- คำนำ
- ๑. พระบรมธาตุ
- ๒. การสร้างพระบรมรูปพระเจ้าแผ่นดินไทย
- ๓. ตัวอักษรไทย
- ๔. การวินิจฉัยเมืองโบราณ
- ๕. การเรียกพระนามพระเจ้าแผ่นดิน
- ๖. โลหปราสาทวัดราชนัดดา
- ๗. หลักการเรียนพงศาวดาร
- ๘. สร้างกรุงศรีอยุธยา
- ๙. คำว่า “มหาราช
- ๑๐. ขุนหลวงตากเป็นบ้าหรือ ?
- ๑๑. “เงินตราสยาม”
- ๑๒. เฟี้สคิงและสกันด์คิง
- ๑๓. ศาลาสหทัยสมาคม
- ๑๔. มนุษย์พวกจาม
- ๑๕. พระพุทธศาสนามหายานและหีนยาน
- ๑๖. สร้างวัดพระเชตุพน
- ๑๗. จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
- ๑๘. ยิงปืนบอกเวลา
- ๑๙. สวมเสื้อเข้าเฝ้า
- ๒๐. การสร้างพระโต
- ๒๑. กรมนาฬิกาและทุ่มโมง
- ๒๒. ฝิ่นเมืองเชียงตุง
- ๒๓. หลักเมือง
- ๒๔. พระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง ฯลฯ
- ๒๕. สถานที่ประหารชีวิตในกรุงเทพฯ
- ๒๖. พระพิมพ์ดินดิบดินเผา
- ๒๗. สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
- ๒๘. วัดสุวรรณดาราราม
- ๒๙. ทำนาท้องสนามหลวง
- ๓๐. พระนิรันตราย และ พระนิโรคันตราย
- ๓๑. การบรรจุพระอัฐิและพระบรมอัฐิ
- ๓๒. คำว่าโอรส ราชบุตร หน่อพระพุทธเจ้า
- ๓๓. การสร้างนครวัดจำลอง
- ๓๔. เชียงราก
- ๓๕. เหตุที่วัดพระเชตุพนเป็นที่ตั้งกระบวนแห่ต่าง ๆ
- ๓๖. หยกรูเซีย
- ๓๗. ตึกพระเจ้าเหา
- ๓๘. วัดสุทัศน์
- ๓๙. เครื่องต้น
- ๔๐. เครื่องแต่งกายไทย
- ๔๑. มูลเหตุแห่งความหายนะของพะม่า
- ๔๒. วัดเจดีย์เจ็ดยอด
- ๔๓. พระมหาปราสาท
- ๔๔. พระอาจารย์อินโข่ง
- ๔๕. บานประตูมุกด์ เก๋งพระนารายณ์ และศาลพระภูมิ ในพระบรมมหาราชวัง
- ๔๖. แปลร้อย และร้อยแก้ว
- ๔๗. พระนาคปรก
- ๔๘. เรียกพระเจ้าแผ่นดินว่า เจ้าช้าง
- ๔๙. ชาวอินเดียที่ไปมาค้าขายในสมัยโบราณ
ตัวอักษรไทย
เหตุ ที่จะเกิดปัญหาเรื่องตัวอักษรไทยนี้ เนื่องมาจากพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลงกรณ์ เข้าเฝ้าเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๖ สมเด็จกรมพระยา ตรัสถามพระดำริห์ของกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ว่า ทรงเห็นอย่างไรบ้างในเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวอักษร (แบบฟื้นฟูวัฒนธรรม ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงเรียกว่า “อักขรวิบัติ”) กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ทูลตอบว่า ไม่ทรงเห็น เพราะพระเนตรผะเอิญมาเสียในเวลาที่เขาเปลี่ยนแปลงตัวอักษร สมเด็จกรมพระยาจึงตรัสเล่าถึงตัวอักษรไทยขึ้น
ปัญหา ทรงตั้งปัญหาขึ้นเองว่า ในเมืองไทยเรานี้มีอักษรอะไรมาก่อน
ตอบ ตามหลักฐานที่มีตัวอักษรติดอยู่กับพื้นแผ่นดินเป็นพะยาน คือตัว “คฤนถ์” ของชาวอินเดียฝ่ายใต้ จารึกทางพระปฐมเจดีย์ใช้อักษรคฤนถ์ทั้งสิ้นการที่อักษรคฤนถ์เข้ามาเมืองไทยนั้น คงเป็นเพราะติดพวกอินเดียที่เข้ามาค้าขายในแผ่นดินไทยตั้งแต่พวกละว้าเป็นเจ้าของ
ถาม อักษรคฤนถ์นี้เอามาใช้ทำประโยชน์อะไรบ้าง
ตอบ คงเอามาใช้เป็นประโยชน์สองอย่างด้วยกัน คือ
๑. ประโยชน์ในทางศาสนา จะเป็นศาสนาพราหมณ์หรือศาสนาพุทธก็ตาม เวทย์มนต์และพระธรรมคงเขียนด้วยอักษรคฤนถ์ทั้งสิ้น
๒. จดหมายที่เขียนติดต่อไปมาคงเขียนด้วยอักษรคฤษถ์ ที่เอาเข้ามาด้วยนั้น
วินิจฉัยที่ ๑ อักษรคฤนถ์ที่ชาวอินเดียเอาเข้ามาครั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับไทย เพราะใช้เขียนภาษาไทยไม่ได้ เป็นต้นว่าตัว ฝ ฟ ก็ไม่มี พยัญชนะเสียงสระในภาษาไทยบางอย่าง เช่น สระอึ สระอือ สระเอือ สระเออ เป็นต้น ไม่มีอักษรในคฤนถ์ และเครื่องหมายสูงตามเสียงคือ วรรณยุกต์นั้น ก็ไม่มีในอักษรคฤนถ์ เพราะฉนั้นอักษรคฤนถ์ใช้เขียนภาษาไทยไม่ได้
วินิจฉัยที่ ๒ ตัวอักษรที่เกิดในเมืองนี้ก่อนอักษรอื่น คือ อักษรขอม เห็นได้โดยลักษณะอักษรว่า พวกขอมเอาอักษรคฤนถ์ไปแปลง แต่อักษรขอมก็เขียนได้แต่ภาษามคธ สันสกฤต และเขมร เขียนภาษาไทยไม่ได้ด้วยเหตุอย่างเดียวกันกับอักษรคฤนถ์
วินิจฉัยที่ ๓ เพราะฉนั้นเมื่อพระเจ้ารามคำแหงสามารถตั้งประเทศขึ้นเป็นอิสสระเต็มที่ได้ คือประเทศที่ชนชาติไทยเป็นใหญ่กว่าชนชาติอื่น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องคิดตัวอักษรไทยขึ้นสำหรับเขียนภาษาไทย เพราะเหตุว่าไม่มีอักษรอื่นจะเขียนภาษาไทย เพราะฉนั้นเมื่อมีอักษรไทยขึ้นแล้วในราว พ.ศ. ๑๘๒๖ จึงใช้กันแพร่หลายในหมู่ไทยด้วยกัน จารึกภาษาไทยชิ้นเก่าใช้อักษรพระเจ้ารามคำแหง ตลอดลานนาไปกระทั่งเชียงตุง
วินิจฉัยที่ ๔ สังเกตจารึกเก่าตั้งแต่สมัยสุโขทัยลงมาจนสมัยกรุงศรีอยุธยา หนังสืออะไรที่จารึกหรือจดหมายอะไรในเมืองนี้ ถ้าเป็นภาษามคธ สันสกฤต หรือเขมร ใช้อักษรขอมอย่างเดียว ที่จะใช้อักษรไทยจารึก หรือเขียนภาษาอื่นหามีไม่ ถ้าเป็นหนังสือศัพท์สองภาษาสลับกัน เช่น มหาชาติคำหลวง เป็นต้น ที่ยกคำภาษามคธตั้งเป็นอรรถ เขียนภาษาไทยเป็นแปล เช่นนั้น อรรถเขียนด้วยอักษรขอม แปลเขียนด้วยอักษรไทย เข้าใจว่าเพราะเหตุนั้นเองจึงเรียกว่า “ร้อยแก้ว” เพราะเอาแก้วต่างสีมาร้อยสลับกัน
วินิจฉัยที่ ๕ ที่เขียนภาษามคธ สันสกฤต ด้วยอักษรไทยก็ดี เขียนภาษาไทยด้วยตัวอักษรขอมก็ดีเป็นของเกิดใหม่ ดูเหมือนจะเมื่อรัชกาลที่ ๔ กรุงเทพฯ นี้เอง เพราะจะพิมพ์หนังสือภาษามคธเช่นหนังสือสวดมนต์เป็นต้น ไม่มีอักษรขอม จะพิมพ์ต้องเอาอักษรไทยใช้ แต่ที่เอาอักษรขอมมาแปลงเขียนอย่างหนังสือไทยนั้น กำลังสืบอยู่ ยังไม่ได้พบตัวอย่างเก่าว่ามีขึ้นเมื่อใด ได้เรียนถามสมเด็จพระสังฆราชวัดสุทัศน์๑ ท่านก็ตอบว่าเป็นของใหม่ แต่ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นเมื่อใด
-
๑. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทโวมหาเถร) วัดสุทัศน์เทพวราราม ↩