๒๑๙ ประกาศพระราชทานอนุญาตให้ข้าราชการฝ่ายในทูลลาออกนอกราชการได้

ณวันเสาร์ เดือน ๑๐ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ปีกุนเบญจศก

สมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าแผ่นดินสยาม ซึ่งเปนพระเจ้าแผ่นดินที่ ๔ ในพระบรมราชวงศ์นี้ ขอทำคำประกาศแก่ข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายใน แลผู้รักษาเมืองกรมการหัวเมืองบางเมืองผู้ใดๆ บรรดาที่มีบุตรหญิงแลหลานแลญาติเปนหญิงเด็กแลรุ่นแลสาว มาถวายตัวทำราชการอยู่ในพระบรมมหาราชวังนี้ทั้งปวง ให้ทราบความเปนจริง บัดนี้ผู้หญิงที่มาถวายตัวทำราชการในพระบรมมหาราชวังนี้ตั้งแต่ปีกุนตรีศกมาจนถึงปีกุนเบญจศกนี้มากมายหลายคนขึ้นเหลือใช้เหลือสอย จนข้าพเจ้าจำหน้าก็ไม่ได้จำชื่อก็ไม่ได้โดยมาก จนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังมีผู้ถวายตัวมากขึ้นทุกปี จนเด็กอายุ ๕ ขวบ ๖ ขวบขึ้นไปก็ถวายตัว ที่เปนที่อยู่ในวังยัดเยียดแน่นนั่นกัน เย่าเรือนไม่ใคร่จะพอ เมื่อผู้ใดมาถวายตัวอยู่ใหม่ ถ้าเปนเด็กก็มีเบี้ยหวัด ๓ ตำลึง ๔ ตำลึง ๕ ตำลึง ๖ ตำลึงฤๅ ๗ ตำลึงในปีแรกตามยศของบิดา ปีต่อๆ มาเบี้ยหวัดก็ทวีมากขึ้นไปถึง ๘ ตำลึง ๑๐ ตำลึง ๑๒ ตำลึง ๑๕ ตำลึง ตามที่มีฝีมือเต้นรำแลเหตุอื่นๆ ในที่โกนจุกแล้วเปนสาวแล้วเบี้ยหวัด ๑๐ ตำลึง ๑๒ ตำลึง ๑๕ ตำลึงเปนอย่างน้อยอย่างเลว ชั่ง ๑ ชั่ง ๕ ตำลึง ชั่ง ๑๐ ตำลึง เปนพื้นทั่วไปโดยมาก ถ้าจะคิดเปนเบี้ยหวัดของพวกถวายตัวใหม่มิใช่ค้างมาแต่แผ่นดินเก่า ที่แจกอยู่ในปีจอจัตวาศกปีกุนเบญจศกนี้เงินกว่า ๕๐๐ ชั่งเศษแล้ว ก็ผู้ที่ข้าพเจ้าได้ใช้สอยอยู่นั้นก็น้อยตัว เพราะการงานมีก็มากยากที่จะจำหน้าจำชื่อได้ ใครใกล้เคียงคุ้นเคยก็ใช้ผู้นั้นไป ก็เมื่อต้องแจกเบี้ยหวัดแก่บุตรหลานท่านทั้งหลายทั้งปวงอยู่ทุกปีดังนี้ข้าพเจ้าก็ไม่เสียใจเสียดายเงินดอก นึกว่าเพิ่มเบี้ยหวัดให้ท่านทั้งหลายทั้งปวงที่มีความจงรักภักดี เปนอันช่วยเลี้ยงบุตรเลี้ยงหลานท่าน เมื่อท่านไม่ให้บุตรหลานท่านเข้ามาอยู่ในวัง ท่านก็ต้องเสียเงินเปนเครื่องเลี้ยงบุตรเลี้ยงหลาน เมื่อให้เข้ามาอยู่ในวังข้าพเจ้าก็ช่วยเข้าบ้างไม่ว่าไรดอก แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าวิตกว่าผู้หญิงเปนอันมากมาต้องกักต้องขังอยู่ยัดเยียดเบียดเสียดกัน ก็ไม่ต้องการเปลืองอายุผู้หญิงเหล่านั้นไป แลเปนที่ให้คนที่ไม่รู้จักผิดชอบตื้นฦกหนาบางเห็นไปว่า ใจข้าพเจ้าละโมบโลภในสัตรีมากหวงกันกักขังไว้ ความจริงไม่เปนดังนั้น ข้าพเจ้าเปนผู้รู้ประมาณรู้เวลาว่าราชการแลบำเพ็ญการกุศลสวดมนต์ภาวนา จะเพลิดเพลินไปด้วยสัตรีไม่มีเวลาก็หามิได้ ก็เมื่อท่านผู้ใดรังเกียจการในพระราชวัง ว่าจะให้บุตรหลานท่านเข้ามาทำราชการอยู่ข้างในวัง กลัวจะมีเหตุนั้นๆ ซึ่งไม่เปนที่ชอบใจท่านต่างๆ ดังท่านจะคิดเห็นไปนั้น ข้าพเจ้าก็เห็นด้วยทุกอย่าง ว่าควรที่จะรังเกียจอยู่แล้ว ถ้าท่านผู้ใดมีบุตรหลานเปนหญิงจะไม่เข้ามาทำราชการในวังเพราะรังเกียจนั้นๆ ข้าพเจ้าก็ไม่มีความน้อยใจเลย ก็ท่านผู้ที่ให้บุตรหลานเข้าทำราชการอยู่ในวัง ข้าพเจ้าเข้าใจว่าท่านทั้งหลายยอมบุตรหลานมาให้ข้าพเจ้าเลือกให้เปนลครตัวเอกนางเอกแลการอื่นๆ การที่ยอมให้ข้าพเจ้าเลือกเพียงเท่านั้น ก็เปนบุญคุณของท่านทั้งหลายทั้งปวงมีอยู่แก่ข้าพเจ้ามากอยู่แล้ว ก็บัดนี้ข้าพเจ้าคิดจะเปลื้องความลำบากที่ผู้หญิงเปนอันมากมาต้องยัดเยียดเบียดเสียดกันอยู่เปลืองอายุไป แลมาต้องเปนสูงๆ ต่ำๆ ดำๆ ขาวๆ ปะปนอยู่กับบุตรหลานของผู้ที่ท่านจะพึงคิดว่าต่ำศักดิ์กว่าตัวท่าน เปนการรำคานใจท่านอยู่ อนึ่งจะใคร่เปลื้องการสำคัญของคนบางจำพวก ซึ่งจะพึงคิดว่าข้าพเจ้ามีความละโมบโลภในสัตรีหวงแหนไว้มากไม่ให้ใคร ข้าพเจ้าอยากจะใคร่ปลดปละสละเสียให้บางเบาไป จะหวงไว้แต่ที่มีบุตรชายบุตรหญิงด้วยข้าพเจ้า แลที่ไม่มีบุตรก็แต่ที่ข้าพเจ้าได้เลี้ยงให้มีเครื่องยศ แลเบี้ยหวัดตั้งแต่ ๒๐๐ บาทขึ้นไป นอกนั้นข้าพเจ้าอยากจะใคร่ให้ได้ไปตามปราถนา แลตามชอบใจของบิดามารดาหญิงพวกนั้น อนึ่งเจ้านายพี่น้องของข้าพเจ้าชิดห่างทั้งปวงต่างๆ ตลอดลงไปจนหม่อมเจ้าบางองค์ได้มีคุณูปการะแก่ข้าพเจ้าอยู่ก็มีเปนอันมาก ถึงในพวกมิใช่เจ้านาย คือเปนขุนนางตั้งแต่เสนาบดีลงไป จนถึงบุตรหลานของท่านผู้หลักผู้ใหญ่ซึ่งเปนมหาดเล็กอยู่ บางท่านบางนายก็เปนญาติกับข้าพเจ้าก็มี ถึงไม่เปนญาติข้าพเจ้ารักดังญาติก็มี คิดไปถ่ายหนึ่งข้าพเจ้าอยากว่าผู้หญิงที่เหลือใช้ของข้าพเจ้าแล้ว ทั้งเด็กทั้งใหญ่ข้าพเจ้าอยากจะใคร่จัดให้สมควร คือจะยกให้ไปทำราชการในพระบวรราชวังบ้าง ให้ไปอยู่วังเจ้าต่างกรมแลเจ้ายังไม่ได้ตั้งกรมที่ได้ราชการบ้าง ยกไปให้อยู่กับขุนนางผู้ใหญ่ที่มีความชอบสมควรใช้สอยบ้าง แลจัดแจงแต่งให้อยู่ด้วยกับหม่อมเจ้าแลข้าราชการตลอดลงไปจนมหาดเล็กที่ได้ราชการบ้าง ท่านทั้งหลายทั้งปวงจะได้ช่วยกันเลี้ยง ท่านผู้ใดสัตย์ซื่อเชื่อถือใจจริงข้าพเจ้าในที่ว่ามานี้ ไม่กระดากหน้าตามตำราเก่า รับไปตามข้าพเจ้าให้ก็จะได้มีความยินดี การก็จะได้ปรากฎเปนยศแก่ข้าพเจ้า ว่าบุญคุณเผื่อแผ่แก่ท่านทั้งหลายทั้งปวงไม่หวงสัตรีไว้ ข้าพเจ้าจะทำดังนี้ด้วยอำนาจเปนเจ้าแผ่นดินก็จะทำได้ แต่ถ้าทำดังนั้นก็จะเปนที่ท่านทั้งหลายทั้งปวงผู้เปนบิดามารดาแลญาติของหญิงเหล่านั้น จะคิดจะว่าข้าพเจ้าสำคัญบุตรหลานแลญาติของท่าน ซึ่งท่านทั้งหลายสวามิภักดิ์มาถวายตัวนั้นเปนดังเชลยตีทัพมาได้ ก็ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจะทำดังว่าก่อนไม่ได้ ข้าพเจ้าเกรงใจท่านผู้พามานัก ต้องหาฤๅแก่ท่านทั้งหลายทั้งปวงก่อน ท่านทั้งปวงจงรู้ดังคำประกาศนี้เถิด

ท่านทั้งปวงก็ย่อมรู้อยู่แล้ว การในวังเปนอย่างไร บัดนี้ข้าพเจ้าทำคำประกาศยอมมา บุตรหลานแลญาติของท่านผู้ใดที่เปนหญิงสาวหญิงรุ่น ไม่ได้เบี้ยหวัดถึง ๒๐๐ บาท แลมิใช่ผู้ที่มีสารกรมขายตัวเปนทาสฤๅกู้เงินเปนหนี้ข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้ายอมคืนให้ตามใจบิดามารดาแลญาติที่พามาถวาย จงมารับกลับคืนไปให้มีผัวฤๅจะถวายในเจ้านายใดๆ ฤๅจะยกให้ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยก็ตามแต่ใจของท่าน ข้าพเจ้าไม่ติเตียนน้อยใจอันใด ข้าพเจ้ายอมคืนให้โดยสดวก แลจะไม่กระดากหน้าแก่ผู้ที่ได้ไปนั้นเลย

ตั้งแต่ปีกุนตรีศก จนถึงปีกุนเบญจศกนี้ ผู้หญิงที่เปนเมียข้าพเจ้าอยู่ก่อนลาออกไปมีผัวอยู่ข้างนอกก็หลายคน ผัวของหญิงเหล่านั้นกับข้าพเจ้าก็ดีกันหมด ไม่ได้ขัดเคืองกระดากกระเดื่องกับใคร คนที่เปนเมียข้าพเจ้าอยู่ก่อนบางคนมีผัวใหม่แล้วกลับมาหา ข้าพเจ้าก็พูดจาด้วยดีอยู่ การเปนอย่างอยู่แล้ว เมื่อประกาศแล้วดังนี้ ถ้าบิดามารดาแลญาติไม่สมัครับไป จะให้หญิงเหล่านั้นทำราชการในวังนี้ต่อไป ก็จะต้องให้เปนพนักงานทำการนั้นๆ ฤๅเปนทหารมโหรีแลอื่นๆ ก็เบี้ยหวัดตามตำแหน่งพนักงานนั้น ชั่ง ๑ บ้าง ชั่ง ๕ ตำลึงบ้าง ชั่ง ๑๐ ตำลึงบ้าง ก็จะให้เสมอไปตามการหนักเบา เมื่อบอกออกเมื่อไรก็จะให้ออก แต่ที่เด็กๆ นั้นที่เปนตัวลครสำคัญๆ คือพระเอกนางเอกขอไว้ก่อน พอได้เล่นรับแขกบ้านแขกเมืองไป ฤๅจะกลับไปไว้บ้านก็ได้ เมื่อมีงานลครฤๅแห่แหนอันใดบอกขอแรงมาช่วยก็ได้ เพราะยังเปนเด็กอยู่ไม่ควรจะมีเจ้าของ

แต่บุตรพระยาบำเรอภักดิ์พวกหนึ่ง บุตรพระยาบุรุษยรัตน์พวกหนึ่ง เปนบุตรบ่าวเดิมของข้าพเจ้า ได้เปนเจ้าแผ่นดินก็ดี ไม่เปนเจ้าแผ่นดินแต่ไม่บวชอยู่ก็ดี คนพวกนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่าบิดาของพวกนั้นคงให้อยู่กับข้าพเจ้าผู้เดียวไม่ให้ใคร เพราะฉนั้น บัดนี้ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ใคร ใครอย่าจู่โจมล่วงเกินคิดอ่านอย่างไรเข้ามา

สัตรีที่มีบุตรกับข้าพเจ้า ที่เบี้ยหวัดไม่ถึง ๒๐๐ บาทมีอยู่บ้าง แต่ถ้าบุตรยังอยู่ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ใคร ที่เบี้ยหวัด ๒๐๐ บาทขึ้นไป บุตรมีก็ดีไม่มีก็ดี ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่ควรที่ท่านผู้เปนบิดามารดาแลญาติจะว่าข้าพเจ้าเลี้ยงไม่ดี ข้าพเจ้าจึงว่าตัดได้ว่าไม่ให้ใคร ก็ถ้าแม้นคนเหล่านั้นที่ไม่มีบุตร ข้าพเจ้าลดเบี้ยหวัดเสียไม่ถึง ๒๐๐ บาทเมื่อใด ท่านจงเข้าใจว่าเปนอันคืนให้ท่านเมื่อนั้นเถิด ก็ในที่นอกจากคนที่ข้าพเจ้าว่ากันไว้ดังนี้แล้ว ใครชอบใจจะใคร่ได้ก็จงไปว่ากล่าวสู่ขอต่อบิดามารดาเขาเถิด ข้าพเจ้าไม่ว่า ผู้อ่านคำประกาศนี้พิจารณาความให้เข้าใจ อย่าพาโลคำประกาศจู่โจมมาเกี่ยวพานเบี้ยหวัด ๔๐๐ บาทเขา

ประกาศมาณวันเสาร์ เดือน ๑๐ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ปีกุนเบญจศก ศักราช ๑๒๒๕ เปนวันที่ ๔๕๑๗ ในรัชกาลปัตยุบันนี้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ