เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๖๖

วัน ๕ ๕ ค่ำ ปีมะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๑๗ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาค่ำเสด็จออกสนามหญ้าน่าพระที่นั่งวิมานเมฆแล้วเสด็จที่ประชุม

วันนี้มีสุริยยุปราคาจับเวลาเช้า ๔ โมง ๕๘ นาที ๕ วินาที ทางทิศหรดี เวลาบ่าย ๑ โมง ๗ นาที ถึงคราธ เวลาบ่าย ๒ โมง ๔๗ นาที โมกขบริสุทธทางทิศบุรพา อนึ่งวันนี้ได้โปรดเกล้า ฯ ให้มีการบำเพ็ญพระราชกุศลสดับปกรณ์กาลานุกาลที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย กรมหลวงประจักษ์เสด็จไปจัดการ

วัน ๖ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๑๘ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

วันนี้เปนวันสวดมนต์ที่วัดพระศรีรัตนสาศดารามในการพระราชพิธีศรีสัจจปาลกาล เวลาทุ่มเสศเสด็จจุดเทียน เวลาประมาณ ๒ ทุ่มเสด็จกลับ

วัน ๗ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๑๙ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาบ่ายราว ๒ โมง เสด็จพระราชดำเนินแต่วังสวนดุสิตไปประทับในพระบรมมหาราชวัง ครั้นเวลาบ่ายราว ๓ โมง เสด็จพระราชดำเนินแต่พระที่นั่งจักรกรีไปประทับพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนสาศดารามในการพระราชพิธีศรีสัจจปานกาล โดยกระบวนราบ พระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการฝ่ายน่าถือน้ำแล้ว เสด็จกลับไปประทับพระที่นั่งสนามจันทน์ นมัสการพระบรมอัฐิ แล้วเสด็จขึ้นทางพระที่นั่งไพศาล ข้าราชการฝ่ายในถือน้ำต่อไป ครั้นเวลาค่ำเสด็จออกมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี ประทับอยู่จนเวลายามเสศ จึงเสด็จกลับวังสวนดุสิต

วัน ๑ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๒๐ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาค่ำ เสด็จออกสวนแง่เต๋ง แล้วเสด็จขึ้นทางพระที่นั่งวิมานเมฆ

วัน ๒ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๒๑ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาค่ำเสด็จออกน่าพระที่นั่งวิมานเมฆ มีแขกถวายของในการพิธีเจ้าเซน

วัน ๓ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๒๒ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาค่ำเสด็จออกสวนแง่เต๋ง

วัน ๔ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๒๓ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาค่ำเสด็จออกน่าพระที่นั่งวิมานเมฆ วันนี้เวลา ๘ ทุ่มเสศ เกิดเพลิงไหม้ที่ตึกมุมสี่กั๊กพระยาศรี ด้านตวันออกเฉียงใต้

วัน ๗ ๑๐ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๒๖ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาบ่าย ๕ โมงเสด็จไปทรงฟังพระสงฆ์แปลพระปริยัติธรรมที่วัดพระศรีรัตนสาศดาราม เวลาราว ๒ ทุ่มเสด็จกลับ

พระที่เข้าแปลวันนี้ คือ หม่อมราชวงษ์พระจ้าน (จำนง) เข้าแปลประโยค ๗ มหาโฉม วัดเบ็ญจมบพิตร เข้าแปลประโยค ๗ มหาหรุ่ม วัดเบ็ญจมบพิตร เข้าแปลประโยค ๘ แปลได้ทั้ง ๓ รูป

วัน ๑ ๑๑ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๒๗ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาราวย่ำค่ำ เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพเฉื่อย ในกรมหลวงดำรง ที่วัดเทพศิรินธราวาศ เวลาทุ่มเสศเสด็จกลับ

วัน ๒ ๑๒ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๒๘ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาค่ำ เสด็จออกน่าพระที่นั่งวิมานเมฆ แล้วเสด็จออกที่ประชุม

วัน ๓ ๑๓ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๒๙ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาบ่าย ๕ โมงเสศ เสด็จไปทรงฟังพระสงฆ์แปลพระปริยัติธรรมที่วัดพพระศรีรัตนสาศดาราม เวลาราว ๒ ทุ่มเสด็จกลับ

พระที่เข้าแปลวันนี้คือ มหาใคล วัดสุทัศน์ มหาอยู่ วัดเทพศิรินธร์ เข้าแปลประโยค ๙ ได้ทั้ง ๒ รูป

หยุดการสอบไล่พระปริยัติธรรมเพียงวันนี้

วัน ๔ ๑๔ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๓๐ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาค่ำมีดินเนอร์เป็นเกียรติยศแก่มิสเตอสโตรเบล ที่พระที่นั่งวิมานเมฆ

วัน ๕ ๑๕ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๓๑ มีนาคม รัตนโกสินทร๓๖ศก ๑๒๒

เวลาค่ำมีการรื่นเริงถวายไชยมงคลขึ้นปีใหม่เปนส่วนพระบรมวงษานุวงษ์ข้าราชการฝ่ายใน ที่สวนแง่เต๋ง

วัน ๖ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๑ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

วันนี้มีการรื่นเริงถวายไชยมงคลปีใหม่เปนส่วนพระบรมวงษานุวงษ์ แลข้าราชการฝ่ายน่าที่พระที่นั่งวิมานเมฆ เวลาราวทุ่มครึ่งเสด็จออกพระราชทานฉลากพระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการที่ได้รับเชิญคราวแรก แล้วเสด็จประทับโต๊ะเสวยพร้อมด้วยผู้ที่รับเชิญคราวแรกนี้ ครั้นเวลายามหนึ่ง โปรดให้ผู้ที่ได้รับเชิญคราวหลังเข้ารับพระราชทานของแจกเปนที่รฦก แล้วเสด็จประทับโต๊ะเสวยพร้อมด้วยผู้ที่รับเชิญคราวแรกอีกคราวหนึ่ง ส่วนผู้ที่รับเชิญคราวหลังนั้น ได้ไปรับพระราชทานของเลี้ยงที่ท้องพระโรง เสร็จการเลี้ยงแล้ว ผู้ที่รับเชิญทั้งหมดได้มาประชุมเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทพร้อมกันที่มุขกลางพระที่นั่งวิมานเมฆชั้นบนถวายไชยมงคล กรมหลวงนเรศร เปนผู้ถวายไชยมงคลแทนพระบรมวงษานุวงษ์ เจ้าพระยาภาณุวงษ์ถวายแทนข้าราชการ มีพระราชดำรัสตอบ แล้วพระยาจุฬาถวายพระราชกุศลในการทำบุญพิธีเจ้าเซน เสด็จขึ้นเวลาราว ๕ ทุ่ม เปนเสร็จการ

วัน ๗ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๒ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาค่ำ เสด็จออกท้องพระโรง

วัน ๑ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๓ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาค่ำ เสด็จออกสวนแง่เต๋ง วันนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมขุนสมมต เสด็จไปถวายเข้าสารวัดเบ็ญจมบพิตร์

วัน ๒ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๔ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาค่ำเสด็จออกสวนแง่เต๋ง แล้วเสด็จออกที่ประชุม

วัน ๓ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๕ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาค่ำเสด็จออกสวนแง่เต๋ง

วัน ๔ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๖ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

ไม่ได้เสด็จออก เวลาบ่ายโปรดให้เสด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรควรพินิต เสด็จจุดเพลิงพระราชทานเพลิงศพพระยามหาอำมาตยาธิบดี (หรุ่น) ที่วัดเทพศิรินธราวาศ

วัน ๕ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๗ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาค่ำเสด็จออกน่าพระที่นั่งวิมานเมฆ แล้วเสด็จออกที่ประชุม

วัน ๖ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๘ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาค่ำเสด็จออกสวนแง่เต๋ง

วัน ๗ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๙ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาบ่ายราว ๕ โมง เสด็จวัดเบ็ญจมบพิตร เวลาราว ๒ ทุ่มเสด็จกลับ

วัน ๑ ๑๐ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๑๐ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาค่ำเสด็จออกสวนแง่เต๋ง

วัน ๒ ๑๑ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๑๑ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาบ่ายเสด็จออกน่าพระที่นั่งวิมานเมฆ มิสเตอกูลเบอคเฝ้า แล้วเสด็จวัดเบญจมบพิตร ในการสวดมนต์ ก่อพระเจดีย์ทราย แลฉลองโรงเรียน แล้วเสด็จทรงเยี่ยมเจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม ซึ่งป่วยเปนโรคชรา ที่วังกรมหลวงเทวะวงษ์ เวลาราวยามเสศเสด็จกลับ

วัน ๓ ๑๑ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๑๑ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาเช้า กรมขุนทิพย์เสด็จเลี้ยงพระในการก่อพระเจดีย์ทรายแลฉลองโรงเรียนวัดเบญจมบพิตร์ แลเวลาบ่ายวันนี้ได้มีเทศนาแสดงอานิสงษ์ในการก่อพระเจดีย์ทรายที่วัดเบญจมบพิตร์นี้กัณฑ์หนึ่ง

วัน ๔ ๑๓ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๑๓ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

วันนี้เวลาเช้าโมงเสศ เจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยมถึงแก่พิราไลย เวลาย่ำค่ำเสศเสด็จพระราชทานน้ำอาบศพ เวลา ๒ ทุ่มเสศเสด็จกลับ ครั้นถึงเวลายามเสศเสด็จออกพระที่นั่งวิมานเมฆในการสวดมนต์ฉลองพระพุทธรูปลำดับพระชนม์พรรษา แตในการสวดมนต์คราวนี้โปรดให้พระอุบาฬีคุณูปมาจาริย์นั่งน่าเจ้าคณะรอง (เทียบที่สมเด็จพระราชาคณะ) เวลาราว ๕ ทุ่มเสด็จขึ้น

วัน ๕ ๑๔ ๕ ค่ำ ปี มะโรง ยังเปนเบญจศก ๑๒๖๕

วันที่ ๑๔ เมษายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓

เวลาเช้าราว ๕ โมง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เสด็จออกทรงประเคนผ้าไตรแพรกับพัดแก่พระสงฆ์สูงอายุ ที่น่าพระที่นั่งวิมานเมฆองค์แปดเหลี่ยม๑๐ แล้วพระสงฆ์ลงสรงน้ำในอ่างหยก๑๑ ระหว่างนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก ครั้นพระสงฆ์สรงน้ำแล้วกลับมานั่งที่บนพระที่นั่งองค์แปดเหลี่ยม ทรงประเคนอาหารบิณฑบาตเข้าแช่แก่พระสงฆ์ พระสงฆ์ฉันแล้วถวายอติเรก ถวายพระพรลา แล้วเสด็จประทับเสวยพร้อมพระบรมวงษานุวงษ์ แลข้าราชการ เวลาราวบ่ายโมงเสด็จขึ้น

เวลาค่ำราว ๒ ทุ่มเสด็จในพระบรมมหาราชวังในการสวดมนต์เถลิงศก เวลาราวยามเสศเสด็จกลับสวน

  1. 1. พระที่นั่งสนามจันทร์ เป็นพระที่นั่งในหมู่พระมหามณเฑียร ตั้งอยู่ใกล้กับประตูเทเวศร์รักษา ข้างมุมพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยด้านตะวันตก เป็นพระที่นั่งองค์เล็ก สร้างเป็นพลับพลาโถงเคลื่อนย้ายได้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยสร้างประทับเป็นที่สำราญพระราชอิริยาบถ

  2. 2. สวนแง่เต๋ง สวนภายในบริเวณพระราชวังดุสิต เป็นที่ก่อสร้างพระที่นั่งอัมพรสถานซึ่งมีลักษณะเป็นตึกแบบตะวันตก ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพอพระราชหฤทัยประพาสสวนนี้ เมื่อพระที่นั่งอัมพรสถานสร้างเสร็จในปี พ.ศ. ๒๔๔๙ จึงได้เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ พระราชวังดุสิตเป็นประจำและเสด็จสวรรคตที่พระที่นั่งหลังนี้

  3. 3. สี่กั๊กพระยาศรี สี่แยกถนนเฟื่องนครจดถนนบ้านหม้อโดยมีถนนเจริญกรุงตัดผ่าน คำ “สี่กั๊ก” เป็นภาษาจีนแปลว่า สี่แยก ส่วนคำ “พระยาศรี” มาจากสมัยรัชกาลที่ ๕ บ้านพระยาศรีสิงหเทพ (หรุ่น ศรีเพ็ญ) ตั้งอยู่บริเวณนั้น

  4. 4. หม่อมเฉื่อย ดิศกุล ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

  5. 5. Edward H. Strobel ชาวอเมริกันจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ดำรงตำแหน่งที่ปรึกาาราชการแผ่นดินในประเทศไทย ปี พ.ศ. ๒๔๔๖-๒๔๕๑ ถึงแก่กรรมที่กรุงเทพฯ ด้วยโรคโลหิตเป็นพิษ เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๕๑ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานศพแบบไทย ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส มีการประโคมกลองชนะ โปรยทาน มีบาทหลวงเทศน์หน้าศพเหมือนการบังสุกุลของไทย และเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ จากนั้นมีพิธีเก็บอัฐิไว้ ณ สุสานคริสเตียน ถนนตก

  6. 6. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ พระนามเดิม พระองค์เจ้าชายกฤษดาภินิหาร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดากลิ่น รัชกาลที่ ๕ สถาปนาเป็นกรมหมื่นนเรศร์วรฤทธิ์และกรมหลวง เป็นราชทูตประจำกรุงลอนดอนและอเมริกา และเป็นเสนาบดีกระทรวงนครบาลและกระทรวงโยธาธิการ รัชกาลที่ ๖ เป็นกรมพระ เป็นสมุหมนตรี เสนาบดีกระทรวงมุรธาธร ต้นสกุล กฤดากร

  7. 7. เจ้าพระยาภาณุวงศมหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค)

  8. 8. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ พระนามเดิมพระองค์เจ้าชายสวัสดิประวัติ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และท้าวทรงกันดาล (เจ้าจอมมารดาหุ่น) รัชกาลที่ ๕ สถาปนาเป็นกรมหมื่นสมมตอมรพันธุ์ และกรมขุน เป็นเสนาบดีตำแหน่งราชเลขานุการและเป็นอธิบดีกรมพระคลังข้างที่ รัชกาลที่ ๖ เลื่อนเป็นกรมพระ เป็นสมุหมนตรี เสนาบดีที่ปรึกาา ต้นสกุล สวัสดิกุล

  9. 9. สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา พระชนนีสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ

  10. 10. พระที่นั่งวิมานเมฆ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงออกแบบสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ผังเป็นรูปตัวแอล สร้างเป็นรูปสองแฉกตั้งฉาก ด้านทิศใต้ขนานกับอ่างหยก ด้านตะวันออกขนานกับคลองร่องไม้หอม ทิศตะวันตกขนานกับคลองรางเงิน แต่ละด้านยาว ๖๐ เมตร เป็นอาคารสามชั้น เฉพาะส่วนที่ประทับสร้างหลังคาทรงแปดเหลี่ยม ทำเป็น ๔ ชั้น ชั้นล่างสุดก่ออิฐถือปูน นอกนั้นเป็นเรือนไม้มีห้องทั้งหมด ๓๑ ห้อง ที่ปลายสุดด้านขนานกับอ่างหยกทางทิศที่ติดกับคลองรางเงินนั้นมี “โรงเฟิน” (เรือนต้นไม้ ปลูกไม้ประเภทเฟิร์น) ขนาดใหญ่

  11. 11. พระที่นั่งวิมานเมฆเสมือนตั้งอยู่กลางเกาะมีน้ำล้อมรอบ เพราะมีคลองร่องไม้หอมอยู่ทางทิศตะวันออก คลองรางเงินทางทิศตะวันตก อ่างหยกอยู่ทางทิศใต้ และคลองคาบแผ่นกระจกซึ่งปิดอยู่ในเขตสวนพุดตาน ในความดูแลของกองทัพบกอยู่ทางทิศเหนือ น้ำโดยรอบเกาะที่ตั้งพระที่นั่งวิมานเมฆมีสีเขียวเหมือนหยกทั้งสิ้น น้ำมีสีสันสวยงามยิ่งนัก และสีหยกนั้นก็มิได้เนื่องมาจากความสกปรกหรือการไม่ไหลถ่ายเทของน้ำ หากแต่เกิดจากธรรมชาติของน้ำในอ่างนั้นเองเป็นต้นเหตุ จึงเป็นที่พิศวงแก่ผู้พบเห็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงได้รับพระราชทานนามว่า “อ่างหยก”

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ