- คำนำ
- วันที่ ๑
- วันที่ ๒
- วันที่ ๓
- วันที่ ๔
- วันที่ ๕
- วันที่ ๖
- วันที่ ๗
- วันที่ ๘
- วันที่ ๙
- วันที่ ๑๐
- วันที่ ๑๑
- วันที่ ๑๒
- วันที่ ๑๓
- วันที่ ๑๔
- วันที่ ๑๕
- วันที่ ๑๖
- วันที่ ๑๗
- วันที่ ๑๘
- วันที่ ๑๙
- วันที่ ๒๐
- วันที่ ๒๑
- วันที่ ๒๒
- วันที่ ๒๓
- วันที่ ๒๔
- วันที่ ๒๕
- วันที่ ๒๖
- วันที่ ๒๗
- วันที่ ๒๘
- วันที่ ๒๙
- วันที่ ๓๐
- วันที่ ๓๑
- วันที่ ๓๒
- วันที่ ๓๓
- วันที่ ๓๔
- วันที่ ๓๕
- วันที่ ๓๖
คำนำ
ในงานฌาปนกิจศพ นางอนงค์ สิงหศักดิ์ ณ เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม กำหนดวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ นายอุทัย สิงหศักดิ์ ผู้เป็นสามี ได้มาแจ้งแก่กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ว่ามีความประสงค์จะขออนุญาตจัดพิมพ์หนังสือ เรื่องนิราศไทรโยค พระนิพนธ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ เพื่อแจกเป็นอนุสรณ์ในงานนี้ กรมศิลปากรยินดีอนุญาตให้จัดพิมพ์ได้ตามความประสงค์
นิราศไทรโยคนี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงพระนิพนธ์เมื่อครั้งเสด็จประพาสน้ำตกไทรโยคเป็นการส่วนพระองค์ ระหว่างวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๒๔ มีนาคม ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๗) ทรงพระนิพนธ์แสดงพระนามในฐานะผู้ประพันธ์ไว้ในโคลงบทที่ ๑๔๓๙ ว่า
“สังเวชอนิตย์ลักษณโอ้ | อนาถองค์ |
นราธิปประพันธ์พงศ์ | ชื่อข้า |
วรวรรณพจบบรรจง | จบนิราศ แล้วรา |
อีกไม่นานไม่ช้า | ชื่อทั้งตัวตาย |
เรื่องนิราศไทรโยคนี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงพระนิพนธ์เป็นโคลงสี่สุภาพรวม ๑๔๔๑ บท เป็นทำนองบันทึกประจำวัน ทรงบรรยายธรรมชาติและสถานที่ต่างๆ ที่เรือผ่านไป ทรงพรรณนาถึงธรรมชาติตลอดจนความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณีของประชาชนในที่ต่างๆ เหล่านั้น ทรงสอดแทรกความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้พระนิพนธ์เรื่องนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีอย่างมากด้วย ทั้งนี้เพราะในปัจจุบันเหตุการณ์สถานที่และสิ่งต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงกล่าวถึงในนิราศนี้ได้เปลี่ยนแปลงสูญหายไปตามกาลเวลา ส่วนคุณค่าทางด้านวรรณคดีนั้น พระองค์ได้ทรงเลือกสรรถ้อยคำได้งดงามเหมาะแก่ลีลาของเรื่องแต่ละตอน ในที่บางแห่งทรงใช้ถ้อยคำเลียนเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงนกร้อง เสียงน้ำตก เสียงน้ำไหล อันเป็นลักษณะองค์ประกอบของวรรณศิลปที่สำคัญ ซึ่งกวีน้อยคนจะสามารถทำได้ อีกประการหนึ่งได้ทรงแสดงลักษณะพิเศษของพระองค์ในการเรียบเรียงร้อยกรองถ้อยคำอันเป็นคุณลักษณะที่ควรสรรเสริญ นับได้ว่านิราศไทรโยคเป็นวรรณคดีที่มีคุณค่าน่าอ่านและน่าศึกษาอย่างยิ่ง
หนังสือเรื่องนิราศไทรโยคนี้ ต้นฉบับเป็นพิมพ์ดีด ซึ่งนายโชติ ยุวสุทธ์ ได้กรุณานำมาให้กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙ เข้าใจว่ายังไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่เลย ทั้งนี้เพราะผู้ทรงพระนิพนธ์ได้แสดงพระประสงค์ไว้มิให้ตีพิมพ์เรื่องนิราศไทรโยคนี้ออกเผยแพร่จนกว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ดังปรากฏในบทพระนิพนธ์ว่า
“อนึ่งเป็นความลับล้วน | จริงใจ พี่รา |
สารพัดชมสิ่งใด | พบด้วย |
ใช่เสกใส่สรรพ์พิไลย | นิราศเรื่อง ลมเลย |
ทุกสิ่งสิงขรห้วย | แห่งได้ไปเห็น |
บางคำเป็นข้อเรี่ยว | แรงกระมัง แม่เอย |
โอสถผสมสัตย์ฟัง | เผื่อนบ้าง |
ใครชิมผิดชอบสัง | เวชชอบ อ่านแม่ |
ฉวยพิโรธปองโทษมล้าง | พี่แล้วเหลือระอา |
พี่ยายังไม่ม้วย | มรณ์ลา โลกเอย |
จงอย่าเผยพจนา | นิราศนี้ |
พี่ฝากพี่ฝังคา | รมลับ หนะแม่ |
เผื่อบุตรสุดสวาทดิ์ชี้ | ช่องให้เห็นทาง” |
ที่ว่า “บางคำเป็นข้อเรี่ยว แรงกระมัง พี่รา” นั้น ก็เพราะได้ทรงบันทึกแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมือง ความประพฤติของเจ้านาย ขุนนางและบุคคลชั้นสูงในวงราชการหลายคน ตลอดจนทรงแสดงความรู้สึกนึกคิดส่วนพระองค์ที่มีต่อราชการและสังคม ตลอดจนการต่างประเทศสมัยนั้นไว้หลายประการ ซึ่งทรงเกรงว่าจะเป็นข้อบาดหมาง อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าพระนิพนธ์เรื่องนี้ได้สะท้อนภาพสังคมในสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ไว้ชัดเจนและยังได้ทรงแทรกคติและปรัชญาของชุมชนไว้เป็นอันมาก ตัวอย่างเช่น การปราบปรามผู้ร้ายที่ราชบุรี ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่า
“ราชบุรีมีแต่ปล้น | สดมยิง กันนา |
ถึงจับถึงเอาจริง | ไม่คร้าม |
เป็นแหล่งนักเลงพิง | พะรอบ ด้านแม่ |
ตามจับกลับหนีข้าม | เขตรไผล้ไปมา |
เห็นว่าจักสงบด้วย | แสดงฤทธิ์ |
ไว้สง่าอาญาสิทธิ์ | อย่างแกล้ว |
ให้ระย่อฝ่อใจคิด | กลัวโทษ ไภยแม่ |
ขืนหง่อยค่อยจับแล้ว | ยากห้ามปรามเข็ญ |
เช่นคิดกันคิดแก้ | โรคา ก็ดี |
กับโรคเบาแรงยา | แพทยด้วย |
การแก้โรครักษา | ลำบาก แม่เอย |
บ้างก็หายบ้างม้วย | ไม่พ้นคนฉาว” |
การที่กรมศิลปากรได้ให้จัดพิมพ์พระนิพนธ์เรื่องนี้ก็เพื่อสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมทางวรรณคดี และเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของผู้ทรงพระนิพนธ์ ในฐานะกวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ นี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ได้พยายามแสวงหาฉบับมาตีพิมพ์เผยแพร่ ดังได้ฟื้นฟูพิมพ์พระนิพนธ์เรื่องสำคัญ ๆ ไปแล้วหลายเรื่อง เช่น บทละครเรื่องพระลอ รุไบยาต เป็นต้น และต่อไปจะพยายามจัดหาพระนิพนธ์เรื่องอื่น ๆ มาตีพิมพ์เผยแพร่อีก
พระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันนี้หาฉบับอ่านและศึกษาได้ยาก กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร พิจารณาเห็นว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงเป็นกวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมควรจะจัดพิมพ์ทระนิพนธ์ของพระองค์ให้แพร่หลาย เป็นการเทิดทูนพระเกียรติคุณให้กว้างขวางและยังเป็นทางสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมทางวรรณคดีของชาติให้ยั่งยืนสืบต่อไปอีกด้วย ดังนั้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร จึงขอประทานอนุญาตจาก พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เจอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ในฐานะที่ทรงเป็นทายาท ก็ประทานอนุญาตให้กรมศิลปากรพิมพ์พระนิพนธ์ดังกล่าวเผยแพร่ได้ทุกกรณี กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์จึงแสวงหาฉบับมาตีพิมพ์ และได้ฟื้นฟูพิมพ์พระนิพนธ์เรื่องสำคัญ ๆ ไปแล้วหลายเรื่อง เช่น บทละครเรื่องพระลอ รุไบยาต เป็นต้น ซึ่งต่อไปจะพยายามจัดหาพระนิพนธ์เรื่องอื่น ๆ มาตีพิมพ์โดยแพร่อีก
การจัดพิมพ์นิราศไทรโยคครั้งนี้ ได้ให้พิมพ์ตามต้นฉบับทุกประการ ทั้งนี้เพือจะให้ผู้อ่านได้ศึกษาวิธีเขียนหนังสือของคนในสมัยเมื่อแปดสิบกว่าปีมาแล้วด้วย
อนึ่ง เจ้าภาพได้เรียบเรียงประวัติ นางอนงค์ สิงหศักดิ์ ผู้วายชนม์ ให้พิมพ์ไว้ต่อจากคำนำนี้
กรมศิลปากรขออนุโมทนาในกุศลราศีทักษิณานุปทานซึ่งเจ้าภาพได้จัดบำเพ็ญอุทิศแด่ นางอนงค์ สิงหศักดิ์ และได้ให้พิมพ์หนังสือนี้แจกจ่ายเป็นกุศลสาธารณประโยชน์ ขออำนาจกุศลทั้งปวงนี้จงเป็นพลวปัจจัยส่งเสริมให้นางอนงค์ สิงหศักดิ์ ผู้วายชนม์ ประสบแต่อิฏฐคุณมนุญผลตามควรแก่คติวิสัยในสัมปรายภพ สมดังมโนปณิธานของเจ้าภาพทุกประการ เทอญ.
(สมภพ ภิรมย์)
อธิบดีกรมศิลปากร
กรมศิลปากร
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๑๗