วันที่ ๑๙

วันที่ ๗ มินาคม ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๖๙๔. วันที่สิบเก้าที่ เจ็ดมินา คมเฮย
ถวิลว่ารุ่งเรียมผวา ตื่นแล้ว
เร่งกันออกเรือคลา ใคลแต่ ตรู่แม่
หนาวเฉียบเลียบแจวแจ้ว สุโนคแสร้เสนาะหู ๚ะ
๖๙๕. ดูหินกลางน้ำน่า ดูดู พิลึกแม่
กลรูปสิงโตงู เงือกบ้าง
ปุ่มเปาะเกาะกลางผลู แผลงเนตร์ แม่เอย
ดูเกาะงามเกาะข้าง ฝั่งไม้เขางาม ๚ะ
๖๙๖. ชาวป่าตามป่าซุ้ม เซิงหัก
ทำที่สำนักพัก พี่เขม้น
ใหนคนบ่อเห็นสัก คนออก มานา
ชรอยจะหนาวนอนเร้น ไม่รู้เรียมมา ๚ะ
๖๙๗. แก่งตาเพอน้อยเชี่ยว แล้วเจอ
เรี่ยวแหล่งแห่งตาเพอ ใหญ่ซ้ำ
เขาวังกระแจะเสนอ เนตรฝ่าย ซ้ายแม่
เป็นซอกกรอกกรวยถ้ำ เทือกไม้เครือเถา ๚ะ
๖๙๘. เหล่าอิแอ่นนับร้อยเล่ห์ แมลงมา ตอมฤๅ
บินหวู่ฉู่โฉบปลา เปลี่ยนจุ้ม
จ๋อนแจ๋มจิ่มกระแสรคลา ฟองรอบ ลำแม่
เรือแหวกหว่างอิแอ่นกลุ้ม เกลื่อนแม้นยุงมาร ๚ะ
๖๙๙. ชลยานถึงแก่งน้ำ ตื้นตืด
เชั้ยวก็เชี่ยวเหนียวหนืด หน่วงท้าย
ลงเข็นเล่นกันอืด ใหญ่จึ่ง ตลอดแม่
คนที่ลุยอุ้ยอ้าย อ่อนอึ้งโอยรอา ๚ะ
๗๐๐. จิกป่ามาป่าได้ ชมดอก จิกเอย
แดงฉาตกลชาดกลอก ช่อห้อย
ใบเขียวแก่แผ่ออก เป็นพุ่ม ผกาแม่
เสียดสลับกับดอกย้อย อยู่ถ้าธารสถาน ๚ะ
๗๐๑. กันดารแดนทุเรศด้าว ดงไกล
ยังบ่อหมดคนไทย เที่ยวยั้ง
แต่ก่อนพี่มาใน พนมน่าน นี้แม่
ฤๅพบบ้านมาตั้ง ถิ่นนี้มีเหมือน ๚ะ
๗๐๒. เกลื่อนเกาะกลางน้ำท่า ที่แปลก กันแฮ
แบ่งล่องคลองชลแหวก หว่างกว้าง
เกาะน้อยเกาะใหญ่แซก กันต่าง ต่างนา
ถึงช่องแคบแอบข้าง ฝั่งเลี้ยวลำจร ๚ะ
๗๐๓. สิงขรซ้อนสลับล้วน แลไกล
มีหมอกมัวใสล มืดคลุ้ม
สายแสงสุริโยทัย ถึงม่วง มอแม่
เห็นแดกงาผางุ้ม ชโงกโน้นนามเขา ๚ะ
๗๐๔. ทุเลาลงแจวหน่อยต้อง ต่อเข็น อิกแม่
พบเรี่ยวเชี่ยวชลเย็น อยู่กั้น
ถึงเหนื่อยเมื่อยล้าเป็น ไฉนสัก ครู่เลย
กลับจิตรพิศวงกั้น เหนื่อยน้ำเนือยดี ๚ะ
๗๐๕. ทวารคีรีสีขเรศท้อง ไอยรา ลุเอย
สองฝั่งล้วนเสลา ใหล่ซ้อน
งามไสวใหล่ขวาผา พิลึกเลิศ แล้วแม่
เฉวียงเฉกหินกองก้อน เกาะกั้นกลางหาว ๚ะ
๗๐๖. ลานจิตรราวเยี่ยมซุ้ม สวนสวรรค์
พอโผล่เห็นพุขวัญ หวาดสดุ้ง
เคยเห็นบ่อหายกระศัล ทรวงชื่น ชมเลย
งามสุดงามงามคุ้ง โขตรฟ้ามาเหมือน ๚ะ
๗๐๗. เลื่อนเรือจอดฝั่งข้าม คราหลง
พี่นั่งตื่นตลึงพวง พุนั้น
ไม้เขียวฉรอุ่มตรง ธารหลั่ง ใหลเอย
น้ำพุดุดั้นชั้น ชง่อนฟุ้งฟูลออง ๚ะ
๗๐๘. ผองพลยลอย่างปลื้ม ทุกนาย
รุมเพ่งเล็งตาหลาย รวมจ้อง
ปางหิวกระหายหาย ระหวยอ่อน แม่เอย
สดับแต่กาหลร้อง ระรื่นชื้นชมดัง ๚ะ
๗๐๙. กำลังหิวหากเลี้ยง เพลา หิวแม่
อร่อยยิ่งแสนโอชา รศเคี้ยว
ตัวพี่และพลพา หนะอิ่ม แล้วแม่
ใจพี่ยังกระหายเอี้ยว อุรตั้งหวังสรง ๚ะ
๗๑๐. ลงเรือเล็กล่องเลี้ยว ลอยกระแสร ซึ้งเอย
แสนส่ำฝูงปลาแล คล่ำคล้ำ
ยิ่งปลื้มเมื่อยามแปร เนตรพบ พุแม่
เรือทอดน่าธารน้ำ พุฟุ้งฝอยกระจาย ๚ะ
๗๑๑. ท้องช้างชายเนตรคุ้ง ไกลคนึง ใฉนเอย
งามไม่เหมือนเมื่อถึง พุแล้ว
งามพิศใช่ผาดพึง ใจพี่ นักแม่
ดีกว่าเขาครอบแก้ว ก่อล้อพุผา ๚ะ
๗๑๒. ชโงกขวาหญ้าใผ่พื้น แซมเฟิน
น้ำหยาดแต่ยอดเขิน พร่างพร้อย
ซ้ายสล้างอ่างใสลเนิน กระพักเชิด ชันแม่
กระเพิงพุล้นพร้อยพร้อย พฤกษ์ครื้มคลุมฉาย ๚ะ
๗๑๓. พรายพรายผีเสื้อผก โผบิน
เก็บลอองสินธุกิน ร่อนเลื้อย
กลช่อพุทธชาติประทิน ประเทืองเนตร พี่เอย
ปักกระจายฝอยเฟื้อย พุ่มพื้นพานผจง ๚ะ
๗๑๔. พิศวงวิเศษก้าน กิ่งใบ ไม้แม่
หินจับนอกภายใน สดชื่น
ใคลน้ำแนบเนินใสล แลสลับ เมลืองเอย
มวกสิลานุ่มพื้น พ่างผ้านวมคลุม ๚ะ
๗๑๕. พอจุ่มสริระร้อน ไฉนนา แม่เอย
เฉียบยเยือกยวนอุรารอา อาบสดุ้ง
พี่ปีนปุ่มผาผา สุขสนุก สนานแม่
เสียแต่เย็นฝอยฟุ้ง ปร่าสท้านกายหนาว ๚ะ
๗๑๖. สาวใผ่ใต่ขึ้นอ่าง เพิกปก
เฟินใผ่งอกดกปรก ประห้อย
ลงลุยแค่อกตก ลึกเฉียบ ฉิวแม่
ทนนั่งยังเกาะน้อย ปริ่มน้ำหนาวใจ ฯ
๗๑๗. ไปถึงอ่างใหญ่ชั้น บนโต
ลงว่ายสายชลโผ เล่นได้
ปีนชง่อนแง่แลโอ ฬารเลิศ
งามลิบเหลียวดูไต้ ต่ำเวิ้งเลวงหวิว ๚ะ
๗๑๘. ปีนลิ่วถึงยอดพื้น แผนดร
เห็นแต่ท่อธารยอน แยกเลี้ยว
ชักอุทกตกสาคร เป็นพุ พเนียงเอย
สกปรกทางลดเลี้ยว พี่ล้าคืนหลัง ๚ะ
๗๑๙. คลั่งสรงฝนพุพื้น เพิงเขา
นานกว่าสองโมงเมา มุ่นคว้า
กล้วยไม้ใผ่จีนเถา ลดาเก็บ เฟินแม่
มาปลูกก่อเขาบ้า สนุกแก้กระวนใจ ๚ะ
๗๒๐. ข้ามไปที่พุน้ำ ร้อนตรง ฝั่งแม่
เห็นท่อสองทางลง บ่อใกล้
แย้ตะขาบมุ่งอาบหลง กินตก ตายแม่
ต้มใข่ไม่สุกได้ แต่ร้อนชงชา ๚ะ
๗๒๑. ก้อนผาเหลือพิลึกร้อน รอุครัน
กลอบกระโจมงัน เหงื่อย้อย
เขาว่าแร่กัมถัน มีภาค นี้พ่อ
ชิมไม่มีรศน้อย หนึ่งรู้เหลือทาย ๚ะ
๗๒๒. บ่ายแล้วจักด่วนเมื้อ มรรคา
จำพี่อาลัยลา พุช้าง
ท้องช้างพี่สรงครา หลั่งสั่ง พุเอย
ขากลับพี่ขอค้าง ค่ำเฝ้าแฝงชม ๚ะ
๗๒๓. ร้อนรบมกลมอุระด้วย อุฬหชล
หมายอาบทราบลคองฝน พุนี้
สะจิตร์สมใจจน สมใคร่ สนานแม่
หวังเปล่าหนาวเหมือนกี้ กระหยับขึ้นเรือลา ๚ะ
๗๒๔. ฝ่ายขวาหินลาดล้วน ฝั่งมูล สูงเฮย
พงใผ่ดาษเขินพูล ฝั่งซ้าย
น้ำพุพุ่งเพียงนูน น้ำลั่น รบือแม่
แลบ่อเห็นพุคล้าย ท่อน้ำลำราง ๚ะ
๗๒๕. ตามทางมีท่อน้ำ ตกตัง ตังแม่
หลายท่าฝ่ายขวาฟัง แต่เตี้ย
ตาขันรับดันทุลัง ปีนตรวจ ธารแม่
พบแต่รางน้ำเปรี้ย ปริ่มพื้นดินมา ๚ะ
๗๒๖. สัตว์ป่าเสือถึกเนื้อ หมูมุง มากแม่
เห็นแต่รอยตีนนุง น่านไม้
แม้นพักค่ำเพียรปรุง ห้างนั่ง ดักแม่
พรานว่าเป็นต้องได้ แน่เนื้อสมันหมู ๚ะ
๗๒๗. ต่อมาตูท่าเพี้ยน ผิดไป
สองฝั่งแลลลิ่วไสว ล่อน้ำ
น้ำพุพลุ่งใหลใน ตอนต่ำ แม่เอย
แลชโงกโกรกชง่อนง้ำ งุ่มเงื้อมแหงนชัน ๚ะ
๗๒๘. หลายพรรณ์พฤกษ์สพรั่งกล้วย ไม้นา นาแม่
ชายเชิดสใบสีดา เด่นห้อย
ไม้ดอกดาษสาขา ขจิตรต่าง สีแม่
ขาวนุ่นพวงนุ่นย้อย แซกระย้าผกาหอม ๚ะ
๗๒๙. อ้อมทางหว่างโขตรซึ้ง เสียวสยอง
แสนสัตว์สายัณห์คนอง น่านไม้
ปักษาเผ่นผวาปอง รังสู่ รังแม่
แสนเสนาะฝูงชนีใกล้ ค่ำร้องโหวยโหวย ๚ะ
๗๓๐. อดูรโดยใครได้ลูก ชนีนิด
ยืนแอบคูหาชิด ช่องน้อย
น่าดำกระจิหริด รู้โลด โหนเฮย
ตามแม่ต้อยต้อยห้อย แกว่งร้องอี๋อี๋ ๚ะ
๗๓๑. ชลทีมีแก่งก้อน สิลามอ
กะปุ่มกะเปาะบางเกาะกอ ตะใคล่คลุ้ม
พี่ชมพี่ยิ่งพอ ใจพี่ นักรา
พลางเร่งเรือกระทุ่ม ถี่จ้ำแจวมา ๚ะ
๗๓๒. แก่งลว้าคลามืดเลี้ยว ลำถึง
น้ำเชี่ยวฉุดเรืออึง แอ่งก้อง
คลื่นทลั่งพลุ่งผังผึง พ่างคลื่น เทลแม่
ลลอกซัดปัดกราบท้อง ครูดก้อนหินกอง ๚ะ
๗๓๓. ช่องแก่งสารวัดขึ้น ยังเบา กว่าแม่
แก่งจรเข้คลานเยาว์ กว่าด้วย
สองคลองท่องฉุดทุเลา กว่าหน่อย หนึ่งแม่
เสมอกับแก่งหลวงห้อย หว่างห้องวงหิน ๚ะ
๗๓๔. เสียงสินธุ์สุดแก่งแล้ว ฤๅสุด เสียงเลย
ดังพิลึกครึกโครมทลุด ทลาดคว้าง
ดุจคลื่นมหาสมุท เมื่อพายุ ใหญ่แม่
กลบกับเสียงพุช้าง แก่งก้องกระหึ่มหน ๚ะ
๗๓๕. พอพ้นแก่งก็พ้น ปัญหา
จะต่อมรคาครา มืดแล้ว
จำจอดหาดทรายผา พึ่งพัก ค้างแม่
ทนกรากลำบากแอ้ว แซ่วสู้เสือหนี ๚ะ
๗๓๖. ตาขันตีผึ้งใหญ่ ยามสนุก
อุตลุดช่วยกันบุก ป่าข้าง
สองคนแบกรวงฉุก ละหุกโห่ มาแม่
เป็นเครื่องรื่นเริงล้าง เหนื่อยล้ามาตะบึง ๚ะ
๗๓๗. แลซึ้งเขารอบล้อม วงเฉนียน
กลอยู่ในสังเวียน ไก่น้อย
เงียบเสียงสัตว์ป่าระเมียร พโยมมืด มนแม่
ยลแต่ดาวพราวพร้อย พร่างฟ้าคราเหงา ๚ะ
๗๓๘. ปลัดเปียเมาหน่อยโอ้ อวดโขมง
พรานเพชร์ก็เอ็ดโผง พูดจ้อ
ยิงเสือใหญ่วัดโครง ถึงเจ็ด ศอกแม่
เปียเอ๋ยเลยเพชร์อ้อ รับอ้างเออผสม ๚ะ
๗๓๙. ฟังลมตาเพชร์คล้าม พรานปลด
เพราะว่าเขาคนถนัด เวชด้วย
เป็นพรานยกมนต์ชงัด ทำป่า สนิทแม่
ตลอดแม่น้ำน้อยห้วย ป่าคร้ามมือแก ๚ะ
๗๔๐. จะแพ้จะขนะสู้ ฉันใด ก็ดี
สิ่งสุดสำคัญใจ เท่านั้น
แรงเรี่ยวเขี่ยวชาญใฉน ฤๅเปรียบ ใจเลย
ใจและเป็นสิ่งปั้น ขลาดกล้ากำลังหาญ ๚ะ
๗๔๑. ชำนาญไว้ท่าให้ คนสยอง
ถึงจะขู่เกินของ เก่งบ้าง
ถูกเหมาะเคราะห์ส่งมอง เห็นประจักษ์ แล้วแม่
เลยเบิกบารมีสร้าง ศักดิ์ได้โดยประสงค์ ๚ะ
๗๔๒. พิศวงสังเวชโอ้ อนิจจา
ใจมนุษย์นี่สุดสา หัศแล้ว
ใครเก่งเบ่งท่าสา มารถขู่ ขรึมแม่
ใจขลาดใจคล้านแป้ว เปิดเต้นตลึงยอม ๚ะ
๗๔๓. นอนตรองตรอมยิ่งกลุ้ม กลางใจ
สอนว่าตรงตรงไป ดึ่งดื้อ
ถูกดาบคดปราบไย ตรงพ่าย และพ่อ
ตัวจะใจดีมื้อ หลักล้มเลยหนี ๚ะ
๗๔๔. ฉนี้นี่หมีน่าอ้าย เกรี่ยงดง
ชอบแต่อยู่ป่าพง แพ่งไม้
เพราะกลัวคดเหมือนตรง กระหยับคด คอแม่
เอาแต่ใจสุขได้ รอดแล้วเป็นดี ๚ะ
๗๔๕. แม้นมีกลเศิกซ้อน แสนอุบาย
กลับกลอกหลอกชลอกาย เก่งสู้
พออยู่หมู่เมืองหมาย แสวงสุข กายแม่
แม้นเช่อเห่อชื่อสู้ ป่าได้เยียใฉน ๚ะ
๗๔๖. นอนในซอกห้วยนึก กลัวเสือ
จุดป่ากองไฟเรือ ครึกครื้น
คึกคักอะหลักอะเหรื่อเหลือ ตื่นสนุก สนานแม่
พี่หลับกลับตื่นฟื้น บ่อยด้วยเสียงคน ๚ะ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ