วันที่ ๓๒

วันที่ ๒๐ มินาคม ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๑๒๙๖. ยามสามเสียงปลุกผู้ คนขยัน
ใจประหวัดทวัดดึงษวัน หวาดฟื้น
อ่ากายเสร็จผายผัน สู่ท่า เรือเอย
เดือนบ่ายฉายแสงลื้น ระเรื่อด้าวดงเดิน ๚ะ
๑๒๙๗. เพลินทางย่างเหยียบพล้ำ ผลีผลาม
เดือนตกอกหวามยาม มืดกล้า
สักครู่ตรู่สุวรรณวาม วะวาวป่า แม่เอย
สาวบาตร์ยาตราฟ้า สว่างแล้วแลสบาย ๚ะ
๑๒๙๘. นายฉาวชาวนี่น้อง หลวงจง
รับจัดเกวียนส่งประสงค์ ช่วยเกื้อ
ให้ประทุกเครื่องเสบียงตรง มาฝ่าย หลังแม่
คนที่ล้าหลังเรื้อ รีบขึ้นมาประทัง ๚ะ
๑๒๙๙. ยังให้นายเชื้อช่วย นำดุรงค์ มาแม่
ให้พี่ขี่เดินดง ด่วนเต้า
อยากยาตร์ย่างบาทหลง ละเลิงเล่น ไพรเฮย
พี่ส่งอาชาเข้า ป่าขึ้นไปคอย ๚ะ
๑๓๐๐. หนาวหน่อยพลอยจิตร์ชื้น ชวนเดิน
แรกรุ่งปรุงใจเจริญ รีบเมื้อ
กลนเกลื่อนเพื่อนทางเพลิน พูดเล่น กันแม่
ฤๅบ่อรู้เหนื่อยเนื้อ สนุกน้ำใจทวี ๚ะ
๑๓๐๑. ล่วงวิถีถึงบ้านโป่ง ปะเสบียง ไพรแม่
ขายกระบอกเข้าหลามเคียง ค่อยซื้อ
เป็นทุนทุ่นอุทรเพียง พบโภชน์ พิเศษเฮย
อร่อยเลิศเหลือเมื่อมื้อ ขัดเข้าดงเดิน ๚ะ
๑๓๐๒. ทินกรเกินยอดัไม้ มาถึง
ลานพระเอะอะอึง ออกแสร้
ฆ้องระฆังย่ำดังกึง กังโก่ง เก่งแม่
เยียดยัดอัดแอแม้ ตลาดล้วนหญิงชาย ๚ะ
๑๓๐๓. รายซุ้มเซิงซุ้มหัก เห็นเดียร ดาษแม่
บ้างก็อยู่ไต้เกวียน จอดค้าง
ศาลาทุกหลังเจียร หักแน่น คนนา
บ้างปลูกเพิงปรำบ้าง ปลูกร้านแลสลอน ๚ะ
๑๓๐๔. มีบ่อนโปปันน้ำ เต้าคน แทงแม่
พระคฤหัษฐ์อัดแอปน เกลื่อนหน้า
เครองกินก็ขายขน มามาก แม่เอย
สารพัดเครื่องยาผ้า เครื่องใช้หลายขบวร ๚ะ
๑๓๐๕. เดินสวนควักไขว่แม้น ฝูงมด
ต่างแต่งใหญ่เต็มยศ อย่างเฟ้อ
ใครเห็นละใครอด หัวเราะ ได้ฤๅ
ชายก็ขันหน้าเก้อ ฉาบขมิ้นมองเหลือง ๚ะ
๑๓๐๖. ชำเลืองล้วนพวกบ้าน นอกขอก นานา
นานพบชาวบางกอก ห่างหน้า
ผัดหน้าจอกวอกออก พิลึกนัก หนะแม่
ซัดเพลาะเดาะแพรผ้า แถบเสื้อสารพรรณ ๚ะ
๑๓๐๗. ดังสนั่นเสียงพระแสร้ โมทนา
ปางอิ่มฉันเสร็จสา ธุก้อง
พระธุดงค์ดื่นกลดดา ดงดาษ ขาวแฮ
ต่างวุ่นทำบุญต้อง จิตรกลุ้มประชุมกัน ๚ะ
๑๓๐๘. นั่นพวกต้องสู้ตั้ง ตลาดขาย
มาแต่เมืองพม่าหมาย เที่ยวค้า
มียานัดย่ามตะพาย เชือกแอบ กล่องเอย
ลูกปัตลูกแก้วผ้า ม่อทั้งแพรพรรม ๚ะ
๑๓๐๙. พี่ผสมเที่ยวซื้อเที่ยว เดินมา
ถึงที่หินบดยา หยุดบ้าง
ใบไม้บดไพลทา กันออก แน่นแม่
เขาว่าพระอินทร์สร้าง สกัดไข้ใครกิน ๚ะ
๑๓๑๐. ลินลาถึงหน้าโบสถ์ คนมุง
ขายธูปเทียนทองนุง แน่นหน้า
ตีระฆังย่ำกังกุง กึงเก่ง ก่างเอย
พิณพาทย์กลองแขกสร้า โสตร์ครื้นยิเกโครม ๚ะ
๑๓๑๑. เหงื่อมโทรมเสียดเข้าโบสถ์ คึกคัก คนแม่
ราวกับปลาสดินกลัก เบียดช้อน
ควันตระหลบอบคลุ้มจัก กระแหล่นโลด หละแม่
บ้างกลับบ้างมาย้อน ยุ่งบ้างบังสกุล ๚ะ
๑๓๑๒. ชุลมุนหมอบกราบบ้าง จุดเทียน
โอ่โน่นเด็กดูเจียน หวีดเต้น
เขาผูกรูปผ้าเพียร ต่างพุทธ นิทานแม่
นอนแท่นแม้นผีทเล้น พอกผ้าคลุมถวาย ๚ะ
๑๓๑๓. พี่ขยายกายแซกผู้ คนเบียด ออกแม่
ยังอัดอัดยัดเยียด ย่างเข้า
บ้างออกกลอกหัวเสียด แซงแซก กันเฮย
เด็กหนุ่มกลุ้มแก่เถ้า เจ็กทั้งมอญไทย ๚ะ
๑๓๑๔. บันใดยาจกจ้อง ขอทาน
ทุกข์ยากอยากบวชประจาน นั่งแอ้ว
โกนหัวนุ่งขาวปาน เจ้านาค หนะแม่
กลัวแต่ได้เงินแล้ว บวชโจ้โปจีน ๚ะ
๑๓๑๕. มีศีลแต่เสือกเย้า สีกา
อังสะแพรถลกขา ไขว่ห้าง
พระดีพี่อยากหา เห็นยาก หละแม่
สุดจะเคารพสร้าง สติตั้งดังสงฆ์ ๚ะ
๑๓๑๖. ตรงมาที่พักกั้น วิสูตรสกัด
บนที่ศาลาถัด โบสถ์กว้าง
มากพระมากคฤหัษฐ์ อยู่แน่น กันแม่
หญิงพระปะปนค้าง ค่ำด้วยกันสบาย ๚ะ
๑๓๑๗. หลายอ่างโอสถน้ำ ชาวาง
สำหรับเป็นทานทาง ดับร้อน
เกลื่อนคนสับสนกลาง แดดไม่ ขาดเลย
เสียงแต่จ็อกแจ็กซ้อน สลับหน้ามาไป ๚ะ
๑๓๑๘. ขอบใจนายเชื้อช่วย เป็นธุระ
มานั่งคอยเอะอะ รับใช้
พักเสวยโภชนาสระ สรงภัก ตราแม่
ชื่นจิตร์แล้วจึ่งได้ เที่ยวเต้าตามคนึง ๚ะ
๑๓๑๙. ถึงบ่อนนาคราชล้วน เสลา
เป็นสระคงคาผา พืดย้วย
คนงมขุดแสวงหา ขี้นาค ราชพ่อ
ถือว่าแสนวิเศษด้วย เหตุข้างคงกระพันธ์ ๚ะ
๑๓๒๐. ดั้นดัดลัดขึ้นโขต ถวายเพลิง
ถูกแดดแดดเผาเริง ลวกร้อน
ไฉนคนกรากกายละเลิง ร้อนเที่ยว มากแม่
จำพี่ดำเนินย้อน กลับเข้าศาลา ๚ะ
๑๓๒๑. หมายมานั่งพักข้าง อุโบสถ
เคยรับลมเฉื่อยชด ชื่นได้
แต่คนมากกลมด ยุบยุบ เทียวแม่
ขืนอยู่เหมือนยิ่งให้ เดือดร้อนหลายประการ ๚ะ
๑๓๒๒. แถบสถานพระแท่นนี้ มันติณ ชาติแม่
เรียกลูกโยนพระอินทร์ ตะลุ่มปุ้ม
มีหางอย่างลูกดิน โยนขับ นกแม่
ลองขบเหม็นเขียวกลุ้ม กลิ่นคล้ายมันแกว ๚ะ
๑๓๒๓. นายแจ้วฉาวเชื้อกับ หลวงจง
ตามพี่มาถึงดง ด่วนเฝ้า
นำเจ้าอธิการประสงค์ มาประสบ พี่แม่
กับท่านขรัวปานเข้า เยี่ยมด้วยยินดี ๚ะ
๑๓๒๔. ชีส่านสาวพริ้งผนวช ธุดงค์ดง
ปสกช่วงชาวลครดง คู่เต้า
พเอิญอุบัติศรัทธาประสงค์ จักบวช บ้างแม่
ขัดบาตร์ขาดไตรยเฝ้า พี่แจ้งใจหวัง ๚ะ
๑๓๒๕. ยังมีเถรฮะกล้า องอาจ
ทราบเรื่องรับไตรยบาตร์ จักให้
ของถวายดอกยังขาด ควรช่วย หนะแม่
บุญก็ได้ทั้งได้ สนุกด้วยบวชเถร ๚ะ
๑๓๒๖. เณรพักว่าบวชหน้า เพลิงมาร ดานา
ใคร่อุปสมบทลาน พระบ้าง
แต่มีนี่อยู่ประมาญ ยี่สิบ บาทเฮย
ขรัวฮะเอะอะอ้าง เหตุได้บุญตะโกน ๚ะ
๑๓๒๗. เถรโล้นจะล่อล้วง กระเป๋าเรา กระมังแม่
น่าพิลิกนึกฤๅเอา เถิดแฮ้
ถึงหลอกบอกเท็จเขา ลวงบาป เองเอย
บุญก็เป็นบุญแม้ สนุกได้สนุกดี ๚ะ
๑๓๒๘. พี่รับเป็นธุระทั้ง สองคน
บอกเรี่ยรายแผ่กุศล เพื่อนพ้อง
คนละเล็กละน้อยขวน ขวายช่วย กันนา
อึกทึกครึกครื้นซ้อง สนั่นแสร้ศาลา ๚ะ
๑๓๒๙. เที่ยวหาเทียนธูปทั้ง ชาถวาย พระแม่
บุหรี่น้ำตาลทราย จัดซื้อ
ขีดไฟกล่องตะไกรหลาย อย่างขวด พรมเฮย
ชั่งหนึ่งถึงครบมื้อ เมื่อเข้าของแพง ๚ะ
๑๓๓๐. ช่วยแรงช่วยทรัพย์ทั้ง สิ่งของ
ห่อหมากจีบพลูกอง แน่นหน้า
ขาดเหลือต่างรับรอง กันออก ให้เฮย
ยืมโต๊ะถาดแว่นฟ้า ช่วยเกื้อการรุม ๚ะ
๑๓๓๑. คลุมไตรยใบไม้ผูก ตามขัด
กรวยอุปฌาย์เทียนจัด แต่งตั้ง
ครบทุกสิ่งสารพัด ในครู่ เดียวแม่
สองนาคเตรียมตัวทั้ง คู่พร้อมเพรียงคอย ๚ะ
๑๓๓๒. พูดพล่อยขรัวฮะเต้น ตละเถร กวาดแม่
เรียกเจ๊กรับเงินเณร วุ่นว้า
เดี๋ยวว่ายี่สิบเกณฑ์ พี่เรี่ย รายเฮย
ครั้นรับกลับเกี่ยงห้า บาทซ้ำแสนพิกล ๚ะ
๑๓๓๓. หลวงจงนิมนต์พระถ้วน พระธุดงค์
ยี่สิบห้าองค์สงฆ์ พรั่งพร้อม
สมภารพระแท่นองค์ หนึ่งคู่ สวดเฮย
หนึ่งเรียกพระธุดงค์ซ้อม สวดเข้าเคียงขนาน ๚ะ
๑๓๓๔. ขรัวปานบางเหี้ยอุป ฌาย์เชิญ ท่านแม่
ท่านเที่ยวรุกขมูลเดิน ป่าไม้
มีศิษย์มากมายเกิน ร้อยเคร่ง ขลังแฮ
เป็นที่ยินดีได้ ดุจข้อคนึงหมาย ๚ะ
๑๓๓๕. วุ่นวายเกินเหตุแล้ว แม่ชี ส่านเฮย
เกินศรัทธาเหลือดี ดุจบ้า
ทุกสิ่งวิ่งเสือกกุลี กุจอรอบ ไปแม่
จับโน่นฉวยนี่คว้า ไขว่กลุ้มตักกลม ๚ะ
๑๓๓๖. เสียงขรมโห่ฮิ้วออก โกฬา หลเฮย
แห่นาคจากศาลา พักเต้า
สัปรุษสีกามา รดมช่วย กระบวนแม่
อึกทึกฮึกโห่เร้า ครึกครื้นเต็มเปา ๚ะ
๑๓๓๗. เข้าระเบียงพระแท่นแสร้ เสียงประโคม
พิณพาทย์กลองระฆังโหม แห่ก้อง
เวียนโบสถ์ครบสามโสม นัศสนุก นักแม่
ยัดเยียดคนเสียดซ้อง แซกแสร้ โมทนา ๚ะ
๑๓๓๘. นาคอยุดหน้าโบสถ์ไหว้ สีมา
โปรยอัฐศรัทธาประสา ขัดข้อง
จูงนาคแน่นประตูพา สู่โบสถ์ แล้วแม่
ขบวชนาคตามแบบต้อง เยี่ยงข้างมหานิกาย ๚ะ
๑๓๓๙. ครั้นถวายของแล้วพระ โมทนา
พี่กลับสู่ศาลา พักเลี้ยง
พระช่วงกับอุปัชฌาย์ จักเที่ยว ธุดงค์แม่
พระพักจักกลับเที่ยง พระผู้พามา ๚ะ
๑๓๔๐. สายัณห์สุริเยศเยื้อง ยอศรี
เดินจากศาลาลี ลาตเต้า
หยุดดูพวกนางชี กางกลด
ทำอย่างพระสงฆ์เข้า ป่าสู้สมาทาน ๚ะ
๑๓๔๑. ตลอดลานพระแท่นแสร้ เสียงคน
ควักไขว่เดินสับสน เสียดย้อน
มีเทศสวตมนต์หน แห่งครึก เครงเฮย
มหาชาติหลายกัณฑ์ซ้อน สนุกพร้อมเพรียงกัน ๚ะ
๑๓๔๒. พัลวัลพระคฤหัษฐ์ทั้ง ยายชี
พวกพวกหมู่หมู่มี มากหน้า
ต่างสมุกคลุกคลีวิถี ทางแน่น เนื่องเฮย
ลับเขตร์ยังระฆังสร้า สนั่นก้องเง็งงัง ๚ะ
๑๓๔๓. กำลังลเลิงสนุกด้วย เดินดง
พองบาทบ่อรู้องค์ ออกร้อน
ขากลับสิกลับคง ระคายแสบ สเทือนเอย
ต้องขี่พาชีย้อน เหย่าเต้าตามสกล ๚ะ
๑๓๔๔. สู้ทนโขยกเขยกเบื้อง บาทลอง เดินฮา
ปางเมื่อเพลินเดินคนอง ปวดน้อย
หยุดหน่อยค่อยย่างสยอง รบมบาท พี่เอย
จำที่ชำเลืองชม้อย พึ่งม้ามาพลาง ๚ะ
๑๓๔๕. กลางดงดูรรื่นด้วย เดือนหงาย
แสงส่องสอดเงาฉาย ฉ่องพื้น
พฤกษาพุ่มพกาพราย พัดโบก ใบเอย
บังบุหลันลัดดาฟื้น กิ่งก้านตระการใบ ๚ะ
๑๓๔๖. ชื่นใจอิ่มจิตร์ด้าว ดงเดิน
ถึงท่าปรีดาเพลิน นั่งยิ้ม
จวนดึกดึกนักเกิน กาลกระ มังแม่
ดูเถิดจันทร์จิ้มลิ้ม ล่อให้เรียมหลง ๚ะ
๑๓๔๗. ลงเรือเหลืออ่อนโอ้ รอาองค์
ค่อยชื่นชลใสสรง สว่างแผ้ว
ยามเสวยพิศวงหลง ลลานง่วง รงมแม่
ถึงแท่นใสยาแล้ว หลับล้มผทมเผลอ ๚ะ
๑๓๔๘. พี่เจอชีหนึ่งโอ้ อนาถขำ นักแม่
นึกว่าใครยายคำ แหละค้า
เป็นแม่หม่อมแสรสำ คัญคิด ไฉนเฮย
มาบวชชีธุดงค์บ้า บ่นเพ้อพึมพำ ๚ะ
๑๓๔๙. กำลังพี่ขึ้นโบสถ์ แท่นดง รังแม่
เห็นพวกยิเกวง วุ่นกั้น
สัปรุษทักษินลง เอาอัฐ ฬศแม่
ใครไม่ให้ไล่กระชั้น กระชุ่นล้อรำมนา ๚ะ
๑๓๕๐. เหมือนมาคอยสกัดตั้ง คุมเหง
อยากว่าเองยังเกรง อยู่น้อย
หลวงจงทราบประสงค์เขยง ขยับไล่ เสียฮา
คนค่อยสบายหลายร้อย เพราะไร้ใครเบียฬ ๚ะ
๑๓๕๑. โคเกวียนถูกพวกปล้น สกัดทาง
กลับท่ามาถึงกลาง ป่าชื้อ
เจ็ดคนพวกขโมยขวาง หน้าขยับ ปีนแม่
หากพวกชาวเกวียนดื้อ โห่เร้าทันถึง ๚ะ
๑๓๕๒. โจทย์กันอึงออกแสร้ ลานพระ
เป็นที่ยินดีปะ พี่เข้า
หาไม่นักเลงละ รานวิวาท เสมอแม่
ขึ้นชื่อลือว่าเจ้า เสด็จแล้วเหลือสบาย ๚ะ
๑๓๕๓. เพราะขายสุราบ่อนเบี้ย มีฉาว
มากหนุ่มกลุ้มสาวชาว ป่าอื้อ
ตีรันแทบทุกคราว ฤๅว่าง วันเลย
สาเหตุถุ้งเถียงดื้อ วิวาทได้หลายกระทง ๚ะ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ