๔๐

ครั้นอยู่มาวันหนึ่งเป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำเวลากลางคืน ภรรยาเพ่งหงีบอกแก่เพ่งหงีว่า เมื่อท่านไปกำจัดสัตว์ร้ายนั้น มีหญิงแก่คนหนึ่งรูปร่างงดงามมาอาศัยอยู่ด้วยข้าพเจ้า ๆ ได้ถามหญิงแก่ว่าอายุได้สักเท่าใด หญิงแก่บอกกับข้าพเจ้าว่าอายุได้แปดสิบปีเศษแล้ว ข้าพเจ้าจึงว่าทำไมรูปกายและเนื้อหนังก็ยังผ่องใสอยู่ หญิงแก่จึงบอกว่าได้กินยาอายุวัฒนะ และยาอายุวัฒนะนั้นจำเพาะเป็นวันกลางคืนเดือนเที่ยงจึงจะให้กินแต่เม็ดหนึ่ง ถ้ากินได้ครบสิบสองครั้งแล้วอายุยืนไม่ใคร่จะตาย และเมื่อหญิงแก่มาอาศัยอยู่นั้นยาอายุวัฒนะของหญิงแก่ยังเหลืออยู่สองเม็ด แล้วหญิงแก่อาศัยอยู่ด้วยหลายวัน ครั้นถึงวันขึ้นสิบห้าค่ำเวลากลางคืนเดือนเที่ยงแล้วหญิงแก่ก็กินยานั้นเม็ดหนึ่ง ยังเหลือยาอยู่อีกเม็ดหนึ่งฝากข้าพเจ้าไว้แล้วหญิงแก่นั้นก็ลากลับไปเขาตังซัว กำหนดไว้ว่าวันนี้จึงจะกลับมากินยาที่ฝากไว้ ถ้าหญิงแก่นั้นมาแล้วข้าพเจ้าจะขอตำรายาอายุวัฒนะไว้ทำกินบ้าง ข้าพเจ้าจะบอกให้ท่านแจ้งก็ลืมไปหลายวันแล้ว เพ่งหงีได้ฟังดังนั้นจึงให้ภรรยาหยิบยานั้นมาดู ยานั้นกลมเท่าผลโท้มีกลิ่นหอม เพ่งหงีจึงถามภรรยาว่าหญิงแก่นั้นชื่อไร ภรรยาบอกว่าไซอ้องบ๊อ เพ่งหงีจึงว่าไซอ้องบ๊อนั้นเห็นจะเป็นเทวดานำยานี้มาให้แก่เจ้า ๆ จงกินเถิด ภรรยาจึงตอบว่า ถ้ากินของเขาเสียหมดแล้ว เจ้าของเขามาจะได้ยาที่ไหนให้แก่เรา เพ่งหงีจึงว่ายาอันนี้เจ้าของบอกไว้ว่าเดือนเที่ยงจึงกินได้ เดี๋ยวนี้เดือนก็เที่ยงแล้วหญิงแก่เจ้าของยาก็ยังไม่มา เราเห็นว่ายานี้เทวดาให้แก่เรา ภรรยาได้ฟังดังนั้นก็กินยานั้นได้ประมาณครู่หนึ่งจึงบอกแก่เพ่งหงีว่า ตัวข้าพเจ้าเบาเหมือนจะปลิวไปตามลม เพ่งหงีจึงว่าเจ้าว่าดังนี้จริงหรือว่าเล่น นางจึงว่าตั้งแต่ข้าพเจ้ามาอยู่ด้วยท่านนั้น ก็ยังไม่ได้พูดจาความเท็จแก่ท่านสักครั้งหนึ่งเลย พอพูดดังนั้นแล้วนางลอยขึ้นไป เพ่งหงีก็ยึดชายเสื้อภรรยาพากันลอยไปได้ครู่หนึ่ง เพ่งหงีก็พลัดตกลงมาตาย แล้วกลับกลายเป็นสัตว์รูปเหมือนกบ มีเท้าหน้าสองเท้า ๆ หลังเท้าหนึ่ง จึงเรียกว่าเซี้ยมซู้ซาคา แล้วเหาะลอยขึ้นไปอยู่ที่หวงฮั่นเกง คือเก๋งพระจันทร์ ภรรยาเพ่งหงีก็ลอยขึ้นไปที่เก๋งพระจันทร์เหมือนกันสำหรับเป็นสาวใช้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ