันว่าผงธุลีอันโสโครกนั้น คำจีนเรียกว่าโฮ ฮวงโฮสองคำนี้คงเป็นชื่อคน และข้อที่เราฝันว่าคนถือธนูนั้น คำจีนเรียกว่าเหล๊ก กับข้อที่ฝันว่าคนไล่ฝูงแพะมาเป็นอันมากนั้น คำจีนเรียกว่ามอก เหล๊กมอกสองคำนี้ก็เป็นชื่อคนเหมือนกัน และคนที่ทำราชการอยู่ในแผ่นดินของเรานี้ที่มีชื่อฮวงโฮ เหล๊กมอกนั้นจะมีบ้างหรือไม่ ขุนนางทูลว่าคนที่ทำราชการอยู่ในแผ่นดินของพระองค์นี้ หามีผู้ใดชื่อฮวงโฮเหล๊กมอกไม่ พระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ได้ฟังจึงทรงพระดำริว่า ฮวงโฮเหล๊กมอกสองคนนี้ ขุนนางที่ทำราชการอยู่กับเราก็หามีชื่อไม่ ฮวงโฮเหล๊กมอกนี้เห็นจะอยู่นอกเมืองตามเขาและป่าดง ทรงพระดำริฉะนี้แล้ว ครั้นรุ่งขึ้นเวลาเช้า พระเจ้าอึ้งตี่ฮ่องเต้ก็เสด็จพาข้าราชการทั้งปวงไปเที่ยวประพาสป่าเพื่อประโยชน์จะเที่ยวสืบเสาะแสวงหาผู้ที่มีปัญญานั้นด้วย

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ