๑๘
การรับประทานอาหารกับคนทั้งสามที่คาบารอฟสก์ในค่ำวันนั้น ได้ช่วยให้ข้าพเจ้ารู้จักวารยาดีขึ้น ข้าพเจ้าได้รับความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นหลายประการในตัวของสตรีผู้นี้ วลาดิมีร์เล่าว่า มารดาของวารยาได้เสียชีวิตไปอย่างทารุณ เมื่อคราวปฏิวัติใหญ่ในรัสเซีย สมัย ค.ศ. ๑๙๑๗ ที่น่าเอาใจใส่มากก็คือความจริงที่ว่า วารยาคือธิดาคนเดียวของวลาดิมีร์ ข้าพเจ้าไม่ประหลาดใจนัก เพราะกิริยามารยาทของวารยาช่างละม้ายคล้ายคลึงกับวลาดิมีร์เสียนี่กระไร มีความไว้ตัวพองาม และระมัดระวังในคำพูด แสดงว่าได้มีการอบรมมาเป็นอย่างดี มารดาของวารยาเสียชีวิตเมื่อหล่อนอายุได้ ๕ ขวบ หลังจากนั้นวลาดิมีร์ก็หอบหิ้วกันเล็ดลอดออกจากรัสเซียไปอยู่ที่ฮาร์บิน การที่เด็กกำพร้าแม่อย่างวารยาสามารถเติบโตมาได้เป็นอย่างดีเช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นความเอาใจใส่ดูแลของวลาดิมีร์ผู้บิดา วารยาเคยเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนแซเครตฮาร์ต ซึ่งเป็นโรงเรียนที่หมอสอนศาสนานิกายโรมันคาทอลิกจัดตั้งขึ้นตามเมืองใหญ่ ๆ แถบจีนเหนือ ที่ปักกิ่งก็มีสาขาของโรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่ปากถนนมอริสสัน วารยาเติบโตมาในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยกางเขนของพระเยซู เพราะฉะนั้นหล่อนจึงออกจะเป็นคนเคร่งในศาสนา รักความเมตตาปรานี ชอบคิดฝันถึงโลกและชีวิต แล้วก็อดผิดหวังไม่ได้ การที่เติบโตมาในกองคัมภีร์ของศาสนานี้ ถ้าจะเปรียบก็เสมือนเมล็ดพืชที่งอกงามอยู่บนพื้นดินที่อุดมด้วยปุ๋ย ต้นไม้แห่งชีวิตต้นนี้ควรจะมีความดีอันสดชื่นสมบูรณ์ ถูกแล้ว วารยาเป็นคนมีนิสัยดีสมกับที่ได้รับการอบรมมาในลัทธิศาสนาอันเก่าแก่ หล่อนมีความปรารถนาดีต่อคนทุกคน ต้องการทำความดีและเป็นคนดี แต่โชคนั้นเป็นดังกระแสน้ำไหล โชคทำให้ความยุติธรรมเฉพาะหน้ามีอยู่ในโลกนี้ไม่ได้ วารยาเป็นทาสของโชคเช่นเดียวกับคนทุก ๆ คนเป็น หล่อนได้พยายามทำความดี แต่หล่อนไม่เคยได้รับผลดีจากการกระทำเหล่านั้น วารยา ราเนฟสกายาเป็นคนโชคร้าย–และร้ายเสมอ
การวิสาสะอันเต็มไปด้วยมิตรภาพในค่ำวันนั้น ช่วยให้วารยาและข้าพเจ้ามีความเข้าใจกันดีขึ้น การได้ฟังเรื่องราวของชีวิตอย่างคร่าว ๆ จากปากของวลาดิมีร์และตัวหล่อนเองทำให้ข้าพเจ้าเริ่มเข้าใจว่า ทำไมวารยาจึงไม่เหมือนผู้หญิงรัสเซียคนอื่น ๆ ที่แอลเลนชอบดูถูก ข้าพเจ้ามีความพอใจที่ได้ฟังเรื่องของสตรีผู้นี้ เป็นเรื่องของชีวิตอีกแง่หนึ่งที่เต็มไปด้วยบทบาทของโชคและวาสนา วารยาควรจะมีความสุขเพราะได้พยายามทำความดี แต่หล่อนไม่ได้รับผลดีอะไรเลย นี่เป็นความจริงที่ข้าพเจ้าพอจะสรุปได้จากกิริยาและคำพูดของหล่อน หล่อนได้ผ่านความทุกข์ยากและความผิดหวังอะไรมาบ้าง เป็นเรื่องของความลับอันมืดมัว ซึ่งข้าพเจ้าจะต้องพินิจต่อไปอีก
“ทำไมเธอจึงเอาใจใส่ต่อชีวิตของฉันนัก” หล่อนถามข้าพเจ้าในวันหนึ่ง “ฉันยังไม่เคยพบใครที่มีความสังเกตละเอียดเหมือนเธอเลย”
“ชีวิตของคนเป็นบทเรียนที่ฉันพยายามศึกษาเสมอ” ข้าพเจ้าตอบ “ฉันต้องการจะรู้ว่าโชคคืออะไร ทำไมมันจึงเต็มไปด้วยความอยุติธรรม”
หล่อนหัวเราะอย่างคนอารมณ์เย็น
“เธออาจเป็นนักปรัชญามากไปเสียแล้ว มิสเตอร์พรเลิศ กว่าเธอจะรู้ว่าโชคคืออะไร เธอก็จะตายเสียก่อน”
“ฉันรู้สึกว่าเธอมีชีวิตที่น่าเอาใจใส่” ข้าพเจ้าพูดอย่างจริงใจ “เธอมีอะไรบางอย่างที่ผิดกับคนธรรมดา”
“ยังงั้นเทียวหรือ?” หล่อนร้องด้วยความแปลกใจ “เธออาจจะให้เกียรติยศฉันมากไปเสียแล้ว เธอจะผิดหวังถ้าเธอรู้จักฉันดี”
คำพูดอันเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง และประกอบด้วยความสุจริตใจนี้ ทำให้ข้าพเจ้าต้องนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“เธอคงงงมาก มิสเตอร์พรเลิศ” วารยากล่าวต่อไป “แต่เธอก็จะทราบได้เอง”
“เรียกฉันว่า ระพินทร์ดีกว่า”
“ดีแล้ว ระพินทร์ แล้วเธอก็เรียกฉันว่า วารยาบ้าง”
“ได้ วารยา”