๒๔๕ ประกาศตั้งกงสุลปรุศเสียน

ณวันศุกร์ เดือน ๓ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีชวดฉศก

สมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎพระจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม ซึ่งเปนพระเจ้าแผ่นดินใหญ่ที่ ๔ในพระบรมราชวงศ์นี้ แลเปนเจ้าเปนใหญ่ ได้ครอบครองพระราชอาณาจักรสยามราษฎร์ แวดล้อมด้วยนานาประเทศราชชนบทต่างๆ ทุกทิศ คือ ลาวโยนลาวเฉียงในทิศพายัพแลอุดร ลาวกาว แลทิศอิสาณจนบูรพ์กัมโพชาเขมรแต่บูรพ์จนอาคเณย์ เมืองมลายูเปนอันมาก แต่ทิศทักษิณจนหรดีแลบ้านเมืองกะเหรี่ยงบางเหล่า แต่ทิศประจิมจนพายัพแลข่าของ แลชาติต่างๆ อื่นๆ อิกเปนอันมาก ขอประกาศความแสดงราชการอันนี้มาแก่ท่านทั้งปวง ฤๅท่านผู้หนึ่งผู้ใดที่จะได้อ่านแลฟังคำประกาศนี้ ดังนี้

ชาวแผ่นดินปรุศเสียน กับชาวสยาม แต่ก่อนหารู้จักกันไม่แต่โบราณมา ครั้นเมื่อในแผ่นดินปัจจุบันนี้ การค้าขายต่างประเทศในแผ่นดินสยามมีความเจริญขึ้น ด้วยมีสัญญากับนาๆ ประเทศ ซึ่งมาค้าขายแต่ยุโรปแลอเมริกา จึงมีชนปรุศเสียนแลเยอรมันเข้ามาตั้งค้าขายอยู่บ้าง พาเรือกำปั่นใช้ธงปรุศเสียนแลเยอรมันบรรทุกสินค้าเข้ามาขาย แลรับซื้อสินค้าฝ่ายสยามออกไปบ้าง แต่สัญญาในระหว่างสยามกับปรุศเสียนแลเยอรมันนี้ยังไม่มีต่อกัน ก่อนปีระกาตรีศกศักราชสยาม ๑๒๒๓ ตรงกันกับคฤศตศักราช ๑๘๖๑ ขึ้นไป ถึงยังไม่มีสัญญาต่อกันดังนั้น ผู้ครองแผ่นดินฝ่ายสยาม ก็ได้อนุเคราะห์ชนชาวเมืองปรุศเสียนแลเยอรมันนี้ ซึ่งเข้ามาอยู่ในแผ่นดินสยาม แลเรียกภาษีแลค่าธรรมเนียม แต่เรือปรุศเสียนแลเยอรมัน โดยอาการคล้ายกันกับอย่างซึ่งได้อนุเคราะห์แก่ แลเรียกแต่ลูกค้าชาวยุโรปพวกอื่น ซึ่งได้ทำสัญญากับผู้ครองแผ่นดินฝ่ายสยามแล้ว ไม่ได้ข่มเหงชาวปรุศเสียนแลเยอรมันให้เกินอย่างอนุเคราะห์แก่ แลเรียกแต่พวกเมืองที่มีสัญญาแล้วนั้นไป เมื่อปีมเสงนพศก ศักราช ๑๒๑๙ ตรงกันกับคฤศตศักราช ๑๘๕๗ ทูตฝ่ายสยามขึ้นไปเมืองลอนดอน ได้พบแลมีเคารพรู้จักแลเห็นเจ้านายฝ่ายแผ่นดินปรุศเสียน ซึ่งไปในเมืองลอนดอนครั้งนั้น ด้วยเหตุนี้เงาความไมตรีในระหว่างชาวสยามกับปรุศเสียนก็มีขึ้น ครั้นปีระกาตรีศก ศักราช ๑๒๒๓ ตรงกันกับคฤศตศักราช ๑๘๖๑ สมเด็จพระเจ้ากรุงปรุศเสียน จึงแต่งให้กอนเออเลนเบิดเปนทูตผู้ถือรับสั่ง เข้ามาขอทำสัญญาในกรุงเทพพระมหานครนี้ ด้วยทางพระราชไมตรีแลการค้าขายในระหว่างสยามแลปรุศเสียนเข้ากับเมืองเยอรมันนี ๒๑ พวก[๑] เพื่อความเจริญแก่บ้านเมืองทั้ง ๒ ฝ่าย สัญญาแล้วเสร็จลงวันศุกร เดือน ๓ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีระกาตรีศก ศักราช ๑๒๒๓ เปนวันที่ ๗ ในเดือนเฟปรุวารี ในปีมีคฤศตศักราช ๑๘๖๒ แล้วเปลี่ยนให้เปนอันสำเร็จณวันจันทร์ เดือน ๖ แรม ๓ ค่ำ ปีชวดฉศก ศักราช ๑๒๒๖ เปนวันที่ ๙ ของเดือนเม คฤศตศักราช ๑๘๖๔ ในข้อสัญญาที่ทำนั้นว่าด้วยจะตั้งกงสุลมีว่าไว้ในข้อ ๒ ว่ายอมให้ตั้งกงสุลด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่ายดังนี้ ว่าสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินทั้ง ๒ ฝ่ายที่ได้ทำสัญญานี้ มีอำนาจที่จะตั้งกงสุลเยเนราลแลกงสุลแลไวซะกงสุล แลผู้ว่าการแทนกงสุลในเมืองชายทะเล แลเมืองต่างๆ ประเทศทั้ง ๒ ฝ่ายนั้นได้ กงสุลเหล่านี้จะต้องนับถือให้มีอำนาจทั้งที่ยกที่เว้นในประเทศที่เขาจะไปอยู่นั้นตามที่ให้แล้ว ฤๅตามที่ยังจะยอมให้แก่กงสุลประเทศอื่นๆ อันเปนตำแหน่งเดียวกันที่เปนไมตรีกันแล้ว แลจะเปนไมตรีกันต่อไปภายหน้าอย่างไรจะให้เหมือนกัน แต่ราชการในตำแหน่งกงสุลเหล่านี้จะไม่จับทำการของตัว ก่อนได้รับหนังสือเอกษกวาเตอร์ คือหนังสือที่ประเทศที่กงสุลจะไปอยู่ยอมรับให้ว่าการ กงสุลจึงจะว่าได้ ประเทศดอยชะทั้งหลายที่เข้าในสัญญานี้ จะตั้งผู้ว่าการกงสุลคนหนึ่งสำหรับเมืองหนึ่งเปนเมืองชายทเลฤๅเมืองชั้นในก็ได้ แต่ในตำบลเหล่านั้นที่เขาจะตั้งกงสุลเยเนราลฤๅกงสุล เขาจะตั้งไวซะกงสุล ฤๅผู้ว่าการแทนกงสุลอิกคนหนึ่งก็ได้ จะได้ทำการแทนกงสุลเยเนราล ฤๅกงสุลเมื่อเขาจะไม่อยู่ฤๅมีเหตุจะว่าการเองไม่ได้ กงสุลเยเนราลแลกงสุลจะตั้งไวซะกงสุล ฤๅผู้ว่าการแทนกงสุลก็ได้ด้วย อนึ่งการซึ่งจะเปนประโยชน์แก่คนทั้งสิ้น ที่อยู่ในบังคับประเทศดอยชะต่างๆ ที่เข้าในสัญญานี้กงสุลจะรักษาแลดูเอาไว้ใต้บังคับของกงสุล แม้คนเหล่านั้นจะมาก็ดีฤๅจะอาศรัยอยู่ในประเทศสยามก็ดี ผู้ว่าการกงสุลนั้นจะต้องประพฤติตามข้อความในหนังสือสัญญานี้ทั้งสิ้น แลบังคับให้ชาวประเทศดอยชะต่างๆ นั้นประพฤติไปตามด้วย ผู้ว่าการกงสุลนั้นจะต้องประกาศแลช่วยให้สำเร็จไปได้ ข้อสัญญาแลไขข้อสัญญาทั้งสิ้นซึ่งตั้งไว้แล้วบัดนี้ฤๅซึ่งจะตั้งในเบื้องหน้า ให้คนในบังคับดอยชะต่างๆ นั้นรักษาไว้เพื่อจะบังคับการงานของเขา แลเพื่อเขาจะได้ประพฤติตามกฎหมายแผ่นดินสยาม ถ้าผู้ว่าการกงสุลฝ่ายประเทศดอยชะนั้นไม่อยู่ ชาวประเทศดอยชะต่างๆ ที่เข้าในสัญญานี้ อันจะมาฤๅจะอาศรัยอยู่ในประเทศสยามนี้ จะไปพึ่งให้กงสุลประเทศอื่น อันเปนไมตรีกันกับประเทศของตนช่วยธุระก็ได้ ฤๅจะพึ่งเจ้าพนักงานฝ่ายไทยในตำบลนั้นให้ช่วยธุระก็ได้ เจ้าพนักงานฝ่ายไทยในตำบลนั้นก็เอาธุระให้มีผลประโยชน์ตามหนังสือสัญญานี้

ว่าเพราะในหนังสือสัญญามีอยู่ ว่าให้ผู้ครองแผ่นดินสยาม ตั้งกงสุลฝ่ายสยามไว้ในท่าบ้านเมืองเปนของปรุศเสียนแลเยอรมัน ก็ตั้งแต่สัญญาเสร็จแล้ว ข้างผู้ครองแผ่นดินฝ่ายปรุศเสียนแลเยอรมันก็ยังหาได้ตั้งกงสุลฝ่ายปรุศเสียนแลเยอรมันไว้ในกรุงเทพฯ นี้ไม่

เมื่อมีการงานถ้อยความสิ่งใด จะมีข้อสงสัยต้องปฤกษาด้วยธุระของเรือแลคน ซึ่งขึ้นอยู่ในอำนาจเยอรมันแลปรุศเสียน ก็จะต้องเขียนหนังสือส่งไปถึงเสนาบดีในเมืองปรุศเสียน ก็ผู้จะรับส่งหนังสือปฤกษาหาฤๅไต่ถามแลฟังความที่ควร แทนผู้ครองแผ่นดินฝ่ายสยาม ในแผ่นดินปรุศเสียนยังหามีไม่ ควรจะตั้งผู้หนึ่งผู้ใดให้เปนกงสุลฝ่ายสยามในแผ่นดินปรุศเสียนเปนผู้อยู่ต่อหน้าแทนผู้ครองแผ่นดินฝ่ายสยามสักนายหนึ่งก็ดี

จึงเราพระเจ้ากรุงสยามกับเสนาบดี ได้ปฤกษาพร้อมกันเห็นว่ามิศเตอร์อามากวารด์เปนชนชาวปรุศเสียนได้เคยเข้ามาอยู่ในกรุงเทพมหานครนี้ แลรู้จักคุ้นเคยกับเราพระเจ้ากรุงสยาม แลเสนาบดีในแผ่นดินสยามมานาน แลก่อนเอวเลนเบิคราชทูตเมืองปรุศเสียนก็ได้มีหนังสือมาถึงเราพระเจ้ากรุงสยาม ทำให้แน่ใจว่ามิศเตอร์อามากวารด์เปนคนควรนับถือเชื่อแลไว้ใจอยู่ เพราะฉนั้นควรจะตั้งให้เปนกงสุลฝ่ายสยาม รับธุระอยู่แทนผู้ครองแผ่นดินฝ่ายสยาม อยู่ที่เมืองเบอรลินในแผ่นดินปรุศเสียนได้ บัดนี้เราพระเจ้ากรุงสยามตั้งความเชื่อความไว้ใจ ในมิศเตอร์อามากวารด์นั้นแล้ว ขอประกาศมาให้ท่านทั้งปวงรู้ด้วยคำประกาศนี้ซึ่งได้ประทับพระราชลัญจกรตามตำแหน่ง แลพระราชลัญจกรพิเศษ ฉะเพาะสำหรับเราพระเจ้ากรุงสยาม แลราชหัดถเลขาของเราพระเจ้ากรุงสยามเปนสำคัญ ขอตั้งมิศเตอร์อามากวารด์ให้เปนกงสุลฝ่ายสยาม มีถานันดรนามตามภาษาสังสกฤต โดยอย่างธรรมเนียมสยามว่า หลวงสยามยศบาลกงสุลฝ่ายสยาม เราพระเจ้ากรุงสยามให้อำนาจอันเต็มแก่มิศเตอร์อามากวารด์หลวงสยามยศบาล เพื่อจะรับราชการในตำแหน่งกลสุลฝ่ายสยามตามกฎหมาย เอนเตอรมาแชนานลอก็ดี แลกฎหมายสำหรับเมืองปรุศเสียนนั้นก็ดี เสมอไปตลอดเวลาความชอบใจของเราพระเจ้ากรุงสยามปัจจุบันนี้ ฤๅผู้จะสืบพระราชวงศานุวงศ์ แลสืบราชอิศริยยศต่อไปภายหน้า แลตลอดเวลาอายุ ฤๅความชอบใจของมิศเตอร์อามากวารด์นั้นเอง

เมื่อใดมีสำคัญอื่น สำแดงความชอบใจอย่างอื่นแห่งเราพระเจ้ากรุงสยามบัดนี้ก็ดี แห่งผู้สืบพระราชวงศานุวงศ์แลราชอิศริยยศในภายหน้าก็ดี มีพระราชลัญจกรสำหรับแผ่นดินสยาม ประทับไปสำแดงให้เห็นให้ได้ยินจนเชื่อได้ ฤๅเมื่อใดอายุมิศเตอร์อามากวารด์นั้นสิ้น ฤๅเมื่อใดมิศเตอร์อามากวารด์นั้นไม่พอใจจะรับการกงสุลฝ่ายสยามสืบไปลาออกเสียจากที่ เมื่อนั้นอำนาจที่ยอมมาสำคัญฉบับนี้ชื่อว่าระงับไป เมื่อมิศเตอร์อามากวารด์นั้นตั้งอยู่ในอำนาจนี้ เมื่อจะไม่อยู่ในเมืองเบอรลินฤๅป่วยไข้ไม่อุสาหะประการใด มอบหมายให้ผู้อื่นรับธุระทำแทนไป ผู้นั้นก็ให้มีอำนาจเปนดังกงสุลทำแทนไปได้กว่าจะมีสำคัญฉบับอื่น ซึ่งเราพระเจ้ากรุงสยาม ฤๅผู้สืบราชวงศานุวงศ์ แลสืบราชอิศริยยศในภายหน้า จะให้ไปตั้งผู้นั้นฤๅผู้อื่นเปนที่กงสุลต่อไป อำนาจกงสุลจึงจะตกอยู่แก่ผู้อื่นมีชื่อในสำคัญฉบับอื่นนั้นเมื่อนั้น

บัดนี้มิศเตอร์อามากวารด์ หลวงสยามยศบาลกงสุลฝ่ายสยาม ชอบใจจะให้มีผู้ช่วยราชการ ฤๅเสมียนผู้เขียนหนังสือขึ้นอิกนายหนึ่งฤๅสองนายด้วย ถ้าความต้องการจะพึงมีประการใดแล้ว ก็ควรให้มิศเตอร์อามากวารด์ หลวงสยามยศบาลกงสุลฝ่ายสยาม มีหนังสือมาหาฤๅเรียบเรียงกับเจ้าพระยาพระคลัง ผู้ว่าการต่างประเทศฝ่ายสยามเทอญ

เมื่อหลวงสยามยศบาล รับราชการเปนกงสุลอยู่เมืองเบอรลินในแผ่นดินปรุศเสียนนั้น ให้มีหนังสือโต้ตอบไปมากับเจ้าพระยาพระคลัง เสนาบดีผู้ว่าการต่างประเทศฝ่ายสยามจงเนืองๆ ในเวลาแลช่องโอกาศอันควร สั่งสนทนาหาฤๅให้เข้าใจในขนบราชการที่จะต้องตามประสงค์ เมื่อเจ้าพระยาพระคลังมีคำสั่งไปประการใด ถ้าเห็นชอบด้วยราชการก็จงทำตามทุกประการ ถ้ายังมีความสงสัยไม่เข้าใจชัด ฤๅเห็นว่าเปนอันข้องขัดแก่กฎหมาย แลอย่างธรรมเนียมในเมืองเบอรลิน ก็ให้มีหนังสือชี้แจงมาให้ถ้วนถี่ แลไต่ถามหาฤๅเอาความให้ละเอียดเข้าใจได้แล้ว จึงทำตามคำสั่ง แลให้หลวงสยามยศบาลกงสุลฝ่ายสยามเมืองเบอรลิน คอยฟังถ้อยคำผู้ครองแผ่นดินในปรุศเสียน จะว่ากล่าวด้วยเหตุผลประการใด เกี่ยวข้องมาในแผ่นดินสยาม ก็ให้มีหนังสือแจ้งความมาถึงเจ้าพระยาพระคลังคอยฟังคำตอบ ถ้าได้ความประการใดแล้วจงนำไปแจ้งความแก่ผู้ครองแผ่นดินปรุศเสียนเถิด

ฤๅการใดๆ ในแผ่นดินสยาม หลวงสยามยศบาลกงสุลฝ่ายสยามเข้าใจเปนแน่ เพราะได้รู้แต่เจ้าพระยาพระคลังแต่เดิมแล้ว จะโต้ตอบแก่ผู้ครองแผ่นดินปรุศเสียน ทันคำถามหาฤๅทีเดียวก็ได้ แต่ถ้าผู้ครองแผ่นดินปรุศเสียนจะว่ากล่าวให้ยินยอมอำนวยตาม ในข้อความใดๆ แทนผู้ครองแผ่นดินฝ่ายสยาม ต้องมีใบบอกมาหาฤๅเจ้าพระยาพระคลังก่อน ต่อได้บังคับโดยฉะเพาะไปแต่เจ้าพระยาพระคลังจึงยอมลงเปนอันขาดได้ อนึ่งการใดๆ ในเมืองอื่นๆ ในแผ่นดินยุโรป ที่อยู่ใกล้เคียงผู้ครองแผ่นดินนั้นๆ จะว่าประการใด เปนการเกี่ยวข้องกับด้วยแผ่นดินสยาม หลวงสยามยศบาลกงสุลฝ่ายสยามได้ทราบความแล้ว จงบอกมาให้เจ้าพระยาพระคลังทราบด้วย

ถ้าเราพระเจ้ากรุงสยาม ฤๅเสนาบดีผู้ครองแผ่นดินสยาม จะมีความต้องประสงค์สิ่งใดๆ ในเมืองปรุศเสียนแลเยอรมันนีฤๅที่อื่นๆ จะสั่งให้หลวงสยามยศบาลกงสุลฝ่ายสยาม จัดซื้อจัดหามาก็ให้ช่วยรับเปนธุระด้วย แต่การสั่งจะเปนสั่งแท้ต่อได้หนังสือสั่งฉะเพาะเปนสำคัญไปทุกครั้ง แต่เจ้าพนักงานฝ่ายสยามจึงเปนสั่งแท้ คิดเอาเงินแต่ผู้ครองแผ่นดินฝ่ายสยามได้

ขอให้สิ่งซึ่งเปนประธานแก่สกลโลกจงอนุเคราะห์รักษามิศเตอรอามากวารด์ หลวงสยามยศบาลกงสุลฝ่ายสยาม ให้มีความสุขสวัสดิ์ทุกประการเทอญ

ประกาศนี้ส่งมาแต่ท้องพระโรงหลวงพระที่นั่งอนันตสมาคม บรมมหาราชวัง ณกรุงรัตนโกสินทรมหินทรายุธยาบางกอก ณวันศุกร เปนดิถีที่ ๑๕ ในข้างขึ้นของจันทรมาศชื่อมาฆ เปนเดือนที่ ๓ แห่งฤดูหนาวมาในปีชวดฉศก ศักราชโหรสยาม ๑๒๒๖ ตรงกันกับกำหนดสุริยคติกาล เปนวันที่ ๑๐ ของเดือนเฟปรุวารี ในปีมีคฤศตศักราช ๑๘๖๕ เปนปีที่ ๑๕ ฤๅเปนวันที่ ๕๐๒๑ ในรัชกาลปัตยุบันของเราพระเจ้ากรุงสยามนี้



[๑] คือประเทศในเยอรมนีที่เข้ากันในการเก็บภาษีเปนอย่าง ซอละฟะรีนะ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ