๕๑

ท่านผู้อ่านที่รัก! เมื่อท่านอ่านมาถึงตรงนี้ ท่านคงรู้สึกว่าข้าพเจ้าเป็นคนใจดำที่ไม่ได้ช่วยเหลือวารยาทางน้ำใจ ไม่ได้ทำให้ชีวิตของหล่อนอบอุ่นสมความปรารถนา ข้าพเจ้าเห็นแก่ตัวมากไปหรือ ที่ได้ตัดความหวังของวารยาให้ขาดด้วนเสียโดยปัจจุบันทันด่วน ในชั่วโมงที่หล่อนต้องการความปลอบประโลมใจให้อบอุ่นและแช่มชื่น? ข้าพเจ้ารู้ดีว่าวารยากำลังต่อสู้ดิ้นรน เพื่อจะสละชีวิตเก่าไปสู่ชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความสงบเงียบร่มเย็น ไม่ต้องกังวลกับความยุ่งยากในโลกนี้อีกต่อไป การดิ้นรนอย่างนี้ สำหรับบุคคลที่ต้องการเสรีภาพในการดำรงชีพอย่างธรรมดาสามัญ ตามความต้องการของธรรมชาติแห่งจิตใจ ย่อมจะทำให้เกิดความลังเลใจและความเจ็บปวดทรมาน มันเท่ากับการฝืนใจลาจากสิ่งที่เคยรักเคยปรารถนา–ลาจากอย่างที่เรียกว่าจากตาย ข้าพเจ้าคงเดาไม่ผิดถ้าจะคิดว่าวารยายังมีความอาลัยชีวิตเก่าอยู่เป็นอันมาก หล่อนพึ่งมีชีวิตเก่าอยู่ในโลกนี้เพียง ๒๐ กว่าปี เป็นเวลาที่สั้นจนเกินที่จะรู้สึกอิ่มและเอียน ถึงแม้จะได้ผ่านความทุกข์ยากมามากมายตลอดชีวิตแห่งความเป็นสาว แต่วารยาก็คงจะไม่เกลียดความทุกข์ยากเหล่านั้น จนกระทั่งจะทิ้งโลกอันน่าประหลาดพิสดารนี้ไปเสียได้ง่าย ๆ หล่อนยังคงรักความสวยงามของรูป รักความหอมหวนของกลิ่น รักความหวานชื่นของรส และรักความไพเราะของเสียงอยู่ ไม่มีปัญหาเลย วารยายังไม่อยากจากชีวิตเก่า แต่หล่อนต้องจำใจจาก จากไปเพื่อจะหนีความชั่ว โชคของหล่อนไม่ดีพอที่จะอยู่ในโลกเช่นนี้ เพื่อจะทำความดีและได้รับผลของความดี โชคกับชีวิต! ท่านเข้าใจว่าอย่างไร? มันเป็นของประหลาดพิสดารจนเราไม่อาจจะเดาอะไรได้เลย

ข้าพเจ้าได้มีชีวิตอยู่ในโลกนี้มากกว่า ๓๐ ปี ข้าพเจ้าพอใจที่ได้รับบทเรียนของชีวิตเป็นอย่างดี ตลอดเวลาอันสั้นเพียงเสี้ยวหนึ่งของศตวรรษนี้ชีวิตได้สอนข้าพเจ้าว่าความผิดมีมากกว่าความถูก ความไม่สมหวังมีมากกว่าความสมหวัง และตราบใดที่ยังมีความปรารถนาอยู่ ตราบนั้นเราก็จะหนีความเศร้าไม่ได้ ชีวิตเป็นของละเอียดพิสดาร และขาดความแน่นอน ข้าพเจ้าเคยเชื่อชีวิตมาครั้งหนึ่ง–คือเชื่อว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าหวังจะต้องเป็นความจริง–จะต้องไม่กลับกลายเป็นอื่น แต่ข้าพเจ้าได้พบอะไร? ความสมหวังหรือ? ชีวิตช่างเป็นอนิจจังอะไรเช่นนั้น! นี่เป็นเรื่องของวารยา เรื่องที่ข้าพเจ้าแลเห็นภาพทุกภาพของความผิดหวัง ข้าพเจ้ากำลังจะจบเรื่องของความผิดหวังของวารยาในไม่ช้านี้แล้ว ข้าพเจ้าหวังว่าคงจะได้เขียนเรื่องของระพินทร์ พรเลิศขึ้นบ้าง เรื่องราวของระพินทร์นี้ถ้าแม้จะเขียนกันจริง ๆ ก็คงจะเป็นสมุดเล่มใหญ่ ๆ ในเรื่องนั้นข้าพเจ้าเชื่อว่า คงจะได้พูด–พูด–พูดจนกระทั่งเกือบไม่มีอะไรจะพูดอีก พูดให้สบายอกสบายใจเสียทีหนึ่ง เพราะได้เพียรพยายามเก็บอัดไว้ในอกมานานแล้ว แต่ว่า–ท่านคิดหรือว่าข้าพเจ้าเป็นคนมีโชคดีพอที่จะพูดอะไรได้ดังใจปรารถนา? ท่านคิดหรือว่าถึงเวลาแล้วที่ข้าพเจ้าจะพูดอะไรได้อย่างตรงไปตรงมา? ข้าพเจ้าต้องการจะพูดถึงความรักและความเกลียด ข้าพเจ้าอยากจะพูดว่า ความเห็นแก่ตัวเป็นบ่อเกิดของความชั่วในโลกมนุษย์ ข้าพเจ้าต้องการจะพูดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีใครเขาชอบพูด โดยเฉพาะเรื่องการกินแรงกับเรื่องเมืองสหกรณ์ นี่เป็นความหวัง แต่ข้าพเจ้ารู้ดีว่าเมื่อมีความหวัง ความผิดหวังก็อาจจะมีได้เหมือนกัน มันไม่ใช่ของแปลกไม่ใช่หรือท่าน?

วารยา ราเนฟสกายากำลังจะจากเราไป บางทีเรื่องของผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งสำหรับเรื่องแห่งชีวิตของระพินทร์ก็ได้ ชีวิตของวารยาได้สอนข้าพเจ้าว่า ความสุจริตไม่จำเป็นจะต้องสนองผลดีให้แก่เราเสมอไป การทำความดีอาจกลายเป็นดาบมาตัดคอเราเองได้ วารยาได้พยายามทำความดี ได้พยายามจะมีชีวิตที่สุจริต แต่ผลที่หล่อนได้รับคือความเศร้า ข้าพเจ้าแทบจะเข้าใจว่าการทำความดีในโลกที่ไม่มีความยุติธรรมของสังคมเกือบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ท่านคิดหรือว่าโลกนี้มีผู้ถือดาบอาญาสิทธิ์คอยตัดสินว่าใครดีใครชั่ว? ท่านคิดหรือว่าความเห็นใจและความเข้าใจกัน มีอยู่มากพอที่จะทำให้คนดีทุกคนได้รับรางวัลเพียงแต่เท่ากับที่คนชั่วเป็นอันมากได้รับ? ในบางคราวข้าพเจ้าคิดว่า การทำความดีก็คือการแสดงความบ้า เพราะเป็นการทำสิ่งที่คนเป็นอันมากเขาไม่ต้องการจะทำ ไม่ต่างกับเล่นละคร เรื่องของความโง่ในท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของคนดู....เล่นไปคนเดียวโดยที่คนอื่นเขาไม่ได้ลุกขึ้นมาเล่นกับเราเลย ทุกวันนี้ข้าพเจ้าอยากจะมีความเห็นว่า ในวงสังคมที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวจนแทบจะไม่มีเศษของความเห็นใจเหลือติดอยู่เลยนี้ ผู้ใดต้องการจะมีชีวิตก้าวหน้า ผู้นั้นจะต้องรู้จักเอาตัวรอด การทำความดีไม่ใช่สิ่งสำคัญ ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าถ้าข้าพเจ้าจะริรักผู้หญิง ข้าพเจ้าจะต้องประจบผู้หญิง ข้าพเจ้าจะตรงไปตรงมาเกินไม่ได้ เพราะเขาจะหาว่าบ้า การทำความดีอย่างเดียวไม่มีประโยชน์นัก เราต้องกลมเหมือนมะนาว กลิ้งไปได้ทุกเหลี่ยมทุกมุม อนิจจา! โลกมนุษย์ ก่อนที่เราจะตาย เราควรจะเรียกมันว่ากระไร?

หลังจากที่ได้พบกันวันนั้น และข้าพเจ้าได้กล่าวประโยคสุดท้ายออกมาแล้ว ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ไปเยี่ยมวารยาอีกเป็นเวลา ๒ วันเต็ม ๆ หมอผกากับหมอจำเรียงได้มาถึงปักกิ่ง เพื่อดูงานบางอย่างในโรงพยาบาล พี.ยู.เอ็ม.ซี. ข้าพเจ้าไปคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ๒ วัน ที่จริงก็ไม่มีธุระอะไรมาก แต่เมื่อคนไทยได้พบคนไทยในแผ่นดินที่ไม่ใช่แผ่นดินไทย การต้อนรับช่วยเหลือในสิ่งที่ควรช่วยเช่นช่วยนำทางและเป็นล่าม ย่อมจะเป็นของจำเป็นซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ หมอผกากับหมอจำเรียงเป็นแพทย์หญิง สำเร็จปริญญาจากอเมริกา เธอกำลังเดินทางกลับเมืองไทยโดยผ่านโตเกียวและปักกิ่งตลอดจนเซี่ยงไฮ้ ความประสงค์ที่ผ่านเมืองสำคัญเหล่านี้ ก็เพื่อจะดูกิจการในโรงพยาบาลเท่าที่จะดูได้ ข้าพเจ้าไม่มีเวลาจะเรียนรู้นิสัยของคนทั้งสอง แต่ข้าพเจ้าคะเนว่า เธอทั้งคู่เป็นคนทำงานเก่ง กระฉับกระเฉงว่องไว และมีอารมณ์เย็นสมเป็นแพทย์ เธอสูบบุหรี่เก่งทั้งสองคน เธอเล่าว่าในอเมริกาแทบไม่มีใครที่ไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ดูเหมือนจะเป็นของจำเป็นสำหรับการมีชีวิตอยู่ในสังคมอเมริกัน ข้าพเจ้ายังไปไม่ถึงอเมริกา แต่ข้าพเจ้าคิดว่า เดี๋ยวนี้การสูบบุหรี่สำหรับสตรีที่อยู่ในสังคม ดูเหมือนจะเป็นของจำเป็นเท่ากับการดื่มไวน์หรือวิสกี้

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ