วันที่ ๑

วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๑. รัตนโกสินทร์ศกร้อย สิบสอง
ว่างกิจจิตรป่วนปอง ใคร่เต้า
เที่ยวทุเรศลำลอง ลเลิงเถื่อน
แถบแม่น้ำน้อยเข้า เขตรเวิ้งวนาผา ๚ะ
๒. อนาถาท่วมอุรอั้น อาภัพ แล้วพ่อ
ยอมสละศิริยยศรับ รอบร้าย
ชลอชีพประสาอับ ออมสุข สงวนเออ
ใฉนหมิหมดเคราะห์บ้าย เบียดบ้างเลยหนอ ๚ะ
๓. ท้อแรงพิริยล่าแพ้ พาลไสมย
หวังเสงี่ยมเจียมใจ มักน้อย
ยังวิโยคเพราะโรคไภย พิบัติบ่อน กายเอย
สุดจะรักษาร้อย เล่ห์ด้วยยาใจ ๚ะ
๔. ยาแพทย์หลายเภทถ้วน หมอหลวง ราษฎร์ฤๅ
แก้บหายรหวยทรวง แสบแห้ง
สุดวอนสุดบวงสรวง สุรเทพ ใดแล
ขืนนิ่งเหมือนยิ่งแกล้ง ฆ่าให้ตัวตาย ๚ะ
๕. เห็นอุบายเดียวแต่ต้อง กันดาร
แรมทุเรศนิราสถาน เที่ยวบ้าง
โปร่งจิตร์เบิกกายบาน บ่มสุข เสมอเอย
เห็นทุเลาเบาร้าง โรคได้โดยคี ๚ะ
๖. วันที่สิบเจ็ดเข้า กุมภา พันธ์เอย
พี่นิราษเคหาลา แม่เล้ว
สามโมงครึ่งนาวา ออกแล่น ลำเอย
จากท่าหลังวังแคล้ว ล่องคล้อยลอยคลอง ๚ะ
๗. มองหลังสั่งเพื่อนผู้ มิตรสมัค
มาส่งหวังเสดงรัก ชอบชี้
ยามอนาถนิราษศักดิ์ บารเมศร์ ฉนี้แม่
มวญมิตรประจบลี้ หลีกม้านเมิลหาย ๚ะ
๘. เดิมหมายคลองตลาดใกล้ ตรงทาง
สพานหกรถรางขวาง เกะกั้น
มีคันยกคันพลาง ประหนึ่งยก ได้ฤๅ
แต่หนักเหลือแรงครั้น แบกเก้อเผยอไฉน ๚ะ
๙. หลายไนยหลายเล่ห์ล้วน อุบายมนุษย์
นอกกับในไสพิสุทธิ์ ซื่อบ้าง
ในกลอกนอกตรงพิรุธ กลแยบ เกลอเอย
บางนอกหลอกตาบ้าง จิตรแม้นใจมุนี ๚ะ
๑๐. บางทีภายนอกร้าย มุทลุ
ในก็สาหัศดุ เด็ดด้วย
สี่พวกต่างพันธุ ทางประพฤติ คนเฮย
ทุกพรรคทุกพวกม้วย มอดสิ้นเสมอกัน ๚ะ
๑๑. อัศจรรย์กลจักรแสร้ง สรรคิด
หากกลั่นปัญญาประดิษฐ์ หลากแล้ว
รางรถแล่นเร็วพิศ- วงวิเศษ นักแล
โดยลวดไฟฟ้าแกล้ว เกลื่อนผู้คนจร ๚ะ
๑๒. แต่ก่อนสถลมารคต้อง ตีนเดิน
สักหน่อยบ้านเมืองเจริญ รถม้า
บัดนี้สิเราเห็น รเห็จจักร ยานเอย
ฤๅพักใช้ม้ากล้า แล่นได้ดังประสงค์ ๚ะ
๑๓. จำนงสรรพสิทธ์ด้วย วิทยา
อีกพิริยปรีชา ชอบค้น
กอบกับช่ำชองสา มารถเชี่ยว เชิงแฮ
อาจคิดอาจทำพ้น พิลึกให้เห็นจริง ๚ะ
๑๔. สรรพสิ่งเราพบครั้ง เดียวหลาย ก็ดี
ย่อมเกิดความคิดขยาย แยบรู้
มรรคุเทศธิบายภาย หน้าเทียบ ทางแม่
ใดทุกข์อย่าท้อสู้ อดแล้วเรียนจำ ๚ะ
๑๕. อาจสำเร็จประโยชน์ได้ ทุกพรรณ
ใดเกิดฉันใดสรร ชอบใช้
ไฟฟ้าฆ่ามนุษย์อัน ตรายโลก แลแฮ
ใช้ชอบกอบกิจได้ ดุจฉ้อรางเหมือน ๚ะ
๑๖. เรียมเคลื่อนนาเวศพ้น โรงทหาร
เรียกยุทธนาธิการ ดึกเดื้อง
หวลเหตุจตุรงค์ผลาญ ปรปักษ์
หลายแบบแยบยุทธเยื้อง ยั่วให้ใจเหิม ๚ะ
๑๗. ล้วนเริ่มอริสู้ สืบเวร
แข่งฤทธิ์แข่งแรงเจน จิตรจ้อง
ใครแรงก็รอดเดน มรณาศ แม่เฮย
ที่ทุพลตนต้อง ตกร้ายตายสูญ ๚ะ
๑๘. ไพบูลย์บุรพกิจเกื้อ การณรงค์
ปลอบจิตรปลุกใจตง คู่แกล้ว
ทหารฮึกสรรพศึกสง ครามเชี่ยว เชลงแฮ
อาจปราบพาลพ่ายแล้ว เลิศเลี้ยงเวียงเฉลิม ๚ะ
๑๙. เริ่มศึกฝึกหัดต้อน ไปทำ ศึกเฮย
เมื่อสงบบัดซบกรำ กรากไซ้
คราประกวดอวดศึกขำ แต่ท่วง ทีแม่
ครั้นจะจับจริงใผล้ พร่องฉนี้ดีหรือ ๚ะ
๒๐. อือนั่นหนอที่ตั้ง ตรางหลวง
ลหุโทษลหุทัณฑ์ปวง กักไว้
ทั้งพวกลูกพิพาทกระทรวง ศาลพิจ จารย์พ่อ
รวมดัดสันดานให้ กระลับรู้ดีดล ๚ะ
๒๑. ปราบคนทุจริตด้วย อาญา
แพ้ปราบปลอบสอนสา มารถสู้
ทุกมนุษย์สุดแสวงหา แต่ชอบ ดอกพ่อ
หากหย่อนพิทยารู้ ศึกต้องรวังตน ๚ะ
๒๒. เห็นถนนตัดใหม่ริ้ว ริบคลอง
แลสง่าอ่าโถงสอง ฟากเมื้อ
โยธาธิการกอง นวกิจ
ก่อตึกขุดคลองเอื้อ อุส่าห์สร้างทางสถล ๚ะ
๒๓. เรียมยลเรือจักร์คุ้ย คลองเข็น คลองแม่
นึกแต่เพลงเคยเห็น จอดทิ้ง
เครื่องจักรหลุดหักเป็น พื่นผุะ พังแฮ
เพราะขาดคนอาจกลิ้ง จักรให้ไกขยัน ๚ะ
๒๔. นั่นวัดบูรณศิริสิ้น บุญบำ รุงรา
เพราะหมิมีมือทำ ที่ร้าง
ไม่สมอยู่ในกำ แพงราช นี้เอย
หย่อนฤทธิ์สูงศักดิ์สร้าง ยศค้ำเมืองเหมือน ๚ะ
๒๕. ถึงเขื่อนวังน่าตั้ง โรงทหาร
อีกพิพิธภัณฑ์สถาน ที่ล้อม
เราทราบสิ่งใดพาน พบก่อน พ่อเอย
หอนี่มีมากพร้อม เครื่องรู้ครูแสดง ๚ะ
๒๖. ตำแหน่งอุปราชร้าย เหลืออุบาทว์
เปรียบกับสองสีหราช ร่วมถ้ำ
คอยแซ่งแข่งอำนาจ แหนงขบถ
บุญรัชสยามราษฎร์ล้ำ เลิกตั้งตามแผน ๚ะ
๒๗. น่าแค้นขัตติยชาติทิ้ง ไทยประจาน องค์เอย
กรมพระบวรวิไชยชาญ ชื่อท้าว
เขลาขลาดละชาติซาน ไปพึ่ง ฝรั่งแฮ
หาฤทธิ์มาโรมด้าว เสดาะบ้านเมืองขาย ๚ะ
๒๘. ควรชายรักชาติพ้น ชีพิตร์ ตัวนา
สอึกอาจพิฆาฏอมิตร ต่างแคว้น
พวกเราจะเอาผิด กันฆ่า กันฤๅ
ตายเถิดไม่แก้แค้น เพราะล้างเมืองตน ๚ะ
๒๙. มาดลที่ตลาดข้าง วังบน
แลบ่อเห็นมีคน จ่ายซื้อ
เพราะตลาดใหม่มาผจญ ผจัญแย่ง แม่เอย
เลยตลาดเก่าชึบชื้อ เหตุแพ้ภูมิสมัย ๚ะ
๓๐. ต่างใจต่างมรรคตั้ง ใจประพฤติ
ล้วนแต่หมายติยึด ชอบจ้อง
แม้นมีแต่ดีอึด ดีอาจ เห็นเลย
ดีจักปรากฏต้อง ชั่วให้เห็นดี ๚ะ
๓๑. วารีนองเนื่องขึ้น สอสอ
แล บ เห็นหลักตอ ผุดน้ำ
ยามขอดมาตรใครรอ ราตรวจ
ถึงบ่อพบตอขว้ำ เนตร์ค้อนเหม็นโคลน ๚ะ
๓๒. กลัวเรือโดนหลักให้ ระวังมือ
กลัวติดเจอะสพานครื คร่อมน้ำ
ขวางคลองล่องเรืออือ ตลอดลุ ลำแฮ
สิ้นเคราะห์เดาะโศกปล้ำ อาตม์พ้นไภยผอง ๚ะ
๓๓. ออกจากคลองหลอดเลี้ยว เรือตรง
ทวนกระแสรสินธุ์ลง แล่นจ้ำ
แจวทวนถ่วงทางคง ลำบาก แท้แล
ผิวปล่อยลอยตามน้ำ ล่องอู้ดูฉิว ๚ะ
๓๔. เรือลิ่วแล่นรี่ด้วย แรงฝี แจวแม่
มานะเพียรผลทวี หลากได้
อาจทลายคีรีศรี สมุทวิด แห้งแฮ
เพราะพิริยหากให้ สฤษดิ์แม้นมานประสงค์ ๚ะ
๓๕. แลตรงฟากโน้นนั้น วังหลัง
ใย บ แลเห็นวัง ลับแล้ว
พยาบาลดอกโรงยัง ปรากฏ แทนแม่
พระโปรดสร้างหวังแผ้ว พยาธิ์ข้าสิมาเวียง ๚ะ
๓๖. พระเจ้าเชียงใหม่ผู้ สวามิภักดิ์
มาก่อศาลสำนัก ต่างคุ้ม
หวลเห็นหุ่นลครชัก ยนใคร่ สรวลแม่
รำเพราะมือคนอุ้ม อ่อเจ้าอินทนนท์ ๚ะ
๓๗. ยลโรงเรียนฝรั่งตั้ง สอนสาว
ไม่เลือกไทยมอญลาว ฝรั่งได้
มิสไคล์แหม่มครูชาว อเมริ กันแม่
สอนพี่ศรัทธาให้ ทรัพย์เก้อการกุศล ๚ะ
๓๘. มีกลศุภสิตคยั้น อยากถาม
เห็นท่านขี่คานหาม รัดก้น
น้ำพลิกลลายปาม ลงแม่ น้ำแม่
มิสสมิทสอนศิษย์ค้น คติคล้ายคำคลัน ๚ะ
๓๙. กำปั่นใบฝึกรู้ เพลงสมุท
สอนพวกพลชลยุทธ์ จอดยั้ง
เสียงแตรหัดเป่าอุด แออิด แอแม่
ดีดอกจัดดีตั้ง แน่ด้วยจึงดี ๚ะ
๔๐. พี่ยลถนนใหญ่วิ้ว โว่งดู งามแม่
ตรงช่องกำแพงประตู ท่าช้าง
สมสง่านคราภู มิภพเกษตร สยามเอย
ดีกว่าปราการสร้าง เปล่ากั้นกันอไร ๚ะ
๔๑. สูงไสวยรุกชาติครึ้ม วัดระฆัง เจ้าเอย
รฆังนั่นดีตีดัง ทุกมื้อ
เสียงมนุษย์นี่สุดสัง เกตุแน่ ใฉนรา
ดังก็แสนดังอื้อ อับแล้วตโกนหาย ๚ะ
๔๒. พรรณรายพิลาศแล้ว แลมลัง มเลืองเฮย
บรมมหาราชวัง สถิตย์ไท้
เทิดหัตถ์นมัสการบัง คมบาท พระเอย
พระเดชพระคุณได้ ปกเกล้าเราเกษม ๚ะ
๔๓. พี่เปรมปราโมทย์ได้ สราญขนม์
เพราะพระจอมมหิดล ชุบเลี้ยง
จึงยากก็มงคล ในจิตร ดอกแม่
ถือกระตัญญเพี้ยง สาครสู้แสนมาร ๚ะ
๔๔. ผลสารสุจริตสู้ สวามิภักดิ์
มอบชีพฉลองคุณลักษณ ราชนั้น
ประดุจดวงวิเชียรจักร จมหยาก เยื่อฤๅ
แสงสัตย์ส่องใจหมั้น ซื่อหมั้นหมองใฉน ๚ะ
๔๕. ปางไสมยมีช่องให้ แสดงตน
พี่รับสุดแรงจน แทบม้วย
ปางมืดเมฆบังหน พี่ห่อน หาญเลย
งอรงับอับโอษฐ์ด้วย มุ่งให้ไทยเจริญ ๚ะ
๔๖. พี่เพลินนั่งนึกครึ้ม ทรวงเสบย
จนอุทกยานเลย ล่วงแล้ว
ลาบาทบพิตรเสวย ศิริสุข สวัสดิ์เทอญ
สรรพ์ภยันตรายแคล้ว คลาดได้ฝ่าธุลี ๚ะ
๔๗. พี่ดูโรงหล่อป้อม ทหารเรือ
ทหารฝึกเอิกอทึกเหลือ เลิศแล้ว
โรงจักรอู่หลวงเผื่อ ฝ่าเนตร พี่แม่
เพื่อพิทักษ์นัคเรศร์แผ้ว พิบัติมล้างทางชลา ๚ะ
๔๘. โศภาพิสิทธิ์สร้าง สมศรี เมืองเอย
ที่นั่งมหาจักรกรี เกริ่นหล้า
สรรพธุชยุทธภัณฑ์มี ครบเครื่อง ณรงค์แฮ
จอดตระหง่านผ่านวังท่า เสด็จด้าวชโลธร ๚ะ
๔๙. อนุศรแสนสลดโอ้ อกเรา อกเอย
เตรียมเครื่องจะขึ้นเขา โขตกล้า
ท่านเดินทเลเอา ไปประกอบ การแม่
ติเฉกคลังสินค้า เริ่มค้างจางสมัย ๚ะ
๕๐. แลไกลวราวาศเจ้า กระจ่างหน
นามพระเชตุพนถกล กึกหล้า
ตติยรัชศรัทธาผล เพิ่มพิภพ สยามเฮย
เพราะใหญ่เกินใครกล้า ซ่อมสร้างจำโทรม ๚ะ
๕๑. พี่แสนโสมนัศได้ สดับสาร
ว่าท่านผู้เป็นประธาน คิดแก้
สักเลขเก็บราชการ แก่ไพร่ ไทยเฮย
ถึงที่โรงสักแปล้ จิตรร้อนรดมหวัง ๚ะ
๕๒. เหลียวหลังแลโน่นเจ้า พระยา มหินทร์เฮย
เล่นลครเฮฮา ฮึกบ้าน
เป็นเอกอยุทธยาปรา กฎเลิศ โรงแม่
ไฉนล่าตัวพระยาป้าน ไป่แม้นลครลือ ๚ะ
๕๓. อือตึกโตใหญ่ตั้ง เต็มเต็ง
เหมือนตึกตุกตาเก๋ง พระตั้ง
น่าจักอยู่สำเพ็ง เหมาะกว่า นี่แม่
ของพระภักดีครั้ง โชคครื้นบุญรวย ๚ะ
๕๔. พระปรางสวนพิเศษสิ้น เมืองงาม
เผยอยศปรากฏสยาม เยี่ยมฟ้า
อรุญราชววาราม วราวาศ แม่เอย
ตติยรัชขัตติยเลิศหล้า อุทิศสร้างสนององค์ ๚ะ
๕๕. ตรงวังอนุชเจ้า จอมวงษ์
กรมพระจักพรรดิพงศ์ พี่จ้อง
พระเดชพระคุณทรง พระเมต ตานา
สมสนิทมิตรสมานต้อง ต่อน้ำใจตู ๚ะ
๕๖. พี่ดูพี่อนาถโอ้ ราชวัง เดิมเอย
ปางแรกขุนตากรัง สฤษดิ์สร้าง
สู้อุส่าห์ปราบพม่าหวัง ฟื้นพิภพ สยามเฮย
สูญชีพสูญคุณร้าง โลกได้ฉันใด ๚ะ
๕๗. แลไปเห็นป้อมชื่อ วิชาเยนทร์
นึกวิชาเยนทรเห็น เหตุอ้อ
ตีได้เพราะไสมยเอ็น ดูส่ง ชตาแม่
ถึงมอดรอดชื่อข้อ ชอบยั้งยืนนาน ๚ะ
๕๘. กำปั่นปานเมื่อมื้อ ลอยกระทง เทียวแม่
เกลื่อนนทีธารประสงค์ สู่ค้า
เรือแพอัดแอลง ขึ้นครึก เครงแม่
แสดงเกียรติกรุงไทยท้า โลกให้เห็นเจริญ ๚ะ
๕๙. เรือเดินทวนน้ำเรียบ ฝั่งมา
บัลลุวัดกัลยา อยู่ซ้าย
พระโตวัดโตปรา กฏเด่น กรุงแม่
ไทยว่าเจ๊กจีนย้าย เยี่ยงเจ้าผีสรวง ๚ะ
๖๐. คลองบางหลวงเมื่อเลี้ยว เรือมา
คนึงราษฎร์ประชาผา สุขได้
เพราะหลวงยุติธรรมสา มารถปก ครองแม่
ครามรุ่งเรืองเมืองให้ ราษฎร์รู้พยานเห็น ๚ะ
๖๑. พลพายเย็นจิตรด้วย เรือตาม น้ำแม่
สองฟากชลมารคงาม วัดบ้าน
บ้างตึกขัดแตะทราม ฝากระ ดานเฮย
บ้างสกปรกบ้างสอ้าน สอาดบ้างเล็กโต ๚ะ
๖๒. วัดโมฬีโลกข้าง ทางลี ลาแม่
โลกุตรโมฬีศรี สวัสดิ์ไท้
นำสัตว์จากโลกีย์ โอฆลุ อมัตแม่
หมดทุกข์หมดสุขไว้ วิโยคสิ้นสิ่งประสงค์ ๚ะ
๖๓. วัดหงษ์หงษ์เร่งรู้ ศักดิ์หงษ์ ทองเทอญ
หงษ์อย่วหลงตมลง สระเปื้อน
พี่เป็นขัตติยวงศ์ทรง สงวนเกียรติ พี่แม่
แรวงผิดไม่คิดเอื้อน อุส่าห์ตั้งระวังเสมอ ๚ะ
๖๔. เออตึกโตบ้านน่า พิศวง
เจ้าพระยาภาณุวงศ์ ท่านสร้าง
ให้บุตรสุดใจจง ใจมอบ ให้แม่
กับพระสุธรรมอ้าง เกียรติไว้ในกรุง ๚ะ
๖๕. แม้นมุ่งทุจริตกล้า ลเลิงหลง
เงินตึกเพชรทองคง ล่อนเกลี้ยง
ราชานุประพันธ์พงศ์ สุริยพระ ยาแม่
ถอดยศหมดบ้านเหยี้ยง อย่างให้เห็นผล ๚ะ
๖๖. ดลคลองราชสิทธิ์เข้า ถึงวัด
เห็นแต่สพานถนัด เนตรแล้ว
วัดสังขจายถัด ทางที่ ไปแม่
โน่นวัดราชคฤห์แผ้ว ภาคย์พื้นภูมิเตียน ๚ะ
๖๗. พี่รเมียรอาวาศครึ้ม เวฬุรา ชินเอย
ประจานชื่อลือชาปรา กฏอ้าง
เป็นเหตุเพราะเจ้าภา ษีไผ่ หนะแม่
ราชทรัพย์รับค้างสร้าง วัดแล้วเลยถวาย ๚ะ
๖๘. ขายผ้าเอาหน้ารอด ดีฤๅ แม่เอย
พี่ไม่ชอบไม่ถือ อย่างได้
มีจนก็ทนบือ สบายกว่าแน่แม่
บุญวัดไม่ขจัดให้ ชื่อสิ้นเสียเจือ ๚ะ
๖๙. บางยี่เรือเรือพี่เยื้อง ยาตรา
สุดจะแวะลำลา วัดแล้ว
ลุแพรกปากน้ำพา พี่คนึง ถึงแม่
สวนตะไคร้ได้แล้ว ไร่ร้างราเสีย ๚ะ
๗๐. เพราะเพลียใจด้วยติด ราชการ
เพราะรับทรัพย์ราชทาน ชีพคุ้ม
เพราะอยากฝากชื่อนาน เอาแต่ ธูรแม่
เพราะอยากมากจึ่งกลุ้ม มากกลุ้มกระมลหวิว ๚ะ
๗๑. ลอยลลิ่วเรือล่องน้ำ ดำเนิน
คลองชื่อภาษีเจริญ ล่วงเลี้ยว
แพรกหนึ่งนั่นทางเดิน บางเชือก หนังแม่
แลล่งตรงฤๅเอี้ยว โอบแม้นบางหลวง ๚ะ
๗๒. ปวงดอนอาจขุดได้ เป็นคลอง ได้นา
ถมที่ดรกลางหนอง ก็ได้
เฉกชนโง่เซอะลอง ร่ำศึก ษาเทอญ
ครูฉลาดสามารถใช้ คล่องแม้นมีเชาวน์ ๚ะ
๗๓. ผิเราทำเสร็จทิ้ง ฤๅรัก ษาเลย
หินก็รู้ปรักหัก ป่นปี้
เหมือนเฟืองไปฝึกสัก หน่อยเสื่อม เองแล
เห็นพยานคลองนี้ ตืดตื้นผืนไฉน ๚ะ
๗๔. แลไปสองฟากล้วน เรือนสวน
เขาปลูกผลไม้มวญ หมากฟื้น
มีเรือล่องลอยทวน ทางมาก ลำแม่
ตอนลึกมีนาพื้น ไร่สร้างสวนพลู ๚ะ
๗๕. แลดูวัดอ่างแก้ว ตรอมฤไทย
ถึงแวะบ่อมีใคร อาบด้วย
อาบเดียวที่เปลี่ยวใจ จอนจ่อ หนะเม่
เกรงเฉกตุกตาถ้วย ที่ตั้งอ่างวิเชียร ๚ะ
๗๖. เรือเจียรจะพ้นวัด รางบัว
คิดใคร่เก็บบัวกลัว เก็บเก้อ
ใครเห็นก็จักหัว เราะเยาะ พี่แม่
เพราะบ่อมีเรือเฟ้อ ฝากให้ถึงวัง ๚ะ
๗๗. จอดยั้งเรือเลี้ยงที่ วัดแค
เห็นกุฏิอย่างจีนแล แปลกจ้าน
ออกสายออกหิวแช เชือนอยู่ ใยเอย
กลืนโภชน์ผิดกว่าบ้าน มากช้อนชวนเสวย ๚ะ
๗๘. ขรัวเอ๋ยผอมโก่งโก้ โคลงกาง เถรเอย
นุ่งอาบขาวเหยปาง แป๊ะอเผี้ยน
เกินโวเอ็ตโรผาง เผ่นหรับ เทียวพ่อ
ดุด่าท่าป้วนเปี้ยน เปรียบงิ้วเซ็งโข ๚ะ
๗๙. โอ่สัญญาบัติกลุ้ม เกลอผจาน
ม้าพระยาวุฑฒิการ ก็เลี้ยง
ใยมึงอวดดีพาล ดูหมิ่น กูวา
ไม้รวกริบกูเกลี้ยง วัดอ้ายมหาโจร ๚ะ
๘๐. ฟังเถรทโมนอ้างฤทธิ์ เดชชงัด
พี่ชักพี่ถาวรหัด เหตุฟ้อง
ทราบว่าบ่าวหนึ่งตัด ซีกรวก หนึ่งแม่
ของพระทิ้งไว้ต้อง กิจค้ำเพิ่งเรือ ๚ะ
๘๑. เผือไคร่ใยไป่ง้อ ขอพระ ก่อนพ่อ
ทำมุทลุอุอะ พี่กริ้ว
ใช้เงินบาทขอขะ มาโทษ แทนเฮย
มันผิดมันบิดพริ้ว พลาดแล้วขออะไภย ๚ะ
๘๒. ได้ใจขรัวคาดคร้าม บุญขรัว
เย่อหยิ่งอวดตัวมัว พูดเพ้อ
พี่ไถลไม่ถือกลัว ก่อเหตุ รคายแม่
ยอส่งเถรหลงเฟ้อ ฟอดน้ำลายฟอง ๚ะ
๘๓. เลยล่องลาวัดต้น แคมา
ออกทุ่งนาเห็นนา ยืดย้วย
วัดมม่วงมากมม่วงผลา ผลผลิ อ่อนแม่
ใคร่เก็บใคร่กินด้วย สลาดน้ำปลาผสม ๚ะ
๘๔. เขานิยมวัดนี้พระ ขลังหวย
ถากไร่ไถนางวย งั่งบ้า
องค์เดียวโดดเดี่ยวรวย ลาภนัก เทียวแม่
กอข้อเรียงตัวถ้า ถูกได้ถวายแกง ๚ะ
๘๕. ลุแหล่งวนาวาศเข้า หนองแขม
หนองทุ่งรุงรังแซม ใฝ่อ้อ
ปลาหลงผิลงแนม หนองเมื่อ แล้งแม่
เขาตักตักวิดท้อ ถูกเคล้าเกลือตาย ๚ะ
๘๖. ฝ่ายขวานาเวศนั้น เขาทำ โบสถ์แม่
ชื่อวัดใหม่ใหหลำ เริ่มสร้าง
ใบรกาช่อฟ้าสำ หรับเชิด พโยมแม่
เจ๊กสลักเจ๊กจักล้าง ช่างไม้ไทยสูญ ๚ะ
๘๗. ช่างปูนปูนก่อนล้วน ไทยหา กินแม่
จีนแย่งไทยไทยรอา ออกคร้าน
ช่างไม้พวกไทยปรา กฏก่อน กนั้นแม่
เกรงแต่ไทยไป่ด้าน ดิ่งสู้อุสาห์จีน ๚ะ
๘๘. เจ๊กปีนมาสู่ด้าว แดนเรา
ฤทธิ์หมั่นเพียรเขาเอา ชนะได้
เฮอขืนง่วงมึนเมา ซึมสนุก เถิดเพื่อน
เจ๊กจะขี่คอให้ ลูบท้องมองกระหาย ๚ะ
๘๙. ฝั่งซ้ายบ่อนตลาดตั้ง ตามเนิน คลองนา
ถึงทอดทางสพานเดิน ครึกครื้น
ขาวนามุ่นชล่าเพลิน มาเล่น พนันแม่
เหนื่อยเปล่าเอาแรงฟื้น ทุ่งป้อนจีนโกง ๚ะ
๙๐. เห็นโรงทำอิฐตั้ง ตีเผา
เอาอย่างแย่งมอญเขา คิดสู้
หลายรายพ่ายมอญเมา มากลาภ สิแม่
มอญกระดิบเดินสดวกผู้ เผ่นแพ้เพียรเสมอ ๚ะ
๙๑. พระลบเลอลับสิ้น แสงเห็น
ที่จอดเรือยามเย็น พักเลี้ยง
เสร็จบากจากท่าเข็ญ เรีอรีบ แจวแม่
ยามค่ำก่ำเดือนเพี้ยง ประทีปฟ้ามาฉาย ๚ะ
๙๒. พลพายเหิมฮึกให้ เสียงเหยว เย่วพ่อ
พ่อพ่ออวาอวาเหยว เย่วจ้ำ
ลิ่วแล่นเฉกปลิวเปลว เท่าลูก เพลิงฤๅ
สองฟากมากไผ่ง้ำ ตคุ่มเงื้อมคลองคลา ๚ะ
๙๓. มาถึงสี่แยกเลี้ยว ออกปาก คลองแม่
แยกหนึ่งออกคลองฉวาก แม่น้ำ
แพรกหนึ่งกระทุ่มแบนจาก กรุงแพรก หนึ่งนา
แพรกหนึ่งดอนกระดี่จ้ำ จวบได้โดยหมาย ๚ะ
๙๔. พลพายเอะอะด้วย คลองคด
รับถ่อหลบตอลด หลีกเลี้ยว
เรือนเรือมากถี่กระถด ถึงปาก คลองแม่
เรือลุลำน้ำเอี้ยว ออกใล้ลำมา ๚ะ
๙๕. กาหลโห่ก้องท่า จีนสเทือน
จันทร์แจ่มยั่วใจเตือน แข่งเต้า
โพงพางพ่างโตนเบือน เรือเบียด มาแม่
เสียงแต่พลเร่งเร้า โห่ร้องคนองหล ๚ะ
๙๖. กลไฟสวนแล่นขึ้น มาลำ หนึ่งนา
เรือชื่อเจ้าหญิงจำ ชื่อได้
เจ้าหญิงนั่งนิ่งขำ นักชื่อ หญิงเฮย
แล่นลิ่วฉิวเฉียดใกล้ พ่อเจ้าหญิงจริง ๚ะ
๙๗. ตลิ่งแลมเลืองเนตร์ต้น ลำภู
แวมวับวับแวมดู หิ่งห้อย
สุดสังเกตุระยะผลู มัวมืด แม่เฮย
ฟังแต่เพลงชเลงถ้อย นวดเข้าเผาฟาง ๚ะ
๙๘. ปางนัดนวดเข้ายก ธงสัญ ญาแม่
บอกแขกเอาแรงกัน ลุ่มเลี้ยง
เหล้าเข้าอิ่มหมีมัน ใจสนุก สนานแม่
ร้องรับขับเพลงเปรี้ยง ปรบข้อมือเพลิน ๚ะ
๙๙. เกรงเกินคลองเลี้ยวย่าน บางยาง
ถามออกเอ็ดตลอดทาง ที่เต้า
มัวระวังหลีกโพงพาง บ่อยบ่อย แม่เอย
ช้าผิดเกินคาดเค้า เช่นคุ้นเคยมา ๚ะ
๑๐๐. นาวาเลยล่วงเข้า คลองยาง
บ้านมากเรือมากบาง ครึกครื้น
ดำเนินสดวกนามทาง เดินสดวก เรือฤๅ
น้ำมากดอกสดวกดื้น เมื่อน้อยคอยคราว ๚ะ
๑๐๑. ชาวเรือจอดพักถ้า คราวชล
พี่จอดวัดยางยล ร ยะบ้าน
เจ๊กมากหากพาหน แห่งสนุก สนานแม่
ไทยท่อยพลอยครึกครื้น หมดคร้านตามกัน ๚ะ
๑๐๒. เรือฉลอมบันทุกผู้ คนเยอะ
แจวแต่คนเดียวเออะ แปลกโว้ย
โจทกันออกเลอะเทอะ ว่าพวก ปล้นฮือ
เปล่าดอกเขาบอกโฮ้ย พวกเข้าเวรทหาร ๚ะ
๑๐๓. เกษมสานต์เสวยโภชน์จ้อ เจรจา
จอดผ่อนนอนจนครา คล่องน้ำ
สามยามจักยาตรา ทางต่อ ไปแม่
กำหนดพรุ่งค้ำจ้ำ จวบบ้านบางพรหม ๚ะ
๑๐๔. พี่สู่ไสเยศได้ สองโมง กระมังแม่
ราวสักสองยามโผง พุดแจ้ว
เขาลงไต่เรือโคลง สดุ้งตื่น ถามเฮย
เขาว่าน้ำขึ้นแล้ว พวกค้าลาลอย ๚ะ
๑๐๕. จักคอยกำหนดเข้า ยามสาม
รออยู่อิกถึงยาม ป่วยเต้า
ออกเรือรีบไปตาม ชลหลั่ง ขึ้นแม่
พี่นั่งดูฝั่งเฝ้า ฝืดน้ำใจหวล ๚ะ
๑๐๖. สวนจากสองฟากล้วน รังยุง
หวี่หวี่ตอมกัดมุง มากกลุ้ม
ปากปวดกว่ายุงกรุง ยุงป่า จากเอย
กางวิสูตรรูดม่านคุ้ม ชวดเค้นกระเหม่นหมาย ๚ะ
๑๐๗. สัตว์ร้ายกันรอดด้วย กำแพง
เพลิงพิลึกคึกคึกแรง รดน้ำ
อุทกภัยผิหนีแสวง ดรปิด คันฤๅ
มารจิตร์คิดกันปล้ำ ปละต้องสนองธรรม ๚ะ
๑๐๘. ยามค่ำดำตคุ่มครึ้ม คลองสงบ
โสมส่องฉายแสงลบ โลกลื้น
ลมเฉื่อยเรื่อยเลวงอบ อุ่นอก พี่เอย
เดี๋ยวหลับเดี๋ยวกลับฟื้น หลับแล้วหลงผวา ๚ะ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ