วันที่ ๒๕

วัน ๑ ๓ ค่ำ สายแล้วเราจะขึ้นไปดูบนตลาด ด้วยคราวก่อนนี้มาก็ไม่ได้ขึ้นเพราะฝนตก ออกมาถึงหลังพลับพลา พบพระครูรามัญญาธิบดี กับราษฎรหญิงชายหลายร้อย มีของมาให้คนละเล็กละน้อย แต่พระครูนั้นพากวางที่ขังกรงไว้ในกลางน้ำมาด้วย เปนกวางหนุ่มมีเขากิ่งเดียวเลี้ยงได้เชื่อง มีพรวนผูกฅอแลด้ายคาดเขาด้วย หยุดพูดกันหน่อยหนึ่งแล้วขึ้นเสลี่ยงไปตามหาดกว้างประมาณ ๓ เส้นเศษ ถึงตลิ่งขึ้นบนตลิ่งสูงไปหน่อยหนึ่ง มีเรือนสองฟากเปนตลาด ฟากข้างริมน้ำนั้นเปนเรือนต่ำ ๆ เหมือนเรือนแพ ปลูกริมตลิ่งทีเดียว ข้างในก็เปนเรือนตลาดอิกแถวหนึ่ง ฝากระดานมากกว่าที่เปนฝาจาก ไปตามทางข้างขวามือประมาณ ๘ เส้น ๙ เส้น มีร้านขายของต่าง ๆ ร้านเหล้าร้านไซ่หู้ที่โกนผม แลขายของเครื่องใช้สอยมีร่มรองเท้าเปนต้น ขนมมีขายมากหลายอย่าง มีสาคูแลขนมถ้วยตาไลทั้งเล็กทั้งใหญ่เปนอย่างมาก ไปจนตลอดถนนแล้วกลับมา พ้นไปจากทางที่จะลงมาหาดสักหน่อยหนึ่ง เลี้ยวข้างขวามือมีโรงตีเหล็ก แล้วก็ถึงวัดโพธารามมีกำแพงล้อมรอบ เข้าไปในนั้นมีศาลาคู่หนึ่ง แล้วไปถึงการเปรียญ พระสงฆ์นั่งอยู่ที่นั่น เราหยุดพูดหน่อยหนึ่งแลให้เงิน ๕ ตำลึง สำหรับเลี้ยงพระสงฆ์ ออกจากศาลานั้นเข้าไปดูในโบถ มีพระระเบียงล้อมรอบ โบถนั้น ๕ ห้องมีมุขน่าหลัง พระพุทธรูปรุงรัง ตามธรรมเนียมวัดบ้านนอก มีพระเจดีย์ใหญ่องค์หนึ่ง พระปรางองค์หนึ่ง พระเจดีย์เล็กองค์หนึ่งอยู่ข้างหลังโบถ กลับจากวัดโพธารามมาทางเดิม ที่ตลาดโพธารามนี้ดูมีของขายพร้อมทุกอย่าง ผู้คนก็ดูแน่นหนามาก ร้านจีนมีหลายแห่ง ดูครึกครื้นกว่าเมืองกาญจนบุรีอิก เพราะที่โพธารามนี้ ข้างหลังตลาดไปถึงเขตรปฐมเจดีย์ เปนทางสินค้าบนบกตกลงมาทางนี้มาก จึงเปนบ้านใหญ่ท่าค้าขาย วันนี้พบพระครูปฐมเจดีย์ที่ตลาดยังไม่ได้กลับไปวัด ที่พลับพลาสำรองแต่โพธาราม เหล่านี้มีกระดานใช้บ้าง เพราะเรือนโรงใช้ปูพื้นกระดานพอหยิบยืมได้ ออกเรือจากพลับพลาบ้านโพธารามเที่ยงครึ่งต่อนั้นมาถึงวัดบ้านใหม่ เห็นพระครูธรรมเสนา๑๔๑กับถานาแลพระสงฆ์มาด้วยกันลงมานั่งไชยันโตอยู่ที่โรงในน้ำ วัดนี้ดูเปนวัดใหญ่มีกุฎีแลศาลาหลายหลัง ต่อนี้ไปวัดถี่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก วัดปราสาทวัดบางแขยงไม่ไกลกันนัก บ่ายโมงเศษถึงบ้านเจ้าคุณตำหนักใหม่๑๔๒ ที่เหนือเจ็ดเสมียนหน่อยหนึ่ง เห็นมีตึกใหญ่หลังหนึ่ง น่าบ้านกว้างประมาณ ๓ เส้น เห็นพระยาวงษาภูสิต๑๔๓ลงมายืนอยู่ที่หาดทราย แต่ห่างกันกับเรือเรามาคนละฟาก จึงให้เรือเล็กไปมาถามถึงการที่มาอยู่ว่ามีความสบาย หากินด้วยทำนาแลแลกเข้า ได้เข้าไปในกรุง ๆ แต่รับเบี้ยหวัดแลถือน้ำวัดเจ็ดเสมียน ลานวัดกว้างใหญ่ต้นไม้ร่มดูงามนัก เรือลูกค้าจอดอาไศรยอยู่ที่นี้มาก บ้านเจ็ดเสมียนนี้เปนที่ชอบของนักเลงกลอน พอใจจะหยากไหว้วานให้เสมียนมาจดแทบทุกฉบับ ในนิราศพระพุทธยอดฟ้าก็มีว่าถึงเจ็ดเสมียนนี้เหมือนกัน.

๏ ถึงท่าราบเหมือนหนึ่งทาบทรวงถวิล ยิ่งโดยดิ้นโหยหวลครวญกระศัลย์ ด้วยได้ทุกข์ฉุกใจมาหลายวัน จนบันลุเจ็ดเสมียนตำบลมา ลำลำจะไคร่เรียกเสมียนหมาย มารายทุกข์ที่ทุกข์ถึงคนึงหา จึงรีบเร่งนาเวศคันลีลา พอทิวากรเยื้องจวนสายัณห์.

บ่าย ๓ โมงเรือมาตรงคลองบางกล้วย บางกล้วยนี้ต่อกันกับบางสองร้อย บางลี่ที่เราได้ว่าไว้แล้ว ว่าเปนที่น้ำตื้นมากในแขวงเมืองราชบุรี แต่ดูแม่น้ำกว้างใหญ่กว่าทุกแห่ง ลมพัดแรงด้วย มาถึงคลองบางสองร้อย ที่บ้านสมเด็จเจ้าพระยา เราเคยมาพักอยู่แต่ก่อนคราวหนึ่งแล้ว ที่ปากคลองเปนหาด มีร่องเฉภาะเข้าไป เห็นน่าบ้านลงเขื่อนอิฐ แปลกกว่าแต่ก่อน แต่เรือนแพริมน้ำนั้นยังคงอยู่ตามเดิม ข้างบนจะมีตึกรามอย่างไรไม่เคยเห็น บ่าย ๓ โมงถึงบ้านเตาปูนเปนที่เผาปูนทำการในคราวนี้ ใช้ศิลาเขางูแลเขาใกล้ ๆ น้ำ มีปูนแลศิลากองอยู่มาก ตรงฟากข้างซ้ายมือมีคลองลัดคุณสุรวงษ์ขุด ไปออกศาลาห้าห้องบางนกแขวก เปนทางลัดใกล้ขึ้นมากแต่ใช้ได้ฤดูเดียวน่าน้ำ น่านี้คลองเขินพ้นน้ำ เพราะฤดูน้ำเรือเดินตั้งแต่ปากคลองบางนกแขวก ทวนน้ำขึ้นมาถึง ๒ คืน จึงจะถึงเมืองราชบุรี ถ้ามาทางคลองลัดนี้ ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมงก็มาถึงได้น่าน้ำเรือลูกค้าเดินทางนี้มาก ต่อมาตรงวัดตาลเปนวัดใหญ่ เจ้าพระยาวงษาสุรศักดิ๑๔๔ สร้างเจ้าของให้ชื่อว่าวัดอัมรินทร์ เห็นจะตามชื่ออมรินทรฦๅไชย แต่ไม่มีใครเรียก ดูเปนวัดใหญ่โตมาก ทำเรียบร้อยคล้ายๆ วัดในกรุงเทพ ฯ ต่อนั้นมากีถึงเมืองราชบุรีที่บ้านโรงช้างมีบ้านผู้เรือนคนมากนัก ฝั่งข้างซ้ายมือก็มีเรือนเหมือนกัน ต่อมาถึงบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พบคุณหญิงพัน๑๔๕ อยู่ในเรือน่าแพ ต่อมาคุณพลอย, พร้อม, หยาด, เรือมาจอดที่แพประมาณ ๔ โมง พบสมเด็จเจ้าพระยาอุ้มลูกหญิงเล็ก๑๔๖อยู่บนแพ ผู้ที่มาคอยรับ มีคุณสุรวงษ์ พระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยาประภา พระสัจจา แลผู้อื่น ๆ มากด้วยกัน เรารับลูกเล็กมาส่งให้เม่ แล้วพูดอยู่กับสมเด็จเจ้าพระยาหน่อยหนึ่ง เข้ามาดูแพข้างใน พบเล็ก,๑๔๗ ภรรยาพระสุนทรา แต่เราไม่ได้เดินไปดูตลอดทั้ง ๓ แพ เห็นเปนแพยาว ๆ สามหลัง กั้นฝาเฟี้ยมสกัดกลางเปนที่นอน ทำหมดจดเรียบร้อยดี แต่แพที่เราขึ้นนั้น สั้นกว่าทั้ง ๓ แพ เปนแต่แพทางขึ้น แล้วขึ้นตามอัฒจันท์เขื่อน ที่น่าค่ายหลวงเก่าริมเขื่อนนั้นมีรั้วใบไม้ แลซุ้มประตูปักธงขาว ๆ แดง ๆ ตลอด พบพระองค์สิงหนาท๑๔๘ แลใคร ๆ เปนอันมากนับชื่อไม่ถ้วน ขึ้นรถมากับท่านเล็ก แลกรมนเรศ ขึ้นไปตามทางเขาสัตนารถ ทางนั้นว่า ๖๙ เส้นถึงเชิงเขา ลงจากรถขึ้นม้าไปตามทางขึ้นทางหลังพระที่นั่ง เดินดูพระที่นั่งกับสมเด็จเจ้าพระยารอบไป แล้วมานั่งที่พระสงฆ์สวดมนต์ ที่นิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์นี้ มิใช่เปนการเฉลิมพระที่นั่งทีเดียว แต่เราเห็นว่าคงจะมาถึงในเดือน ๓ เปนแน่ จึงนิมนต์พระมาสวดมนต์เสียให้เปนฤกษ์ ก็พอถูกกับวันที่ขึ้นนี้ เปนวันพระอาทิตย์ยกต้องเปนฤกษ์สุนักขัตตังสุมังคลัง เปนฤกษ์พระ แลจะได้ต้องกับยัสมิงปะเทเสกปเปติด้วย ในเวลาที่เราขึ้นนั้น เปนเวลาฤกษ์ดีเหมือนกัน พระที่สวดมนต์นั้นนิมนต์มาแต่กรุงเทพ ฯ มาก มีพระเทพโมฬี๑๔๙ แลพระโพธิวงษ์๑๕๐เปนผู้ใหญ่ พระหัวเมืองมีพระวิไนยมุนี พระครูวัดสัตนารถ๑๕๑ปริวัตร พระครูธรรมเสนา พระครูรามัญญาธิบดี ทั้งกรุงเทพ ฯ หัวเมืองรวม ๒๐ รูป ถวายไตรแล้วสวดมนต์ที่ท้องพระโรง ๑๕ รูป สวดในที่ ๕ รูป ได้รับหนังสือท่านกลางจากคุณสุรวงษฉบับ ๑ นายสนอง๑๕๒ ฉบับ ๑ กับคุณสุรวงษ์นำบอก พระอมรวิไสยสรเดช๑๕๓มาให้ดูด้วย พระยาจ่าแสน๑๕๔นำบอกพระยาเทพประชุน๑๕๕ออกมา แต่วันนี้ยังไม่ได้อ่าน อนึ่งเมื่อมาถึงตีนเขาวันนี้ พระยาเพชรบุรี๑๕๖ กับพระยาโชฎึกมาคอยรับอยู่ด้วย ครั้งนี้พระยาโชฎึกตายทีหนึ่งแล้ว ทำไมจึงมารับได้ก็ไม่รู้ มีคนตายหลายคน แต่แรกทีเดียวฦๅว่าพระยามหามนตรีตายที่พระแท่นเอาศพลงมาทางท่าเรือ แล้วทีหลังพระยาศรีสรราชตาย พระยาโชฎึกตาย คุณสุรวงษ์ตาย ชั่งหมั่นตายกันเสียจริง แต่กลับเปนได้ทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเขาได้ไปจากไหน จึงไปฦๅกันดังนั้น เขียน๑๕๗เล่าว่ามีผู้ไปเยี่ยมศพ จนได้เจอตัวพระยาโชฎึกนั่งอยู่เอง เขาเล่าว่ามีผู้มาบอกว่าตัวได้เห็นพระยาโชฎึกกินเข้าต้ม ๒ ช้อนก็ชัก ในเมื่อขณชักนั้นเขาได้เห็นเอง ค่ำวันนี้สมเด็จกรมพระขึ้นมาหา ปฤกษาด้วยเรื่องจะออกแขกเมือง แลได้พาท่านดูพระที่นั่งจนทั่ววันนี้เหนื่อยด้วยมีธุระ ต้องทำหนังสือตอบโต้ไปกรุงเทพ ฯ จนดึกจึงได้เข้าที่นอน ไว้ใจว่าต่อไปข้างน่า เยอแนลคงจะไม่มีความอะไร ด้วยจะนอนอยู่กับที่เสียมาก

  1. ๑๔๑. พระครูธรรมเสนา

  2. ๑๔๒. เจ้าคุณตำหนักใหม่

  3. ๑๔๓. พระยาวงษาภูสิต (เมก)

  4. ๑๔๔. เจ้าพระยาวงษาสุรศักดิ (แสง)

  5. ๑๔๕. ท่านผู้หญิงพัน ภรรยาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงษ์

  6. ๑๔๖. พระเจ้าพี่นางเธอ พระองค์เจ้าบัณฑรวรรณวโรภาศ

  7. ๑๔๗. เล็ก ภรรยาพระยาศรีสรราช (หนู)

  8. ๑๔๘. พระวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้าสิงหนาทราชดุรงค์ฤทธิ์

  9. ๑๔๙. พระพรหมมุนี (เหมือน)

  10. ๑๕๐. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (แสง)

  11. ๑๕๑. พระครูศีลคุณธราจารย์ (นิล, สึกแล้ว)

  12. ๑๕๒. นายเสถียรรักษา

  13. ๑๕๓. เจ้าพระยาสุรวงษ์วัฒนศักดิ์ (โต)

  14. ๑๕๔. พระยาจ่าแสนธิบดี (ขลิบ)

  15. ๑๕๕. เจ้าพระยารัตนาธิเบศ (พุ่ม)

  16. ๑๕๖. เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธ (เทศ)

  17. ๑๕๗. เขียน ภรรยาพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (พุก)

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ