วันที่ ๑๖

วันที่ ๔ มินาคม ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๕๗๙. ไก่ป่าขันป่าแสร้ เสนอกรรณ
ถวิลว่าไก่วังขัน พี่ฟื้น
เหลียวหาบ่อเห็นขวัญ เนตรนึก ฉงนเอย
เอ๊พิลึกพี่สอึกสอื้น อกโอ้เออฉไน ๚ะ
๕๘๐. น้อยใจเจ็บจิตรแค้น ใจรทม ใจเอย
มีคู่ชู่ใจชม ชื่นแล้ว
ไฉนใจใคร่พรากสม สวาสดิ์เที่ยว พนมเฮย
นึกจะแกล้วฤๅแกล้ว กระหลับเศร้าแสวงวัง ๚ะ
๕๘๑. ถวิลหวังมิว่างให้ หาสถาน
จนล่วงโสฬศวาร วุ่นว้า
ออกเรือเร่งเดินธาร ทางทุเรศ มาแม่
เย็นยะเยือกอายฟ้าฟ้า ระเรื่อแล้วแลสลัว ๚ะ
๕๘๒. ปั้วเปี้ยเพลียเรี่ยวน้ำ โจนแรง
คนถ่อสุดแรงตะแคง พลาดเค้
หลุดทลัดวุ่นทมัดทแมง ลงลาก เข็นแฮ
พักใหญ่เรือใหญ่เง้ ชโงกพ้นคนฮา ๚ะ
๕๘๓. ฝั่งฝาเป็นพืดข้าง ขวาทาง
งามดุจมอก่อกลาง อ่างแก้ว
ตัวพี่ดุจปลาหาง พวกเถือก ทองฤๅ
รอดปากเหยี่ยวกาแล้ว ว่ายลี้หนีมา ๚ะ
๕๘๔. สร้าสร้าเสียงน้ำเชี่ยว ใหลฉุย
แก่งใผ่ใผ่ตายขุย แก่นกล้า
ต้อนคนท่องชลลุย ชลฉุด เรือนา
พ้นแห่งพบเรี่ยวล้า ลากซ้ำสองคราว ๚ะ
๕๘๕. ถึงหนาวนายเพชร์เนื้อ หนาทน หนาวแม่
สรวมแต่เสื้อหนังตน ตากดื้อ
ลงเรือเล็กลอยชล ไปก่อน เรานา
พบนกยุงยิงยื้อ ขยับเป้งขนปลิว ๚ะ
๕๘๖. เรือลิ่วถึงท่าท้าย เมืองสิงห์
กลับโลกเป็นเมืองลิง ป่าโอ้
ฉนี้หรือจะถืออิง อะไรเที่ยง แม่เอย
เมืองใหญ่สิยังโย้ เยี่ยงร้างคนแรม ๚ะ
๕๘๗. แง้มขวาเป็นท่าขึ้น ปราสาท หินแม่
เรือพี่หันจอดหาด ถัดนั้น
จรเข้ตื่นเรือผงาด ผงกโพล่ง หนีเฮย
น่าจะมีถ้ำดั้น ดึ่งไต้ตลิ่งผา ๚ะ
๕๘๘. ข้ามมาขึ้นฝั่งขึ้น ปรางค์หิน
นายสุขนำทางลิน ลาศเต้า
บุกป่าใผ่พงชิน ตาเช่น เคยแม่
ลุแหล่งปราสาทเข้า มุขด้านมุมพัง ๚ะ
๕๘๙. สามหลังยังเซิดซุ้ม โครงปรางค์
ถัดก็ถึงระเบียงทาง เทือกอ้อม
กำแพงปริเวณวาง แผนทรุด โทรมแม่
เห็นแต่หินแลงล้อม เรี่ยซ้อนสุมกอง ๚ะ
๕๙๐. สุดปองทราบเหตุให้ เห็นถนัด
ว่าจะวังวัดชัด เช่นสร้าง
ชรอยคราวนครวัด ไว้แบบ เหมือนเฮย
ดินทุ่งนาคราชอ้าง อวดสู้ผสมทำ ๚ะ
๕๙๑. พี่คลำพี่รู้ใช่ หินแลง
เป็นเหล็กแร่แดงแผลง ก่อปั้น
คงมีขัตติยะมีแรง ทำเยี่ยง เขานา
นานกว่าพันปีชั้น ก่อนนี้ทีเจริญ ๚ะ
๕๙๒. พี่เดินชมรอบด้าน ปรางค์ผา
เสียงไก่เสียงปักษา แสร้ร้อง
พรานบอกตัดตำรา ยิงไม่ ได้เลย
เจ้าหลักเมืองสิงห์ป้อง ปกซุ้มปรางค์สิง ๚ะ
๕๙๓. ถึงยิงก็ผิดด้วย ศักดิ์สิทธิ์
ดูเถิดอ้างเทวฤทธิ ทุกข้อ
อนาถเอ๋ยแต่ก่อนคิด คนคั่ง ขูเฮย
เห็นแต่ป่าน่าท้อ ที่รู้เรือนสลาย ๚ะ
๕๙๔. เลี้ยงพลพายเสร็จเต้า ตามลหาร
ล่วงเรี่ยวลุแม่กระบาน แก่งน้ำ
กรวดกลมกลอกชลธาร ใหลเถลือก ถลนเฮย
พ้นแก่งเจอเรี่ยวซ้ำ ส่งท้ายทางจร ๚ะ
๕๙๕. บนดอนมีบ้านสิบ หลังกลาง ป่าแม่
ตั้งตัดไม้ตัดฝาง มากอื้อ
เห็นเขาตากเขากวาง แล่ใหม่ ใหม่แม่
จักส่งพระยาสุรินทร์ซื้อ ไม่ได้ดังประสงค์ ๚ะ
๕๙๖. เรือตรงเชี่ยวฉวากน้ำ หนองปรือ
ถ่อแทบตาปรืลือ เรี่ยวนี้
ถึงเชี่ยวไป่หือมือ คนถ่อ ลากเลย
เฉกฉุดเรือเลยลี้ โลดขึ้นเขาเขิน ๚ะ
๕๙๗. เมิลหมู่บ้านไร่กล้วย แพจอด
สันโดดแต่เดียวปลอด เพื่อนพ้อง
ใจเคยอยู่ดงหยอด ดงกว่า เมืองแม่
นี่เหละสิ่งใดต้อง สุดแท้นิยม ๚ะ
๕๙๘. ใฉนหนอน่านน้ำชื่อ หนองปรือ
ไม้ทึบสองฝั่งครือ คร่อมครึ้ม
น้ำเชี่ยวยิ่งเชี่ยวคือ เขียวฉาก ฉายแม่
แลพิลึกปรีพฤกษ์พริ้ม แพรกน้ำนามหนอง ๚ะ
๕๙๙. ถึงสองพี่น้องปุ่ม หินเห็น
เคียงคู่สองก้อนเป็น พี่น้อง
ไม้แซมสอดศรีเย็น ตาน่า ดูแม่
พี่ชอบพี่ฉายกล้อง ถ่ายไว้หวังชม ๚ะ
๖๐๐. พนมสายังพี่น้อง สนิทมี
มนุษย์นี่น่ามีทวี ญาติเกื้อ
ตัวพี่ก็เป็นศรี สุริยราช วงศ์เฮย
ใยขาดราชประยูรเชื้อ ช่วยค้ำชูถนอม ๚ะ
๖๐๑. อ้อมย่านผ่านเรี่ยวเลี้ยว รงมนัก
ถึงท่าหลวงยศพัก ผ่อนล้า
หลวงเอ๋ยคลั่งยศรัก ยศเร่ง สงวนเทอญ
หลวงอย่ากำเริบท้า พระเจ้าพยาโต ๚ะ
๖๐๒. โอรวงผึ้งใหญ่ผึ้ง หลวงพิลึก
ดูสิตาขันฮึก ฮักโจ้
ตีรังเสกขลังอึก อักป่าย ปีนแม่
เสียงแต่ร้องโฮ้โฮ้ ครู่ได้รังถวาย ๚ะ
๖๐๓. หาดทรายผีเสื้อพร่าง พราวขาว
พันกว่าพร่าตาพราว พรึบพร้อม
หายเหนื่อยพวกพลสาว ทางอีก พักแม่
น้ำอับลับเรืออ้อม แอบเลี้ยวลำถึง ๚ะ
๖๐๔. วังปลาลึงค์พิลึกแล้ว ปลาอะไร ปลาเอย
รูปร่างปลาเป็นใฉน อวดน้อย
ปลาลึงค์พี่บลึงไตล อยากสรบ โฉมแม่
ลึงลูกตำลึงย้อย กิ่งฉนั้นฤๅปลา ๚ะ
๖๐๕. พฤกษาสองฝั่งชั้น เชิงผเดียง ไว้ฤๅ
สีกระพักพุ่นผกาเรียง รื่นรั้ว
แว่ตใคร่ใผ่ยางเคียง กุ่มสลับ กันเฮย
งามฉวากเหมือนฉากชั้ว เชิดไว้วังสงวน ๚ะ
๖๐๖. มัจฉาชวนที่เพ้อ ตเพียนยุด
แหวกว่ายสายสินธุ์สุด เสือกหน้า
ปลาล่อนว่อนชลผลุด โผล่อวด พี่ฤๅ
ฝูงสร้อยลอยเหลือกล้า เกลื่อนต้าวเห็นตัว ๚ะ
๖๐๗. เข็นพ้นเรี่ยวเลี้ยวย่าน ยางโทน
ยางใหญ่ใยยืนทโมน แมกแคว้น
ดอกแดงเช่นใบโชน ชวนพี่ ชมฤๅ
ใบสลับเขียวขับแม้น นุ่งพื้นเขียวขจี ๚ะ
๖๐๘. ยางโทนมีเรี่ยวเลี้ยว ลับเฉวียน
ถึงท่าวังตเคียนเวียน ฉวากคว้าง
เห็นกระท่อมของคนเพียร พักตัด ไม้แม่
จ็อนจ่องออ้างว้าง วิเวกสู้สงวนกาย ๚ะ
๖๐๙. ท้ายหนองปากช่องน้ำ ใหลวน
เกินแห่งตาหยกยล หยกถ้ำ
ม่อต้อแยกพิกลกล สิงห์สเยะ ปากแม่
หินลาดหาดทรายล้ำ เล่าแม้นเหมือนแล ๚ะ
๖๑๐. แปรลอนตอนสี่ซึ้ง เป็นสาม ละแม่
เรียงตใคร่กลุ่มใผ่งาม ทุกชั้น
ตใคร่เขียวแก่กุ่มทราม เขียวดอก ขาวแม่
ขุยใผ่เหลืองใผ่กัน เทือกล้วนแลเสมอ ๚ะ
๖๑๑. แม้นเพ้อพินิจสร้าง สวนศรี
แสนทรัพย์นับแรงมี มากสู้
ฤๅเทียบเที่ยวชมวิธี ทางเถื่อน นี้เลย
สารพัดเป็นเองรู้ ล่อให้เห็นงงาม ๚ะ
๖๑๒. ข้ามเรี่ยวชลเชี่ยวให้ เห็นผล
กลคิดข้ามกิจยล ยศกล้า
ไม่ข้ามก็ไม่กระวน กระวายล่ม ลุฤๅ
ข้ามลุฤๅชี่อถ้า สมแล้วลลายเสียง ๚ะ
๖๑๓. เลี่ยงเรี่ยวเลี้ยวรีบเต้า ตามกระแสร ชลเฮย
ถึงหาดวังรัมแน ใหญ่กว้าง
สายัณห์บ่อหันแล เห็นหาด ใฉนเลย
ให้จอดเรือพักค้าง ค่ำค้างคืนนอน ๚ะ
๖๑๔. รอนรอนสุริยเลี้ยว เหลี่ยมไสล
เสียงสุโนคเสนาะไพร เพรียกแคว้น
เขาตาหิตแลไกล ตระหง่านเยี่ยม ทางแม่
เย็นจิตรเยือกใจแม้น ปล่อยผู้เดียวเดิน ๚ะ
๖๑๕. พี่เพลินดูพวกข้า คนสนุก
เกลื่อนหาดกังวลบุก หักซุ้ม
หาฟืนก่อเพลิงทุก นายวุ่น เลวงแม่
บ้างก็หุงเข้ากลุ้ม อยู่แสร้เชิงผา ๚ะ
๖๑๖. เสวยกระยาหานอิ่มแล้ว ลาผทม
ยามเศษแสนหนาวพนม แนบผ้า
สดับเสียงปักษาขรม ดงสงัด แม่เอย
เดือนมืดแสนสัตว์ท้า ปากแม้นสหายไพร ๚ะ
๖๑๗. ไก่ขันเอกอิเอ๊กแจ้ว ใจผูก เสียงเฮย
กู้หูกเสียงกู้หูก หิ่มด้าว
ยะเยือกอกนกตุ๊กตุ๊ก ตามหลอก พี่ฤๅ
นกกระเวนไพรกร้าว ป่าก้องกระเว็งกระเว็ง ๚ะ
๖๑๘. เซ็งแซ่ผีกล่อมร้อง เสนอเสียง
โต่งโหว่งเอ็ยเอ๊ยเพียง พี่เพ้อ
กวางปิวเปียบป่าเยียง ผาเควียก เขวียกแม่
อาวหี่มอาวหึ่มชเง้อ เงี่ยคล้ายเสือคราง

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ