เรื่องควบคุมเครดิต (ส่วนที่เกี่ยวกับธนาคาร)

๑. กฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครดิต ส่วนที่เกี่ยวกับธนาคาร มีบทบังคับ ๒ ประการ คือ

(ก) ธนาคารต้องมีเงินสดสำรองไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๒๕ ของเงินฝาก

(ข) ธนาคารต้องไม่ให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนหาผลประโยชน์อย่างใด นอกจากซื้อพันธบัตร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต

แต่ว่าถ้าธนาคารใดถือพันธบัตรเป็นราคาไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๔๐ ของเงินฝาก ก็ได้รับยกเว้นจากข้อห้ามที่กล่าวนี้

๒. ถึง ๓๑ กรกฎาคม ๒๔๘๖ มีแต่ธนาคาร......และธนาคาร......เท่านั้น ที่ยังมิได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนธนาคารอื่น ๆ ได้ปฏิบัติแล้วทุกธนาคาร ท้ายบันทึกนี้มีใบแนบ ๑ แสดงการปฏิบัติของธนาคารต่าง ๆ

ต่อไปนี้จะได้อธิบายความประสงค์ของบทกฎหมายที่กล่าวแล้วนั้นโดยย่อ เพื่อให้เห็นว่าการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติจะได้หรือเสียผลอย่างไร

๓. บทบังคับให้ธนาคารต้องมีเงินสดสำรองไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๒๕ ของเงินฝากนั้น ก่อนอื่นควรสังเกตไว้ว่ามิใช่เป็นการที่ริเริ่มขึ้นใหม่ ที่แล้วๆ มาธนาคารทั้งปวงก็เคยมีเงินสดสำรองประมาณร้อยละ ๒๕ หรือมากกว่าอยู่แล้วเป็นปกติ ดั่งแจ้งในใบแนบ ๒ ท้ายนี้ ฉะนั้น การบังคับให้ต้องมีเงินสดสำรองร้อยละ ๒๕ จึ่งเป็นการปฏิบัติดั่งที่เคยทำมาแล้วเท่านั้น เหตุไรจึงต้องบังคับจะอธิบายต่อไป

๔. เงินที่ธนาคารรับฝากส่วนมากเป็นเงินฝากกระแสรายวัน ซึ่งธนาคารต้องจ่ายทันทีเมื่อผู้ฝากสั่งจ่าย ธนาคารจึ่งต้องมีเงินสดสำรองไว้ ให้พอที่จะจ่ายตามคำสั่งได้ทุกเมื่อ และก็ได้เคยมีไว้ประมาณร้อยละ ๒๕ หรือมากกว่าดั่งกล่าวแล้ว แต่ในระหว่างเวลานี้มีบุคคลบางคนหาผลประโยชน์โดยวิธีกักกันสินค้าหรือวิธีอื่นซึ่งทำให้ของแพง และเมื่อทำเป็นการใหญ่ก็ต้องกู้ยืมเงินมาเป็นทุน ฝ่ายธนาคารเมื่อให้กู้ยืมเงินไปก็ได้ดอกเบี้ย ธนาคารมีวัตถุประสงค์จะหากำไร ไม่มีหน้าที่ต้องคำนึงว่าจะเสื่อมเสียแก่ประโยชน์ส่วนรวมหรือไม่ จึงมีบางธนาคารให้กู้ยืมเงินไปมากมาย เงินสดสำรองที่เคยมีอยู่ร้อยละ ๒๕ หรือมากกว่า ก็ได้ลดต่ำลงมาก

๕. ที่บางธนาคารให้กู้ยืมเงินไปมากมายนั้น ย่อมจะเกิดผลเสีย ๓ ประการ คือ

(ก) ผู้กู้อาจเอาเงินไปเป็นทุนกักกันสินค้า ซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไร หรือทำการอย่างอื่นอันเป็นเหตุทำให้ของแพง

(ข) ธนาคารใดยิ่งให้กู้ยืมเงินมากก็ยิ่งจะมีเงินสดสำรองน้อย ถ้าหากมีผู้ถอนเงินมาก ธนาคารก็จะไม่มีเงินสดพอจ่าย และเมื่อธนาคารไม่สามารถจ่ายเงินตามคำสั่งผู้ฝากคนใดคนหนึ่งแม้แต่คนเดียว คนอื่น ๆ ทุกคนต่างก็จะหมดความเชื่อถือ และจะเรียกร้องเงินของตนคืน ธนาคารนั้นจะต้องล้มไป ผู้ฝากจะต้องเสียหาย

(ค) เวลานี้ธนาคารต่างประเทศ ๓ ธนาคารถูกปิดแล้ว เป็นโอกาสดีของธนาคารไทยที่จะงอกเงยใหญ่โตขึ้นได้ ถ้าธนาคารไทยทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือเสียแล้ว ไหนเลยไทยจะเอางานธนาคารออกมาจากมือชาวต่างประเทศได้ เมื่อเสร็จสงครามแล้วธนาคารต่างประเทศก็คงจะเข้ามาทำการใหญ่โตได้อีก โอกาสดีเช่นเวลานี้เมื่อไรจะมีมาใหม่

การบังคับธนาคารให้มีเงินสดสำรองไว้เท่าที่เคยมีมาแล้วแต่ก่อน จึ่งเป็นการที่จะเป็นต้องทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

๖. บทบังคับมิให้ธนาคารให้กู้ยืมเงินโดยมิได้รับอนุญาตนั้น มีจุดประสงค์ในอันจะป้องกันมิให้สินค้ามีราคาแพงยิ่ง ๆ ขึ้นไปไม่สิ้นสุด จึ่งจะห้ามการให้กู้ยืมเงินไปเป็นทุนกักกันสินค้า หรือซื้อที่ดินหรือวัตถุอย่างอื่น ๆ เพื่อเก็งกำไรเป็นต้น แต่การให้กู้ยืมเพื่อผลิตสินค้าหรือส่งสินค้าเข้ามาซึ่งเป็นประโยชน์ส่วนรวมในขณะนี้ ก็จะได้รับอนุญาตให้ทำได้

๗. อนึ่ง ในเวลานี้รัฐบาลจำต้องมีรายจ่ายมาก และประสงค์จะผ่อนเบาภาระให้แก่ราษฎร โดยวิธีกู้เงินมาจ่ายแทนที่จะเพิ่มภาษีอากร ธนาคารเป็นองค์การที่ให้กู้ยืมเงิน ก็ควรจะแบ่งเงินมาให้รัฐบาลกู้ยืมได้บ้าง แทนที่จะให้บุคคลอื่น ๆ กู้ยืมทั้งหมด เมื่อธนาคารได้ให้รัฐบาลกู้ยืมเงินถึงร้อยละ ๔๐ ของเงินฝากแล้ว เงินที่จะมีเหลือให้บุคคลอื่นกู้ยืมได้ก็ย่อมลดน้อยลง ในกฎหมายจึงได้มีบทไว้ว่า ธนาคารใดถือพันธบัตรราคาถึงร้อยละ ๔๐ ของเงินฝากแล้วก็จะให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต

๘. ได้กล่าวแล้วว่าขณะนี้มีเพียง ๒ ธนาคารที่ยังมิได้ปฏิบัติตามกฎหมาย คือธนาคาร......และ.......

ธนาคาร.......มีเงินสดสำรองยังไม่ถึงร้อยละ ๒๕ ตามกฎหมาย แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ให้คำแนะนำและพร้อมที่จะช่วย ในอันที่จะให้ปฏิบัติตามบทบังคับนั้นได้ คงจะไม่มีข้อยุ่งยากอย่างไรอีก อนึ่ง ธนาคาร......ถือพันธบัตรอยู่เกือบร้อยละ ๔๐ ของเงินฝาก และก็มีทางที่จะช่วยเหลือรัฐบาลโดยซื้อเพิ่มเติมให้ครบร้อยละ ๔๐ นั้นได้

ธนาคาร.....มีเงินสดสำรองใกล้ร้อยละ ๒๕ ของเงินฝาก ฉะนั้นการที่จะปฏิบัติตามกฎหมายจึงไม่เป็นการยากลำบาก อนึ่งธนาคารนี้ถือพันธบัตรอยู่ไม่ถึงร้อยละ ๑ ของเงินฝาก ถ้าจะช่วยเหลือรัฐบาลโดยซื้อพันธบัตรจนครบร้อยละ ๔๐ ก็ย่อมจะทำได้ โดยวิธีค่อย ๆ ถอนเงินที่ให้บุคคลอื่นกู้ยืมกลับมาเสียบ้าง แล้วใช้เงินที่ถอนได้นั้นซื้อพันธบัตร ดั่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้แนะนำไปแล้ว ถ้าธนาคาร......ปฏิบัติตามคำแนะนำนั้น นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือรัฐบาลแล้ว ฐานะของธนาคาร......เองจะมั่นคงดีขึ้น เพราะรัฐบาลย่อมเป็นลูกหนี้ที่มีฐานะดีกว่าลูกหนี้อื่น ๆ ในการนี้ธนาคารจะขาดผลประโยชน์ไปบ้างปีหนึ่งประมาณ ๒๘,๐๐๐ บาท เพราะรัฐบาลให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าลูกหนี้อื่น ๆ โดยมาก แต่เมื่อระลึกว่าธนาคารนี้ได้กำไรมาแล้วมากมาย ใน ๑๒ เดือนที่แล้วมานี้ได้จ่ายเงินปันผลถึงร้อยละ ๔๐ ของทุนที่เรียกแล้ว การเสียสละเพียงเท่านี้เพื่อช่วยรัฐบาลก็ไม่ควรรังเกียจ แม้แต่ธนาคารญี่ปุ่นก็ได้บอกมาแล้วว่าจะช่วยเหลือ.

๒ สิงหาคม ๒๔๘๖

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ