- คำนำ
- เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๖๔
- เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๖๔
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๖๔
- เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๖ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๙ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๑๐ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๑ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๖ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๘๘ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๙ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๑๐ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๑ จุลศักราช ๑๒๖๖
- ภาคผนวก ก เรื่อง การเปิดรถไฟเพ็ชรบุรี
- ภาคผนวก ข เรื่อง ข้าราชการเมืองแขกเฝ้าถวายต้นไม้ทองเงินเครื่องราชบรรณาการ
- ภาคผนวก ค การขึ้นกุฏิใหม่แห่งสมเด็จพระวันรัต และการขึ้นกุฏิใหม่แห่งพระสงฆ์สามเณรประจำปี
- ภาคผนวก ง รายงานการสร้างถนนราชดำเนินนอก
- ภาคผนวก จ การเปิดสะพานเฉลิม ๕๐
- ภาคผนวก ฉ กรมทหารบกทูลเกล้า ฯ ถวายพระคทาจอมพลแลมีการสมโภช
- ภาคผนวก ช ประกาศกรมธนบัตร์
- ภาคผนวก ฌ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช มีการฉลองพระไชยเนาวโลหะที่วังสราญรมย์
- ภาคผนวก ญ พระราชพิธีมหามงคลการโสกันต์ แลพระราชทานพระสุพรรณบัตรเฉลิมพระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช
- ภาคผนวก ฎ การเปิดรถไฟสายท่าจีน
เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๖๖
วัน ๒ ๑ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๓ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำ เสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกดุสิต แล้วประทับที่ประชุม
วัน ๓ ๒ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๔ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำเสด็จออกพระที่นั่งวิมานเมฆ แล้วประทับที่ประชุม
วัน ๕ ๔ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๖ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาเช้า เสด็จออกทรงฉายพระบรมรูปที่น่าพระที่นั่งวิมานเมฆ เวลาค่ำเสด็จออกสวนแง่เต๋ง แล้วเสด็จกลับเข้าพระบรมมหาราชวัง ประทับที่ประชุม
วัน ๖ ๕ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๗ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำ เสด็จออกมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี
วัน ๗ ๖ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๘ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสด็จออกขุนนางน่าห้องราชองครักษ์ แล้วทรงรถประพาส
วัน ๑ ๗ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๙ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เสด็จพระปฐมเจดีย์ เปนการไปรเวต
วัน ๒ ๘ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๐ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำ เสด็จออกในการหล่อเทียนพรรษา แล้วประทับประชุมที่พระที่นั่งราชกรันยสภา๑
วัน ๔ ๑๐ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๒ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาบ่าย เสด็จออกน่าห้องราชองครักษ์ แล้วเสด็จสวน เวลาค่ำเสด็จกลับ
วัน ๕ ๑๑ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๓ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
วันนี้เปนวันที่จะเสด็จไปประทับแรม ณ พระราชวังบางปอิน เวลา ๒ โมง ๔๕ นาที ได้เสด็จจากพระบรมมหาราชวังไปขึ้นรถพระที่นั่งพ่วง รถไฟพิเศษที่สเตชั่น รถไฟสายนครราชสีมา๒ รถไฟได้ใช้จักรออกจากสเตชั่นนี้ บ่าย ๓ โมง ๗ นาที ถึงสเตชั่นบางปอิน บ่าย ๔ โมง ๓๕ นาที ที่สเตชั่นมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช กรมหลวงดำรงกับข้าราชการที่ล่วงน่า แลข้าราชการมณฑลกรุงเก่ามาคอยเฝ้ารับเสด็จ ครั้นเสด็จลงจากรถพระที่นั่งแล้ว ได้มีพระสวดชยันโต แลมีพิณ แลแตรกองทหารรับเสด็จ แลพระยาโบราณ๓ ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายพระแสงสำหรับเมืองตามเคย แล้วเสด็จมาลงเรือพระที่นั่งแจวที่ท่าน้ำหลังสเตชั่น ที่ท่าน้ำนี้มีเจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์ แลพระองค์อาภากร๔ รับเสด็จอยู่ ณ เรือพระที่นั่ง แล้วเรือพระที่นั่งได้แจวออกคลองราชดำริห์ มาประทับที่ท่าน้ำพระที่นั่งวโรภาศ๕ เสด็จขึ้นบนพระที่นั่งวโรภาศ ประทับแรมในพระราชวังนี้
วัน ๗ ๑๓ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๕ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาย่ำค่ำเสศ เสด็จออกทางพระที่นั่งวโรภาศ ประทับที่ท่าน้ำน่าพระที่นั่ง เสด็จขึ้นเวลา ๒ ทุ่มเสศ
วัน ๑ ๑๔ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๖ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลา ๑ ทุ่มเสศ เสด็จออกน่าพระที่นั่งวโรภาศ หมออาดัมซัน กับพระยาภักดีมาเฝ้า มีพระราชดำรัสด้วยแล้ว เสด็จไปประทับที่ตะพานน้ำน่าพระที่นั่ง
วัน ๓ ๑ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๘ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาย่ำค่ำเสศ เสด็จออกประทับตะพานน้ำน่าพระที่นั่งวโรภาศพิมาน เวลา ๒ ทุ่มเสด็จขึ้น
วัน ๕ ๓ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๓๐ มิถุนายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาราวย่ำค่ำเสด็จออกประทับตะพานน้ำน่าพระที่นั่งวโรภาศ เวลาราว ๑ ทุ่ม เสด็จขึ้น
วัน ๗ ๕ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาราวย่ำค่ำ เสด็จออกน่าพระที่นั่งวโรภาศแล้วเสด็จวัดนิเวศธรรมประวัติ๖ เวลาราว ๑ ทุ่มเสด็จกลับมาประทับที่ท้องพระโรงพระที่นั่งวโรภาศ จนเวลา ๒ ทุ่มเสศเสด็จขึ้น
วัน ๔ ๙ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๖ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาบ่ายเสด็จออกน่าพระที่นั่งวโรภาศ เสด็จเกาะช้างเผือก แล้วกลับมาประทับตะพานน้ำน่าพระที่นั่งวโรภาศ แล้วเสด็จประทับในท้องพระโรงพระที่นั่งวโรภาศ เวลาราว ทุ่มหนึ่งเสด็จขึ้น
วัน ๖ ๑๑ฯ ๘ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๘ กรกฎาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาย่ำค่ำ ๔๕ นาที เสด็จออกประทับตะพานน้ำน่าพระที่นั่งวโรภาศพิมาน แล้วเสด็จมาประทับที่ท้องพระโรงพระที่นั่งวโรภาศ เวลา ๒ ทุ่ม เสด็จขึ้น
อนึ่งวันนี้เปนดิถีคล้ายกับวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้เชิญพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระบรมอัฐิกรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ ออกตั้งในพระที่นั่งดุสิต จัดการบำเพ็ญพระราชกุศลอย่างทุกปีมา
-
1. คือพระที่นั่งในหมู่พระมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ปัจจุบันมีอยู่ ๔ องค์ คือ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระที่นั่งพิมานรัตยา พระที่นั่งราชกรัณยสภา และพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท เฉพาะพระที่นั่งราชกรัณยสภา ตั้งอยู่ทางขวาพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗ ใช้เป็นที่ประชุมเสนาบดี ↩
-
2. ทางรถไฟสายแรกของไทย เรียกว่าทางรถไฟสายนครราชสีมา เมื่อสร้างถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงเปิดให้เดินรถก่อน ↩
-
3. พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เตชะคุปต์) เทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ↩
-
4. พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระนามเดิม พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ พระราชโอรสพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและเจ้าจอมมารดาโหมด รัชกาลที่ ๖ เป็นเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ต้นราชสกุล อาภากร ↩
-
5. พระที่นั่งวโรภาศพิมาน เป็นพระที่นั่งทรงตึกก่ออิฐติดกำแพงอยู่ริมลำน้ำในเขตชั้นใน มีมุขยื่นออกมา ภายในเป็นท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกขุนนาง และมีที่ประทับ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๙ เป็นอาคาร ๒ ชั้น ปัจจุบันดัดแปลงรื้อเป็นชั้นเดียว ↩
-
6. วัดนิเวศธรรมประวัติ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกประจำรัชกาลที่ ๕ อยู่ท้ายเกาะลอย หน้าพระราชวังบางปะอิน ตำบลบ้านเลน สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชศรัทธาให้เป็นจาตุรทิศสังฆิกาวาส และเป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศลใกล้พระราชวังได้ โปรดให้จ้างช่าวชาวตะวันตกมาออกแบบก่อสร้างตามแบบพระอารามของชาวยุโรป ด้วยมีพระราชประสงค์เพื่อจะทรงบูชาพระพุทธศาสนาด้วยของแปลก ตลอดทั้งให้ประชาชนได้ชมเล่น ซึ่งไม่เคยมีในพระอารามใดมาก่อน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ผนวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ↩