- เมษายน
- พฤษภาคม
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- วันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น (๒)
- —ที่ ๑๘/๒๔๘๔ หมายกำหนดการรัฐพิธีฉลองรัฐธรรมนูญ
- —ที่ ๒/๒๔๘๕ หมายกำหนดการพระราชพิธีเปิดพระบรมรูป
- —ที่ ๓/๒๔๘๕ หมายกำหนดการพระราชพิธีวันที่ระลึกมหาจักรี
- —ที่ ๔/๒๔๘๕ หมายกำหนดการรัฐพิธีพืชมงคล
- วันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ดร
- วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ดร
- วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ดร
- วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- —ที่ ๕/๒๔๘๕ หมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา
- —ที่ ๖/๒๔๘๕ หมายกำหนดการรัฐพิธีเปิดสังฆสภา
- มิถุนายน
- กรกฎาคม
- สิงหาคม
- กันยายน
- ตุลาคม
- พฤศจิกายน
- ธันวาคม
- วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- วันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- —ที่ ๑๕/๒๔๘๕ หมายกำหนดการรัดพิธีฉลองรัถธรรมนูญ
- วันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ดร
- วันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- —ที่ ๑๖/๒๔๘๕ หมายกำหนดการพระราชพิธีซงบำเพ็นพระราชกุสล ๑๐๐ วัน
- —ที่ ๑๗/๒๔๘๕ หมายกำหนดการพระราชพิธีซงบำเพ็นพระราชกุสลพระราชทานเพลิงสพ
- —ที่ ๑๘/๒๔๘๕ หมายกำหนดการพระราชพิธีซงบำเพ็นพระราชกุสลพระราชทานเพลิงพระสพ
- —ที่ ๑๙/๒๔๘๕ หมายกำหนดการพระราชพิธีซงบำเพ็นพระราชกุสลพระราชทานเพลิงสพ ท่านลูกจันทน์ พนมยงค์
- วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ดร
- วันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- วันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
- —ที่ ๒๐/๒๔๘๕ หมายกำหนดการพระราชพิธีขึ้นปีใหม่
วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ น
๑๘/๘๕
ตำหนักปลายเนิน คลองเตย
วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๘๕
กราบทูล สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทราบฝ่าพระบาท
ลายพระหัตถ์เวร ที่ ๙/๘๕ ลงวันที่ ๒๓ ตุลาคม ได้รับประทานแล้วดีใจเป็นล้นพ้น แต่นี้ต่อไปจะให้สำเร็จในวันพุธตามเคยถวายไป แต่คราวนี้ช้าไปตามเคยที่ทางคมนาคมไม่สะดวกเสียแล้ว จำต้องเป็นไม่แน่ไปตามเคย
๑) เรื่อง “ธาราบริวัตร” ต้องถือเอาว่าคือเมือง “เซลำเภา” ขึ้นนครจำปาศักดิ์
นึกถึงคำ “เซลำเภา” “เซ” ว่า แม่น้ำ (เทียบด้วย “ปากเซ”) “ลำ” ว่า ทาง (เทียบด้วยคำ “ลำน้ำ ลำแม่น้ำ ลำคลอง”) “เภา” นั่นแหละเป็นชื่อแม่น้ำ จะมาแต่สำเภาก็ได้
ได้คำอีกคำหนึ่ง “เวิน” ว่า “วน” คือน้ำวน
“หม่อมราชวงศ์วิจิตร” ไม่รู้ว่าใครทีเดียว เพราะไม่เคยรู้ตามที่ทรงจดชื่อในวงเล็บว่า “ปฐม” ก็ไม่รู้ เพราะเรียกตามที่เขาเรียกกันว่า “คุณถม” ไปรู้เอาที่ “คะเนจร” ว่าคือ “คุณถม” ทำให้รู้สึกว่านามสกุลนั้นดีมาก
๒) ในการเสด็จกลับนั้นอ่านเห็นใหญ่มาก สงสารองค์หญิงประเวศ เธอกลับทีหลังจะได้ความลำบากมาก ด้วยอาจจะไม่ได้ใครช่วยพอก็ได้ ส่วนคนใช้ที่ตำหนักนั้นไม่ประหลาด เพราะเป็นธรรมดาเท่านั้น ถ้าผู้อยู่ที่นั่นดีก็เป็นธรรมดาที่จะต้องเศร้าโศก ถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องโศกเศร้า อยากให้ไปเสียให้พ้นด้วยซ้ำ
ดีใจที่หญิงอามบอก ว่าฝ่าพระบาทหอบเอาอีแมวมาด้วย หากทิ้งไว้ก็ต้องตายเท่านั้น ใครจะช่วยมัน
๓) ในลายพระหัตถ์ ลงวันที่ ๑๑ พฤษภาคม มีตรัสถึงเรื่องเมืองอู่ทอง กับพระเจดีย์ที่หนองสาหร่ายมาแล้ว แต่ทรงคะเนว่าหายจึงโปรดให้คัดประทานมาใหม่อีก ที่จริงไม่หาย ยังได้กราบทูลไปในหนังสือเกล้ากระหม่อม หมายที่ ๖/๘๕ ลงวันที่ ๕ มิถุนายน จึงได้ให้คัดมาถวายอีก ฝ่าพระบาททรงคะเนว่าหายได้ฉันใด เกล้ากระหม่อมก็คะเนว่าหายได้ฉันนั้นเหมือนกัน ฉบับที่คะเนว่าจะหายนั้น จะต้องเป็นเมื่อรบกันแล้วทางคมนาคมไม่สะดวก ก็คือหนังสือลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒ ฉบับแล้วต่อมาก็คิดให้มีหมายเลข หนังสือทางเกล้ากระหม่อมมีหมายแต่ที่ ๒/๘๕ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม เป็นต้นมา ถ้าฉบับใดหายก็จะข้ามน้ำเบ้อไป ซึ่งฝ่าพระบาทจะทรงทราบแล้ว ตรัสเรียกร้องเอาสำเนาได้
มีฉบับเล็กอยู่ฉบับหนึ่งซึ่งไม่มีน้ำเบ้อ ฝ่าพระบาทคงจะไม่ได้ทรงรับแต่ถึงไม่ได้รับก็ไม่เป็นไร เพราะฝ่าพระบาทเสด็จกลับเข้ามาแล้ว อาจเฝ้ากราบทูลเฉพาะพระองค์ได้.
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด