วันที่ ๒๒

วันที่ ๑๐ มินาคม ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๘๗๖. รางรางสว่างฟ้าเถือก แสงทอง
วันที่ยี่สิบสอง สว่างแพร้ว
พี่สร่างนิทราสนอง องค์แนบ องค์แม่
ลงนั่งเรือเล็กแล้ว รีบเลี้ยวลอยลำ ๚ะ
๘๗๗. บรรพตเพิงชโงกเข้า จอดดู พุแม่
น้ำอุ่นไหลตลุ่นพรู พรั่งย้อย
หนาวนิดพิศดูภู ผาเพลิด เพลินแม่
พลางเรียบเรือน้อยคล้อย เฉียดเวิ้งสิลามา ๚ะ
๘๗๘. พุตุ๊กกระตาแอบเงื้อม เขาชโงก
มีตลิ่งสิงขรโกรก กรอกถ้ำ
ไม้เล็กเล่ห์ไทรโยค ย่อแบบ ลงแม่
อย่างละน้อยน้อยน้ำ พุพร้อยพรายไหล ๚ะ
๘๗๙. แลไกลเหมือนแกล้งต่อ เรือนตุ๊ก กระตาแม่
น่าชื่นชมสมสนุก นั่งยิ้ม
พี่แวะฉวากเขาฉุก ใจชอบ นักรา
น่าเล่นตุ๊กกระตาจิ้ม จับตั้งตามเนิน ๚ะ
๘๘๐. เที่ยวเพลินเกินพุโจ้ เรือกลับ
เลยหาดค่ายหลวงลับ เลียบเลี้ยว
ถึงลำแม่น้ำอับ น้อยเอียด แม่เอย
มอใหญ่บากแยกเอี้ยว แอบเข้าคลองเข็น ๚ะ
๘๘๑. เห็นหาดเห็นแก่งล้อ ลำเนา
เห็นฝั่งเห็นเขาเลา เลียบถ้ำ
พี่ต้องท่องชลเบา เรือบ่อย เทียวแม่
คุ้งคดเหมือนแม่น้ำ แพรกน้อยเนินผา ๚ะ
๘๘๒. มาหมายสักคุ้งก็ จักกลับ
แต่ยิ่งดูยิ่งจับ จิตร์จ้อง
มีละเมาะเกาะกิ่งลับ แหลมล่อ ใหม่แม่
ดูยิ่งเพลิดเพลินต้อง ต่อเลี้ยวเลยไป ๚ะ
๘๘๓. ไก่ขันกระชั้นเรื่อย จำเรียง
มยุเรศเสนอเสียง เสนาะแสร้
ชนีโหนกิ่งไม้เมียง มี่ร่าย ร้องแม่
เหมือนพี่มาเมืองแท้ ที่คุ้นคนรู ๚ะ
๘๘๔. น่าดูน่าปลาดล้ำ เหลือแสดง
ราวกับเทพยดาแผลง แพรกไว้
มาไทรโยคผิแสยง ใจไม่ ไปแม่
เสียเที่ยวที่มาไร้ ประโยชน์ด้วยชมดง ๚ะ
๘๘๕. พี่หลงแม่น้ำเอียด เออไฉน
ยิ่งเพลิดยิ่งเพลินไป มากเส้น
ชลเชี่ยวหลีกเรี่ยวไคล คลายิ่ง งามแม่
แม้นไม่หิวไม่เว้น ต่อเต้าตามทาง ๚ะ
๘๘๖. ข้างนทีมีกล้วยป่า ปลีเครือ งามแม่
พี่ตัดกัทลีเรือ แล่นล้า
สายนักอักอ่วนเหลือ เที่ยวต่อ ได้รา
จำกลับจำใจบ้า แพรกน้อยลอยเหลียว ๚ะ
๘๘๗. ชลเชี่ยวเรือเฉียดแม้น ฉุดพวน
ถึงปากแพรกน้อยทวน ควากน้ำ
กลับถึงหาดค่ายจวน สักสี่ โมงแม่
เสวยโภชน์พักเหนื่อยช้ำ ชอกแล้วลเลิงหวัง ๚ะ
๘๘๘. พี่นั่งแคร่น้อยเทียบ เรือผา สุขแม่
พิศตะเพียนทองปลา ล่อนสร้อย
คล่ำคล้ายว่ายคงคา เป็นหมู่ หมู่แม่
โตก็โตน้อยน้อย น่าเอื้อเอ็นดู ๚ะ
๘๘๙. ว่ายวู่จู่รอบล้อม เรือนชล
โปรยกระยาปลายล แย่งคว้า
มากมายว่ายเวียนวล แสวงเหยื่อ แม่เอย
น้ำก็ใสไสวหน้า แข่งหน้าเสนอกาย ๚ะ
๘๙๐. เห็นเรือพายม้าเกรี่ยง พายมา
บอกจะเที่ยวหาปลา ล่ำเนื้อ
สองเกรี่ยงโยกพายตา นายนั่ง กลางแม่
เป็นพระท่าหินเสื้อ ปะเอ้เตภูม ๚ะ
๘๙๑. เรือมะตูมกระสอบเข้าไร่ เกรี่ยงพาย อิกแม่
ถามจะซื้อหรือขาย เข็ดด้วย
ท่านเกณฑ์ส่งเสบียงนาย ไทรโยค พ่อเฮย
เข้าไร่ผลไม้กล้วย ขาดต้องเกณฑ์ตัว ๚ะ
๘๙๒. มันกลัวมันไม่กล้า ขายกิน
ทนยากถากฟันดิน ไร่เข้า
ท่านมาคร่าตัวยิน ที่ส่ง เสบียงแม่
ดีกว่าตัวต้องเต้า ตากใช้ไปดง ๚ะ
๘๙๓. น่าสงสารถูกช้าง เกณฑ์ไกล
ตัวก็ต้องตามไป กับช้าง
ลำบากยากเข็นใน ป่าทุเรศ เกรี่ยงเฮย
เปล่าไม่มีค่าจ้าง สักเฟื้องเปลืองหมาย ๚ะ
๘๙๔. ป่ายเขาเขื่อนค่ายขึ้น เขินบน
ลิ่วตลิ่งชันปีนจน ลาดกว้าง
ศาลไทรโยคพี่ยล กลางย่าน เขาแม่
เขาปักหลักศาลสร้าง รูปม้าลครสรวง ๚ะ
๘๙๕. เลยเลียบล่วงฝั่งกล้วย ไม้ชุม
งอกเกาะเซาะสุมทุม พุ่มไม้
แผกอย่างพ่างพบขุม กล้วยพฤกษ์ ษาแม่
เลือกปลิดชนิดแปลกได้ ปลูกซุ้มวังสงวน ๚ะ
๘๙๖. มากมวญหมู่ไม้เครื่อง ยาแสวง วิเศษแม่
ชเอมเปราะหางไหลแดง เร่วสค้าน
จันทน์แดงโลดทนงแทง หน่อระย่อม เนียมแม่
กฤษนาถพาดไสนก้าน กิ่งแม้นมะรุมเรา ๚ะ
๘๙๗. เปล้าน้อยเปล้าใหญ่เปล้า เงินยาว
สมอมวกแดงมวกขาว ยืดเลื้อย
พ้างแพวแฝกหอมชาว เราเก็บ กันแม่
สุรามฤตย์ตรีกะตุกเฟื้อย กิ่งเกี้ยวกระวานพัน ๚ะ
๘๙๘. เถาวันเปรียงแซร่ม้า ทลายหลาย อย่างแม่
มือเหล็กมหาละลาย และแป้ว
เข้าเย็นเจ็ตมูลหวาย ตมอยมาก มีแม่
แม้นพี่มีหมอแล้ว เลือกได้หลายประการ ๚ะ
๘๙๙. ว่านกีบแรดงอกข้าง เนินคีรี
มากว่านเนรภูสี เสียดช้อน
ชุมนักผักเซี่ยนผี ว่านครู คระเฮย
เขาขุดหัวแห่งส้อน เสาะสู้แสวงประชัน ๚ะ
๙๐๐. จรจัลบันลุถ้ำ ปล่องไฟ
อยู่ยอดพนัศเนินไสล แหล่งส้อน
กลเหวลาดลึกไถล ลงภาคย์ พื้นแม่
เป็นช่องคูหาซ้อน ซอกกั้นสองตอน ๚ะ
๙๐๑. นอนกระเดือกเสือกสู่ห้อง เหวใน
เป็นปล่องกลปล่องไฟ ฟอกตั้ง
ยอดทลุยอดผาไสว สว่างรุบ หรู่แม่
ใครบ่อเคยเห็นครั้ง นี่ครั้งคราประถม ๚ะ
๙๐๒. เสลาคมละเลื่อมพร้อย พรายขาว
กลประดับกระจกวาว รอบเวิ้ง
เรียกช่องปล่องไฟคราว พี่เที่ยว พบแม่
พลางพี่ปีนผาเพิ้ง กลับขึ้นเขาชัน ฯ
๙๐๓. ตวันเที่ยงเลี่ยงหลบร้อน รอุไพร
ด่วนออกเรือแหวดไป พุจ้ำ
พุหนึ่งพี่พึงใจ อยากจัก สรงแม่
จอดท่าน่าพุน้ำ ตกขึ้นเขาธาร ๚ะ
๙๐๔. ผ่านอ่างทางขึ้นเฉก อัฒจันทร์
ดูอุทกตกจากคัน ฝั่งครื้น
ถึงอ่างใหญ่ผายผัน ลงสระ สนานแม่
น้ำกระโจนโผนพื้น พุน้ำไหลพราย ๚ะ
๙๐๕. แอบกายสายน้ำพุ่ง พเนียงคึก คึกแม่
กระทบกระแทกแดกอกอึก อึกอื้อ
กระจายฟองคนองครึก โครมคึก โครมแม่
ขนองยอกกรอกโสตร์ตื้อ พี่ต้องลาลง ๚ะ
๙๐๖. ไปสรงได้อ่างเงื้อม ผาชโงก
ชลกระโจนโชนโกรก เกริกถ้ำ
สนานสายกระแสรโชก องค์ยะเยือก เย็นแม่
เลยไต่สู่ช่องน้ำ ตกได้สินธู ๚ะ
๙๐๗. พรูพรูดูทลึ่งฟุ้ง ฟองฝอย
ฉาวฉ่าพร่ากลพลอย พลุ่งชั้น
หินแง่แพร่ชลลอย ละลิ่วผ่าน หินเฮย
เฉกม่านตระการกั้น ปากถ้ำทองฉาย ๚ะ
๙๐๘. ทั้งหลายมัวเล่นน้ำ โจนเพลิน
คิดก็ขันจันทร์เดิน ปลกเปลี้ย
วางตรงจะลงเนิน ธารท่า เรือแม่
ถลำหล่มล้มตั้วเตี้ย ตื่นร้องชวนพยุง ๚ะ
๙๐๙. พุพุ่งควะควั่งน่า กลัวนัก
ถูกที่ตรงตัวทลัก ทลั่งก้อง
ควักหินเหนี่ยวดิ้นดัก ดักอยู่ แล้วแม่
ฉวยพลัดน้ำพัดต้อง ตกแล้วเหลวตาย ๚ะ
๙๑๐. หลายคนถลนเถลือกเต้น ตลีตลาน
ต่างเหนี่ยวมือตีนคลาน คลุกปร้ำ
บางคนส่งก้นปาน ตลกเล่น ลครแม่
ผ้าผ่อนล่อนลุดน้ำ พัดคุ้งไคลไหล ๚ะ
๙๑๑. ตกใจฉุกละหุกเข้า กุลีกุจอ กันนา
จันทร์จะร้องขอรอ ปล่อยบ้าง
ฟังยากลากตะบึงคอ แคแทบ หักแม่
เลยตะแหมะแขะค้าง คั่นน้ำใจตลึง ๚ะ
๙๑๒. ครู่หนึ่งจึงปล่อยได้ สติกัน
พอปล่อยมือจันทร์จันทร์ ค่อยขึ้น
ครั้นเล่าเรื่องราวขัน ใครอด สรวลฤๅ
หัวร่ององันครื้น พุครึ้มเครงฮา ๚ะ
๙๑๓. ดูท่าเหมือนแกล้งประ จานสนุก กันนอ
แต่ที่แท้แกขลุก ขลักบ้าง
ตื่นกันช่วยตบันคลุก คลีพัก ใหญ่แม่
ฉันท์มิตร์จิตร์ใจอ้าง เหตุคุ้นไฉนเคือง ๚ะ
๙๑๔. นึกเคืองเรื่องสทกสท้าน ฤไทยหนาว
สุดจะสมสนุกยาว เล่นได้
งามตาชื่นใจราว สรงสระ สวรรค์ฤๅ
เสียแต่องค์ระอาไร้ ระรื่นน้ำตามกระมล ๚ะ
๙๑๕. จนจิตร์ฤทธิยะเยือกคร้าน สนานสินธุ์ ธูเอย
จำกลับนาวาลิน ลาศเต้า
จอดขึ้นพุกลางถวิล ใคร่เที่ยว ธารแม่
เลยเลียบอ่างใหญ่เข้า เขตร์ครึ้มคลองผา ๚ะ
๙๑๖. เสลากระปุ่มกระป่ำกั้น กระแสรชล
ล้นหลั่งพลั่งพลั่งกล ตุ่มขว้ำ
พี่ไต่ใหล่ธารทน ลุยท่อง บ้างแม่
เลี้ยวลดทดน้ำน้ำ รี่เลี้ยวใหลพรู ๚ะ
๙๑๗. ถึงคูทำนบคล้าย คลองสกัด
แลลึกสุดลุยลัด แหล่งได้
เอ่อเปี่ยมเหลี่ยมจัตุรัศ ไหลบ่า ลงแม่
กลขุดคลองใหญ่ไว้ ฉวากวุ้งวงเขา ๚ะ
๙๑๘. เราเลียบฝั่งสระพ้น ลึกไหล
ลงท่องธารเดิรไป มากเลี้ยว
บ่อแปลกบ่อเปลี่ยนไฉน เลยท่อ ธารเอย
เห็นแต่คลองคดเคี้ยว ควากน้ำถลำหิน ๚ะ
๙๑๙. ยินชลาสร้าสรู้ครึก โครมดง
เฉลียวจิตร์พิศวงคง พบน้ำ
โจนจากโขตร์เขาจง ใจใคร่ ดูแม่
ลุยรีบลีล่าช้ำ บาทด้วยคมผา ๚ะ
๙๒๐. สพานสิลาแลพิลึกข้าม ลำธาร
กลช่างชาญช่างการ เชี่ยวสร้าง
น้ำพุ่งพิศละลุงละลาน เนตร์น่า ดูแม่
เกินแก่งแง่งขอนค้าง ขัดด้วยหาทาง ๚ะ
๙๒๑. ย่างขึ้นบนฝั่งเต้า ตามเสียง น้ำนา
พบเทือกเสลาเรียง แก่งกั้น
สกัดทางผ่านคลองเพนียง ชลพลุ่ง พล่านแม่
ดูพิลึกซึกแซกดั้น โขตร์ครื้นโครมคนอง ๚ะ
๙๒๒. ลำคลองต่อช่องกั้น แก่งดง นี้นา
ธารท่อล่อชลลง ล่องท้น
เหมือนท่าเมื่อมาดง ไม่แปลก นักเลย
สุดจะไปเขาต้น พุน้ำโจนถึง ๚ะ
๙๒๓. ผู้ซึ่งทราบเรื่องแจ้ง แก่เรา
ต้นพุนั่นลุเขา เขตร์แคว้น
เป็นธารผ่านลำเนา วนาตลอด มาแม่
ทางกว่าห้าวันแม้น มุ่งให้ไปถึง ๚ะ
๙๒๔. พึงใจกล้วยไม้แมก ไม้แมะ อยู่แม่
ให้แปลกชิ้นไม้แกะ กาบกล้วย
หลายต้นพี่ยลแวะ เวียนเก็บ กล้วยเอย
ค่อยไต่ลำธารด้วย สนุกน้ำใจเดิน ๚ะ
๙๒๕. มาเกินสระใหญ่เลี้ยว หลงแคว
เพราะลัดตัดตรงแล เลอะแล้ว
ถึงธารพี่ท่องกระแสร ชลกลับ มาเฮย
คิดแพรกแยกทางแคล้ว พุน้ำโจนกลาง ๚ะ
๙๒๖. ยลอ่างพุท้ายเอ๊ะ ปลาดละ
นึกเมื่อไม่อยากจะ แวะแล้ว
ผีพาพี่มาปะ พุที่ สามแม่
ชรอยร่วมลงสระแก้ว แยกเลี้ยวลำธาร ๚ะ
๙๒๗. ถึงสพานต้นตะไคร่ร้อง ตโกนหา เรือเฮย
พเอิญพบเรือกระเชียงมา อยู่ใกล้
เรือมาพี่ลงนา เวศล่อง มาแม่
ถึงท่ามะเดือเอนให้ จอดขึ้นเขาชัน ๚ะ
๙๒๘. หมายมั่นจะขึ้นเที่ยว ถ้ำพระ
ถามไม่มีใครจะ ช่วยชี้
คนนำก็เซอะซะ รู้จัก ไฉนแม่
บอกแต่ว่าท่านี้ มะเดื่อต้นโตเอน ๚ะ
๙๒๙. ถกเขมรหยักรั้งแหวก เชิงรก
ปีนฝังกำลังงก ว่าถ้ำ
ถึงเขาคูหาอก จะแตก เทียวแม่
จำมะหรูดูเสียน้ำ จิตร์สิ้นแรงเดิน ๚ะ
๙๓๐. เขาเขินเกริ่นโกรกง้ำ เงาชัน
มีซอกเสลาปัน ช่องน้อย
ใช่ถ้ำพระสำคัญ เคยเที่ยว แล้วแม่
คนเที่ยวค้นวนป้อย ไป่รู้คูหา ๚ะ
๙๓๑. เห็นเสือปลากระโดดถ้ำ ทีรัง มันแม่
เรามิอาจตึงตัง ไต่เข้า
เสียเที่ยวเปลี่ยวใจหวัง ปีนเปล่า แม่เอย
จำกลับลงเรือเร้า รีบจ้ำแจวมา ๚ะ
๙๓๒. ถึงท่าที่จอดขึ้น คฤหาชล
ถึงอ่อนอรองค์ทน เที่ยวได้
เพราะสนุกทุกตำบล บานเบิก ใจนา
เพราะจิตร์พากายให้ เหนื่อยน้อยพลอยเกษม ๚ะ
๙๓๓. ปางเปรมปราโมทย์ทั้ง พลังโรย
เสวยวราหารโหย ละเหี่ยเปลื้อง
แกงห่านรสเลิศโดย หิวยิ่ง อะร่อยแม่
ห่านทอดแฮ็มต้มเยื้อง แชบใช้ชำเป็ญ ๚ะ
๙๓๔. พอเอนองค์แทบห้อง ไสยา
ราวสักนาทีลา หลับตุ้ย
ฤๅพักตื่นผวาครา หลับเช่น เคยเลย
คงจะอวบองค์พลุ้ย แปลกหน้านางเห็น ๚ะ
๙๓๕. ตาขันเป็นธุระเฝ้า ระวังเรียม
ก่อนสว่างถ่างตาเตรียม ตื่นแล้ว
จงรักษ์จักหาเทียม แกยาก หนะแม่
พาสนุกปลุกใจแผ้ว พิลึกคุ้นคุยคนอง ๚ะ
๙๓๖. ราวสองยามล่วงแล้ว เวลา ดึกเอย
เขาตื่นนั่งตลึงตา เหลือกจ้อง
เสียงพิลึกคึกคึกสา ครเยือก เย็นแม่
เขาว่าจรเข้ร้อง ลั่นน้ำฮุมฮุม ๚ะ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ