วันที่ ๑๑

วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๔๑๒. วันที่สิบเอ็ดครั้น ตีสิบ เอ็ดแม่
เสียงพูดกันซุบซิบ พี่ฟื้น
ฝีพายจับแจวหยิบ ถ่อออก เรือนา
เข็นจากหาดทรายตื้น ต่อค้ำทางไป ๚ะ
๔๑๓. บ้านไร่ไร่เจ๊กสร้าง ไร่ปลูก ยาแม่
ทุนก็ถูกขายถูก ถูกแล้ว
ไฉนไทยไม่ปลูกผูก ใจเยี่ยง จีนแม่
อ่อไร่ไทยถางแผ้ว เพาะกล้วยแตงงา ๚ะ
๔๑๔. ชุกตาพรายพี่เพ้อ เรียกหา
มาเฉิดตาพรายมา เมื่อนี้
พอถามท่านตาครา คลำมืด มาแม่
วานท่านตาช่วยชี้ ร่องน้ำนำเรือ ๚ะ
๔๑๕. บ้านท้องคุ้งเลียบคุ้ง มองเห็น บ้านแฮ
บ้านบ่อใยบ่อเป็น บ่อบ้าง
ชุกกระโดนอย่าโดนกระเด็น เหมือนชื่อ ชุกเลย
ถึงหาดหัวคุ้งสล้าง นกล้วนยางเสวย ๚ะ
๔๑๖. เลยถึงปากแพรกด้าว กาญจน์บุรี
แควใหญ่ไปเมืองศรี สวัสดิ์ได้
แควน้อยสู่คิรี ไทรโยค แม่เอย
เรือที่จอดหาดให้ รีบเลี้ยงพลพาย ๚ะ
๔๑๗. ตีสายโทรเลขแจ้ง ข่าวคราว
ที่พี่มาพนาหนาว น่านนี้
มีความสุขสบายยาว วันพึ่ง ถึงแม่
เพราะที่ไม่รุกรี้ รุกล้นจนถึง ๚ะ
๔๑๘. คนึงใคร่บอกข่าวเศร้า ทรวงคิด ถึงแม่
พี่นึกอายคายจิตร์ อยู่เจ้า
ชาวโทรเลขจะพิศ วงติ ฉินเฮย
ว่าพี่ห่างคลึงเคล้า แม่น้อยวันกระศัล ๚ะ
๔๑๙. ขันขันท่านปลัดเถ้า ทิมเอ๋ย
ใช่กิจกงการเลย เสือกแท้
กวนพี่ที่บ้านเคย ตัวไม่ สาแม่
ยังแค่นวิ่งแล่นแต้ ป่าวร้องนามอึง ๚ะ
๔๒๐. เมื่อถึงมีพวกพ้อง กรมการ
เห็นแปลกมาสืบสาร ไป่แจ้ง
พากันกลับไปนาน ไม่วุ่น ดีแม่
พอปลัดอุตริแกล้ง บอกแล้วรุมมา ๚ะ
๔๒๑. พระอร่ามคิริรักษ์ผู้ เป็นปลัด
หลวงพิทักษ์ยกรบัติ อีกทั้ง
ลวงคิรีพิทักษ์ถัด ผู้ช่วย สามนา
กับปลักทิมนำตั้ง จิตรเข้ามาเยือน ๚ะ
๔๒๒. พี่เอื้อนโอภาษพร้อง พจมาลย์ ถามเอย
สุขทุกข์ปฏิสัณฐาน ถั่งถ้อย
เขาขอปลูกปรำภาร ธุระรับ รองแม่
จำพี่ไปแควน้อย บ่ายนี้ดีควร ๚ะ
๔๒๓. ขืนอยู่กวนผู้รับ ลำบาก ด้วยนา
ตัวพี่ก็กระดาก เบื่อฟุ้ง
เกรงเกณฑ์ไพร่มากราก กรำรัก ษาแม่
เลิกที่คิดอยู่คุ้ง นี่ค้างแรมคืน ๚ะ
๔๒๔. กรมการยืนหาดให้ เรียมฉาย รูปเฮย
พอแจกเป็นเครื่องหมาย มิตรไว้
เขานำพี่ผันผาย ชมเขตร์ เมืองแม่
ผ่านหาดลัดหมู่ไม้ สู่ท้องถนนบุรี ๚ะ
๔๒๕. ฟากวิถีมีบ้านตลอด ตลาดรุง รังเอย
มีแต่ขัดแตะมุง จากล้วน
ขายของส่งจากกรุง เทพฯ ต่าง ต่างแม่
โลหะอาหารม้วน แถบผ้าสารพรรณ ๚ะ
๔๒๖. ผันผายถึงท้ายหมู่ มรรคคาม
เทวะสังขาราม วัดตั้ง
พี่พักทักถามตาม ควรใคร่ รู้แม่
หายอ่อนร้อนแดดยั้ง ออกย้อนทางเดิน ๚ะ
๔๒๗. มาเกินท่าขึ้นพี่ เห็นศาล จีนแม่
โรงพวกเจ๊กทำการ กระเบื้อง
เขาตีแผ่นเผาปาน กรุงเก่า เจียวแม่
ถึงเขตร์ชานเมืองเยื้อง ยาตรเข้ากำแพง ๚ะ
๔๒๘. ปรปักษ์แสยงเพราะป้อม ประตูบัง เมืองฤๅ
ปางก่อนไร้ปืนปัง ป่วนม้วย
จึ่งก่อทวารรวัง สุรเศิก ผจญแม่
มาเมื่อพ้นสมัยด้วย ดั่งนี้ดีใฉน ๚ะ
๔๒๙. มาในบุเรศร์ขึ้น ศาลา กลางแม่
กระดานผุทลุหลังคา กระเบื้อง
หลังศาลกุฎเทพา รักษหลัก เมืองเฮย
ถัดตึกสรรพยุทธเบื้อง หน่อยบ้านกรมการ ๚ะ
๔๓๐. มีลานน่าบ้านพระ ยาครอง เมืองแม่
รั้วรอบเรือนโตมอง มากสร้าง
ขัดแตะตับจากกรอง มุงกรุ ฝาเฮย
ถัดก็ที่รกร้าง รกะไม้เหมือนดง ๚ะ
๔๓๑. กลับลงเรือเร่งซื้อ เสบียงอา หารเฮย
พี่รับกรมการมา เยี่ยมล้อม
เมียผู้ช่วยนำยา สูบกับ ปลาแม่
มาส่งจงจิตรน้อม นอบให้ไปกิน ๚ะ
๔๓๒. แสนยินดีด้วยทราย สารสาย ลวดแม่
ว่าพวกอยู่วังสบาย หมดบ้าน
เป็นแต่ลูกแก่นตาย เดียวเด็ก นักแฮ
การมอบเสร็จทุกด้าน สั่งได้ดังหมาย ๚ะ
๔๓๓. บ่ายแล้วลาปลัดทั้ง กรมการ
ออกจากปากแพรกปาน พรากน้อง
เหลียวหลังบ่อเห็นกาญ จนบุเรศร์ แล้วแม่
เสมือนพี่แลฤๅพ้อง ภักตร์แล้วเรียมลา ๚ะ
๔๓๔. มาเข้าแควน้อยอย่า น้อยใจ เลยเพื่อน
มีเกิดมีตายใคร รอดบ้าง
เจ้าหลงยูกพวงใด ดลเมื่อ นี้รา
เจ้าจะจากจะร้าง จะร้อนฤไทยหนอ ๚ะ
๔๓๕. พี่รอนาเวศร์ด้วย ยายเจ๊ก ง่วยแม่
พาลูกกับหลานเด็ก เติบด้วย
มาหาจะล่าเก๊ก แกกลับ ใฉนนา
เพราะว่าสามิภักดิล้วน มุ่งสู้แสวงตาม ๚ะ
๔๓๖. พี่ถามนามเด็กพลุ้ย มักตัก
แปดขวบอวบเหมือนยักษ์ ใหญ่เตื้อง
กิมเอ้งภุคะพับ พับพูด ยายเอย
ที่ผูกขวัญทองเฟื้อง หนึ่งให้ตามมี ๚ะ
๔๓๗. ยายนี่มีชื่อแคว้น กาญจนบุรี
นับว่าเป็นเศรษฐี เอกได้
ผูกบ่อนฝิ่นเหล้าปี นี้หมด เมืองแม่
มีลูกเขยสใภ้ใช้ ช่วยเลี้ยงรวังการ ๚ะ
๔๓๘. พี่พบหลานอ้วนเมื่อ ไปประพาศ เมืองแม่
เหลือพิลึกเล่นตลกปลาด น่าเย้า
ตุบตับรับเงินบาท ของพี่ ให้เฮย
เลยชักยายมาเฝ้า พี่ทั้งถวายของ ๚ะ
๔๓๙. สองฟากปากแพรกน้อย แพหลาย หลังเฮย
ประโมงหมู่หาปลาขาย ครึกครื้น
ตอนลึกห่างบ้านราย ระยะฝั่ง ทางแม่
เป็นแต่ป่าพงพื้น พนัศไร้คนแรม ๚ะ
๔๔๐. เขาแหลมเห็นเรือกกล้วย กลาดดง
พลถ่อต่างคนประสงค์ ใคร่ซื้อ
สักครู่สิจู่ลง เรือรีบ มาแม่
ขายไม่ขายให้มื้อ ใคร่ฉนี้ดีกระไร ๚ะ
๔๔๑. พี่ให้เงินค่ากล้วย เป็นราง วัลเอย
เรือบากจากยายบาง รีบเต้า
ตวันบ่ายสุดหมายทาง ถึงชุก ญวนแม่
เรือพึ่งถึงศาลเจ้า เขตรคุ้งเขาปูน ๚ะ
๔๔๒. อาดูรพูลทเวศเศว้า ทรวงเหงา
เย็นย่ำค่ำถึงเขา ตกน้ำ
เห็นหาดลาตลำเนา น่าจอด นอนแม่
รีบลากบากเรือค้ำ ถ่อเข้าขอแรม ๚ะ
๔๔๓. แวมแวมลามป่าล้วน เพลิงพนม แม่เอย
คึกคึกพิลึกลม ลลอกฟ้า
ทึกทึกปึกอุรารทม ทางเปลี่ยว แม่เอย
เกรี๊ยกเกรี๊ยกจักรจั่นสร้า พี่สร้านทรวงหวิว ๚ะ
๔๔๔. ปลาซิวลิ่วโลดลี้ หลบประโมง
ปลาใหญ่ไล่ฟาดโผง ผงาดดิ้น
เสือกเกล็ดเล็ดลอดกระโดง กระเดือกแด่ว แด่วแม่
กลับเหยี่ยวเฉี่ยวชื่นลิ้น เล่ห์นี้ควรแหนง ๚ะ
๔๔๕. แล้งมิตรสถิตหาดห้วง เห็นแพ ใผ่เอย
เป็นเพื่อนอยู่เผือนแล อุ่นโอ้
หมดบุญอยู่วังแห ห่างเพื่อน ผองแม่
เห็นแต่เมียเมื่อโพล้ เมื่อเพล้ชวนถวิล ๚ะ
๔๔๖. เดี๋ยวกินเดี๋ยวอิ่มแล้ว เดี๋ยวหิว อิกแม่
เดี๋ยวสนุกเดี๋ยวทุกข์หวิว หวั่นเศร้า
เดี๋ยวหาดประเดี๋ยวทิว ไม่พี่ ชมแฮ
เดี๋ยวนี้คุยเดี๋ยวเข้า คฤหาศห้องนอนนอน ๚ะ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ