- คำนำ
- เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๖๔
- เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๖๔
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๖๔
- เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๖ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๙ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๑๐ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๑ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๒ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๓ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๔ จุลศักราช ๑๒๖๕
- เดือน ๕ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๖ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๗ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๘ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๘๘ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๙ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๑๐ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๑๑ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๑๒ จุลศักราช ๑๒๖๖
- เดือน ๑ จุลศักราช ๑๒๖๖
- ภาคผนวก ก เรื่อง การเปิดรถไฟเพ็ชรบุรี
- ภาคผนวก ข เรื่อง ข้าราชการเมืองแขกเฝ้าถวายต้นไม้ทองเงินเครื่องราชบรรณาการ
- ภาคผนวก ค การขึ้นกุฏิใหม่แห่งสมเด็จพระวันรัต และการขึ้นกุฏิใหม่แห่งพระสงฆ์สามเณรประจำปี
- ภาคผนวก ง รายงานการสร้างถนนราชดำเนินนอก
- ภาคผนวก จ การเปิดสะพานเฉลิม ๕๐
- ภาคผนวก ฉ กรมทหารบกทูลเกล้า ฯ ถวายพระคทาจอมพลแลมีการสมโภช
- ภาคผนวก ช ประกาศกรมธนบัตร์
- ภาคผนวก ฌ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช มีการฉลองพระไชยเนาวโลหะที่วังสราญรมย์
- ภาคผนวก ญ พระราชพิธีมหามงคลการโสกันต์ แลพระราชทานพระสุพรรณบัตรเฉลิมพระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช
- ภาคผนวก ฎ การเปิดรถไฟสายท่าจีน
เดือน ๑๐ จุลศักราช ๑๒๖๖
วัน ๓ ๔ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๓ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำเสด็จออกที่ประชุม
วัน ๔ ๕ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๔ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศก ขุนสาครวิไสยคนเก่าเฝ้า
มีการพระราชกุศลในดิถีคล้ายกับวันสวรรคคตกรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ที่พระที่นั่งดุสิต กรมหลวงประจักษ์เสด็จไปจัดการ
วัน ๕ ๖ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๕ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาทุ่มเสศเสด็จออกพระที่นั่งอภิเศกมีมิสเตอกิบลินเจ้ากรมแผนที่เฝ้า แล้วเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง ประทับมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี แล้วออกที่ประชุม
วัน ๖ ๗ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๖ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำเสด็จออกมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี
วัน ๗ ๘ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๗ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำเสด็จออกมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี
วัน ๑ ๙ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๘ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
ไม่ได้เสด็จออก
วัน ๒ ๑๐ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑๙ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เริ่มงานเฉลิมพระชนม์พรรษาตั้งแต่วันนี้ไป
เวลาทุ่มเสศเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์ในการตั้งปเรียญไทยรามัญ ปเรียญที่ตั้งคราวนี้ ๕๐ รูป มีพระมหาอยู่ ๙ ประโยควัดเทพศิรินธราวาศเปนต้น แล้วโปรดให้กรมขุนสมมตไปจุดเทียนในการสวดมนต์ที่วัดพระศรีรัตนสาสดาราม พระสวดมนต์ที่วัด ๕ รูป มีพระญาณโพธิเปนประธาน แล้วเสด็จขึ้นจุดเทียนในการสวดมนต์ที่พระที่นั่งไพศาล พระสวดมนต์ ๕ รูป มีพระสาสนโสภณเปนประธาน เสด็จขึ้น ๗ ทุ่มเสศ สวดเสดาะวันนี้ใช้ฆ้องไชยตีเมื่อพระจบโหรจบ
วัน ๓ ๑๑ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๐ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาเช้าพระสวดมนต์วานนี้ ๕ รูปฉันที่พระที่นั่งไพศาล โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลกเสด็จออกจุดเทียน
เวลาทุ่มเสศเสด็จออกทรงจุดเทียนในการสวดมนต์ที่พระที่นั่งอมรินทร์ พระสวดมนต์ ๓๐ รูป มีสมเด็จพระวันรัตเปนประธาน แล้วโปรดให้กรมขุนสมมตไปจุดเทียนในการสวดมนต์ที่วัดพระศรีรัตนสาสดารามอย่างวานนี้ พระสวดมนต์ที่วัด ๕ รูป มีพระมงคลเทพมุนีเปนประธาน แล้วพระญวน พระจีน เฝ้าถวายดอกไม้ธูปเทียน ข้าราชการฝ่ายญวน ฝ่ายจีนเฝ้าถวายดอกไม้ธูปเทียนกิมฮวยอั้งติ๋ว เปนการถวายไชยมงคล เสด็จขึ้น ๔ ทุ่มเสศ
วัน ๔ ๑๒ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๑ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาเช้าพระสวดมนต์วานนี้ ๓๐ รูป ทั้งที่สวดมนต์ที่วัดพระศรีรัตนสาสดารามตั้งแต่วันที่ ๑๙ มาถึงวันนี้ รวมด้วยกันเปน ๔๕ รูปฉันที่พระที่นั่งอมรินทร์ โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเสด็จออกทรงจุดเทียนบ่ายวานนี้
เวลาเที่ยงเสด็จออกท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรกรี การถวายไชยมงคลฝ่ายน่า แต่ในการเสด็จออกปีนี้เปนเวลาที่ประชวรพระบาททรงพระดำเนินไม่สนัด โปรดให้จัดวิธีเสด็จออกใหม่ เมื่อเวลาเสด็จออกปิดพระทวารกลางมีแต่กรมวังมหาดเล็กเฝ้าเท่านั้น ต่อเมื่อประทับพระที่นั่งเรียบร้อยแล้วจึงเปิดพระทวารแล้วตำรวจพระบรมวงษานุวงษ์เข้า ข้าราชการกระทรวงกรมต่างๆ เข้า เมื่อเสร็จการถวายบังคลแล้ว กรมวังเคาะไม้เท้าเปนสัญญา ข้าราชการกราบถวายบังคมลาออก พระบรมวงษานุวงษ์ออกตำรวจออก แล้วปิดพระทวารกลางเสด็จขึ้นท้องพระโรงใน ฯ ถวายไชยมงคลต่อไป เวลาบ่าย ๑ โมงเสด็จออกมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี ถวายไชยมะคลของพวกทูตแลกงซุลต่างประเทศ การเสด็จออกนี้ก็จัดวิธีเปลี่ยนเหมือนกันคือเมื่อเสด็จออกประทับพระเก้าอี้ในห้องไปรเวตยอดตวันออกเสร็จ พวกทูตจึงเข้าเฝ้าถวายไชยมงคลแลทรงตอบ แล้วรับสั่งให้หาไปที่น่าที่ประทับทรงปราไสยทีละคน หาได้ทรงยืนปราไสยรายไปตามแถวเช่นปีก่อนๆ ไม่ เมื่อเสร็จการถวายไชยมงคลนี้แล้วทูตทั้งปวงกลับออกมา อุปทูตฝรั่งเสศได้เข้าเฝ้าอีกครั้งหนึ่งนำขวดทำที่เมืองเชฟวร์ประเทศฝรั่งเศสทูลเกล้าฯถวายด้วย ขวดนี้เปนของรัฐบาลฝรั่งเศสส่งมาถวายในการเฉลิมพระชนม์พรรษา เสด็จขึ้นบ่ายโมง
เวลาทุ่มเสศเสด็จออกทรงจุดเทียนในการสวดมนต์ที่พระที่นั่งอมรินทร์ พระสวดมนต์ ๖๐ รูป มีกรมหมื่นวชิรญาณเปนประธาน แล้วโปรดให้กรมขุนสมมตจุดเทียนที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามอย่างวันก่อน พระสวดมนต์ที่วัด ๕ รูป มีพระมงคลทิพยมุนีเปนประธาน แล้วข้าราชการฝ่ายจีนเฝ้าถวายดอกไม้ธูปเทียนกิมฮวยอั้งติ๋ว เปนการถวายไชยมงคลเสด็จขึ้นยามเสศ
วันนี้เจ้าพนักงานกรมทหารบกทหารเรือได้ยิงปืนใหญ่ถวายคำนับ ๓ เวลา แห่งละ ๑๐๑ นัด
วัน ๕ ๑๓ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๒ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาเช้าพระ ๖๐ รูปที่สวดมนต์วานนี้ฉันที่พระที่นั่งอมรินทร์ เวลาเช้า ๕ โมงเสศเสด็จออกทรงจุดเทียน แล้วเสด็จไปเปลื้องเครื่องที่พระที่นั่งราชฤดี ครั้นถึงพระฤกษ์เสด็จขึ้นที่สรงมุรธาธิเศก ครั้นสรงแลทรงเครื่องแล้วสู่พระที่นั่งอมรินทร์ถวายของพระ แล้วโปรดพระราชทานเงินตราผ้านุ่งห่มแก่ข้าราชการสูงอายุเสด็จขึ้นเที่ยงเสศ
เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้ตั้งบายศรีเวียนเทียนสมโภชพระราชมณเฑียร
เวลาทุ่มเสศเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์ทรงสดัปพระธรรมเทศนา การเทศนาวันนี้เดิมกำหนดว่า สมเด็จพระวันรัตถวายมงคลสูตร ๑ กัณฑ์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ถวายรัตนสูตร ๑ กัณฑ์ แต่สมเด็จพระพุฒาจารย์อาพาธเปนลมมาไม่ได้ จึงโปรดให้นิมนต์หม่อมเจ้าพระสถาพร๑ ซึ่งกำหนดว่าจะถวายเทศนาเทวตาทิสนกถาในวันหลัง ให้มาเทศน์เสียวันนี้ ให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ไปเทศน์วันหลังต่อไป
วัน ๖ ๑๔ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๓ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลายามเสศเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทร์ ทรงสดัปพระธรรมเทศนารัตนสูตรสมเด็จพระพุฒาจารย์ถวาย ๑ กัณฑ์ แลเมตตสูตรพระพิมลธรรมถวาย ๑ กัณฑ์ เสด็จขึ้น ๕ ทุ่มเสศเปนเสร็จการ
วัน ๒ ๒ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๖ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาบ่ายราว ๕ โมงเสด็จออกมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี มิสเตอเกรแฮมเฝ้า
เวลา ๒ ทุ่มเสศเสด็จออกทรงจุดเทียนในการสวดมนต์ฉลองพระพุทธรูปประจำพระชนม์พรรษาที่พระที่นั่งอมรินทร์ พระสวดมนต์ ๕๒ รูป มีหม่อมเจ้าพระสถาพรเปนประธาน สวดมนต์จบแล้ว โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์๒ เสด็จไปจุดดอกไม้เพลิงที่พระที่นั่งดุสิตแล้วเสด็จขึ้นเวลา ๕ ทุ่ม
วัน ๓ ๓ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๗ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาเช้าพระสวดมนต์วานนี้ฉันที่พระที่นั่งอมรินทร์ โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์เสด็จออกจุดเทียน แลโปรดให้เจ้าพนักงานปล่อยสัตว์ต่างๆ
เวลาบ่ายเจ้าพนักงานได้ตั้งบายศรีเวียนเทียนสมโภชพระพุทธรูปประจำพระชนม์พรรษา
เวลาค่ำวันนี้เดิมได้เตรียมการจะมีเทศน์มงคลวิเศษกรมหมื่นวชิรญาณถวายที่พระที่นั่งอมรินทร์ แต่ฝนตกจึงโปรดให้ย้ายมามีที่ท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรกรี เชิญแต่พระพุทธรูปพระชนม์พรรษาองค์ใหม่กับเครื่องบูชาพอสมควรกับเครื่องนมัสการ แลเทียนพระมหามงคลแลเทียนเท่าพระองค์มาตั้งเท่านั้น เวลาทุ่มเสศเสด็จออกทรงจุดเทียน แล้วโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ไปจุดเทียนที่พระที่นั่งอมรินทร์ เทศน์จบแล้วโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอที่ออกพระนามมาแล้ว เสด็จไปจุดดอกไม้เพลิงอย่างวันก่อน เสด็จขึ้นยามหนึ่ง เปนเสร็จการ
วัน ๔ ๔ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๘ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาบ่ายเสด็จออกน่าห้องราชองครักษ์ แล้วทรงรถประพาศ
วัน ๕ ๕ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒๙ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำเสด็จออกมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี แล้วเสด็จออกประทับในที่ประชุม
วัน ๖ ๖ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๓๐ กันยายน รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาบ่ายเสด็จออกน่าห้องราชองครักษ์ แล้วทรงรถประพาศ
วัน ๗ ๗ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๑ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
วันนี้โปรดให้มีการเลี้ยงเปนเกียรติยศแก่ข้าหลวงเทศาภิบาล เวลา ๒ ทุ่มเสด็จออกมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี ผู้ที่ได้รับเชิญในการนี้เฝ้า แล้วทรงนำไปประทับโต๊ะเสวย ณ พระที่นั่งมูลสถาน๓ เสวยแล้วเสด็จไปประทับพระที่นั่งดำรงสวัสดิ์อนัญวงษ์๔ พร้อมด้วยผู้ที่มาประชุมทั้งปวง เวลา ๕ ทุ่มเสศ ผู้ที่มาประชุมกราบถวายบังคมลาเปนเสร็จการ
วัน ๑ ๘ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๒ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลากลางวันโปรดให้มีการเลี้ยงอาหารชวาที่สวนดุสิต เลี้ยงแล้วเสด็จห้างบีกริมแลห้างแกรเลิต เวลาค่ำโปรดให้มีการเลี้ยงเข้าบุหรี่อีกเวลาหนึ่ง
วัน ๒ ๙ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๓ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำเสด็จออกทอดพระเนตรของ ทรงซื้อจากห้างบีกริมที่พระที่นั่งจักรกรีด้านตวันตก แล้วเสด็จออกที่ประชุม
วัน ๓ ๑๐ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๔ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาค่ำเสด็จออกมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี
วัน ๕ ๑๒ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๖ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาบ่าย ๕ โมงเสตเสด็จออกท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรกรี เจ้านครเชียงใหม่เฝ้าทูลเกล้า ฯ ถวายต้นไม้ทองเงินเครื่องราชบรรณาการ แล้วเสด็จไปประทับมุขตวันออกพระที่นั่งจักรกรี เจ้านครเชียงใหม่เฝ้าเป็นการไปรเวตอีกครั้งหนึ่ง
เวลาค่ำเสด็จวัดพระศรีรัตนสาศดารามในการสวดมนต์ถือน้ำ
วัน ๖ ๑๓ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๗ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาบ่าย ๒ โมงเสศเสด็จวัดพระศรีรัตนสาศดารามในการประชุมถือน้ำฝ่ายน่า เสด็จประทับพระที่นั่งสนามจันทร์นมัสการพระบรมอัฐิที่เจ้าพนักงานเชิญมาประดิษฐาน ณ หอพระธาตุมณเทียร แล้วเสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลฝ่ายในถือน้ำต่อไป
เวลาค่ำมีการสวดมนต์พระราชพิธีสารทที่พระที่นั่งดุสิต โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์เสด็จออกจุดเทียน
วัน ๗ ๑๔ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๘ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาเช้าทรงบาตร มีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชแลสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนสงขลานครินทร์มารับที่พระที่นั่งจักรกรี
เวลาค่ำเสด็จออกในการสวดมนต์พระราชพิธีสารทที่พระที่นั่งดุสิต
วัน ๑ ๑๕ฯ ๑๐ ค่ำ ปีมะโรง ๑๒๖๖
วันที่ ๙ ตุลาคม รัตนโกสินทร๓๗ศก ๑๒๓
เวลาเช้ามีทรงบาตรอย่างวานนี้
เวลาย่ำค่ำโปรดให้มีการเลี้ยงกับเข้าแปลกๆ ที่สวนดุสิต มีกับเข้าโคราชแลสูปะ เปนต้น
เวลาค่ำมีการสวดมนต์พระราชพิธีสารทที่พระที่นั่งดุสิตอย่างวันก่อน โปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชเสด็จออกจุดเทียน แลมีการกวนเข้าทิพย์ที่มุขกระสันด้านใต้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอแลพระเจ้าลูกเธอทรงกวน
-
1. พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ วัดราชบพิตร พระนามเดิม หม่อมเจ้าภุชงค์ พระนามฉายา สิริวัฑฒโน พระโอรสพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ ทรงผนวช พ.ศ. ๒๔๑๖ แปลพระปรัยัติธรรมได้ ๕ ประโยค ทรงตั้งเป็นพระราชาคณะ มีราชทินนามว่า หม่อมเจ้าสถาพรพิริยพรต เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๐ พ.ศ. ๒๔๔๒ เป็นพระธรรมปาโมกข์ และปกครองวัดราชบพิธ พ.ศ. ๒๔๔๙ สถาปนาเป็นพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ ↩
-
2. พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ↩
-
3. พระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ ตั้งอยู่ทางตะวันออก ด้านขวา ของท้องพระโรงกลางของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๖ เมื่อแรกสร้างเป็นที่ประทับของรัชกาลที่ ๕ ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้ดัดแปลงพระที่นั่งองค์นี้เป็นห้องพระราชทานเลี้ยง ↩
-
4. พระที่นั่งดำรงสวัสดิอนัญวงศ์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกติดกับพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ ปัจจุบันรื้อลงเพราะชำรุดทรุดโทรมมาก ↩