- คำนำ
- ๑๙๘ ประกาศสงกรานต์ ปีจอจัตวาศก
- ๑๙๙ ประกาศเรื่องการถวายทองเงินพระเจ้าลูกเธอในการโสกันต์
- ๒๐๐ ประกาศเรื่องเกณฑ์ทรายโรยถนนในการพระศพ
- ๒๐๑ ประกาศห้ามมิให้กราบบังคมทูลทักอ้วนผอมขาวดำ
- ๒๐๒ ประกาศวางโทษเรื่องทักอ้วนผอม
- ๒๐๓ ประกาศให้เรียกคลองวัดไชยพฤกษ ว่าคลองมหาสวัสดิ์คลองเข้าไปพระปฐม ว่าคลองเจดีย์บูชา
- ๒๐๔ ประกาศให้ชำระตัวเลขพระคลังสุภรัต ซึ่งไปแอบอิงอยู่ในกรมต่างๆ ส่งให้คลังสุภรัต
- ๒๐๕ ประกาศให้คัดเรื่องความที่ราษฎรร้องฟ้องขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย
- ๒๐๖ ประกาศให้เก็บภาษีหัวเบี้ยรวมอยู่ในบ่อน
- ๒๐๗ ประกาศให้ใช้กะแปะอัฐแลโสฬศที่ทำขึ้นใหม่
- ๒๐๘ ประกาศห้ามไม่ให้ตื่นกันเรื่องกะแปะอัฐแลโสฬศจะใช้ไม่ได้
- ๒๐๙ ประกาศห้ามมิให้นับอัฐโสฬศลงที่พื้นแขงๆ
- ๒๑๐ ประกาศขยายสถานที่จำหน่ายแลรับกะแปะอัฐแลโสฬศ
- ๒๑๑ ต้นประกาศพระราชทานแลกเปลี่ยนที่วิสุงคามสีมาเมืองลพบุรี
- ๒๑๒ ประกาศการพระราชพิธีลงสรงโสกันต์พระเจ้าลูกเธอ
- ๒๑๓ ประกาศให้ข้าราชการที่ทำการวิวาหมงคลโกนจุกบุตร นำความกราบบังคมทูล ฯ แลข้าราชการในทำเนียบถึงแก่กรรมให้บอกกระทรวงวัง
- ๒๑๔ ประกาศไม่ให้หม่อมเจ้าหม่อมราชวงศ์ตลอดจนบุตรหลานเหลนไปเที่ยวตามหัวเมืองโดยไม่ได้ทูลลา
- ๒๑๕ ประกาศเรื่องการนุ่งขาวแลกระแสพระราชดำรัสในการที่ทรงแจกพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
- ๒๑๖ ประกาศมหาสงกรานต์ ปีกุนเบญจศก
- ๒๑๗ ประกาศพระราชบัญญัติรับฟ้องความเจ้า แลห้ามเจ้ามิให้ไปไกลพระนคร
- ๒๑๘ ประกาศการทรงปฏิสังขรณ์พระเจดีย์วัดชุมพลนิกายารามที่เกาะบางปอิน
- ๒๑๙ ประกาศพระราชทานอนุญาตให้ข้าราชการฝ่ายในทูลลาออกนอกราชการได้
- ๒๒๐ ประกาศพิกัดราคาทองแปทศพิศพัดดึงศ์
- ๒๒๑ ประกาศห้ามไม่ให้เชื่อถือข้าราชการเก่านอกตำแหน่ง
- ๒๒๒ พระราชปรารภเรื่องเดินเปนผู้ว่าราชการเมือง
- ๒๒๓ ประกาศว่าด้วยการเดินเปนเจ้าเมือง
- ๒๒๔ ประกาศงานพระเมรุเจ้าฟ้าจันทรมณฑล แลงานฉลองวัด
- ๒๒๕ ประกาศพิกัดภาษี เรือ ตึก แพ โรงร้าน
- ๒๒๖ ประกาศสงกรานต์ ปีชวดฉศก
- ๒๒๗ ประกาศให้ผู้ที่ได้กู้ยืมเงินในพระเจ้าลูกเธอมาสารภาพต่อกรมวัง
- ๒๒๘ ประกาศวันธรรมสวนะแก้ความในประกาศสงกรานต์ที่ผิด
- ๒๒๙ ประกาศเตือนสติให้สงวนเข้าไว้ให้พอกินตลอดปี
- ๒๓๐ ประกาศพิกัดเงินเหรียญนอก
- ๒๓๑ ประกาศเลิกภาษีผลมะพร้าว
- ๒๓๒ ประกาศว่าด้วยแจกเบี้ยหวัดเปนทองทศ ทองพิศ ทองพัดดึงศ์ แทนเงิน
- ๒๓๓ ประกาศเฉลิมพระชนม์พรรษา
- ๒๓๔ ประกาศว่าด้วยการเล่าฦๅกันว่าพระพุทธทำนายเกิดขึ้นที่เมืองเขมร
- ๒๓๕ ประกาศว่าด้วยเรื่องมีผู้ทำอัฐปลอม
- ๒๓๖ ประกาศด้วยเรื่องมีผู้ทำเงินปลอม
- ๒๓๗ ประกาศเพิ่มเติมเรื่องอัฐโสฬศอ่อนแลบางไป
- ๒๓๘ ประกาศว่าด้วยเรื่องราคาเข้า
- ๒๓๙ ประกาศพระราชทานโอวาทแก่ผู้ซื้อเข้าขายเข้า
- ๒๔๐ ประกาศให้ผู้ถูกใช้อัฐปลอมนำมาทูลเกล้าฯ ถวาย
- ๒๔๑ ประกาศห้ามมิให้เรียกหม่อมราชวงศ์แลหม่อมหลวงว่าเจ้า
- ๒๔๒ ประกาศไม่ให้จำหน่ายเข้าออกไปนอกประเทศ
- ๒๔๓ ประกาศให้เรียกค่าธรรมเนียมเรือลูกค้าในเมืองที่มีกงสุลสยาม
- ๒๔๔ ประกาศพระราชบัญญัติเรื่องนาตราแดงแลนาคู่โค
- ๒๔๕ ประกาศตั้งกงสุลปรุศเสียน
- ๒๔๖ ประกาศเรื่องทำพระศพเจ้านายแลศพเสนาบดี ที่พระเมรุกลางเมือง
๒๐๘ ประกาศห้ามไม่ให้ตื่นกันเรื่องกะแปะอัฐแลโสฬศจะใช้ไม่ได้
ณวันศุกร เดือน ๑๐ แรม ๑๑ ค่ำ ปีจอจัตวาศก
มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศแก่ราษฎรทั้งปวงให้รู้ทั่วกันว่า บัดนี้ได้ยินข่าวว่ามีผู้ไปเที่ยวประกาศว่า เบี้ยอัฐเบี้ยโสฬศ ที่แจกจ่ายมาก่อนนั้นใช้ไม่ได้แล้ว ว่าในหลวงจะเรียกคืนบ้าง ว่าอะไรๆ ไปบ้าง ต่างๆ ผิดๆ กัน การทั้งปวงนั้นไม่จริงหมด คงใช้ได้อยู่ดังประกาศก่อน เมื่อราษฎรไม่เชื่อไม่ใช้กัน ใครมีเบี้ยอัฐเบี้ยโสฬศ เมื่อมีผู้มาขอซื้อถูกๆ กว่า ๘ แผ่นเฟื้อง ๑๖ แผ่นเฟื้อง ให้จับตัวคนนั้นเปนคนโกง เบี้ยอัฐคง ๘ แผ่นเฟื้อง เบี้ยโสฬศคง ๑๖ แผ่นเฟื้องเปนนิตย์ เมื่อใครไม่เชื่อให้เอามาขึ้นที่พระคลัง ก็คงจะได้เงินไป ๘ อัฐเฟื้อง ๑๖ โสฬศเฟื้องตาปีตาชาติ ไม่ยักไม่ย้ายไม่กลายไม่กลับเลย ที่พระคลังคงจะให้ราษฎรมาขึ้นเงิน แลมาเปลี่ยนอยู่เสมอเปนนิตย์ คนที่ไปพูดผิดๆ ต่างๆ นอกจากคำประกาศด้วยเรื่องเบี้ยอัฐเบี้ยโสฬศ ให้พร้อมกันจำตัวจำหน้าไว้ ฤๅให้จับตัวผู้นั้นไว้ แล้วเอามาส่งต่อพระยาอภัยรณฤทธิ์ที่โรงชำระ จะให้รางวัล ผู้ไปพูดผิดๆ นั้นถ้ามีพยานรู้เห็นยืนยันมากจะปรับไหมให้ใช้รางวัล แต่ผู้ที่มาขึ้นเบี้ยอัฐเบี้ยโสฬศนั้นไม่มีโทษ ฝ่ายราษฎรเมื่อมีผู้ไปพูดอย่างนั้นอย่างนี้ อย่าให้เชื่อฟังเลยเปนอันขาดทีเดียว เบี้ยอัฐเบี้ยโสฬศใครมีอยู่เห็นว่าจะใช้ไม่ได้ ซื้อขายชาวตลาดไม่รับ ก็ให้กลับมาขึ้นเงินแต่พระคลังไปจะให้ตามพิกัด ๘ อัฐเฟื้อง ๑๖ โสฬศเฟื้อง จะรับเสมอคำประกาศก่อนไม่ปิดไม่ห้ามไม่ลดราคาให้ถูก
อนึ่งการทำกะแปะอัฐกะแปะโสฬศนี้ มิใช่ของเจ้าอื่นนายใดไม่ได้มาห้ามมาปราม ถึงจะมีผู้มาห้ามก็ไม่ยอมทำตาม ด้วยทุนที่ทำขึ้นก็ดี เงินที่จะรับราษฎรมาขึ้นก็ดี ไม่ได้เกี่ยวข้องเปนของใคร ตรารูปมงกุฏนั้นถึงเงินบาทก็เปนอย่างนั้นไม่ใช่ฤๅ เหมือนกับไม่มีใครถือว่าสูงว่าต่ำ เมืองอื่นๆ เหมือนทองเหรียญเงินเหรียญทองแดง เขาก็มีรูปหน้าเจ้าแผ่นดินของเขาข้างหนึ่ง ๆ ก็เปนตราของเจ้าแผ่นดินนั้นบ้าง เปนรูปมงกุฏอย่างเมืองเขาบ้าง แลมีชื่อเจ้าแผ่นดินของเขาเปนอักษรทีเดียว เปนอย่างเปนธรรมเนียมทุกเมืองมิใช่ฤๅ สืบดูเถิดอย่าว่าจุกจิกอุตริตะรอยไปเลย ใครไม่ฉลาดกว่าพระราชดำริห์ไปดอก
อนึ่งคำที่ผู้พูดว่าตราที่ประทับในกะแปะนี้นานไปจะใช้ไม่ได้ คำนี้ไม่จริงไม่ควรเชื่อ ด้วยเปนอย่างธรรมเนียมเหมือนกับเงินตราของแผ่นดินก่อนๆ สามแผ่นดินสี่แผ่นดินมา แม้นเปนแผ่นดินล่วงไปแล้วก็ยังใช้ได้อยู่ฉันใด เบี้ยกะแปะในเมืองจีนเมืองญวนแลเมืองอื่นๆ ถึงเปนของแผ่นดินเก่าๆ ล่วงมาแล้ว ก็ต้องคงใช้ได้อยู่เหมือนกันฉันนั้น จะใช้ไม่ได้แต่ของที่คนทำปลอม ถ้าเปนของทำไปแต่แผ่นดินใหญ่ ก็ต้องให้ใช้ได้สืบๆ แผ่นดินไปจนของสูญไปเอง ที่จะคิดกลัวว่านานไปจะใช้ไม่ได้นั้น ไม่ชอบกับอย่างธรรมเนียมเมืองที่ใช้กะแปะทั้งปวง ถ้าแม้นเจ้าแผ่นดินองค์ใดห้ามไม่ให้ใช้ฤๅมาขึ้นเงินไม่ใช้ให้ ลูกค้าวานิชก็คงมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่างๆ จนทนไม่ได้ต้องใช้ให้เอง การคงเปนอย่างนี้เปนแน่
อนึ่งเครื่องกลที่ทำกะแปะนั้น ก็เปนทุนแต่เงินของแผ่นดินจับจ่ายสร้างขึ้น เพื่อจะทำนุแผ่นดินให้รุ่งเรืองมีกะแปะใช้เหมือนเมืองอื่น ไม่ใช้หอยเหมือนลาวเหมือนข่าชาวป่าชาวดง เครื่องกลเครื่องจักรทั้งโรงทั้งที่ทำนั้น ก็จะคงเปนของแผ่นดินสืบไปสิ้นกาลนานมิใช่ชั่วอายุคนเดียว ก็ตราที่เปลี่ยนไปทุกแผ่นดินๆ นั้น เปนแต่จะให้รู้ว่ากะแปะนั้นทำในแผ่นดินนั้นๆ ความจริงนั้นกะแปะทั้งปวงก็คงเปนของแผ่นดินเสมออยู่ ถ้าเจ้าแผ่นดินองค์ใดในอนาคตมีพระราชดำริห์ผิดธรรมเนียมไป จะว่ากะแปะที่มีตราของแผ่นดินที่ล่วงแล้ว เมื่อราษฎรขอขึ้นเงินจะไม่ยอมให้จะไม่ใช้เงินให้ จะตัดเอาเปนเลิกดังคำฦๅเสียแล้ว เครื่องในโรงทำกะแปะที่มีอยู่จะทำต่อหรือไม่ ถ้าจะเลิกเสียไม่ทำแล้ว ของที่ลงทุนมาเปนนักเปนหนาก็มิเปนอันทิ้งเสียเปล่าฤๅ จะขายใครเขาจะซื้อ การทำกะแปะที่ให้ราษฎรใช้แทนเบี้ย เปนการของบ้านใหญ่เมืองโตทุกทิศทุกประเทศ เมืองเขมรเขาเปนเมืองขึ้นของกรุงเทพฯ เขาก็ยังริใช้ก่อนกรุงเทพฯ นี้ขึ้นไปถึงสิบห้าปีสิบหกปีมาแล้ว ที่เมืองสงขลาพระยาสงขลา เขาก็หล่อแผ่นดีบุกมีตรา ให้ราษฎรใช้แทนเบี้ยนานมาแล้ว ก็ในกรุงเทพฯ นี้มีผู้ริอ่านการกะแปะแทนเบี้ยขึ้นได้ทำใช้กันแล้ว ใครจะมาเปนใหญ่เปนโตจะให้เลิกละเสีย ก็จะเปนอันทำบ้านเมืองกรุงเทพฯ ให้คืนกลับเปนเหมือนเมืองลาวเมืองข่าเมืองป่าเมืองดง ใช้แต่หอยเบี้ยกันไม่อายเขาฤๅ ถ้าจะทำต่อไปห้ามไม่ให้ใช้ตราเก่าแล้ว เขาก็จะสงสัยว่าของทำขึ้นใหม่ในแผ่นดินนั้น นานไปก็จะใช้ไม่ได้เหมือนกัน เขาก็จะไม่เชื่อไม่ถือ ถ้าในแผ่นดินนั้นจะให้ใช้ตราในแผ่นดินนั้นอย่างเดียว ตราในแผ่นดินก่อนๆ ก็ต้องยอมให้ใช้เหมือนกัน ถ้าไม่ยอมให้ใช้ก็จะต้องซื้อมาให้หมดเต็มตามราคา จึงจะเปนยุติธรรม ด้วยพระเจ้าแผ่นดินก็เปนมนุษย์ แลไม่เปนเช่นไม้กอหญ้าเลยเหมือนกันทุกพระองค์ ไม่มีพระองค์ใดเปนไม้แก่นแลเปนทองเหลืองทองแดงของแผ่นดิน เมื่อแผ่นดินยังตั้งอยู่ก็เปนเช่นของอยู่ในแผ่นดินเดียว จะให้เปลี่ยนไปอย่างเปลี่ยนพระวงศ์ก็ดี พระองค์ก็ดี ของพระเจ้าแผ่นดิน แลเปลี่ยนตำแหน่งขุนนางนั้นไม่ได้ ขุนนางในแผ่นดินเมื่อเปลี่ยนแผ่นดินไปแล้ว ก็ยังคงบรรดาศักดิ์แลตำแหน่งอยู่ฉันใด สิ่งของบังเกิดขึ้นตามพระราชบัญญัติทั้งปวง ก็จะต้องคงเปนพระราชบัญญัติอยู่ จะทำลายล้างเลิกถอนไม่ได้ แต่หอยเบี้ยก็ดีกะแปะตราเมืองอื่นก็ดี จะมาขึ้นเงินแต่ท้องพระคลังไม่ได้ เพราะมิใช่ของทำไปแต่พระเจ้าแผ่นดินเมืองนี้
ประกาศมาณวันศุกร เดือน ๑๐ แรม ๑๑ ค่ำ ปีจอจัตวาศก ศักราช ๑๒๒๔ เปนปีที่ ๑๒ ในรัชกาลปัตยุบันนี้