๒๗
ค่ำวันหนึ่ง ขณะที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ในกองหนังสือภายในห้องสมุดอันค่อนข้างจะรกรุงรัง คนใช้ผู้ชายซึ่งเป็นทั้งต้นห้องและคนครัวได้โผล่เข้ามาด้วยกิริยาอันนอบน้อม ก่อนที่ข้าพเจ้าจะเอ่ยถาม เขาก็ ยื่นโทรเลขให้ฉบับหนึ่ง
“มาเดี๋ยวนี้หรือ ปั๋วเชิ้น?” ข้าพเจ้าถามเป็นภาษาปักกิ่ง
“ขอรับ ได้รับเดี๋ยวนี้เอง คุณจะต้องการน้ำชาไหม?” เขาถาม ยืนเอามือประสานกันอย่างสุภาพ
“ไม่ต้องก็ได้ ขอกาแฟอย่างอ่อนสักถ้วยจะดีกว่า”
เมื่อปั๋วเชิ้นออกไปแล้ว ข้าพเจ้ารีบฉีกโทรเลขออกดูด้วยความกระหาย ดูเหมือนว่าจะเป็นโทรเลขฉบับแรกที่เคยได้รับตั้งแต่มีชีวิตอยู่ในปักกิ่ง ข้อความสั้น ๆ บรรทัดเดียว เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ข้าพเจ้าใจเต้นแรงด้วยความยินดี โทรเลขนั้นเมื่อแปลเป็นภาษาไทยแล้วมีความว่าดังนี้
“ถึงปักกิ่ง รถด่วนวันพุธ พบที่สถานีด้วย มนัส”
ในที่สุดข้าพเจ้าก็จะได้พบคนไทยอีกคนหนึ่งในปักกิ่ง ความครึกครื้นคงจะมีมากขึ้น แต่มนัสผู้นี้เป็นใคร? คงไม่ใช่ผู้หญิง เพราะผู้หญิงไม่เห็นมีใครชื่อมนัส ทำไมเขาจึงส่งโทรเลขตรงมายังข้าพเจ้า? รู้ตำบลเสียอย่างถี่ถ้วน อย่างน้อยจะต้องมีใครคนหนึ่งให้ตำบลที่อยู่ของข้าพเจ้าแก่เขา ข้าพเจ้าใจเต้นเมื่อคิดว่ามนัสคงจะมีข่าวเรื่องเมืองไทยมาบอกอย่างละเอียดลออ ข้าพเจ้ารู้รสของการจากบ้านแล้ว นึกถึงคนนั้น–นึกถึงคนนี้ นึกถึงตลอดปี ทุกครั้งที่ฉีกปฏิทินออกแผ่นหนึ่งก็เห็นกรุงเทพฯ ใกล้เข้ามานิดหนึ่ง เมื่อคิดว่าจะต้องฉีกปฏิทินต่อไปอีกเป็นจำนวนตั้งร้อยตั้งพันใบ ก็รู้สึกท้อที่จะคิดถึงอะไร พยายามมองดูแต่เหตุการณ์เฉพาะหน้าเพื่อให้เพลิดเพลินไปวันหนึ่ง ๆ ข้าพเจ้าได้รับจดหมายจากบ้านเดือนละสองครั้ง คนนั้นเขียนบ้าง คนนี้เขียนบ้าง สำหรับเพื่อนบ้าน เมื่อคิดเฉลี่ยแล้ว ข้าพเจ้าได้รับไม่น้อยกว่าเดือนละสองครั้งเหมือนกัน เพื่อนบ้านที่กล่าวนี้ก็คือประนุท เพื่อนผู้หญิงที่แสนสนิทคนเดียว ซึ่งข้าพเจ้าสามารถจะมีได้ในโลกนี้ จดหมายของประนุท ทำให้สปริงของปักกิ่งสวยสดงดงามขึ้น และเมื่อถึงฤดูหนาว จดหมายของเธอก็ให้ความอบอุ่นอย่างประหลาด ประนุทส่งรูปถ่ายมาให้ข้าพเจ้าปีละรูป รูปที่ใหม่ที่สุดจะต้องตั้งเด่นอยู่บนโต๊ะทำงานเสมอ เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ยิ้มอย่างที่เคยยิ้มเมื่อสมัยเป็นเด็ก–ยิ้มด้วยความรู้สึกอันบริสุทธิ์ไม่เดียงสา ประนุททำให้ข้าพเจ้าคิดถึงเมืองไทยมากในบางครั้ง ข้าพเจ้าต้องการกลับมาดูเธอเติบโต คงจะแปลกตาไม่น้อย คงจะสวยมากด้วยสำหรับประนุท ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเธอเป็นเด็กดี ข้าพเจ้ารักและต้องการให้เธอมีความสุข
ถือโทรเลขอยู่ในมือ ใจนึกถึงทุกซอกทุกมุมในเมืองไทย ป่านนี้บ้านเก่าที่รักคงจะเปลี่ยนแปลงไปจนผิดตา มนัสมีอะไรจะเล่าให้ฟังบ้าง แต่เพื่อนคนนี้อาจมาจากฮ่องกงโดยตรงก็ได้ ที่นั่นเป็นสำนักงานใหญ่ของสมาคมนักเรียนไทยในประเทศจีน ถ้ามนัสมาจากฮ่องกงจริง เขาก็คงจะได้ตำบลของข้าพเจ้าจากทะเบียนสมาคม ข้าพเจ้านึกวาดภาพมนัสดูในใจ เขาคงเป็นเด็กหนุ่มอายุไม่เกินยี่สิบ กำลังปราดเปรียวและร่าเริง แลเห็นชีวิตแจ่มใสไม่มีรอยด่างพร้อย อย่างไรก็ดีถึงมนัสอาจไม่ได้มาจากกรุงเทพฯ โดยตรง เขาก็คงจะมีเรื่องในฮ่องกงมาเล่าให้ฟังไม่น้อย ข้าพเจ้าต้องการจะรู้ว่าที่นั่นพวกคนไทยกำลังทำอะไรกันบ้าง สมาคมนักเรียนไทยในพระบรมราชูปถัมภ์มีการเคลื่อนไหวก้าวหน้าไปอย่างไร ที่อ่าวสแตนเลย์หมู่บ้านชาวประมง ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตที่เป็นเสมือนภาพฝันในเทพนิยาย พวกเด็กหนุ่มของเราแห่งสถานศึกษา St. Stephen’s คงจะสนุกสนานกันบนยอดเขาและชายหาดตามเคย ข้าพเจ้ารอมนัสรอฟังข่าวต่าง ๆ จากปากของเขา จะเป็นข่าวในเมืองไทยหรือข่าวในฮ่องกงก็ใช้ได้ทั้งสิ้น ความกระหายที่จะได้พบเพื่อนใหม่คนนี้ ทำให้รู้สึกว่าวันพุธมาถึงช้าไป ข้าพเจ้าจะต้องรออีก ๗๒ ชั่วโมง รถด่วนวันพุธจึงจะมาถึงปักกิ่ง