วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ดร

บ้านซินนามอน ปีนัง

วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕

ทูล สมเด็จกรมพระนริศฯ

เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม เวลากลางวัน หม่อมฉันลงลายมือในจดหมายเวรฉบับลงวันที่ ๑๒ นั้นหมายว่าจะสำรองไว้มีช่องเมื่อใดก็จะได้ส่งไปถวายได้ทันที พอย่ำค่ำวันนั้นเองดาวหางก็ขึ้น หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์ตอบฉบับ ๑ กับลายพระหัตถ์เวรฉบับ ๑ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคมด้วยกัน กับสิ่งของต่างๆ ซึ่งคุณโตกับหญิงอามมีแก่ใจส่งมาให้ แต่เป็นเวลากำลังเข้าไต้เข้าไฟ กลางคืนก็ไม่มีแสงไฟ จึงต้องรอมาอ่านต่อรุ่งเช้าวันที่ ๑๓ เขาบอกว่ามีเวลาเขียนจดหมายได้สักสามสี่ชั่วโมง จึงเขียนจดหมายฉบับนี้ถวายแต่ฉบับเดียว ทูลความแต่บางข้อ ส่วนลายพระหัตถ์เวรนั้นจะต้องไว้คิดทูลสนองต่อไปเมื่อมีโอกาสส่งคราวหน้า

๑) หม่อมฉันใคร่จะขอบใจคุณโตกับหญิงอามก่อนเรื่องอื่น ด้วยรู้สึกว่าเธอทั้งสองมีความกรุณาปรานีอยู่เสมอไม่ขาดสาย และของที่ฝากมาก็ย่อมเป็นประโยชน์แก่หม่อมฉันทั้งครัวเรือนเสมอ ขอได้โปรดตรัสบอกเธอทั้ง ๒ ว่าเธอได้บำเพ็ญทั้งบุญทั้งคุณประกอบกัน จงรับพรของหม่อมฉัน ให้เจริญอายุ วรรณะ สุขะ พละ สถาพรเป็นนิจเทอญ

๒) เหตุที่หม่อมฉันเขียนถวายพรวันประสูติส่งไปในการ์ดชื่อนั้นได้ทูลอธิบายไปในจดหมายเวรฉบับก่อน หวังว่าจะได้ทรงรับแล้ว

๓) รายชื่อคนตามที่ตรัสบอกมาในลายพระหัตถ์เวรนั้น เป็นความรู้ใหม่ที่พระองค์หญิงผ่องสิ้นพระชนม์ แต่พระชนมมายุได้ ๗๕ ปี โดยเฉพาะที่เป็นพระเจ้าลูกเธอของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ก็ควรนับว่าพระชันษายืนมาก

เจ้าพระยาสุรสีห์นั้นเดิมอยู่ในกรุงเทพฯ หม่อมฉันทราบว่าพระยากัลยาณ์ฯ ลูกชายพาอพยพหนีภัยขึ้นไปไว้ที่บ้านของพระยากัลยาณ์ฯ ณ เมืองลับแล บ้านนั้นหม่อมฉันก็ได้เคยไปเห็นเป็นที่สบายดี แลว่าไปอยู่ได้ ๕๖ วันป่วยเป็นไข้เลยถึงอสัญกรรมเพราะร่างกายท่านทรุดโทรม แม้อยู่ในกรุงเทพฯ ก็ลงจากเรือนไม่ได้มานานแล้ว ที่ลูกเขาปลงศพเสียที่เมืองลับแลดูก็คิดถูกต้องตามสมควร.

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ