๕๕
พระเจ้าท้ายกังเต้อยู่ในราชสมบัติแปดปี พระชนม์เท่าไรไม่ปรากฏ ครั้นพระเจ้าต้งกังเต้ได้เป็นกษัตริย์แล้ว ก็ตั้งโฮ่งี้เป็นที่ซือเสี่ยงคืออุปราชผู้ใหญ่สำเร็จราชการ ตั้งเสียงอ๋องพระราชบุตรเป็นไถจู๊ ตั้งอื้อเอี๋ยนพระราชนัดดาเป็นเอียนจอโหคุนทหาร เพราะกลัวโฮ่งี้จะประทุษร้าย ครั้งนั้นอื้อเอี๋ยนอายุได้สิบเจ็ดปี หน้าขาวมีหนวดตัวสูงเก้าเชียะกับห้าชุนคือสูงห้าศอกคืบเศษ โฮ่งี้นั้นก็ทูลให้พระเจ้าต้งกังเต้ให้ตั้งท้ายกังเต้เป็นที่เคยเจียนเฮาผู้รักษาเมืองฮอหนำ พระเจ้าต้งกังเต้ทราบแล้วเห็นชอบด้วย จึงเขียนหนังสือให้ขุนนางเจ้าพนักงานถือหนังสือไปที่เขาถวายพระเจ้าท้ายกังเต้ ๆ ได้ทรงทราบความในหนังสือนั้นแล้ว ก็พาครอบครัวไปรักษาเมืองฮอหนำ
ฝ่ายฮ่อฮีซึ่งเป็นที่เคียดซิกัว คือขุนนางเจ้าพนักงานทำตำราปฏิทินนั้น ตั้งแต่ได้ตำราสุราของงีเต๊กแล้ว ก็ทำสุรานั้นดื่มกินมัวเมามิได้เอาใจใส่ตรวจตราตำราปฏิทินให้ถูกต้อง ราษฎรพากันบ่นเล่านินทาว่าปฏิทินเคลื่อนคลาดนัก ฮ่อฮีนั้นก็ทำสุราไปให้โฮ่งี้เนือง ๆ ปรารถนาจะฝากตัวแก่โฮ่งี้ พระเจ้าต้งกังเต้ทรงทราบความทั้งนี้ก็รับสั่งให้อื้อเอี๋ยนจับตัวฮ่อฮีฆ่าเสีย ฮ่อฮีนั้นอายุร้อยยี่สิบหกปี เกิดแต่ครั้งแผ่นดินพระเจ้าเงี่ยวเต้ฮ่องเต้ และเมื่อพระเจ้าต้งกังเต้เป็นกษัตริย์นั้นไม่มีทัพศึกราษฎรได้ความสุข พระเจ้าต้งกังเต้ครองราชสมบัติได้สิบสามปีประชวรพระโรค จึงรับสั่งให้ไถจู๊เสียงพระราชบุตรและพระราชวงศานุวงศ์กับขุนนางผู้ใหญ่เข้าไปเฝ้าข้างในแล้วตรัสว่า เราป่วยมากเห็นชีวิตจะไม่รอด ถ้าเราสิ้นบุญแล้วจงยกไถจู๊เสียงขึ้นเป็นกษัตริย์ ท่านทั้งปวงจงช่วยไถจู๊ทะนุบำรุงแผ่นดินให้ราษฎรมีความสุข เหมือนดังเรามีชีวิตอยู่นั้นเถิด พระราชวงศานุวงศ์และขุนนางได้รับสั่งดังนั้น ก็พากันถวายคำนับรับสั่งแล้วถวายคำนับลากลับไปบ้าน ในขณะนั้นพระเจ้าต้งกังเต้รับสั่งให้หาอื้อเอี๋ยนกลับเข้าไปเฝ้า รับสั่งว่าโฮ่งี้นี้เป็นคนโกง ถ้าเราสิ้นบุญแล้วเราเห็นว่าคงจะประทุษร้ายแก่ไถจู๊เสียงเป็นแน่ เจ้าจงเอาใจใส่ระวังไว้อย่าให้โฮ่งี้ทำร้ายแก่ไถจู๊เสียงได้ ครั้นตรัสดังนั้นแล้วประมาณครู่หนึ่งพระเจ้าต้งกังเต้ก็สิ้นพระชนม์ พระเจ้าต้งกังเต้เสวยราชสมบัติได้สิบสามปีพระชนม์ได้ยี่สิบหกปี