วันที่ ๒๐

วันที่ ๘ มินาคม ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๗๔๗. จวนสางสเทือนป่าละห้อย หวลโหย
สยองเยือกเสียงโหวยโหวย วิเวกก้อง
นอนสนิทพิศวงโวย วายตื่น กันแม่
กระซิบลั่นนั่นอะไรร้อง พิลิกแล้วโลมชัน ๚ะ
๗๔๘. ขวัญหายหมายเกิดข้อ กลีถึง เราฤๅ
ผวาตื่นฟื้นองค์ตลึง ป่าแสร้
ปั๋วโหวยหวีดโหวยอึง โอ้ชะ นีเอย
อุส่าห์กู่รู้ปลุกแม้ มิตรเฝ้าสงวนเรียม ๚ะ
๗๔๙. เยี่ยมดูคนผู้ตื่น ตื่นชนี
รางเรื่อสุริยรังษี สว่างแล้ว
เร่งกันพิสวันขมี ขมันออก เรือเอย
ผ่านพุเขาลว้าแคล้ว คลาดเลี้ยวเรือจร ๚ะ
๗๕๐. สิงขรบ่อสุดคุ้ง ทางไป
น้ำพุดั้นทลุใหล ทลั่งก้อง
ต่ำตกปกตะไคร่ไร ไรเฟื่อง ฟองแม่
สองฝั่งเขาสลั่งร้อง เรียกลว้าผาสูง ๚ะ
๗๕๑. น้อยฝูงสกุณร่ายร้อง จำเรียง ถวายเอย
บินอยู่ไกลเขาเคียง ค่อยก้อง
เลวงแสร้แต่สุรเสียง ชนีป่า หนะแม่
โหนกิ่งทิ้งตัวร้อง โลดให้เห็นตัว ๚ะ
๗๕๒. ยั้วเยี้ยเสนค่างทั้ง ลิงกัง
จีดจ๊าดโครกครากดัง ดื่นด้าว
เห็นเรือตื่นตึงตัง เตลิดแล่น หนีแม่
ยังแต่ฝูงชนีน้าว กิ่งไม้มองเฉย ๚ะ
๗๕๓. ชนีเอ๋ยใยเย้ยพี่ อวดโฉม พี่ฤๅ
อยู่แต่ยอดไสลโถม ถิ่นซึ้ง
พี่มุ่งพี่หมางโทรม ทรวงพี่ เองแม่
เปล่าพี่รู้พลังอึ้ง อุระแล้วฤๅหวัง ๚ะ.
๗๕๔. ฝั่งขวาสีขเรศเลื้อย เรียงสลอน
เขาเรียกเขากินร เฟื่องน้ำ
งามผาน่าเป็นนคร กินเรศ จริงแม่
มือวากฉากชานถ้ำ น่าน้องกินรเขษม ๚ะ
๗๕๕. ปากเขมคฤหาศห้อง คูหา กินรเอย
เพิงพู่กลบุบผา พู่ห้อย
งามแท่นแผ่นเสลา แลเลิศ แล้วแม่
สมถิ่นกินราน้อย แนบเวิ้งวังหิน ๚ะ
๗๕๖. ปักษินบินได้เผ่น โผนพโยม
เห็นสู่คูหาโสม นัสเคล้า
แม้นมนุษย์สุดสวาทโฉม กินเรศ แม่เอย
สุดจะสังวาศเข้า หับห้องเห็นขวัญ ๚ะ
๗๕๗. เขาชันชั้นยอดถ้ำ เฉลิงลอย
สุดจะปีนป่ายคอย คู่ได้
ประสบโฉมก็เชิงสอย ศรส่อง ปืนแม่
ยิงแม่ผกตกไม้ แม่นม้วยหมองชม ๚ะ
๗๕๘. อุณรุทสมสวาทด้วย กินรี ใฉนนา
หลงรักปักษีลี ลาศแล้ว
ฤๅพาแม่สรงสี ขเรศท่อ ธารเฮย
เลือกแก่งแอ่งอ่างแพร้ว พร่างน้ำไพรสนาน ๚ะ
๗๕๙. สงสารนางนกทิ้ง รังหนี พนมแม่
จึ่งบ่เห็นกินรี ร่อนคว้าง
น้ำพุที่เพิงสี ขเรศต่ำ นักนา
ฉนี้หมิน่ากินรล้าง โขตร์ร้างตาเรียม ๚ะ
๗๖๐. เขาผีเยี่ยมฟ้าน่า กลัวผี
ถูกแดดแดงดูสี แสดย้อม
กินรสิหมองฉวี มัวหมอก แม่เอย
เพราะบรู้หลบอ้อม อับด้าวอัษฏงค์ ๚ะ
๗๖๑. พิศวงวนาเวศด้วย ดูเขา
ส่วนพี่รื่นพลเรา อ่อนล้า
ถูกเรี่ยวเชี่ยวแรงเอา แรงลู่ ลุยแม่
เข็นถ่อลากมากถ้า ถี่สท้านหนาวทน ๚ะ
๗๖๒. เขาผียลอยู่ซ้าย มือมา
โน่นเล่าเขาชนีขวา หัตถ์เอื้อม
ชนีชุมพุ่มพฤกษา เสียงหวีด โหวยแม่
สองฝั่งเขาครึ้มเงื้อม แง่น้ำลำธาร ๚ะ
๗๖๓. คูหาปานหุบห้อง เหวผี
ทมอมืดหลืบลึกที ลึกด้วย
ชื่อถ้ำชื่อผีตี นางน่า กลัวแม่
ผีพิโรทตีนางด้วย เหตุห้าวเห็นใฉน ๚ะ
๗๖๔. ผีไพรใยบ่อรู้ กรุณา แม่เอย
พานุชเนาคูหา แห่งส้อน
นางนิราษปวะยูรวงศา แสนเปลี่ยว องค์เอย
ยังจะถูกผีย้อน วิโยคตั้งตีนาง ๚ะ
๗๖๕. ปางอ่อนพละพึ่งเลี้ยง ตัวสบาย
เพราะโลกรักษาอาย อุ่นเอื้อ
เมื่อมัดหัดถ์ตีนตาย ตัวสกัด รอบแม่
ถูกโลกละลอายเนื้อ เลือดต้องตามเป็น ๚ะ
๗๖๖. เห็นหาดตาเหล็กซ้าย มือขวา
ตาเหล็กลืมตาหา เหตุจ้อง
ศรบาปบ่ออาจสา มารถแสบ ตาเลย
ตาเหล็กเหล็กตาต้อง ปวดมื้อไสมยมา ๚ะ
๗๖๗. ฝั่งขวาเขาน้ำพุ เพิงหิน
ตกต่ำเชิงสีขรินทร์ ร่องน้อย
ตรงพุหาดทรายสินธุ์ สงบเอ่อ ดีแม่
เรือจอดจอดใจชม้อย เนตร์ฟ้องชนีโผน ๚ะ
๗๖๘. โยนตัวยั้วเยี้ยเยี่ยม ยอดผา
ดูน่าเอ็นดูถลา โลดไม้
แม้นเพื่อนพี่ยามา ด้วยพี่ แล้วแม่
คงจะวิงวอนให้ จับให้จริงจริง ๚ะ
๗๖๙. ลิงโลดกล้วยไม้แมก ไม้งาม
ขึ้นหาดพี่พยายาม เก็บกล้วย
บ้างเก็บกรวดหินสาม สีเกลื่อน หาดแม่
ดำและขาวแดงด้วย ดุจแกล้งโปรยคอย ๚ะ
๗๗๐. ลงลอยสาคเรศโล้ เรือกระเชียง
ทวนกระแสรชลเมียง หมู่ไม้
มาแวะจอดเขาเคียง พุสี่ มุมแม่
ปีนสู่คูหาใกล้ ท่าถ้ำคลำมอง ๚ะ
๗๗๑. ช่องแคบแอบเที่ยวน้อย หนึ่งจน
กลับล่องเรือลอยดล พุน้ำ
ไม่งามไม่อยากยล พายสู่ หาดแม่
เลี้ยงโภชน์พลแล้วค้ำ ถ่อเลี้ยวเลยจร ๚ะ
๗๗๒. ชายสิงขรน้ำตก ตามลำ ธารแม่
หลายแห่งฝ่ายเฉวียงสดำ แต่เตี้ย
พ้นเขาฝั่งเขาทำ เลไม่ งามแม่
เคยพบงามยามเปลี้ย หน่อยแล้วระคายหวัง ๚ะ
๗๗๓. กระทั่งถึงท่าสระซึ้ง สี่มุม แม่เอย
แดดจัดรัดทรวงรุม เร่าร้อน
จอดท่าไป่คิดคุม ใจใคร่ ไปแม่
ถูกบอบขึ้นลงย้อน ยอกเนื้อแหนงประชวร ๚ะ
๗๗๔. มวญหมู่ผีเสื้อรยับ หาดบิน ว่อนเฮย
บ้างจับปลาโจนกิน กัดได้
เดี๋ยวนกฉกโฉบบิน โผคาบ เจ้าเอย
ย่ำเหยื่อผีเสื้อให้ ชีพเพ้อพวงหลง ๚ะ
๗๗๕. ปางองค์อิศเรศเจ้า จอมผไท
มาประพาศคีรีไทร โยคนี้
พี่โดยพระเสด็จไพร ลุย่าน นี้แม่
ปีนต่ายเลียบไสลลี้ ล่วงขึ้นเขาเขิน ๚ะ
๗๗๖. เดินถึงยอดบ้านเกรี่ยง มีชุม
นำเที่ยวสระสี่มุม เมื่อยกล้ำ
สระใหญ่ใหล่เขาสุม สรรพพีช เขียวแม่
มีช่องน้ำพลุ่งน้ำ เดือดขึ้นพรูพรู ๚ะ
๗๗๗. เกรี่ยงผู้ใหญ่บ้านรับ อาษา
พาพี่กลับนาวา ส่งช้าง
บัดนี้ทราบว่าคชา หมดเกรี่ยง หมดแม่
ลงรากหากลงล้าง เกรี่ยงร้างเรือนหนี ๚ะ
๗๗๘. แม้นพี่พาพวกขึ้น เขินบน
ขากลับขาไปหน แดดกริ้ง
ไป่ปลาศสิ่งใดยล คราวหนึ่ง แล้วแม่
เหนื่อยนึกเห็นลึกซึ้ง พี่สิ้นอุสาห์ไป ๚ะ
๗๗๙. ให้ออกเรือเร่งน้ำ คลาไคล
เห็นโขตร์เขาพโนใน ป่ากว้าง
เขาพโนนึกมโนใฉน เบือนเมื่อ ทางนา
เห็นแต่ไม้เขียวบ้าง เขื่อนไม้หินกอง ๚ะ
๗๘๐. มองเขาตาคลาดโน้น ในดร
แต่จากเขาผีจร จวบนี้
ฤๅพบใหล่สิงขร ใหญ่ตก น้ำเลย
ตาคลาดชมเขาชี้ ชื่นน้ำใจเกษม ๚ะ
๗๘๑. สุดเปรมปราโมทย์ร้อน แรงจัด
เกือบคลั่งลังเลอัด อกสอื้น
หัวพงชื่อเรี่ยวลัด ทางเลียบ มาแม่
แคบก็แคบแอบพื้น กรวดกลิ้งกระเทือนเรือ ๚ะ
๗๘๒. เหลือใจท้ายคุ้งถูก ลงเข็น
ยังหมิหมดแก่งเห็น เรี่ยวกั้น
หัวพงส่งลำเป็น แห่งสกัด หัวเอย
พงใหญ่ไม้ไล่กระชั้น ชืดน้ำใจชม ๚ะ
๗๘๓. เรียมรบมกรมอกร้อน รวีถวิล
ใคร่สู่สรงกระแสรสินธุ์ สร่างเศร้า
จอดเรือแอบแง่หิน หาดกร่อน
เย็นแต่กายใจเฝ้า ฝืดสิ้นสนุกสนาน ๚ะ
๗๘๔. ถึงย่านมีบ้านท่า ซุงเขา เรียกแม่
น่าเบื่อเรือครัวเรา รั่วอู้
จอดยาปุยาทุเลา ไปพัก หนึ่งแม่
ถึงไม่หมดรั่วสู้ วิดสู้ทนยา ๚ะ
๗๘๕. เขาเสนผาใหญ่ตั้ง ไกลตา
แดดส่องเสนทา เทือกไม้
เบื่อจิตรจืดอุราพา พี่เบื่อ เขาแม่
ใหนจะถูกแก่งใส้ ขย่อนโย้ลำเข็น ๚ะ
๗๘๖. เห็นแห่งบ้องเต้อขยะ แขยงนาน
พลักพลักชลทลักตาม ชื่อด้วย
พักใหญ่เหงื่อใหลทราม เสียงเหะ หะเฮย
กว่าจะพ้นห้วยย้วย ยืดล้าแรงโหย ๚ะ
๗๘๗. สดำโดยดูบ้านเกรี่ยง มีหมาย แน่นา
เห็นท่าดักปลาลาย เบ็ดข้อง
พี่เหลียวบัดเดี๋ยวหาย ถูกแม่น เที่ยวแม่
เห็นเกรี่ยงลุยหาดจ้อง วักน้ำใสกิน ๚ะ
๗๘๘. สินธูพลูพลั่งฟุ้ง ฟองพลัก พลักแม่
ชื่อกห่งหางนาคตัก แม่น้ำ
หลายเรี่ยวเชี่ยวจัดหนัก แรงลาก เรือแม่
ทั้งฉุดทั้งถ่อค้ำ ควากเลี้ยวลำดึง ๚ะ
๗๘๙. ถึงเขาตกน้ำฉวาก วังเขมร
มีพุทุ่งพเพียงเอน ตกเตี้ย
ชโงกผาเชิดชันเนร นาดหมู่ ไม้แม่
เห็นแต่ลิงยั้วเยี้ย โยกไม้ใบโกร๋น ๚ะ
๗๙๐. ลิงทโมนเหมือนหมู่อ้าย เขมรทมิฬ
ดำพ่ำพำโกรกหิน แห่งบ้าน
คอยโกงเก็บกบกิน ตามแบบ ครูฤๅ
ชื่อเกลียดเฉียดเขาคล้าน นั่งจ้องมองชม ๚ะ
๗๙๑. หินจมชลเชี่ยวกั้น กระแสรสินธุ์
เขาเรียกท่าหินหิน ซีกน้ำ
ลายเรือลู่เลยยิน ดีด่วน ไปแม่
เสือกกระทบหินค้ำ ขัดอื้ออึงประคอง ๚ะ
๗๙๒. พวกซ่องตัดรวกตั้ง ตามชาย ฝั่งแม่
ปลูกกระท่อมมุงแผกหลาย แคร่น้อย
เขาบอกมรรคาถวาย ทางร่อง น้ำแม่
เรือหลีกลับซ่องคล้อย คลาดก้อนหินมา ๚ะ
๗๙๓. ตาแจ้งแวะเที่ยวซื้อ มังสะ
กวางสุกรเนื้อปะ กวาดกว้าน
เขากวางและเขากะ ทิงรวบ ซื้อแม่
แม้นปะซ่องปะบ้าน แวะเว้นเลยใฉน ๚ะ
๗๙๔. แลไกลเขาเกริกง้ำ เงาไพร
บ้างเรียกเขาพระใน น่านนี้
บ่ายหน่อยค่อยบานใจ ชมฝั่ง ไพรแม่
มีแต่เขาห่างขี้ เกียจชเง้อแหงนดู ๚ะ
๗๙๕. ระยะผลูดูรกเลี้ยว รังเชิง
ไม้ไร่ไม่น่าเริง รื่นด้วย
เห็นบ้านอยู่บนเชิง ฝั่งฝ่าย ซ้ายแม่
มีแต่ไร่กล้วยกล้วย เกลื่อนด้าวดงสลอน ๚ะ
๗๙๖. รอนรอนสุริยเลี้ยว ลำถึง
เรี้ยวใหญ่ชลใหลตึง ตื่นน้ำ
คลื่นลลอกซัดกระฉอกถึง เอะอะ กันเอย
ถ่อสุดหลุดแก่งต้ำ เปอะแล้วลอยสบาย ๚ะ
๗๙๗. ฝ่ายเฉวียงเคียงฝั่งเงื้อม ไสลดำ
เห็นท่าขวามือจำ จอดค้าง
เพราะมืดหมิรู้ทำ อย่างอื่น แล้วแม่
แม้นปะช่องปะบ้าน แวะเว้นเลยใฉน ๚ะ
๗๙๘. พโยมหนฉรอับโอ้ อนารถนัก
เงียบจิตรเหงาใจพัก ผ่อนเปลี้ย
สิ้นสนุกออกขลุกขลัก ใฉนอยู่ แม่เอย
เมื่อยนักจักกระดิกกระเดี้ย เยือกเส้นแสยงทรวง ๚ะ
๗๙๙. งึมง่วงงอมแดดอ้าว อายอา กาศแม่
เบื่อเรี่ยวเชี่ยวชลสา หัสแล้ว
เกลียดฝั่งพฤกษาครา โสโครก แม่เอย
ชังที่จอดเรือแคล้ว ขุ่นด้วยหนีนอน ๚ะ
๘๐๐. สโมสรแสนสนุกปลื้ม ใจเจริญ
ควรตื่นตาชมเพลิน สุขนั้น
ยามสุขขุ่นกระมลเขิน ขณะพิโรธ ก็ดี
ควรหลับตานอนอั้น อุรสิ้นสัญญา ๚ะ
๘๐๑. คราสุขเพลินสุขแม้น ไสยา
หลับง่ายกว่ากายผา สุขด้วย
คราวทุกขทับทุกข์ผวา หวั่นเทวศ แม่เอย
แสนง่วงแทบม้วย ไม่เคลิ้มผอยเลย ๚ะ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ