วันที่ ๔

วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๑๘๔. วันที่สี่เทวศเศร้า ทรวงถวิล
ตื่นแต่ย่ำรุ่งผิน ภักตร์จ้อง
ฉุกโฉมยุพินบิน ลมสู่ เรียมฤๅ
พี่เพ่งห่อนพบน้อง อนาถแล้วลเมอหมาย ๚ะ
๑๘๕. พลพายพร้อมให้ออก เรือทวน น้ำเฮย
อยากจะออกปากครวญ ละห้อย
อายปากฝากกำศรวญ โศกแนบ ทรวงรา
ปางทุกข์ปริเทพน้อย หนึ่งแล้วทุเลาใจ ๚ะ
๑๘๖. สนามไชยชื่อวัดข้าง ขวามือ
สนามชนะมอญหรือ พม่าแพ้
เวียมโศกศึกรักถือ ศรสวาสดิ์
ใยบ่อมีใชยแม้ ชื่อคุ้งแควสนาม ๚ะ
๑๘๗. นามวัดสมถะโน้น นึกฉงน
ใฉนมิอวยกุศลดล จิตรบ้าง
ให้สงบทุรนกล นามวัด นี้แม่
สมถะพระเคร่งสร้าง วัดแล้วลืมเรียม ๚ะ
๑๘๘. ตรอมเตรียมอุระด้วย สันโดด เดียวแม่
มาลุบางโตนดโตนด เนื่องต้น
หวานตาลห่อนหวานโอช อรร่ำ สั่งเลย
พี่ดื่มรสลมล้น จิตรล้นลมแสลง ๚ะ
๑๘๙. บางแขยงหวนขยาดให้ ขยะแขยง
ชายพิรุธทารุนแรง ราคกล้า
กายแก่กระเหย่งแสวง สาวกอด แกเอย
งันงกหมกมุ่นบ้า รักบ้ากามหึง ๚ะ
๑๙๐. หาดหนึ่งแลละโล่งล้วน ทรายโต
เห็นแต่สูงโคโซ สู่น้ำ
งัวเอ๋ยเพราะโง่โส โครกมาก มึนแฮ
งัวจึงถูกเขากล้ำ กรากใช้ใถนา ๚ะ
๑๙๑. อยุดผ่อนนาเพศเลี้ยง อาหาร
น่าวัดบางแขยงนาน สักน้อย
เรียมถ่ายรูปหาดลาน ทรายลาด
หวังฝากแม่เชิญชม้อย เนตรขี้ชมทาง ๚ะ
๑๙๒. คนึงนางพลางยาตรขึ้น ลานอา วาศเอย
เตียนระรื่นพฤกษา ร่มซื้อ
วัดบางแขยงปรา กฎชื่อ วัดเอย
พอเพลิดพอเพลินมื้อ เมื่อเศร้าเบากระศัล ๚ะ
๑๙๓. หลายพรรณบุบผชาติขึ้น เคียงทาง
พี่ก็เก็บนางแย้มหมาง จิตรใหม้
นางแย้มสุดแย้มปาง จากคู่ มาแม่
พี่บ่รู้ส่งให้ เพื่อนผู้ใดชม ๚ะ
๑๙๔. อุดมผลมะเดื่อให้ คนเด็ด
กินกับน้ำพลิกเผ็ด ผ่าจิ้ม
ใครอะร่อยมิรู้อะเหร็ด อร่อยปาก เรียมเลย
เพราะมิมีใครยิ้ม ยั่วให้เรียมเสวย ๚ะ
๑๙๕. เลยออกเรือแล่นโล้ เรือลิน ลานา
ถึงเขตรหัวหินยิน ดุเหว่าร้อง
เหลียวหายุพินผิน พบภักตร แม่ฤๅ
เปล่าพี่เพ้อถามน้อง บอกน้อยใหนหิน ๚ะ
๑๙๖. เตาดินชื่อบ้านใกล้ ถามนาม หน่อยรา
เตาจะเผาใดยาม วิโยคนี้
แม้นสมรแม่มาตาม เรียมเที่ยว พนมแม่
เปล่าพี่จู๋จี๋ชี้ ช่วยต้มแกงหุง ๚ะ
๑๙๗. ถึงคุงบ้านใหม่สิ้น สเบยเฉย
พี่ไม่หมายใหม่เชย ชื่นแล้ว
ใครแสวงมิตรใหม่เชย สู่ก็ ตามเทอญ
พี่จะขอกอดแก้ว พี่คุ้นเคยถนอม ๚ะ
๑๙๘. ระงมงอมอุระอ้าว อายสูริย์
ถึงวัดเฉลิมหาดพูน เทเวศเศร้า
หาดงามเพราะหาดทูน วัดสง่า หาดแม่
ข้าจะงามเพราะเจ้า ชุบเลี้ยงเฉลีมวงศ์ ๚ะ
๑๙๙. บากตรงถึงบ้านชื่อ โพธา รามเอย
บนตลิ่งเคหาหนา แน่นอื้อ
พี่ทอดจอดนาวา หวังเที่ยว ดูแม่
พอพักพลพายมื้อ กระเหมือบร้อนรงมคลา ๚ะ
๒๐๐. เดินมาถึงหมู่บ้าน ขายของ
ตามประสาปาปอง แลกซื้อ
พรรณผ้าครุภัณฑ์ทอง เหลืองเหล็ก มากแม่
ปลาผักผลไม้อื้อ เครื่องเคี้ยวหวานคาว ๚ะ
๒๐๑. แลรนาวโสโครกล้วน เรือนจาก
มีแต่วัดเดียวตาก ตึกตั้ง
พบพวกป่าดรหลาก หลายจ่าย ชื้อแม่
เห็นพี่ทักทายทั้ง หมดล้วนยินดี ๚ะ
๒๐๒. ไม่มีใครแจ้งเงื่อน งาประจักษ์
ว่าพี่เป็นประยุรศักดิ์ สืบเชื้อ
ปางนิรานุภาพประดัก ประเดิดเที่ยว ฉนี้แม่
เห็นมิเป็นประโยชน์เกื้อ แก่ผู้พึงหมาย ๚ะ
๒๐๓. ตวันบ่ายเรือออกคุ้ง คลาใคล
ลุแหล่งบางเบาใจ เจ็บช้ำ
บ่รู้ลาดเลาใฉน ประนังโศก นักนา
อ่อเพราะอยากดีค้ำ โลกด้วยดีเกิน ๚ะ
๒๐๔. ดำเนินชลมารคเต้า ตามเลมาะ
ถึงย่านวัดเกาะเกาะ อกอึ้ง
หัดรักห่วงเราเพาะ ผูกรอบ แล้วแม่
สุดสลัดตัดทอนทิ้ง ท่วมร้อนรงมทรวง ๚ะ
๒๐๕. เลยล่วงถึงน่าวัด คงคา
เรือตืดติดหาดคลา ครืดท้อง
เห็นโคลากเกวียนสา มารถท่อง ถนัดแม่
แต่แม่น้ำยังต้อง กลับตื้นตามไสมย ๚ะ
๒๐๖. สะใจเจียวเจ้านก กระจีริด พี่เอย
ไล่จิกจับปลาประชิด โฉบคล้อย
บัดเดี๋ยวเหยี่ยวบินติด ตามจิก นกเฮย
สัตว์ใหญ่ไล่สัตว์น้อย เช่นนี้ธรรมดา ๚ะ
๒๐๗. วัดป่าชาวบ้านสร้าง ประสาจน แม่เอย
ผลเหมือนกุศลขน ทรัพย์สร้าง
เศรษฐีทุพลคน มีฤทธิ์ ก็ดี
จักสุขจักสนุกบ้าง วิบากด้วยใจเดียว ๚ะ
๒๐๘. เรือเลี้ยวสาคเรศเข้า วัดขนอน
ขนอนพี่นึกขนางสอน เกิดคุ้ง
ทำใฉนจะทอนถอน ทุกข์ห่วง สหายพี่
ขนอนช่วยกันสกัดทุ้ง เทวศให้ไกลเรียม ๚ะ
๒๐๙. เยี่ยมถึงเขตรบ้านหม้อ หมองอุระ
จนหม้อเชิงกรานกะทะ ทอดต้ม
ของกลักดอกเป็นสะ เบียงพี่ แม่เอย
จักอร่อยมิอร่อยก้ม ภักตรกล้ำกลืนกิน ๚ะ
๒๑๐. หัวหินเห็นหาดล้วน ทรายแดง
หินหากแตกรแหงแปลง เล็กน้อย
เพราะอุทกทลุแทลง ทลายป่น หินแม่
บางชื่อหัวหินแคล้ว เนตรแล้วเรียมลา ๚ะ
๒๑๑. มาถึงที่ฉวากน้ำ นครชุม
พี่ บ เห็นเมืองสุม โศกเพ้อ
เห็นแต่พุ่มพนมรุม รงมสวาสดิ์ ถึงแม่
ชุมพี่ชุมนุ่มเท้อ เทวศคุ้งนครเหมือน ๚ะ
๒๑๒. เถื่อนเรือจอดหาดให้ หุงกระยา
พี่พักผสมยาทา รูปร้าง
พอพรรคพละกินอา หารอิ่ม แล้วแม่
รีบออกเรือลอยคว้าง เชี่ยวน้ำคอยเตือน ๚ะ
๒๑๓. เดือนหงายชายฝั่งครึ้ม ครวญหา แม่เอย
ถึงวัดท่าผาผา สุขแล้ว
ผิพี่พบสมรมา ด้วยพี่ แล้วแม่
จักยิ่งแสนสนุกแผ้ว ผ่องน้ำใจกระไร ๚ะ
๒๑๔. ใหนอิฐชื่อบ้านท่า อิฐอยาก ถามแม่
มีแต่เรือนแตะจาก ปลูกไว้
เอิกอิฐอวดนามฝาก บางบ่อน นี้รา
ชั้นจะก่อโบถไร้ อิฐถ้วนเรือนพง ๚ะ
๒๑๕. พิศวงสังเวชโอ้ อนาถา พี่เอย
บ้านม่วงพี่มาครา เคราะห์ร้าย
สีม่วงม่วงเพราะมา ผสมส่วน สีแฮ
ยามแยกสีม่วงคล้าย พี่แล้วแลหาย ๚ะ
๒๑๖. เดือนชายบ่ายเบี่ยงคล้อย คลาสวรรค์
พี่พักนาวาผัน ภาคเมื้อ
โพธิอไรใช่โพธิพันธุ พุทธโพธิ ดอกฤๅ
โพนึกเทโพเนื้อ นุ่มเจ้าประจงแกง ๚ะ
๒๑๗. แสนแสลงละลิ้นชอบ ชมรส
อร่อยเมื่อมียามอด สอื้น
เหมือนหลงลเลิงยศ ยามยาก แล้วแม่
สังเวชวรองค์ฟื้น เฟื่องน้ำใจใฉน ๚ะ
๒๑๘. อาไลยรักอาตม์ต้อง ระวังตัว
รู้สึกอย่ามัวมัว มุ่นเฟ้อ
มีลาภเร่งกลัวกลัว ไกลลาภ เทอญพ่อ
มียศเร่งแหยงชเง้อ เสงี่ยมคุ้นเคยโทรม ๚ะ
๒๑๙. เหิรพโยมโหมพยุได้ ดังจิตร ก็ดี
มีรากมากฤทธิทิศ ทศแพ้
รู้กลับรับกลายกฤต ติคุณเมื่อ หนึ่งแล
ยามประมาทญาติประหม่าแม้ มิตรกล้าผลาญเกลอ ๚ะ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ