วันที่ ๕

วันที่ ๕ วัน ๒ ๒ ค่ำ ตื่นนอนเวลา ๑๑ ทุ่ม เธอมอเมตเตอร์ ๗๒ ดีครี คุณแพแกงไข่ดันไปให้กิน อร่อยแลดูมีกำลังมาก กินสิ้นชามหนึ่ง โกรกหัวแล้วแต่งตัว จุดธูปเทียนนมัสการลาพระ แล้วขึ้นขี่ม้ามณีนาคสวาสดิ์ ออกจากพระนครปฐม นาฬิกาเราเวลาพอโมง ๑ เช้า แต่เวลาของทหารแลฆ้องยังไม่ตีโมง ออกเดินเลี้ยวมาข้างใต้พระปฐมเจดีย์ จึงถึงทางข้างตวันตกเฉียงเหนือ เหมือนเราได้ ไปในเมื่อวานซื้นนี้ เดินทางตั้งแต่หลัก ๑ หลัก ๒ หลัก ๓ ระยะละ ๑๕ มินิตตรง ตั้งแต่หลัก ๔ หลัก ๕ หลัก ๖ มาเปนระยะละ ๑๖ มินิตบ้าง ๑๘ มินิตบ้าง มาถึงหนองแขมที่พักแรก ๒ โมง ๔๘ ทาง ๓๓๐ เส้น ๗ วา เดินโมงหนึ่งกับ ๓๓ มินิต อยู่ในร้อยละครึ่งโมง เมื่อเดินทางมาบนม้า เธอมอเมตเตอร์ ๘๘ เมื่อถึงพลับพลาเข้าอยู่ในร่มแล้ว เธอมอเมตเตอร์ลดลงอยู่ ๘๔ เมื่อจากพระปฐมเจดีย์ สัก ๑๐๐ เส้นเศษถึงวัดใหม่ ห่านผู้หญิงหนูอยู่ข้างทางข้างขวามือ มีโบถสองหลังที่เฉลียงเห็นก่อเปนโค้งสูง ๆ ดูเหมือนวัดฝรั่ง ตามทางตั้งแต่พระปฐมเจดีย์ ไปทางสัก ๑๗๐ เส้น ๑๘๐ เส้น มีจีนทำไร่ตลอดไปทั้งสองข้างทาง มีไร่ยาบ้าง ไร่แมงลักบ้าง เข้าโภชบ้าง บางแห่งเปนไน้หน่า แต่กล้วยมีมาก ดูเปนดงไปทั้งนั้น มีแต่สิ่งเดียวที่ทำให้เขียวสบายในตามากกว่าต้นไม้อื่น นอกนั้นก็ดูใบแห้ง ๆ โดยมาก เขาว่าที่ดินทางนี้ทำไว้ดีนัก ถึงออกไปทางไกล ๆ แล้วก็ยังพบอิฐเก่า ๆ ทิ้งข้างทางบ่อย ๆ แต่เราไม่รู้ว่าเขาใช้น้ำอะไรที่ไช้รดต้นไม้ทำไร่ แต่เห็นจะใช้น้ำบ่อ คงจะต้องมีบ่อมากๆ ในแถบเหล่านั้น เพราะมีไร่มากนัก พระยาบำเรอ๕๙พระสุนทรา๖๐ พระไพรัช๖๑ คอยรับที่พลับพลาหนองแขม พลับพลานั้นทำเหมือนกันทั้งหนองแขมแลห้วยกระบอก เปนตรีมุข พลับพลาข้างน่า ๕ ห้องเฉลียงรอบ กั้นฝาสองห้องทั้งเฉลียงไว้ด้านหนึ่ง ที่เปิดโถงอยู่เปนโต๊ะกินเข้าข้างไนเปนมุขติดกันออกไปอีก ๕ ห้องเฉลียงรอบ กั้นฝาเปน ๓ ตอน เฉลียงเปิดโถง น่าพลับพลานั้นถางหญ้าปราบพื้นราบเตียน มีปรำใบไม้สำหรับบังแดดกว้างออกไป ดูสบายดีกินเข้าเช้าที่หนองแขม สามโมง ๕๕ ออกเดินอิก คราวนี้ขี่รถ ๆ นี้คุณสุรวงษ์ให้สปริงดีนัก ไม่กระเทือนเลย หนทางไปเปนฝุ่นเหลือกำลัง ถ้าขี่รถตามธรรมเนียม คงพัดปานกับขี่ช้าง ในระยะนี้เดินทางอยู่ในหลักละ ๑๑ มินิต ๑๒ มินิตไม่ใคร่จะคลาศ ถึงพลับพลาห้วยกระบอก ๕ โมง ๗ มินิตเดินโมง ๑ กับ ๑๒ มินิต เดินอยู่ในร้อยละ ๒๖ มินิต ตามระยะทางต้นไม้แห้ง ๆ มาก มีไผ่แทบตลอดทาง แต่ดูใบเหลืองมาก บางแห่งที่ใกล้น้ำเหมือนที่ใกล้ห้วยกระบอก มีต้นไผ่เขียวสีสดเปนตอน ๆ อนึ่งเราลืมไป ที่หนองแขมแลที่ห้วยกระบอกนี้ มีตึกที่พักทั้ง ๒ แห่ง พื้นชั้นเดียว เห็นที่เฉลียงก่อเปนโค้ง ฝีมือเจ้าคุณกรมท่าเก่า เห็นท่านจะมาสร้างไว้ สำหรับคนขึ้นพระแท่น อนึ่งที่ไผ่ล้อมในหลักที่ ๓ ก็มีศาลาอิกแห่งหนึ่ แต่เปนศาลาไม้เล็ก ๆ เห็นจะเปนของเดิม อยู่ในระหว่างป่าไผ่ล้อมรอบ ก็เปนที่พักของคนมานมัศการพระแท่นเหมือนกัน ต่อมานั้น ก็มีป่าไผ่อิกแทบจะไม่แลเห็นต้นไม้อื่น ๆ มีแต่ไผ่มาสองข้างทาง ที่ห้วยกระบอกนี้ พระยาราชพงษานุรักษ์๖๒ หลวงโกษา๖๓ กับผู้ช่วยเมืองสมุทสาครคอยรับ หลวงโกษาแลพระยาราชพงษานุรักษ์ทั้งสองคนจับไข้ แต่เปนเล็กน้อย ไม่รู้จักหาย สามสี่วันจับทีหนึ่ง ถ้าไม่จับก็สบายเหมือนคนปรกติ เขาไม่อดของแสลงเลย ที่นี่ท่านกรมท่ามาหา นั่งพูดกันอยู่นาน เวลานี้แดดร้อนจัดเราต้องพักอยู่จนเย็น กินเข้ากลางกันด้วยเนื้อ ของหลวงมนตรีนุชิต๖๔ ยกรบัตรเมืองนครไชยศรีมาให้ ออกจากห้วยกระบอกเวลาบ่าย ๔ โมง ขี่เจ้าพระยามโนไมย เดินทางตั้งแต่หลัก ๒ ถึงหลัก ๕ ระยะละ ๑๐ มินิต ถึง ๒๐ มินิต ตั้งแต่หลัก ๕ ถึงหลัก ๖ ทางเปนฝุ่นหนาท่วมกีบม้า เรายอมเดินช้า ๆ แต่ก็อยู่ใน ๒๐ มินิต เห็นว่าถ้ารถถึงที่ตรงนี้คงต้องคนเสือกเปนแน่ บรรดาคนที่มาดูหน้าดำเปนงิ้วไปหมด ตั้งแต่ปฐมเจดีย์มาห้วยกระบอก ทางโน้นเปนฝุ่นดำ ต่อมาตั้งแต่ห้วยกระบอกมาพระแท่นเปนฝุ่นขาว ดูหน้าค่อยงามกว่าถูกฝุ่นทางโน้นหน่อยหนึ่ง ผ้าเช็ดหน้าไม่มีใครที่จะขาวอยู่ได้สักคนหนึ่ง ดำกรังเทอะไปด้วยกันทุกคน มาถึงพลับพลาที่พระแท่นดงรัง เวลาบ่าย ๕ โมง ๔๗ เดิน ๑๐๐ ละ ๓๖ มินิต เปนอย่างช้ารวมทางเดินวันนี้ ๙๔๖ เส้น ๗ วา เดิน ๔ ชั่วโมงสองสามมินิต คิดเปนระยะ ๑๐๐ ละ ๒๘ มินิต ทางตอนมาพระแท่นนี้ ดูต้นไม้สดกว่าทางโน้น มีป่าไผ่มากได้เห็นป่างามแห่งหนึ่ง เมื่อจวนจะถึงพระแท่นเปนพื้นเตียนราบหญ้าเตี้ย มีต้นตะโกรายเปนหมู่ ๆ ต้นดำใบเขียวสดเหมือนกับไม้ดัดดูงามดี แต่ที่โคนเห็นเปนคราบน้ำท่วมสูงขึ้นไปประมาณสักสองศอกคืบพอเสมอหลังม้า ด้วยปีนี้เขาว่าาน้ำที่นี่ท่วมมากนัก ที่ตั้งพลับพลาเดี๋ยวนี้ว่าน้ำท่วมถึง ๔ ศอกเศษ มาเกือบจะถึงค่ายหลวง พบปรำพระสงฆ์นั่งในหมู่นั้น เห็นพระวินัยมุนี๖๕ กับถานาสมเด็จพระวันรัตนคณะใต้ นั่งอยู่ในนั้นหลายองค์ แต่ท่านไม่รู้จักว่าเราต้องร้องทักขึ้นไปจึงได้เอะอะ พอเราล่วงมาแล้ว ครั้นขึ้นไปที่พระแท่นเวลาค่ำต่อว่า ท่านว่าได้ยินเขาว่ามารถ ก็พากันตั้งตาคอยดูแต่รถที่น่าพลับพลานั้น คุณสุรวงษ์ พระยาประภา๖๖ พระสัจจา๖๗ มาคอยรับเข้ามาดูพลับพลาข้างใน ที่นี้เปนของพระยาศรีสรราช๖๘ตรวจตราทำทุกพลับพลา ท่วงทีเหมือนกับพลับพลากาญจนบุรีคราวก่อน มีท้องพระโรง ๕ ห้องเฉลียงราบ ต่อเข้ามาข้างใน มีมุขลดพื้นต่อกันกับพลับพลาที่อยู่อิก ๒ ห้อง แล้วเปนที่อยู่ ๕ ห้องเฉลียงรอบ เฉลียงด้านน่าเปิดโถงตลอด กั้นห้องหัวท้ายข้างละ ๒ ห้องทั้งเฉลียงตรงกลางเปิดโถง ๓ ห้อง ต่อเข้าไปข้างในมีเรือนใหญ่หลัง ๑ เรือนเล็กแถว ๒ หลัง ข้างหลังเปนเพิงพลสำหรับคนเลว ๆ อาไศรย ข้างซ้ายมือเปนตำหนักเสด็จยายแลเรือนเจ้านาย รั้วค่ายไม้ไผ่ทุบแบน มีห้องเครื่อง ๒ หลัง แลเพิงสำหรับทหารอาไศรยตามเคย พลับพลานี้ทำประหลาดเปนความคิดพระยาศรีสรราช จะทำไม้ไผ่เปนตึกตามชายคานั้นนำไม้ไผ่เปนเชิงกลอนปูน ปลายชายคาผูกไม้ลำใหญ่ลวด ๑ ลำเล็กลดเข้าไปอิกลวด ๑ แล้วถึงไม้ไม่ผ่าซีกหงายข้างในออกมา ข้างล่างไม้ไผ่ลำเล็กตัดปล้องเปนระยะเท่านี้เปนบัวปูน ฝาหลังท้องพระโรงนั้นแผงผูกไม้ไผ่เปนลาย เหมือนอย่างกับรั้วต้นไม้ ฤๅฝาประกนอย่างฝรั่ง แต่บัวพระที่นั่งนั้น เอาไม้พระยาเลยลอก ใช้ไม้พระยาเลยลอกทีเดียว พนักใช้ไม้รั้งเล็กไม้พระยาเลยเปนกรอบ บานประตูน่าต่างข้างใน เอาบานเกล็ดคลังเชือก แกทำค้างอยู่มาทำใช้ บานรอบนอกใช้ไม้พระยาเลยปิดกระดาดสีน้ำเงินแทนกระจก ผนังปิดด้วยผ้าวิลาศ มีกรอบผ้าเหมือนกันแทนกระดาด ฝาเฟี้ยมกรุด้วยฝาแดง แลปิดกระดาดลายศิลาก็เปนดี แต่ดูป่วยการเวลาอยู่หน่อยหนึ่งเพราะมาอยู่น้อยวันนัก น่าพลับพลาหันไปทิศในระหว่างทิศตวันออก แลทิศตวันออกเฉียงเหนือ เวลาค่ำอาบน้ำแล้วขึ้นไปที่พระแท่น ห่างพลับพลาประมาณสัก ๑๒ เส้น จุดธูปเทียนบูชามีเทียนใหญ่ไปด้วย ๒ เล่ม แต่วันนี้จะไม่พูดถึงพระแท่นก่อนด้วยยังดูไม่ทั่ว เมื่อกลับมาพบพระคุณาจาริยวัตร แลพระอมรเมธาจาริย์กับพระที่ตามไปอาไศรยอยู่ที่ศาลาริมโรงครัว.

อนึ่งบนพระแท่นนั้น พระวันัยมุนี พระครู ปลัด สมเด็จพระวันรัตน์ แลพระครูญาณกิจ๖๙ กับพระครูในเมืองราชบุรีมาคอยรับหลายองค์ กลับมาเวลา ๒ ทุ่มอยากกินเข้าแต่หัวค่ำ ด้วยหาวนอนแต่ไม่ใคร่จะพร้อม พอยามเศษจึงได้กิน เจ้านอนหลับเสียหลายคน วันนี้กินกับเข้าฝรั่งแลกาแฟ ของคุณสุรวงษมาเลี้ยง กับเข้าเปนแต่เนื้อเต็มไปทั้งโต๊ะ ห้าทุ่มเข้านอน เธอมอเมตเตอร์ ๗๖

  1. ๕๙. พระยาบำเรอบริรักษ์ (เสพย์) ภายหลังเปนพระยาอภัยพิพิธ

  2. ๖๐. พระยาศรีสรราช (หนู)

  3. ๖๑. นายสุดใจ (ราชานุประพันธ์)

  4. ๖๒. พระยาราชพงษานุรักษ์ (ชม)

  5. ๖๓. พระยาไกรเพชรรัตนสงคราม (แฉ่)

  6. ๖๔. หลวงมนตรีนุชิต ยกรบัตรเมืองนครไชยศรี

  7. ๖๕. พระวินัยมุนี (บัว) วัดอัมพวันเจติยาราม

  8. ๖๖. พระยาประภากรกงษ์ (ชาย)

  9. ๖๗. พระยาราชานุวงษ์ (เล็ก)

  10. ๖๘. พระยาศรีสรราช (วัน)

  11. ๖๙. พระธรรมสมาจารย์ (กลิ่น) วัดกัลยาณมิตร

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ