๔๐
อากาศเย็นจัด ปรอทลงต่ำกว่าศูนย์ดีกรีหลายวันแล้ว หิมะซึ่งตกลงมาอย่างหนาเมื่อเย็นวันเสาร์ ยังคงค้างอยู่บนพื้นดินตามสองข้างถนน ปักกิ่งกำลังอยู่ในฤดูหนาวที่สุด ไม่มีใครอยากจะออกจากบ้านซึ่งมีเตาผิงให้ความอบอุ่นตลอดวัน ความสบายในฤดูหนาวเป็นของพวกคนชั้นกลางและชั้นสูง โดยมากเสื้อผ้าที่หนาและเตาผิงที่เต็มไปด้วยถ่านหินอย่างดี เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ของทั้งสองอย่างนี้เงินเนรมิตให้ได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับพวกหาเช้ากินค่ำย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ความยากจนกับความหนาวไม่เคยเป็นมิตรต่อกันเลย ปักกิ่งเต็มไปด้วยคนจน เพราะฉะนั้นภาพที่เราเห็นในฤดูเหมันต์ จึงเป็นภาพที่ขาดความแจ่มใสชื่นบานสำหรับคนที่ช่างคิด ความอดอยาก เสื้อผ้าพอที่กำบังกายไม่มีเหล่านี้เป็นเครื่องมือที่เร่งมัจจุราชให้ปลิดชีวิตชาวจีนในภาคเหนือในทุก ๆ ปี พวกคริสต์ชนแห่ง The Salvation Army และ Y.M.C.A. ตลอดจน Y.W.C.A. ต้องทำงานหนักทุกคราวที่ฤดูหนาวได้ผ่านเข้ามาในปักกิ่ง คนพวกนี้ดูเหมือนจะเกิดมาสำหรับแก้ปัญหามนุษยธรรม พยายามก่อสร้างงานขึ้นทุก ๆ ทาง เพื่อช่วยเหลือคนที่ยากจนให้ได้รับความสุขขึ้นเท่าที่จะทำได้ แต่นอกจากปัญหามนุษยธรรมแล้ว คริสต์ชนเหล่านี้จะมีความประสงค์อย่างใดอีกข้าพเจ้าไม่มีทางจะทราบได้เลย งานของพวกฝรั่งแห่ง The Salvation Army ได้ให้ความสุขสบายแก่คนจนในปักกิ่งตลอดฤดูหนาว องค์การแห่งนี้ได้สร้างที่พักให้พวกคนจน และยังมีอาหารร้อน ๆ แจกอีกด้วย ทำให้คนจนรอดตายไปได้ปีละมาก ๆ นี่เป็นงานของพวกคริสเตียนซึ่งต้องการจะเผยแพร่ศาสนาของเขา ด้วยการแสดงความเมตตากรุณาโอบอ้อมอารี ประหนึ่งนักบุญที่ลอยลงมาจากท้องฟ้า พูดถึงพวกคริสเตียนบางคน และหมอสอนศาสนาโดยมากในเมืองจีน ข้าพเจ้าก็บังเกิดความรู้สึกว่าคนเหล่านี้ได้เดินทางไปประเทศจีนด้วยความเสียสละอย่างสูง เสียสละเพื่อมนุษยธรรมอันบริสุทธิ์หรือเพื่ออะไรแน่ ข้าพเจ้าไม่มีทางจะทราบได้ ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักกับหมอสอนศาสนาเป็นจำนวนไม่น้อยที่สถานศึกษาอเมริกันของ Dr. W.B. Pettus ในปักกิ่ง คนเหล่านี้มาจากสมาคมศาสนาคริสเตียนต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นชาวสวีเดนก็มี เดนมาร์กก็มี ฮอลันดาก็มี อังกฤษก็มี อเมริกันก็มี ฯลฯ ทุกคนได้รับเงินเดือนแพง ๆ จากสมาคมของเขา มีหน้าที่ซึ่งเห็นกันอยู่ชัดแจ้งสำหรับทำการเผยแพร่ศาสนาของพระเยซูให้แก่ชาวจีน แต่หน้าที่อื่น ๆ นอกจากนี้จะมีอะไรบ้างไม่มีใครทราบได้ แต่จะอย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลของหมอสอนศาสนาและโรงเรียนของหมอสอนศาสนาได้มีอยู่ทั่วเมืองจีน ล้วนเป็นงานของการกุศลอย่างสำคัญยิ่ง ซึ่งดูดดึงใจชาวจีนให้ระลึกอยู่เป็นนิตย์ว่า ศาสนาคริสเตียนเป็นศาสนาที่ทำประโยชน์ให้แก่พี่น้องร่วมชาติของเขาอย่างมากมาย ผลที่เกิดจากการระลึกเช่นนี้ก็คือ ชาวคริสเตียนที่เป็นคนจีนได้ทวีขึ้นปีละมาก ๆ
ความหนาวในฤดูเหมันต์ได้ให้โอกาสแก่พวกฝรั่งที่คลั่งศาสนาเผยแพร่คุณความดีของเขาให้ประจักษ์แก่ตาชาวจีนทุกชั้นและทุกวัย ที่หน้าสำนักงานใหญ่ของ The Salvation Army มีชาวจีนจับกลุ่มอยู่เต็มทุกวัน คนเหล่านี้เป็นพวกคนจนโดยมาก เดินผ่านไปมา พอได้ยินเสียงกลองและแตรของนักประกาศศาสนาเข้าก็หยุดยืนฟังกันเป็นกลุ่มใหญ่ พอได้จำนวนคนมากสมความต้องการแล้ว ปาฐกจีนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งที่องค์การแห่งนี้จ้างไว้ ก็ออกมาแสดงปาฐกถาเรื่องการศาสนา พยายามเฟ้นหาถ้อยคำที่เร้าใจ เพื่อชักชวนผู้ฟังให้บังเกิดความเลื่อมใส วันหนึ่งขณะที่ปาฐกกำลังเผยแพร่ลัทธิศาสนาของไครสต์อยู่ ข้าพเจ้าบังเอิญผ่านไปและพบวลาดิมีร์ยืนปนอยู่ในกลุ่มผู้ฟัง เนื่องจากไม่มีธุระด่วนอะไร ข้าพเจ้าจึงเข้าไปทักหยุดคุยด้วย
“มาฟังธรรมกับเขาเหมือนกันหรือครับ?” ข้าพเจ้าเอ่ยขึ้นก่อน วลาดิมีร์ยิ้มอย่างเต็มไปด้วยความกรุณาตามเคย
“ไม่มีธุระอะไรก็ออกมาเดินเล่น แดดเช้าวันนี้อุ่นสบายดีมากทีเดียว”
“เหมาะสำหรับวันอาทิตย์ นี่ผมจะไปหอสมุดสักครู่”
“ฉันตั้งใจจะเดินไปให้ถึงเหมือนกัน” พูดพลางยืดตัวตรง ท่าทางมีสง่าคล้ายเจ้าชายอะไรสักองค์หนึ่ง “เธอจะเดินไปไม่ใช่หรือ?”
ข้าพเจ้ารับคำ เราผละจากกลุ่มผู้ฟังธรรมริมถนน ออกเดินไปตามบาทวิถีซึ่งไม่มีแม้แต่แผ่นอิฐ เป็นพื้นดินเปล่า ๆ ที่แห้งแล้ง เพราะต้นหญ้าได้ตายหมดแล้ว วลาดิมีร์ชวนข้าพเจ้าพูดตลอดทาง เขาพูดช้า ๆ เนิบ ๆ น้ำเสียงหนักแน่นมีอำนาจอยู่ในตัว กิริยาและคำพูดของบุรุษผู้นี้ทำให้ข้าพเจ้าอดคิดไม่ได้ว่า เมื่อสมัยอยู่ในรัสเซีย เขาคงเป็นคนใหญ่โตที่มีอำนาจผู้หนึ่ง
“เป็นชีวิตที่น่าเป็นสุข พวกหมอสอนศาสนา” บุรุษชราเอ่ยขึ้นในตอนหนึ่ง “ฉันคิดว่าอยากจะลองเป็นดูบ้าง แก่จนป่านนี้แล้ว จะอยู่ไปได้อีกสักกี่วัน อยากจะใช้ชีวิตให้มีประโยชน์ แต่–น่าเสียดาย เขาไม่เข้าใจเรา”
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ?” ข้าพเจ้าถาม พลางหันมามองหน้า
วลาดิมีร์ยิ้มแห้ง ๆ
“เขาไม่รับฉันเข้าเป็นพวกด้วย”
“ใคร?”
“The Salvation Army”
“อ้าว ทำไม จะเป็นหมอสอนศาสนาไปแล้วหรือครับ?”
“เธอคงจะลืมว่าฉันเป็นคริสเตียน”
“แต่ทำไมถึงจะต้องเป็นหมอสอนศาสนาด้วย?”
“เพราะมีโอกาสได้ทำบุญ”
“ผมแทบจะเลิกเสียแล้วทำบุญ ไม่เห็นได้อะไรเลย”
“ได้สิ ระพินทร์ ได้ความสุขใจอย่างไรเล่า ฉันรู้สึกว่าฉันมีความสุขมากถ้าได้เข้าไปอยู่ใน The Salvation Army แต่ก็น่าเห็นใจ มันเรื่องระเบียบข้อบังคับของเขา”
“ผมยังเป็นหนุ่ม อยากจะรอดูโลกต่อไปอีกสักหน่อย”
“เธอก็เป็นนักดูโลกเหมือนกันหรือ?”
“ชีวิตเป็นของแปลกประหลาด ผมคิดว่าเกือบจะเข้าใจมันหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจดีสักที”
“นั่นซี มันต้องใช้เวลาเป็นจำนวนปี” วลาดิมีร์พูดยิ้ม ๆ “ฉันก็อยู่ในโลกนี้มานานหลายสิบปีแล้ว แต่ในบางคราวฉันก็ยังแปลกใจเล็กน้อย เมื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นในชีวิตโดยไม่รู้ตัว”
“วารยาดูเหมือนจะพยายามเรียนรู้ชีวิตอยู่ทุกวัน”
นิ่งไปขณะหนึ่ง วลาดิมีร์จึงกล่าวตอบ
“ฉันจับตัวมาพูดให้ฟังบ่อย ๆ ไม่งั้นก็แย่ แกเป็นคนคิดมากพอใช้ ต้องให้สติกันเสมอ ๆ”
“แต่ดูวารยาเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งมาก”
บุรุษชราพยักหน้า
“เป็นคนมีมานะตั้งแต่เล็ก ไม่อยากจะพึ่งใคร”
“ผมรู้สึกว่าวารยาไม่ค่อยจะมีความสุขนัก”
วลาดิมีร์ก้มหน้ามิได้ตอบว่ากระไร เดินพลางเอาปลายไม้เท้าเขี่ยดินไปพลาง
“ที่จริงเป็นเรื่องของโชคร้าย ผมเห็นใจ” ข้าพเจ้ากล่าวต่อไปโดยไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง
“เธอคงจะรู้เรื่องของเขาดีแล้ว มันช่วยอะไรไม่ได้ จริงของเธอ มันเป็นเรื่องของโชค”
“ที่จริงผมอาจพยายามรู้มากไป แต่ผมชอบวารยา”
“มันเกิดเพราะความซื่อของวารยา” วลาดิมีร์พูดเบา ๆ
“เข้าใจชีวิตยังไม่พอ ผมคิด”
“อาจเป็นได้ เชื่อความสุจริตมากไปสักหน่อย บางครั้งความสุจริตไม่ค่อยจะมีประโยชน์มากนักในโลกเช่นนี้”
ข้าพเจ้ายิ้มอย่างเข้าใจความหมาย
“วารยาเป็นคนดีนะครับ ผมชอบเขามาก”
“วารยาพูดถึงเธอเสมอ เขาว่าดูเหมือนเธอจะพยายามเข้าใจเขาได้ดีกว่าคนอื่น ๆ”
ข้าพเจ้านิ่งอยู่มิได้ตอบ
“เธอเป็นเพื่อนที่ดีของเราคนหนึ่ง” วลาดิมีร์กล่าวอย่างระมัดระวัง “บางคราวฉันเคยคิดว่าจะปรึกษาหารืออะไรกับเธอสักอย่างหนึ่ง แต่ฉันอดชะงักไม่ได้”
ข้าพเจ้ามองดูหน้าวลาดิมีร์อย่างประหลาดใจ
“ผมยินดีจะช่วยเหลือทุกอย่าง ถ้าผมจะสามารถช่วยได้”
“ขอบใจ ระพินทร์ แต่มันเป็นเรื่องที่จะทำให้เธอยุ่งใจเปล่า ๆ”
“ผมเต็มใจจริง ๆ ที่จะช่วย” ข้าพเจ้ากล่าวอย่างหนักแน่น
“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสุขของวารยา”
ข้าพเจ้าทวีความแปลกใจยิ่งขึ้น ความสุขของวารยา! นี่วลาดิมีร์กำลังจะเล่นตลกอะไรกับข้าพเจ้าหรือ?
เมื่อเห็นข้าพเจ้านิ่ง เขาก็กล่าวต่อไปอย่างระมัดระวังตามเดิม
“ฉันเข้าใจว่าเรื่องระหว่างวารยากับเหลียงได้สุดสิ้นลงแล้ว เธอคงจะรู้ดีว่าวารยามีความทุกข์มากในเรื่องนี้”
“ผมรู้ดี”
“ฉันเห็นว่า วารยาไม่ใช่คนมีโชคในความรักหรือในการแต่งงาน เพราะฉะนั้นจึงอยากจะให้เรื่องระหว่างเขาและเหลียงเป็นเรื่องสุดท้าย”
ข้าพเจ้ารู้สึกตะขิดตะขวงในใจ บางทีวลาดิมีร์อาจคิดว่าข้าพเจ้ากำลังทำหน้าที่คนรักคนใหม่ของวารยากระมัง จึงได้พยายามกีดกันเสียเช่นนี้ ข้าพเจ้าโกรธนิด ๆ เพราะโดยใจจริงข้าพเจ้าไม่ได้รักวารยา ข้าพเจ้าไม่มีทางรักวารยาได้ เราเป็นเพื่อนกัน–และเพื่อนเท่านั้น!