พันธุ์เจริญ

(โคลงสุภาพ)

เมืองใครใครอวดแม้น เมืองสวรรค์
สวรรค์จึ่งแปลกแปลกกัน อยู่บ้าง
สวรรค์จีน[๑]จ่ายจีนผัน เพียบสู่ สยามแล
สยามก็สวรรค์พลันอ้าง อวดได้ดั่งเขา[๒]
ชะรอยเราชาวฟากฟ้า มานาน
กินเก็บกัลปพฤกษ์งาน แช่มช้า
ฟ้อนขับจับระบำขาน คู่เกี่ยว เกี้ยวพัน[๓]
ถนัดมากยากแต่ค้า เทพไท้[๔]ไม่เคย
ไหนเลยจักแข่งเจ้า- กูจาก อื่นเล่า
แรงมากอดทนมาก อยากได้
บ่มแรงลูกเล็กบาก- บั่นหนัก[๕]
เศรษฐกิจวิชาใช้ เทพไท้ไป่หือ ขึ้นเชียว
ปรนปรือไว้ช่วงใช้ เป็นแรง งานฦๅ
แรกแรกพอแซกแซง สนิทเนื้อ
หนักเข้าเศรษฐกิจแปลง เปลี่ยนเล่น- งานเรา
ข้ามเขตต์การเอื้อเฟื้อ ล่วงเข้าเขตต์ขัน- แข่งแล[๖]
กำปั่นขนร้ายกว่า สำเภา
นอกจากกรรมกรเรา บัดนี้
ยังได้พ่อค้าเชาวน์ เชี่ยวศึก- ษาแล[๗]
แรงบวกทุนเชาว์ชี้ ช่องให้ชัยเขา
เดิมเราร่วมสมัครได้ เป็นทอง แผ่นเดียว
ไทยกับจีนปรองดอง สะดวกไสร้
จนเลือดไทยแท้ของ หายาก แล้วนอ
สยามเลือดจีนประจักษ์ให้ ชาติได้ไทยดี
บัดสตรีจีนท่วมเข้า เมืองไทย
ไทยกับจีนจักไกล จากแล้ว
เป็นเขากับเราไป เสียฉิบ
สยามขาดเลือดผะสมแผ้ว นิราศแล้ว ‘พันธุ์เจริญ’[๘]
ความดำเนิรนำชาติให้ คงสยาม อยู่แน่
แต่จะจีนไทยตาม เถิดเจ้า
ใครชนะจะพยายาม สืบอิส- สระนอ
คงชื่อ ‘ชาวสยาม’ เข้า แข่งหน้าโลกชุมนุม[๙]
ประชุมสามเลือด[๑๐]นี้ โดยนิยม
โลหิตพันธุ์เจริญสม วิเศษแท้
คือเลือดไทยจีนอุดม โดยระเบียบ บรรพ์แล
สยามชาติภายหน้าแม้ ดั่งนั้นเป็นดี
ทางมีเลิกแข่งเข้า เป็นคน เดียวกัน
ต้องตัด ‘เขาเรา’ จน หมดได้
หญิงจีนอย่าต้องขน เข้าอีก
นอกจากผ่านประเทศให้ ยกเว้นชั่วคราว
ช่วยชาวสยามอีกทั้ง จีนสยาม[๑๑]
ให้ที่ทำกินตาม สะดวกเจ้า
แนวพนัสปัจจันตคาม สยามเขตต์ อุดม
เสมอภาคไทยจีนเข้า แทรกเคล้าระคนกัน[๑๒]
สำคัญบุตรเกิดได้ เป็นชาว สยามเทอญ
สิทธิแห่งชาวเมืองคราว ครอบให้[๑๓]
มาเราช่วยกันสาว สืบต่อ
โลหิตพันธุ์เจริญไว้ อย่าให้จืดจาง
ในทางจัดอีกทั้ง อุดหนุน เครื่องมือ[๑๔]
ย่อมจะต้องการทุน ทรัพย์ใช้
ชายโสดเก็บภาษี[๑๕]จุน เจือจัก เกือบพอ
ขาดตกบกพร่องไว้ ส่วนให้รัฐบาล ช่วยแล
ตูวานจีนอย่าน้อย ใจหนอ
จีนก็ใจนักเลงพอ เพ่งรู้
เรื่องสยามซึ่งสยามขอ รับคู่ รักแล
เขยกับแขกศักดิ์สู้ สนิทข้างเกี่ยวดอง
ตูสนองทางให้ร่วม สามัคคี
เลิกแข่ง ‘เราเขา’ ที เถิดร้าย
ตามพระราชนิยมศรี สยามรัฐ ประศาสน์แล[๑๖]
ตัดแข่งต้องรื้อค่าย เข้าร่วมกองกัน
นานวันทิ้งไว้ยาก แก่การ ทำนอ
ค่ายยิ่งใหญ่ไพศาล หนักเข้า
ยากในยากนอก[๑๗]พาล จักเพียบ นักนา
สยามเพื่อนรักสยามเจ้า จุ่งเข้าช่วยเหลือ

๑๐ กรกฎ. ๗๑


[๑] สวรรค์จีน จีนเชื่อว่าตนเป็นชาติที่สืบมาจากสวรรค์ (ญี่ปุ่นก็เชื่ออย่างนั้น) เป็นความคิดแบบเดียวกับอวตารของฮินดู คือ พระเจ้าแบ่งภาคลงมาเป็นมนุษย์สืบวงศ์เป็นกษัตริย์ต่อๆ มาจนถึงปัจจุบัน ชาวยุโรปเลยตั้งฉายาจีนว่า ‘ชาวสวรรค์’ The Celestials

[๒] ......เขา โดยที่ชาวสวรรค์ทุ่มเทกันมาอยู่เมืองไทย สยามจึงอวดได้อย่างเดียวกันบ้างว่าสยามก็เมืองสวรรค์

[๓] ......พัน ในเชิงยั่วยวนต่างๆ เราขึ้นใจมาก อย่าว่าแต่ฟ้อนรำขับร้องจับคู่เกี่ยวเกี้ยวพันเลย แม้ศิลปะชั้นสูง เช่น เชิงกวี เราก็แผลงเล่น เช่น อัศจรรย์ เพลงยาว และนิราศ

[๔] ......เทพไท้ เรื่องของเทวดาและสวรรค์ก็ไม่ปรากฏว่ามีการค้าขายจริงๆ ด้วยเพราะอะไรๆ ก็เป็นทิพย์ไปหมด

[๕] ......หนัก ด้วยความจำเป็นที่ต้องช่วยกันหากินตัวเป็นเกลียวนั้นเอง จีนหัดเด็กให้เคยงานมาแต่เล็กๆ เด็กไทยที่ไม่ได้เรียนหนังสือ เที่ยววิ่งเล่น แต่เด็กจีนหาบขนมขายหรือทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นแรงงานของคนไทยจึงแพ้จีนหลุดลุ่ย

[๖] ......แล ธรรมดาของความสมบูรณ์ เช่น สยามมีที่ดินมากและอุดม เมื่อได้จีนซึ่งถูกอัธยาศัยกันมาช่วยทำงานต่างๆ ให้ เราก็รู้สึกว่าได้ใช้แรงงานนั้นเป็นประโยชน์ดีอยู่ ความสมบูรณ์ยังเพียงพออยู่ตราบใด ตราบนั้นก็ยังตกอยู่ในระยะที่ยังพอเอื้อเฟื้อกันได้ แต่ครั้นคมนาคมดีขึ้น ชาวต่างประเทศเข้ามาสู่สยามมากขึ้น สยามได้มีการแลกเปลี่ยนสินค้ากับโลก การอยู่กินก็แพงขึ้นโดยรวดเร็ว การมีเงินใช้กลายเป็นความจำเป็นแห่งชีวิต เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีค่าและของต่างประเทศที่น่าใช้ก็ต้องใช้ ชื่อว่า การเศรษฐกิจอย่างใหม่ได้เข้ามาแทนที่อย่างเก่าระยะเอื้อเฟื้อจึงแปลงรูปโฉมให้เป็นการแข่งขัน ซึ่งเราต้องตกเป็นล้าหลังสมัยทันที เพราะเคยอยู่ในระยะเอื้อเฟื้อแห่งกสิกร (ต้องการผลไม้ในสวนใคร หักไม้เป็นขอไว้ที่โคนต้น แล้วเก็บเอาลูกไม้ไปเจ้าของก็ไม่ว่าอะไร) อยู่หลัดๆ ก็มาเข้าระยะแข่งขันของพ่อค้าโดยไม่รู้ตัว และเปลี่ยนนิสัยไม่ทัน นิสัยเดิมก็ยังติดแน่นอยู่ คอยแต่จะเอื้อเฟื้อเกลียดกิเลสแข่งขันอันลามก นี้เองเป็นคำอธิบายว่า เมื่อจีนเข้าแข่งเราในทางไร ทำไมเราจึงยอมเลิกและปล่อยให้เขาทุกทีไป

[๗] ......แล จีนที่มาเป็นขุนนางและเศรษฐีในเมืองเรา แต่ก่อนๆ ขึ้นชื่อกันว่า เมื่อแรกมาก็มีแต่ ปุ้งกี๋กับหมวกกุเล้ย (กันแดด) ติดตัวมา เวลานั้นการคมนาคมยังไม่สะดวก จีนที่มาสู่บรมโพธิสมภารก็คือชาวชนบทจากซัวเถาเป็นพื้น แต่บัดนี้เราได้จีนทุกชาติทุกชั้น ตลอดจนพ่อค้าผู้มีทุนและมีการศึกษาอย่างใหม่ด้วย

[๘] พันธุ์เจริญ เรื่องนี้ เรียกชาวสยามเลือดจีนว่า ‘พันธุ์เจริญ’ แต่ต่อนี้ไปพันธุ์เจริญจะต้องลาจากกันเสียแล้ว เพราะจีนมีภรรยาจีน การผะสมเลือดกับไทยก็มีแต่จะสิ้นศูนย์ไป

[๙] ชุมนุม ภาวะการเมืองอย่างใหม่ ที่ชาติใหญ่จะยอมให้ชาติน้อยตั้งอยู่รอด จะต้องการแต่ตลาดค้าขาย ไม่ต้องการดินแดน ประกอบกับความก้าวหน้าของสยาม อิสสรภาพของสยามแต่นี้ต่อไปนับว่ามั่นคงได้ แต่ ‘ชาวสยาม’ ภายหน้านั้นจะเป็นชาวสยามเดี๋ยวนี้สืบต่อกันไป หรือจะเป็นชาวสยามเลือดใหม่ทีเดียวเข้ามาแทนที่ นั่นก็แล้วแต่ว่าต่อไปใครจะเป็นผู้ชนะในเศรษฐสงคราม และจำนวนคนที่กำลังเริ่มแบ่งกันอยู่แต่บัดนี้แล้ว

[๑๐] สามเลือด เลือดไทย เลือดจีน กับเลือดไทยเชื้อจีน หรือชาวสยามเลือดจีน ที่เรียกว่า ‘พันธุ์เจริญ’ ซึ่งเคยได้ผะสมเคล้ากันมาแต่โบราณจนปรากฏเป็นธรรมเนียมแล้ว

[๑๑] จีนสยาม จีนที่เป็นเขยสยาม

[๑๒] ......กัน ความเป็นกันเองต้องการให้คลุกเคล้ากัน จึงต้องป้องกันการตั้งหมู่คณะอยู่คนละตำบลหรือคนละต่างหาก ถ้าเป็นชาวต่างประเทศก็พอยอมให้ได้ ฉะเพาะในกรุงหรือในเมืองใหญ่ๆ เมื่อเป็นการจำเป็น

[๑๓] ......ให้ มีสิทธิแห่งชาวเมือง Citizenship ควรให้เห็นชัดเจนดีกว่าเป็นชาวต่างประเทศเพราะเป็นเจ้าของบ้าน บัดนี้สิทธิเช่นนั้น เห็นชัดเจนอยู่แต่การมีสิทธิได้รับราชการทหารตามพระราชบัญญัติเท่านั้น ดูกลับเป็นการเสียเปรียบแทนที่จะได้เปรียบ ควรออกกฎหมายเรื่องสิทธิแห่งชาวเมือง Citizenship Law และเลิกความงมงายหลงถือความเสมอภาคจนชาวเมืองผู้แพ้ชาวต่างประเทศอยู่แล้วยิ่งแพ้หนักเข้า และผู้ที่มีสิทธิจะเป็นชาวเมืองได้ก็กลับเลือกเอาข้างเป็นชาวต่างประเทศอยู่ในสยาม

[๑๔] ......เครื่องมือ การจัด ได้แก่การเลือกที่ ออกใบไต่สวนหรือโฉนดให้ และรักษาทะเบียนที่จำเป็น เครื่องมือ คือ เครื่องมือของกสิกรนั้นเอง อุดหนุนที่จำเป็นเพื่อให้ลงมือทำการเพาะปลูกได้ การวางระเบียบว่าอย่างไร การอุดหนุนเพียงไร และการปฏิบัติระเบียบให้เป็นผลสำเร็จจริงต้องตกเป็นหน้าที่ของทบวงการอันหนึ่ง

[๑๕] ภาษี ภาษีชายโสดนี้ในยุโรปใช้กันแล้ว เป็นวิธีที่รัฐบาลต้อนให้ราษฎรมีครอบครัว เพื่อทวีสำมะโนครัวของประเทศ เยอรมนีบัดนี้เก็บภาษีชายโสดหญิงโสดเท่ากับร้อยละ ๑๐ ของภาษีรายได้ที่เขาเหล่านั้นต้องเสีย

[๑๖] ......แล พระราชดำรัสเวลาเสด็จเยี่ยมโรงเรียนจีนต่างๆ ในกรุงเทพฯ พ.ศ. ๒๔๗๑ ล้วนแสดงพระราชประสงค์ในนามของชาวสยามที่จะให้ไทยกับจีนรักใคร่เป็นกันเองสืบไป ดังได้เคยเป็นมาแล้วแต่โบราณกาล

[๑๗] ......นอก ในประเทศนอกประเทศ ภายในลำบากทางเศรษฐกิจ ภายนอกลำบากทางการเมือง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ