พระราชหัตถเลขา ถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๓

พระที่นั่งบรรณาคมสรณีย์

วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๓๗ร.ศ. ๑๒๓

ถึง เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัติวงษ

ได้รับจดหมายส่งคำสั่งเขียนพระบทที่ ๑๑ แลที่ ๑๖ มีร่างพระนาคาวโลกมาด้วย เปนที่พอใจแล้ว แต่อดสันนิษฐานความเหนของเธอไม่ได้

เรื่องพระภักตรพระรัศมีเปนที่ตกลงกันแล้ว ยังมีที่จะต้องกล่าวถึงแต่เรื่องห่มผ้า ตามที่เขียนมานี้ต้องเข้าใจว่าผ้าห่มนั้นสั้นกว่าที่พระห่มกันอยู่เดี๋ยวนี้มาก จะยาวกว่าผ้าห่มนอนกำมหริด ฤๅส่าน ที่เรียกว่าแคชเมียอยู่ประมาณสักคืบเศสเท่านั้น แต่ห่มแหวกฤๅจะคลุมสบัดขึ้นบ่าก็ตาม แต่ไม่เลิกทางข้างล่าง ดูก็สบายดี แต่อยากรู้ความสันนิษฐานว่ามีที่มาฤๅเปนแต่นึกดูให้พอดีพอสบาย

แผ่นที่ ๑๑ นั้นฉันจ่ายให้กรมสรรพสาตร ด้วยเหนว่ามีช่องที่ช่างจะพุ่งได้มาก โดยจะพุ่งผิดติเตียนแก้ไขก็ง่าย อีกแผ่นหนึ่งนั้นได้ส่งไปให้เจ้ากรมสาย

พระบทกรมสรรพสาตรแผ่นถวายเนตรนั้น อยากทราบความเหนพวกมหาโพธิโซไซเอตีกลัวจะไม่เจ็บแค้นแต่ยืนบนรัตนบัลลังก์ จะเคืองต้นพระศรีมหาโพธิที่ปลูกเปนอาเวนิวด้วยกระมัง

พระบทที่จะไปไว้วัดเปนที่น่ากลัวอันตราย มีอยู่หลายแห่ง มีวัดเชิงเลนเปนต้น โทษถึงไว้ไม่ได้ แต่นึกหวังใจอยู่อย่างหนึ่งว่าพระในวัดเองฤๅสัปรุศทายก เว้นไว้เสียแต่จะหาไม่ได้ คงจะคิดซ่อมแซมศาลานั้นเกือบทุกแห่ง ถ้าหากว่าศาลาแห่งใดยังไม่ควรไว้พระบทได้ ยึดไว้เสียที่การเปรียญวัดเบญจมบพิตรก่อน ก็เหนจะเปนเหตุให้เจ้าของวัดแลสัปรุศทายกขวนขวายซ่อมแซมศาลานั้นขึ้น จะเปนคุณแก่พระอารามนั้น ๆ ได้อีกชั้นหนึ่งอยู่.

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ