วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น

ตำหนักปลายเนิน คลองเตย

วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๔๘๕

ที่ ๒/๘๕

กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรง ฯ ทราบฝ่าพระบาท

เมื่อวานนี้ชายดิศเอาลายพระหัตถ์เวรไปที่บ้านปลายเนิน ๓ ฉบับ จะกราบทูลสนองลายพระหัตถ์ทั้ง ๓ ฉบับนั้น เป็นฉบับๆ ไป ในที่นี้จะกราบทูลสนองความในฉบับซึ่งลงวันที่ ๑๕ เมษายนก่อน

สนองลายพระหัตถ์

๑. ก๊าดพระนามซึ่งบันทึกประทานไปนั้นได้รับเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ได้กราบทูลมาในหนังสือซึ่งลงวันที่ ๗ พฤษภาคมนั้นแล้ว

๒. เรื่อปลาแห้งปลาสลิดกับนมตราหมีนั้น ได้บอกแม่โตให้ทราบแล้วว่า ฝ่าพระบาททรงขอบใจ เป็นความจริงเมื่อแกพบปลาสลิดที่เนื้อดีเข้าก็เป็นรำลึกถึงฝ่าพระบาท ส่วนนมตราหมีนั้นแกนึกเป็นพิเศษ เพราะแกรู้ว่าฝ่าพระบาทเสวยนมงัวอยู่เสมอ และแกเห็นว่านมตราหมีเป็นดี และกลัวว่าที่ปีนังจะไม่มี ที่บางกอกยังพอจะหาได้จึงจัดส่งมาถวาย อันนั้นก็คือรำลึกถึงฝ่าพระบาทเช่นเดียวกัน

๓. เรื่องเมืองเชลียงนั้นก็ดีเต็มที เป็นอันเข้าใจสิ้นสงสัย สังเกตได้ว่าทรงพระอุตสาหะมากที่เรียงประทาน รู้สึกในพระเดชพระคุณเป็นอย่างยิ่ง แจ้งใจมานานแล้วว่าเปลี่ยนอะไรๆ นั้นไม่ดี ทำให้ต้อง “งมหมู” ได้รู้คำเหนือขึ้นอีกคำหนึ่งว่า “มี” เป็น อยู่ ดีมากที่ทำความรู้ให้กว้างออกไปอีก

๔. เรื่องมดรบกันนั้นเคยได้ยินกรมหลวงสรรพสิทธิ์ตรัสเล่ามาทีหนึ่งแล้วว่า มันรบกันแล้วขนเอาศพไป แต่จะได้ทอดพระเนตรเห็นมันรบกัน หรือจะได้ทอดพระเนตรเห็นแต่มันมาขนศพก็ไม่ทราบ และเป็นมดชนิดไรรบกันในที่อย่างไรก็ไม่ได้ทูลถาม ตามที่ฝ่าพระบาทตรัสเล่าประทานคราวนี้นั้นแจ่มแจ้งมาก

เกล้ากระหม่อมก็เคยสังเกต แต่เป็นมดตาลีตาลานว่ามันพูดกันได้ ได้เห็นมันช่วยกันล้อมจับตั๊กแตน แล้วอ้ายตั๊กแตนมันก็กระโดดหนีไป หมู่มดก็แตกไป อ้ายตั๊กแตนก็ตกใกล้ๆ นั้นเอง แต่อ้ายหมู่มดไม่แลเห็น ดูเป็นว่าตามันสั้น แต่ครั้นตัวหนึ่งมันไปพบเข้า ก็ตาลีตาลานวิ่งไปชนๆ หน้ากัน แล้วก็พากันเป็นแถวเข้าจับอีก ไม่ช้าก็อยู่มือมัน จึงว่ามันพูดกันได้

อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเห็นน้ำตาลเชื่อมอันเขาไม่ได้ปกปิดเข้าเมื่อไร ก็เห็นมดลงไปตายลอยอยู่เป็นแพเมื่อนั้น ให้นึกฉุนว่ากินก็กิน ทำไมต้องลงไปตายอยู่ในนั้นด้วย ต่อได้สังเกตจึงทราบ ในการที่มันกินมันกินมันต้องเกาะข้างภาชนะปักหัวลงไป แต่มันไม่รู้ประมาณ จนท้องซึ่งเป็นตุ่มอยู่ข้างบนโตขึ้นน้ำหนักก็ถ่วงเอามันหงายท้องลงไปในน้ำตาลเชื่อม เห็นเป็นการจำเป็นจึงให้อภัย

อีกอย่างหนึ่ง เคยเห็นมดดำมันคาบไข่ขึ้นมาบนเรือน มันกองไข่ไว้กลางแล้วตัวมันก็มั่วสุมอยู่รอบไข่ ถ้าเราไปวอแวแก่มันเข้ามันก็พากันคาบไข่ไปที่อื่น นั่นยังไม่แน่ว่ามันคาบเอาขึ้นมาทำไม เป็นแต่เดาเอาว่าเป็นด้วยมันรู้ว่าฝนจะตกหนีจึงขึ้นมา แต่ก็เป็นเดาอาจจะผิดได้ถูกได้ ประหลาดที่มันช่วยกันขนไข่หนีไป ทำไมจึงจะรู้ว่าไข่ของใคร ดูเป็นมันมีสามัคคีกันดียิ่ง แต่เราก็ยังรู้ความจริงไม่ได้เพราะไม่ได้ตรวจดูให้รู้ชัดเจน

ตามที่ทรงพระเมตตาโปรดประทานส่วนกุศล อันได้ทรงกระทำในวันสงกรานต์นั้น เป็นพระเดชพระคุณล้นเกล้า ขอถวายอนุโมทนาอันได้ทรงกระทำชอบในโอกาสอันนั้น เวลาสงกรานต์เกล้ากระหม่อมก็ได้ทำบุญบังสกุลพระบรมอัฐิกับอัฐิทั้งปวง อย่างเดียวกับอัฐิที่วังวรดิศ ผิดกันแต่ที่วังวรดิศทำบนตำหนักกับที่ท้องพระโรง ที่บ้านท่าพระแยกเป็นดั่งนั้นไม่ได้ ใช้วิธีตั้งพระบรมอัฐิกับอัฐิอื่น และอัฐิญาติเป็นสองคราวที่ท้องพระโรง ทั้งพระบังสุกุลก็เป็นสองสำรับ

ในการรดน้ำก็แบ่งเป็นสอง พวกหนึ่งมารดทีเป็นว่าขึ้นปีใหม่เดือนมกราคม แต่มีมาน้อย ส่วนรดน้ำสงกรานต์ คือในเดือนเมษายนนั้นมีมาก แต่เกล้ากระหม่อมก็รับทั้งนั้นไม่ว่าเมื่อใด หญิงอามพูดว่า ไม่ใช่รดน้ำปีใหม่ เป็นรดน้ำสงกรานต์ตามที่พูดเช่นนั้นเห็นเป็นพูดถูก ในการที่เสด็จขึ้นพระแท่นสรงอย่างเก่าเป็นการถูกด้วยแบบแผน แต่จะทำได้แต่ที่ปีนังเพราะพระญาติมีน้อย จะถอยหลังทำที่บางกอกหาได้ไม่ เพราะมารดกันพร่ำเพรื่อ ต้องอนุโลมตามกาลอันเปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่เป็นแต่รดน้ำสงกรานต์ แม้รดน้ำแต่งงาน (บ่าวสาว) ก็เปลี่ยนแปลงไปเหมือนกัน การสวมมงคลแฝดเวลารดน้ำ เกล้ากระหม่อมเห็นเป็นไม่เข้าเรื่อง นั่นสำหรับเวลาสวดมนต์ต่างหาก ได้เคยไปในการรดน้ำแต่งงาน (บ่าวสาว) ที่สุพรรณบุรีเขามาเชิญไป เขารดน้ำกันที่กลางนอกชาน จึงเป็นเหตุให้มีเพื่อนๆ บ่าวสาวนั่งด้วยเป็นกองใหญ่ เห็นสวดมนต์แล้วผู้เป็นพิธีสวามีกับลูกสมุนก็ยกเอาบาตรน้ำพระพุทธมนต์ไปรด ไม่เห็นผู้ใดรดให้อีก หรือเขาตั้งใจจะเชิญเกล้ากระหม่อมไปให้ยกบาตรรดน้ำช่วยผู้เป็นพิธีสวามี หากแต่เขลาเสียด้วยไม่รู้ประเพณีก็ไม่ทราบ ไม่เคยรับเลย

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ