๑๐

อยู่มาวันหนึ่งพระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้ให้ขุนนางเข้ามาเฝ้าพร้อมกัน แล้วตรัสว่า ท่านทั้งหลายได้ช่วยเราทะนุบำรุงแผ่นดิน ราษฎรมีความสุขเจริญขึ้นเป็นอันมาก เราคิดจะทำสิ่งหนึ่งเรียกว่าขิม มีสัณฐานข้างต้นนั้นกลมข้างเท้านั้นสี่เหลี่ยมยาวเจ็ดเชียสองสุ้น มีสายห้าสายมีเสียงอันไพเราะ ท่านทั้งปวงจะเห็นเป็นประการใด ขุนนางทั้งปวงจึงทูลว่า ข้าพเจ้าทั้งปวงปัญญาโฉดเขลาหาทราบว่าจะทำอย่างไรได้ ถึงจะทำได้ก็คงไม่มีเสียงไพเราะ ด้วยว่าหามีแบบอย่างไม่ สุดแล้วแต่พระองค์จะเห็นชอบนั้นเถิด พระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้ได้ฟังดังนั้นมีพระทัยโสมนัส จึงตรัสให้หานายช่างเข้ามาเฝ้า แล้วรับสั่งให้นายช่างเอาไม้ง่อถงมาทำเป็นตัวอย่างต่อหน้าพระที่นั่ง ครั้นทำเป็นขิมเสร็จแล้ว สั่งให้ผู้รักษาเมืองต่าง ๆ ทำต่อ ๆ ไปเป็นเครื่องดีดสี ตั้งแต่นั้นมาขิมและเครื่องดีดสีตีเป่าจึงได้มีสืบ ๆ มาจนทุกวันนี้ และขิมนั้น ถ้าจะว่าให้ชัดคือพิณ เมื่อครั้งแผ่นดินสามก๊กต่อลงมาหลายพันปี ขงเบ้งเป็นผู้ชำนาญดีดขิม ๆ ชนิดนั้นก็เป็นอย่างของพระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้

อยู่มาวันหนึ่งผู้รักษาเมืองมีหนังสือบอกเข้ามาถึงขุนนางให้ทูลว่า ที่แม่น้ำเม่งจิ๋น เกิดเป็นพายุมีคลื่นระลอกใหญ่น้ำท่วมขึ้นมาบนแผ่นดิน แล้วมีสัตว์ตัวหนึ่งรูปร่างเหมือนมังกร ครั้นพิเคราะห์ดูหาใช่มังกรไม่ บางคนดูรูปเหมือนม้าแต่หาใช่ม้าไม่ เพราะรูปร่างโตใหญ่มีปีกด้วย จึงไม่รู้ว่าเป็นสัตว์อะไรแน่ขึ้นมาโลดเต้นอยู่บนน้ำ ราษฎรตกใจกลัว ขุนนางผู้ใหญ่ทราบหนังสือบอกนั้นแล้วก็กราบทูลพระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้ ๆ ทราบแล้วสงสัย จึงตรัสว่าเหตุนี้จะเป็นประการใด

ขณะนั้นนางหนึ่งออสีผู้เป็นขนิษฐาของพระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้เฝ้าอยู่ที่นั่นจึงทูลว่า สัตว์นี้รูปเหมือนมังกรและม้า แล้วเกิดมาแต่ในแม่น้ำนั้น ก็เห็นเป็นการมงคล ควรพระองค์จะพาข้าราชการไปตั้งเครื่องสักการบูชาและคำนับจึงจะชอบ พระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้เห็นชอบด้วย จึงพาข้าราชการไปดูเห็นมีคลื่นระลอกในแม่น้ำเม่งจิ๋น แล้วสัตว์นั้นก็ยืนอยู่บนน้ำ รูปร่างเหมือนม้าสูงประมาณแปดเชียเก้าเชียตัวนั้นมีเกล็ดมีปีกสองข้าง ครั้นดูไปก็เห็นเหมือนรูปเลาะเถาะคือรูปอูฐ ตะพายหีบแดงหีบหนึ่ง ที่หน้าหีบจารึกอักษรสี่อักษร ภาษาจีนว่าห้อโตลกจือ พระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้จึงให้ตั้งโต๊ะเครื่องบูชาแล้วพากันคำนับพระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้ก็ประกาศว่า ข้าพเจ้ารักษาแผ่นดินมาได้หลายร้อยปีแล้ว ถ้าข้าพเจ้ามิได้ตั้งอยู่ในยุติธรรมแล้ว ข้าพเจ้าจะรับโทษ ขอท่านจงให้คลื่นและระลอกที่โตใหญ่นั้นสงบ แล้วอย่าให้น้ำท่วมขึ้นมาให้ราษฎรได้รับความลำบากเลย ครั้นประกาศแล้วลมและคลื่นและระลอกก็หยุดเป็นปกติอย่างเดิม จึงได้เรียกสัตว์นั้นว่าเล่งเบ๊ เล่งเบ๊นั้นแปลว่าม้ามังกร สัตว์นั้นตะพายหีบขึ้นมาหาพระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้ ๆ จึงตรัสว่า สิ่งของในหีบนั้นถ้าจะให้แผ่นดินเป็นสุขแล้วท่านจงคำนับ ถ้าสิ่งของในหีบไม่เป็นการมงคลแล้วท่านจงนิ่งอยู่ เล่งเบ๊นั้นผงกศีรษะสามหน พระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้มีความยินดีจึงรับสั่งให้นางหนึ่งออสีเข้าไปรับหีบที่เล่งเบ๊มา แล้วเล่งเบ๊นั้นก็ลงน้ำหายไป พระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้ก็คำนับแล้วรับสั่งให้ตั้งเครื่องบูชา พร้อมด้วยขุนนางทั้งปวงคำนับแล้วเปิดหีบออกดูเห็นหนังสือฉบับหนึ่งมีอักษรว่า ห้อโตลกจือเป็นตำราโหราศาสตร์และตำราละยิดดูวันและคืน และมีสิบสองนักษัตรมีศกมีปีสิบสองปีเป็นรอบหนึ่ง ปีหนึ่งสิบสองเดือน ๆ หนึ่งสามสิบวัน ๆ หนึ่งสิบสองโมง ๆ หนึ่งแปดเคก

ขณะนั้นขุนนางทูลว่า เมื่อแผ่นดินพระเจ้าเทียนอ่องสีฮ่องเต้ ตี่อ่องสีฮ่องเต้ ยี่นอ่องสีฮ่องเต้ สามพระองค์นั้นมีคุณแก่ราษฎรเป็นอันมาก แต่ยังไม่เหมือนพระองค์ ๆ นี้ราษฎรได้รับความสุขมากขึ้นกว่าแต่ก่อน พระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้มีความยินดีให้เลี้ยงโต๊ะขุนนางทั้งปวง แล้วคิดอธิบายหนังสือที่เทวดาให้มานั้น ออกเป็นตำราปีเดือนวันคืนในโหราศาสตร์ ให้อาจารย์สั่งสอนไปทั้งแผ่นดิน พระเจ้าฮอกฮีสีฮ่องเต้เสวยราชสมบัติอยู่ได้ประมาณพันร้อยสิบห้าปี พระชนม์ได้พันร้อยห้าสิบปีจึงสวรรคต มนุษย์ทั้งปวงก็มีข้าวเปลือกเป็นอาหารมาแต่ครั้งนั้น

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ