วันที่ ๑๕

วันที่ ๓ มินาคม ๒๖ร.ศ. ๑๒

๕๒๖. ครึ่งเดือนเจื่อนจากด้าว เดินเรือ
แสวงสุขส่งเหยื่อเสือ สิข้า
เนื้อนกตกปลาเจือ ขุยใผ่ ผสมเอย
กินอิ่มนอนหลับช้า เชื่อมคุ้นเคยแรม ๚ะ
๕๒๗. แอร่มฟ้าผวาตื่นโอ้ อังสุมา ลีเอย
ใฉนด่วนส่องแสงครา พี่เคลิ้ม
จำบอกออกเรือลา ย่านพัก ไปแม่
หนาวก็หนาวท่าวเทิ้ม อุทกคลุ้มควันฉุย ๚ะ
๕๒๘. พุ้ยชลดลด้าวท่า โป่งคอย ดูแม่
ถวิลว่าโป่งสใบลอย เรี่ยวคว้าง
เผื่อพี่พลัดเรือพลอย เกาะโป่ง สใบแม่
งามกว่าโป่งน้ำค้าง ฟ่องฟื้นลอยฟอง ๚ะ
๕๒๙. ถึงคลองแก่งน้ำเชี่ยว เชี่ยวพิลึก หนะแม่
เหลือถ่อเหลือแจวกึก กักตื้น
คนเข็นเล่นอึกทึก เที่ยวแก่ง เชี่ยวเอย
เห็นกรวดกลอกเกลื่อนพื้น น่านน้ำนองใส ๚ะ
๕๓๐. น้ำใส่ใหลควากคุ้ง ท่ามเฟื่อง เจ้าเอย
ยามกระหายชำเลือง เลือกต้น
ไป่เห็นลูกมะเฟืองเคือง ใจพี่ นักรา
มองเปล่าหวังเปล่าพ้น ท่าเลี้ยวเลยมา ๚ะ
๕๓๑. ท่าลำเภาพี่เพ้อ ลำเภา พี่เอย
งามยิ่งนามลำเนา น่านไม้
น้ำเขียวเชี่ยวเห็นเงา ไม้ชโงก งามแม่
โฉมแม่ลำเภาใกล้ กระจกแล้ววิไลยฉาย ๚ะ
๕๓๒. สายชลล้นหลั่นแม้น เทใหล ลงฤๅ
ช่องแคบแอบเรือไป ป่วนท้าย
ลงลากถลากไถลไคล เลือกลื่น นักรา
ปลาคล่ำส่ำว่ายคล้าย กรวดกลิ้งเห็นตัว ๚ะ
๕๓๓. นัวเนียเพลียถ่อค้ำ เรือไคล คลานา
ท่าทุ่งนาหมื่นไชย เชี่ยวกล้า
ฤทธิเชี่ยวเชี่ยวจนใหล พัดกลับ ขึ้นเลย
หลุดเรี่ยวเรี่ยวแรงล้า พักเลี้ยงพลพาย ๚ะ
๕๓๔. ฝั่งทรายชันซึ้งเม็ด โตหิน ปนแม่
ชายหาดเห็นผึ้งบิน สูบน้ำ
คงมีที่รังยิน ดีโลด กันนา
เดี๋ยวเหนี่ยวรวงใหญ่ป้ำ ด่วนได้ดังประสงค์ ๚ะ
๕๓๕. ตรงหากที่จอดต้อง เห็นถนัด
ช่องเหล่าเขามาตัด ใผ่ไม้
ทนยากถากเข็นคัด สู่ท่า แล้วแม่
ล่องส่งลงกรุงได้ ค่าเลี้ยงตัวสบาย ๚ะ
๕๓๖. ทั้งหลายหลงโลภเส้น สนุกเขลา
เที่ยวตัดขายใผ่เสา มากแล้ว
เล่นโปเล่นหวยเมา สุราที่ กรุงแม่
เหนื่อยเปล่าลงเซาแอ้ว แซ่วสู้ทวนทำ ๚ะ
๕๓๗. ดำเนินชลมารคเลี้ยว ลำทราย
พบเรี่ยวเชี่ยวทลักทลาย ลั่นอู้
น้ำสูงกว่ากันหลาย นิ้วถนัด เห็นแม่
ราวกับเข็นเรือสู้ สอึกขึ้นธารเขา ๚ะ
๕๓๘. ขอบใจเจ้าย่นน้อง พรานเพชร์
เที่ยวตัดไม้ทราบเสด็จ ลุแคว้น
ช่วยเขาลากเรือเอ็ด เทียวพี่ ฑิตเอย
พี่ตอบเงินสลึงแม้น ชั่งปลื้มเหลือใจ ๚ะ
๕๓๙. แลไกลเขาแก้วเยี่ยม พโยมทโมน แม่เอย
หลังย่านแมงลักโพน ภาคห้วย
เขาชลอถ่อเรือโยน ยวบน่า กลัวแม่
พลั่งพลั่งน้ำควั่งย้วย ยืดค้ำทางจร ๚ะ
๕๔๐. ดรตาลสามต้นมาก มีตาล
นาไร่บนใหล่ลาน ฝั่งสล้าง
ไป่เห็นหมู่เรือนชาน ใดอยู่ เลยแม่
เขาว่าเรือนอยู่ข้าง ลึกขึ้นเขินไป ๚ะ
๕๔๑. ไม้ใหญ่แลสรั่งต้น ยางยาง มีแม่
คนป่าเผายางทาง เทือกต้น
ขุดโพลงโล่งเป็นราง เตาก่อ เพลิงเอย
แท้เพราะยางยางล้น ล่อให้ไฟเผา ๚ะ
๕๔๒. เรือเราลุแหล่งห้วย แมงลัก
เห็นเย่าเรือนสำนัก ที่นั้น
ในห้วยว่ามีศักดิ์ สิทธิสิ่ง พิเศษแม่
เรียกสลายอนชั้น เอกเข้าขนานยา ๚ะ
๕๔๓. ซมซานมาลุเวิ้ง วังซัก ซานเอย
ใครจะซักพี่หยัก เรียกแล้ว
มาเถิดอยากซักนัก ซักพี่ เลิดรา
เพราะพี่ผ่องพี่แผ้ว พี่ท้ามาซี ๚ะ
๕๔๔. เห็นคีรีวังหมึกตั้ง กลางหน
ถึงหาดพระยาพล พี่จ้อง
ใยพระยายกพลดล แดนหาด นี้รา
ฤๅรับทัพพม่าป้อง ชาติครั้งรังแก ๚ะ
๕๔๕. แลเห็นหาดสบ้าเลียน แลสยุ
ไม่น่าเล่นสบ้ามุ เมื่อร้อน
เร่งเรือแล่นมาลุ วังหมึก แล้วแม่
จอดพักเมื่อขยักขย้อน อยุดแล้วเหลือสบาย ๚ะ
๕๔๖. ตเคียรพรายชายฝั่งเจ้า ผีสิง
เขาว่าศักดิสิทธิ์จริง จัดกล้า
ลอยมาลุตลิ่งอิง องค์ปลูก เองแม่
เขาปิดทองถวายผ้า ผูกเส้นบวงสรวง ๚ะ
๕๔๗. เจ้าหวงจรเข้ขี่ เรือพี่ลึก
สองสัตว์อยู่วังหมึก ฉวากนี้
ปางวิวาทพิฆาฏศึก คนองย่าน เจียวแม่
เขาเล่าเขาเชิญชี้ ช่องให้ไปประนม ๚ะ
๕๔๘. หลังนิคมควรยาตร์ขึ้น ชมผา
เขาเรียกเขาสรรพยา ย่านกว้าง
ล่ำแสนคณปักษา สมันถึก กระทิงแม่
ระรื่นรุกข์น่าสนุกผ้าง มนัศแสร้งแผลงทำ ๚ะ
๕๔๙. ลำเนาวนาเวศเวิ้ง วังหมึก นี้นอ
ทมอมืดน้ำลึกอทึก ถี่ไม้
กระท่อมพนัศตัดเสาปึก แผ่นพวก ไพรแม่
ครัวหนึ่งปลูกคามได้ อยู่ช้าหากิน ๚ะ
๕๕๐. บนดินตาลกล้วยมาก หลายขนัด
แตงฟักผักสารพัด มะพร้าว
มีเกวียนเที่ยวเข็นตัด เสาป่า ดรแม่
ยิงสัตว์ดักปลาก้าว กระเหม่นสู้แสวงเพียร ๚ะ
๕๕๑. รเมียรหินหมื่นน้ำน่า สรงสนาน
พี่นั่งเรือเล็กทยาน ย่องน้ำ
มาธุสิลาสถาน ที่ชื่น ชนม์แม่
ลงเล่นวารีล้ำ ลึกเย้ายวนเกษม ๚ะ
๕๕๒. พี่เปรมปราโมทย์ด้วย วังชล
งามยเยือกเย็นใจยน ยิ่งปลื้ม
ถวินถึงพระราชนิพนธ์ คราวประพาศ พนมแม่
สมลเมาะเหมาะใจยิ้ม ฝากเจ้าจงฟัง ๚ะ
๕๕๓. พระลบเจียนลับไม้ รอนรอน
แสงส่องสั่งอำพร พ่างย้อม
สีสลับกับสาคร เขียวสด ใสแฮ
อีกหมู่ไม้ไล่ล้อม เล่ห์ล้ำระบายสี ๚ะ
๕๕๔. ปักษาเซงแซ่ซ้อง หลายเสียง
บ้างหยุดบ้างบินเฉียง สู่ไม้
ขึ้นรังรวมคู่เคียง กันพรอด
ฟังเพลินใจให้ ห่วงน้องเนาหลัง ๚ะ
๕๕๕. แลเฉนียนสูงน้ำเนิ่น เนินทราย
เรือเล็กเล่มพายพาย ล่องน้ำ
มากลางกระแสรสาย สินธุ์สุด ซึ้งเฮย
งามยิ่งงามนักซ้ำ เสนาะทั้งวังเวง ๚ะ
๕๕๖. วังหมึกแม่น้ำเรียก ตำบล นี้นอ
ชลบ่อเชี่ยวฉวางกล แก่งตื้น
น้ำดำดุจหมึกปน เพราะลึก เหลือแฮ
วังหมึกชื่อเพราะพื้น น่านน้ำดำมัว ๚ะ
๕๕๗. ตาอ่อนพ่อบ้านเที่ยว ยิงหา
ปลาล่อนตัวหนึ่งมา มอบให้
ยายแดงแม่บ้านหา เนื้อตาก เค็มแม่
มาส่งสังเวยใหว้ พี่เพี้ยงผีขลัง ๚ะ
๕๕๘. เล่าครั้งแก่ตื่นด้วย พระยา
เมืองเพชรบุรีมา ระเบิดน้ำ
วังหมึกกระเทือนปลา ตายกราด วังแม่
พอพี่แจกเงินซ้ำ กราบใหว้ถวายพร ๚ะ
๕๕๙. แดดอ่อนออกไต่เต้า มากลาง กระแสรเอย
ลุเรี่ยวตลิ่งแดงทาง เทือกไม้
สูงสลั่งเกลื่อนฝังยาง ยูงแว่ แม่เอย
ตลิ่งลาดดาษไม้ใกล้ ตลิ่งน้ำดำเขียว ๚ะ
๕๖๐. เหลียวดูลิงโลดไม้ มองเรือ
ดูตลกน่าพิลึกเหลือ เลี่ยงเต้น
เราปลิดลูกกล้วยเครือ ใหญ่ขยับ โยนแฮ
ทโมนแม่แลดเม่นเน้น ลูกน้อยพลอยกระโจน ๚ะ
๕๖๑. บ้างโหนบ้างเหยียบโย้ โยนตัว
บ้างโดดหนีเรือกลัว จับตรึ้ง
บ้างตะกลามกัดกล้วยปัว เปียปุ่ย แก้มแม่
เรือเฉียดลิงฉวยทึ้ง เปลือกกล้วยกระเจิงหนี ๚ะ
๕๖๒. พี่จำโคลงว่าด้วย ลิงดง
กรมหมื่นประจักษ์ทรง แต่งไว้
คัดบทพจนประสงค์ ฝากหล่อน ฟังแม่
ยามพี่ตามเสด็จไท้ ท่องล้อเรียนเสมอ ๚ะ
๕๖๓. หมู่ลิงโลดแล่นเลี้ยว ไล่กัน
ลูกกอดอกผายผัน สู่ไม้
บ้างโน้มเหนี่ยวเถาวัลย์ โหนจับ ไม้นา
เรือหลีกหาดเข้าใกล้ โดดเร้นป่าสูญ ๚ะ
๕๖๔. หินดาษหินดาษพื้น เฉนียนเนิน
เป็นละเมาะเกาะกลางเขิน โขดน้ำ
เขาผนังฝั่งชง่อนเกิน คำเล่า แล้วแม่
งามแง่แลชโงกง้ำ เงื่อนแกล้งทำกัน ๚ะ
๕๖๕. นั่นแพญวนจอดจ้อง หาปลา
หลังหนึ่งอยู่เอกา ป่ากว้าง
มีคนตัดไม้มา ตั้งซ่อง บ้างแม่
เป็นเพื่อนคราวอ้างว้าง วิเวกน้อยวันเห็น ๚ะ
๕๖๖. ยามเย็นลุเรี่ยวน้ำ เชี่ยวปรูด
เขาเรียกท่ามกรูดมกรูด แก่เปรี้ยว
ฉุดเรือเมื่อหน้าบูด เชี่ยวจัด จริงแม่
ครู่ก็น้ำเอ่อเคี่ยว โป่งแก้กระมลสมาล ๚ะ
๕๖๗. จรเข้คลานสพานช้างเทียบ ทีเหมือน
ชลเชี่ยวเรี่ยวแรงเบือน ปากเบ้
ล่าลากเชือกกระชากเตือน กันรุก เรือนา
สานพักหนักเหลือตะเฆ่ จึ่งต้องจำคลาน ๚ะ
๕๖๘. ตลาดย่านผาพืดน้อย ระยะหยุด
หาดกรวดหาดทรายสุด แผ่เลี้ยว
เขียวชอุ่มพุ่มไม้สุด งามเมื่อ เย็นแม่
ฝูงนกบินโฉบเคี้ยว เหยื่อเข้าหารัง ๚ะ
๕๖๙. ปืนตังพรานเพชร์โล้ เรือเล็ก
ดักดอดยิงนกเป๊ก ปับขว้ำ
นกถลำตกน้ำเหล็ก ตำตอก ตัวนา
พรานเพชรเด็ดนักปล้ำ โคกม้ามาถวาย ๚ะ
๕๗๐. ขอขยายโคลงหนึ่งให้ เห็นขัน
กรมหมื่นประจักษ์ประพันธ์ ผูกล้อ
คราวเสด็จเที่ยวไพรสัณฑ์ ไทรยโยค นี้แม่
ฟังเถิดฟังแปลกข้อ คิดเพี้ยนเคยฟัง ๚ะ
๕๗๑. โคกม้าจับหาดจ้อง จิกปลา
ยืนอยู่แต่เอกา คู่ไร้
เรามาเพื่อนมีมา เยาะนก เล่นแฮ
นกนึกอายเราไผล้ หลีกหน้าเลยหนี ๚ะ
๕๗๒. เห็นเขาช่องด่านกั้น ทางไป
ยอดเยี่ยมเมฆาไกล มืดคลุ้ม
ทินกรล่อนลับไสล ลาโลก แล้วแม่
พอลุปักกิเลนคลุ้น รอบด้าวราวทาง ๚ะ
๕๗๓. จอดค้างชายหาดให้ สุมเพลิง
พอสว่างกลางเปลี่ยวถเกิง อุ่นกล้า
ยั่วใจไพร่รื่นเริง เพลินเล่น สนุกเฮย
เดือนมืดชืดใจถ้า เงียบชื้อชวนเหงา ๚ะ
๕๗๔. ลำเนาเขาเขตรห้วย เหงสูง ไฉนนา
พวกมากหากเฮจูง จิตรชื้น
เหมือนอยู่หมู่เพื่อนฝูง ฤๅเฝื่อน นิดเลย
เรือก็คุ้นเหมือนพื้น เย่ารั้ววังสถาน ๚ะ
๕๗๕. มีบ้านอยู่ฝั่งข้าง ฝ่ายขวา
แพจอดเขาหาปลา ตัดไม้
ถากไร่ปลูกกล้วยดา ดาษเนตร
มีแต่พายม้าใช้ ล่องเลี้ยวทางเดิน ๚ะ
๕๗๖. ถึงเพลินถึงสนุกด้วย ใดใด ก็ดี
พี่ไม่ลืมลเมอใจ จอดน้อง
ตัวอยู่ป่าดงไกล จิตรอยู่ วังแม่
หวังว่าถึงนุชต้อง ร่วมน้ำใจตู ๚ะ
๕๗๗. เที่ยวดูลูกจ้างพวก ฝีพาย
ชาติชั่วระยำชาย ชอบเหล้า
กันชาฝิ่นมันขยาย กันวุ่น เทียวเวย
พวกเบ่าเล่นไพ่เข้า น่งล้อมวงดี ๚ะ
๕๗๘. พี่กรองลิขิตข้อ ครวญสวาสดิ์
เป็นบทพจนาอนาถ จากน้อง
มาแรมพนานิราษ ระยะแพรก น้อยแม่
ยามครึ่งถึงกะต้อง เลิกแล้วลาผทม ๚ะ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ