- คำนำ
- คำชี้แจง
- คำนำ (ในการพิมพ์ครั้งแรก)
- คำอธิบาย
- ลายพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเธอ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ
- หนังสือทูลเกล้าฯ ถวาย ลงวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ร.ศ. ๑๑๒
- พระราชหัตถเลขา ถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ร.ศ. ๑๒๒
- พระราชหัตถเลขา ถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ร.ศ. ๑๒๒
- ลายพระหัถสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศ วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ร.ศ. ๑๒๒
- พระราชหัตถเลขา ถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ร.ศ. ๑๒๒
- พระราชหัตถเลขา ถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ร.ศ. ๑๒๒
- พระราชหัตถเลขา ถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๓
- สำเนาหนังสือทูลเกล้าฯ ถวาย ลงวันที่ ๓ กันยายน ร.ศ. ๑๒๓
- พระราชหัตถเลขา ถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ ๔ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๓
- สำเนาหนังสือทูลเกล้าฯ ถวาย ลงวันที่ ๕ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๓
- พระราชหัตถเลขา ถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๓
- สำเนาหนังสือทูลเกล้าฯ ถวาย ลงวันที่ ๑๐ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๓
- พระราชหัตถเลขา ถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๓
- หน้าบันทึก สำเนา เรื่องมัชชาดก
- สำเนาหนังสือถวายพระธรรมโกษา ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๓
- สำเนาหนังสือทูลเกล้าฯ ถวาย ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๓
(สำเนา) คำอธิบายการเขียนพระบท แบบที่ ๑๖ สำหรับวัดแค
จงรับกระดานพระบทขนาดกว้าง ๒ ศอก ยาว ๖ ศอก มาตีกรอบกว้าง ๒ นิ้วลง ๓ ด้าน คือด้านบนแลข้าง แล้ววัดแต่ใต้กรอบบนลงมา ๒ ศอก ๙ นิ้ว ตีกรอบขวางสกัดกลางลงขนาดอย่างเดียวกัน ที่เขียนภาพจะได้แยกกันออกเปนสองช่อง แลในกรอบนั้นจงผูกลายประจุลงตามแต่จะเห็นงาม
กรอบด้านล่างต้องยักลายเปนช่องหนังสือ มีขนาดกว้าง ๔ ฤๅ ๕ นิ้ว พอที่จะเขียนหนังสือได้สองบรรทัดอย่างตัวเขื่อง ๆ
ที่ช่องบน เขียนรูปพระพุทธเจ้าปางเมื่อเหลียวหลังสั่งเมืองเวสาลีจงเขียนเส้นร่างตามแบบซึ่งส่งมาด้วยนี้ ถ่ายขยายให้ใหญ่ขึ้น ๕ เท่า การลงสีนั้น องค์พระเจ้าใช้สีเหลืองอ่อนพระสาวกใช้สีขาว ตัดอย่างโบราณ คือใช้คิ้วดำ หนวดดำ จีวรใช้ชาดเติมรงให้จัด แล้วตัดด้วยดินแดงเกลือนเข้าข้างลึก แล้วเอาเหลืองโฉบตามกลีบผ้าตรงที่สูงเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ อย่างทำลายฉลุ รัศมีพระเจ้านั้น ใช้ ๖ สี คือพื้นทาแดงชาด เส้นขอบรัศมี ๕ ชั้น ๕ สี ในเส้นหงษชาดใหญ่ ถัดออกไปเส้นขาวใสเล็ก ถัดออกไปเส้นเขียวแก่ใหญ่ ถัดออกไปเส้นเหลืองเล็ก ทีนี้ทิ้งให้หางวางเส้นทองเล็กอีกเส้นหนึ่ง ให้สีพื้นผนังหลังเขาคั่นอยู่ในรหว่างเส้นเหลืองกับทอง เปนลวดใหญ่อีกลวดหนึ่งด้วย ถ้าแลเห็นไม่ขึ้นดี เอาเส้นดำเข้าช่วยคัดด้วยในรหว่างนั้นก็ได้ กระบวรเขียนซ้อนสีอย่างว่านี้ เส้นทองซึ่งเปนเส้นนอกที่สุดต้องอยู่เสมอเส้นร่าง ส่วนรัศมีพระสาวกใช้สามสีคือพื้นแดงเส้นในหงษชาดใหญ่ เส้นนอกขาวใสเล็ก ถ้าแลเห็นไม่ขึ้นเอาดำตัดนอกเสียอีกทีก็ไร้ ที่เปนรูปบัวฐานอยู่ในแบบนั้น คือ ฐานซุ้มประตูเมืองเวสาลี ใช้สีมอครามเจือเขม่า จะทำลายฤๅไม่นั้นตามแต่จะเห็นดี ถ้าทำลายต้องเปนฉลุลายปูน พื้นต่อไปข้างหลังพระเจ้านั้นคือกำแพงเมือง ทาสีมอครามเจือเขม่าอย่างเดียวกับประตูฤๅแก่กว่าหน่อยก็ดี ข้างหลังพระสาวกนั้นมีเสากรอบประตูอยู่ รวังอย่าทามอเลยไป ต้องสอดสีดินแดง พื้นถนนที่พระเดินอยู่ทาสีดินแดง พื้นลานน่ากำแพงทำหญ้า ฤๅว่าจะซ้ำทำต้นไม้ดอกแซมเข้าด้วยก็ได้ แต่รวังอย่าให้รกอย่าให้ใหญ่ ให้สอดไปพอเหมาะกับช่องว่างอย่างประหนึ่งว่าทำลาย
ที่ช่องล่างเขียนเรื่องพระเนมีย์ราช จงไปถ่ายอย่างฝีมือครูทองอยู่ซึ่งเขียนไว้ในพระอุโบสถวัดสุวรรณ คลองบางกอกน้อย ถ่ายเอาทั้งห้อง แต่ลดขนาดเขียนให้เล็กลงสามสอง (คือเหมือนหนึ่งว่าภาพต้นอย่างสูง ๑๒ นิ้ว ลดเขียนแต่ ๘ นิ้ว)ที่ว่าถ่ายทั้งห้องนั้น หมายความเอาเพียงเท่าที่เขียนไว้เดิมเท่านั้น ที่พอกปูนแก้บานแผละ เติมห้องกว้างออกมาอีกข้างละ ๖ นิ้ว แลเขียนต่อเติมไว้ยังไม่แล้วนั้น ไม่หมายให้ถ่ายด้วยดอก อย่าหลงไปคิดเข้าด้วยจะลงกระดานไม่ได้.