วันที่ ๘

ค่ายหลวงเมืองกาญจนบุรี

วันที่ ๘ วัน ๕ ๒ ค่ำ วันนี้ นอนเรื่อยสบายไปไม่รู้ว่าเช้ามืด เธอมอเมตเตอรเท่าไร ตื่นต่อ ๒ โมงเช้าเห็นปรอท ๗๐ ถ้วน แต่กรมนเรศบอกว่า ๖๘ เหมือน ๒ วันมาแล้ว เวลากลางวันร้อนจัดปรอทถึง ๘๕ พระยากาญจนบุรี๗๖ หาพระพิทักษพลขันธ์๗๗ กะเหรี่ยงกองกันหลวงอะไร นายกองจีนเขยสู่เปนส่วย แลพระปนัศดิฐบดี๗๘ พระเสละภูมิบดี๗๙ เจ้าเมืองท่าขนุน เจ้าเมืองท้องผาภูมมาหา พระยาสุดารัตน๘๐เจ้าเมืองกาญจนบุรีเก่า มีของมาให้ด้วย นั่งพูดอยู่กับคุณสุรวงษ์ พระยากาญจนบุรี แลใคร ๆ อื่น ๆ เจ้าคุณมาหาเวลาบ่ายโมง ๑ แจกเสื้อผู้ที่มาหาบ้าง แล้วเข้ามาข้างในพบคุณพลอย๘๑ หยาด๘๒ พร้อม๘๓ มาหาอิกนั่งพูดอยู่ตามธรรมเนียม แล้วลงมากินเข้าที่ท่าอาบน้ำเย็นสบายกว่าบนบก ลงมานั่งในแคร่กลางน้ำ ให้เทวัญเขียนหนังสืออยู่เดี๋ยวนี้ นึกว่าค่ำวันนี้ จะว่าด้วยพลับพลาสักหน่อย แต่เดี๋ยวนี้ว่าด้วยที่อาบน้ำเสียก่อนเถิด มุมค่ายข้างทิศตวันตกเฉียงเหนือ ปลูกพลับพลาลงไปในน้ำสองหลังห่างกันแต่มีตะพานเดินตลอด หลังละ ๓ ห้องเฉลียงรอบกั้นรั้วไม้รวกรอบ มีตะพานตรงน่าพลับพลาออกไปถึงริมรั้วลูกกรงทั้งสองพลับพลายาว ๘ วา คือแปลว่าตรงนั้นกว้างแต่น่าพลับพลาไป ๘ วายาวตลอดทั้ง ๒ พลับพลาประมาณสัก ๒๕ วา มีชานด้านน่าตรง ข้างนอกกว้าง ๔ ศอกเศษ สำหรับนั่งเล่นริมน้ำฤๅลงเรือเล่นได้ มีปรำน่าพลับพลาติตกันทั้ง ๒ พลับพลากว้างประมาณ ๕ วา ฝากั้นกลางเปนข้างน่าหลัง ๑ ข้างในหลัง ๑ น้ำในใต้ปรำฦกเพียงเข่า พื้นล่างเปนกรวด น้ำใสบริสุทธิ์เย็นเฉียบกินจืดสนิทดีนัก ทูลกระหม่อมท่านรับสั้งว่าน้ำแควใหญ่มีสีเหลือง แควน้อยสีเขียว ได้ทรงตักมาทดลองว่าน้ำสองแควนี้ประสมกันเข้าแล้ว เปนดีกินไม่มีโทษเลย ให้พระยากาญจนบุรีตักส่งเข้าไปกรุงเทพ ฯ เปนน้ำเสวย

อนึ่งที่อาบน้ำนี้แลดูไปข้างฝั่งฟากข้างโน้น เห็นภูเขาสูง ๆ เปนเทือกกันไปสองตอน ๆ ข้างเหนือ ตั้งแต่เขาพุรางเปนเทือกตลอดกันมา จะเรียกเขาอะไรบ้างเราไม่รู้จัก ขาดตอนมาจนทิศตวันตก เห็นเขาพุพระเขาช่องกระบือติดกันเปนเทือกอิกเทือกหนึ่ง ที่ริมฝั่งน้ำตลิ่งสูง ๆ บางแห่งก็พังทลายลงมาบ้าง มีต้นไม้ใหญ่เล็กปกคลุมตามปรกติธรรมดาเอง ดูงามดี ที่แม่น้ำมีหาดผุดอยู่บ้าง ที่เปนน้ำก็ใสไหลเชี่ยวดูสบายในตาดี อนึ่งวันนี้ได้เห็นพระอาทิตย์ตกลงตรงเขาพุพระงามนัก นั่งดูเพลินเหมือนหนึ่งกับดูปีกเชอจนพลบกลับขึ้นมา อนึ่งเมื่ออยู่ที่ท่าน้ำนั้น พระสัจจาเอานางเก้งยิงได้ไปให้ตัวหนึ่ง แล้วลาว่าจะไปนั่งห้างยิงเสือมาให้ ยอมอนุญาตให้เขาไป นางเก้งนัน ให้ ไปเยอ๘๔ ไปตัดผ่าเอาหนังทำรูปไว้ในมิวเซียม แต่พระยาภาษกรวงษ์คำรามจะนั่งห้างยิงเสือมาหลายปีหลายคราว ที่ไปเที่ยวแล้วจนบัดนี้ยังไม่ได้เสือสักตัว ๑ แต่ห้างก็ยังไม่ได้ไปถึงสักที ๑ เวลาวันนี้จนยามหนึ่งยังไม่หนาว ที่พลับพลาหันน่าทิศตวันออกเฉียงเหนือ แปลน คราวนี้คล้าย ๆ กับคราวก่อน เปนแต่เปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เดิมท้องพระโรงมุขอยู่ข้างใน ครั้งนี้ท้องพระโรงเปนตรีมุข อัฒจันท์ขึ้นมุขน่าสองข้างในประธาน ๕ ห้อง มุขสองห้องเฉลียงรอบ กั้นฝาตามเฉลียงสามด้าน หัวท้ายเปนห้องเครื่อง เฉลียงข้างในเปนที่เถ้าแก่ ต่อเข้าไปเปนพื้นมีเพดานผ้า บันไดสองข้างพลับพลาที่อยู่เปนจัตุรมุข ๕ ห้อง มุขหน้ามุขหลังข้างละห้อง เฉลียงรอบ กั้นห้องในประธานตลอดถึงเฉลียงด้านหลังข้างสะสองห้องสามห้องทั้งเฉลียงกลาง เปิดโถงถึงมุขหลัง เฉลียงด้านน่าเปิดโถง การตกแต่งในพระที่นั่งเปนฝีมือพระยาศรีสรราชทำ เรื่องเดียวกันกับพลับพลาที่พระแท่น แต่บางสิ่งมอออนเมนต์ กว่าที่โน่น ที่ลายเชิงกลอนบัวเหมือนกันกับพลับพลาโน้น มีแผงเขียนลายเปนเสาประดับเสาไม้ พนักท้องพระโรงหวายขดเปนแก้วชิงดวง ผนังทำเหมือนผนังปูนปิดผ้าลายวิลาศ มีกรอบแลเชิงผนังช่องกระจกขึงด้วยผ้าโปร่ง มีทุกระยะห้องประตู ตั้งกบใช้บานไม้จริง คลังเชือกมีม่านสองไขย ตามรวางเสามีบานผ้าแดงตลอด ที่บานน่าต่างนั้นทำด้วยไม้ไผ่เอาอย่างบานไม้จริง ที่กระดานกรุใช้แผง ที่เกล็ดก็ทำด้วยไม้ไผ่ชักปิดชักเปิดได้เหมือนบานไม้จริง มีกลอนไม้ไผ่ทำเหมือนกลอนทองเหลืองใช้ได้ดีอยู่ พระที่นั่งข้างในคล้าย ๆ กับข้างนอก แต่บัวใช้ไม้พระยาเลยเหมือนพลับพลาโน้น แต่พนักรั้วใช้เหล็กทั้งสิ้น มีโต๊ะเก้าอี้ตั้งบ้าง ดูที่พลับพลานั้นก็เห็นว่า แกช่างประดิษฐ์ประดอยทำ จนงามเหมือนอย่างกับโรงเซียเตอรน่าดูอยู่ ในบริเวณรอบพลับพถา น่าท้องพระโรงเปนโรงหมอเรือนเจ้า ที่ทหารอยู่รอบไป มีสนามหญ้าเปนสวนปลูกต้นไม้ มีเสาธง ต้นไม้ที่ใหญ่ ๆ มีกระถางทำด้วยไม้รวกกองศิลาในน้ำที่โคนต้นเปนภูเขา ข้างในมีรั้วค่ายสกัดเพียงหลังท้องพระโรง ข้างที่นอนข้างทิศตวันออกเฉียงใต้ เปนที่สวนมีแต่ต้นไม้ใหญ่เปนพื้นราบ ข้างหลังพระที่นั่งมีเรือนใหญ่หลังหนึ่ง เรือนแถวยาวไปสองแถว ขวางสองแถว ข้างที่อยู่ข้างตวันตกเฉียงใต้ เบ่นตำหนักเสด็จยาย แลเรือนเจ้านายมีรั้วกั้นต่างหาก รอบค่ายมีรั้วค่ายปักด้วยเสาไม้ลูกเตงรังเสี้ยมปลาย สูงประมาณ ๖ ศอก ที่มุมเปนป้อมค่ายนั้นด้านน่ายาวสัก ๓๓ วา ตั้งอยู่ที่หัวแหลมเหนือเมืองฝั่งตวันตก ตรงวัดญวนข้ามตามเดิม ที่ท่าน้ำมีพลับพลาน้ำแลตพานขึ้นลง วันนี้เรือเรายังไม่มาถึง แต่เรือบรรทุกเข้าของที่นายจ่ารง๘๕มาถึงวันนี้บ่าย ๒ โมง เราเห็นว่าเรือใหญ่ที่เราจะขึ้นไปไทรโยคคงจะลำบากเปนแน่ แต่ขึ้นมานี่ยังขึ้นมาถึงทีหลังเพื่อน ถ้าขัดขวางอย่างไรก็ไม่เปนไรเรือแหวดก็มีมา เข็ดแต่ยืนไม่ได้จะต้องนั่งเปนง่อยไปหลายวัน อนึ่งเมื่อเรามาพักที่พลับพลาห้วยกระบอก พวกกะเหรี่ยง ๒ คน ๓ คน มาแต่แขวงสุพรรณบุรีเข้ามาหามีหางนกยุงแลฟักแฟงมาให้ ถามว่าอะไรมันบอกว่าของเสวยได้ ไถ่ถามกันถึงไลฟ์ของกะเหรี่ยง บอกว่าที่อยู่นั้นมีอยู่ ๕ หลัง ๖ หลังเรือนยักย้ายไปเพราะกลัวเหตุต่าง ๆ บ้าง แต่ไม่กลัวอะไรเหมือนฝีดาษ ถ้าเปนขึ้นในบ้านสักคนหนึ่ง ก็พากันหนีหมด ทิ้งแต่คนเจ็บไว้คนเดียว เราจึงชวนว่าให้ปลูกฝีเสียเถิด จะให้หมอสาย๘๖ปลูกให้ มันว่ากลัว เราก็อธิบายให้มันฟังว่าไม่ติดกัน ปลูกแผลไหนเปนแต่เฉภาะแผลนั้น ดูก็ยังไม่สู้จะเชื่อถือ ต่อเราบอกว่าตัวเราเองได้ปลูกเหมือนกัน แขนยังเปนแผลอยู่ ไม่เปนอะไรเลยรับประกันได้ จึงได้เชื่อ รับว่าละยอมปลูก แต่เวลานั้นหมอสายไม่ได้มีพรรณไปด้วย เราจึงได้นัดว่าให้พาพวกพ้องมาที่พระแท่นจะปลูกให้ มันยังถามว่าจะต้องเสียอะไรบ้างฤๅไม่ต้องเสีย ครั้นวันนี้หมอสายมาริโปตว่า พวกกะเหรี่ยงนั้นได้มาปลูก ๑๖ คน มีธูปเทียนมาบูชาหมอด้วย แต่มันบอกว่า มาด้วยกันประมาณสัก ๑๐๐ มาพบทัพหลวงเข้าตกใจพากันหนีไปเสียหมด เหลือได้มาปลูก ๑๖ คน หมอสายได้สอนวิธีปลูกให้คนที่มานั้นไปปลูกเพื่อนกันต่อ ๆ ไป นี่แลเรากลัวอยู่หน่อยหนึ่งว่า ถ้ากะเหรี่ยงผู้ที่จะไปปลูกกันอิกต่อไปนั้น ถ้าไปทำสับปลับปลูกไม่ขึ้น ฤๅเอาพันหนองที่ไม่ดีมาปลูก เปนฝีดาษจริง ๆ ทับมาจะเข็ดเสียไม่ปลูกอิกต่อไป แต่ก็ไม่เปนการยากเย็นอะไรนักที่จะปลูกฝี ถ้ากะเหรี่ยงพวกเหล่านี้ คุ้นเคยกับที่ปลูกฝีได้ เราจะเปนที่ยินดีมาก

  1. ๗๖. พระยาประสิทธิสงคราม ผู้ว่าราชการเมืองกาญจนบุรี

  2. ๗๗. พระพิทักษ์พลขันธ์

  3. ๗๘. พระปนัศดิฐบดี (ผู้ว่าราชการเมืองท่าขนุน)

  4. ๗๙. พระเสละภูมิบดี (ผู้ว่าราชการเมืองท้องผาภูม)

  5. ๘๐. พระยาสุดารัตน (ผู้ว่าราชการเมืองกาญจนบุรีคนเก่า)

  6. ๘๑. คุณพลอย บุตรีสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงษ์

  7. ๘๒. หยาด ภรรยาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงษ์

  8. ๘๓. พร้อม บุตรีพระยาสีหราชฤทธิไกร (แย้ม)

  9. ๘๔. มิศเตอร์ไปเยอ ฝรั่งออสเตรียที่มารับราชการ

  10. ๘๕. พระยาอภัยพิพิธ (สุ่น)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ