วันที่ ๑๔

วันที่ ๒ มินาคม ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๔๙๐. ทางเรือเหลือช้าค่อย กระดิบ กระดิบ
ล่วงทิวามาสิบ สี่แล้ว
ทางไปก็ไกลลิบ ลเลิงเที่ยว มาแม่
ก่อนรุ่งออกเรือแคล้ว หาดคล้อยลอยชล ๚ะ
๔๙๑. มาดลแดนโขตรท้อง ท่าเสลา
เขาปากดงชโงกเงา ฝั่งเงื้อม
เหมือนยักษ์ปักลำเนา ไพรสกัด อยู่แม่
มืดทึดมืดทะมอเหมื้อม หมดไม้เขียวมี ๚ะ
๔๙๒. ฟากวิถีมีใผ่ครึ้ม คลุมดร
พบพวกล่องแพขอน สักทั้ง
แพใผ่เพื่อมสาคร ลอยผ่าน พี่แม่
บนหาดเห็นปรำตั้ง ตัดไม้เวฬู ๚ะ
๔๙๓. อยู่สำราญวิเวกด้าว ดังสงัด
นกต่อไก่ต่อถนัด ล่อเลี้ยง
มีปืนเบ็ดครืนสัตว์ ปะดัก ยิงแม่
ขุยใผ่รวงผึ้งเพี้ยง กับเข้าขนมเสวย ๚ะ
๔๙๔. เรือเกยหาดเรี่ยวบ้าน ยางเกาะ
เห็นหาดกลางน้ำละเมาะ มากอ้อม
ที่ตื้นแค่เข่าเถาะ เถาะท่อง สบายแม่
ที่ลึกเหลือถ่อน้อม หน่วงค้ำลำชล ๚ะ
๔๙๕. มีคนตั้งบ้านตัด ไม้ยืน มากแม่
ใผ่รวกเสาแก่นฟืน โป๊ะรั้ว
แพขอนสักแรมคืน จอดพัก อยู่แม่
กรงนกกล้วยไม้ยั้ว ทับน้อยระนาวแขวน ๚ะ
๔๙๖. เรือแล่นถึงย่านเจ้า เห็นศาล เจ้าแม่
เจ้าแม่ศักดิสิทธิปาน ปู่เจ้า
มีผ้าตุกตาขนาน ลครยก ถวายเอย
พี่ด่วนชลมารคเร้า รีบไร้อะไรสรวง ๚ะ
๔๙๗. เรือล่วงถึงแคว้นท่า นักการ
พี่ไม่มีผิดพาล พี่ร้อง
เยียใฉนนักการชาน เสือกสกัด พี่แม่
โอ๋ยชื่อท่าดอกต้อง หยุดเลี้ยงกันที ๚ะ
๔๙๘. วารีเงียบลึกล้ำ มันเลือก
ชายฝั่งเป็นหินเทือก ท่าซื้ง
ปลาผลุดโพล่งพล่างเถลือก ถลนฟาด ฟองแม่
เขาว่ามีตเข้ทึ้ง ท่องน้ำทำความ ๚ะ
๔๙๙. ฤๅขามพรานเพชร์ขึ้น เดินบก
เดี๋ยวพี่แกยิงนก เงือกได้
ปลาล่อนเฉกฉ้อนหก คเมนถูก ปืนแม่
เดี๋ยวแปลกตีผึ้งให้ ดื่มเคี้ยวหวานมัน ๚ะ
๕๐๐. ผายผันชลมารคข้าง หาดโต
ถึงย่านบ้านกอนโด เชี่ยวเลี้ยว
มีเรือนไร่นาโค ควายช่วย แรงแม่
ตัดใผ่หาปลาเขี้ยว ขับกล้าหากิน ๚ะ
๕๐๑. ผินภักตร์เห็นพระให้ เห็นชัด
แน่ว่าคงมีวัด อยู่ด้วย
แต่แลบ่อเห็นถนัด แน่จิตร พี่เลย
เห็นแต่ใผ่ไร่กล้วย กับรั้วเรือนแพ ๚ะ
๕๐๒. เสียงแสร้ว่าลูกเนื้อ อึงคนึง
บ้างก็จับปืนตะบึง ไล่ล้อม
เสียงฮาใหญ่ไปถึง เนื้อเถื่อน แม่เอย
แปลงรูปเป็นควายด้อม โดดข้ามตามหาย ๚ะ
๕๐๓. หลายแควกระแสรเชี่ยวกั้น เกาะทราย
สุดจะถ่อแจวพาย ล่วงพ้น
ลงเข็นลุตลาดควาย แควร่วม แล้วแม่
น้ำลึกลงถ่อล้น รีบเมื้อมรรคา ๚ะ
๕๐๔. ท่าตะคร้องามป่าพื้น ทรายขาว
แลรโหฐารราว รุกข์สร้าง
กลุมพุกเหยื่อมฤคคราว คลอดลูก ชอบแม่
ดาษป่าน่ามาสร้าง ป๊ากสร้างวังหนม ๚ะ
๕๐๕. รดมคนดลบ้านฝั่ง ฝ่ายแคว ซ้ายแม่
ลำแม่พาชีแพ จอดตั้ง
เขาลงเฝือกปิดกระแสร ลำดัก ปลาเฮย
พี่สั่งพักเรือยั้ง ผ่อนล้าแรงแจว ๚ะ
๕๐๖. เห็นแถวไร่กล้วยเกลื่อน ฝั่งชล
บนฝั่งมีเรือนคน ขัดรั้ว
เจ๊กมาประโมงขน ปลาส่ง เสบียงเฮย
กับลูกลิงลมกะปั้ว กะเปี้ยมาถวาย ๚ะ
๕๐๗. พี่จ่ายเงินเฟื้องแจก ประสามี
ขึ้นเที่ยวทัศนานที แพรกเลี้ยว
ชื่อลำแม่พาชี ชลมารค ปลาแม่
ไปออกเพชร์บุรีเคี้ยว คดโค้งทางเขา ๚ะ
๕๐๘. ลำเนาน้ำตื้นติด ขัดขวาง
ไม้หักทับหนทาง กีดด้วย
ถามใครล่องไปปาง ใดทราบ บ้างฤๅ
เปล่าไม่เคยไปห้วย แห่งด้นจนตัน ๚ะ
๕๐๙. ครั้นพรานเพชรเที่ยวค้น เนื้อนก
เดินกลับมาทางบก ลุด้าว
ออกเรือถ่อทวนอุทก ทางเชี่ยว มาแม่
ตกตลึงลงแจวน้าว หนืดน้าวนทีตบึง ๚ะ
๕๑๐. ถึงท่ามะเดือไม้ สูงสไว
สองฟากครึ้มคลุมไพร แพรกกว้าง
เจ้าฟ้าดอกมะเดื่อไสมย เสียอยุท ธยาแม่
หนีภพหลบโลกสร้าง ผนวชทิ้งเมืองประไลย ๚ะ
๕๑๑. เมืองไทยไม่รู้ขาด คนดี ดอกแม่
กรุงเก่าแพ้ไพรี ยุคนั้น
เพราะเจ้าแผ่นดินกะลี เหลือพิลึก มนุษย์นา
คนอื่นหมื่นแสนอั้น อกทิ้งไทยสลาย ๚ะ
๕๑๒. เป็นชายโชคเมื่อบ้าน เมืองดี
จักโกรธกันตามที เถิดเอ้า
เมื่อศึกฮึกหาญตี เมืองเกิด ตัวนา
ควรสมัครักกันเข้า ขจัดสู้สัตรูกษัย ๚ะ
๕๑๓. มีใครสมัยเมื่อบ้าน เมืองเข็ญ
แข่งฤทธิบิดอุบายเป็น ช่องร้าย
บ้านเมืองไม่รักเห็น แต่ประโยชน์ ตัวแม่
รู้เลิดมันนั้นอ้าย ขบถบ้านเมืองเอง ๚ะ
๕๑๔. เกรงเรือจักค่ำค้าง ทางกะ
เร่งรีบแจวจังหวะ กระชั้น
บรรลุย่านวังตะ เคียนพลบ แล้วแม่
สองฝั่งหินทั้งนั้น ภาคย์พื้นผาสลอน ๚ะ
๕๑๕. รอนรอนสุริยขอบฟ้า แดงเถือก
ถึงท่าจรเข้เผือก พี่ค้าง
จอดหาดทรายกระเดือก ชิดหาด ทรายแม่
ตรงฟากเห็นแพสร้าง ระเบียบบ้านเรือนคน ๚ะ
๕๑๖. บนฝั่งศาลคู่โอ้ อนาถนัก
เชื่อแต่ผีสางศักดิ์ สิทธิ์เพ้อ
ตัวตัวไม่พึ่งจัก พึ่งปีศาจ ใฉนรา
มัวคลั่งของขลังเฟ้อ ฝืดสร้างทางนิพาน ๚ะ
๕๑๗. นั่งนานเกรงเมื่อยขึ้น หาดเดิน เล่นแม่
พอยืดสกลกายเพลิน เมื่อเพล้
หยุดยั้งบนฝั่งเนิน ขอนนั่ง สบายแม่
ดูวิเวกวังเวงเอ้ อาตม์อื้งตลึงหวัง ๚ะ
๕๑๘. ฟังเสียงมยุเรศร้อง ไกลไกล
ก๊อกก๊อกโต๊งโห่งใน ฟากโน้น
เห็นใช่นกยุงไพร เพราะชิด บ้านแม่
แท้ว่าสัตว์วัดโพ้น จับไม้ถวายเสียง ๚ะ
๕๑๙. เมียงมองช่องม่านโน้น เรือใคร นะฮือ
บันทุกกล้วยมีไฟ จุดจ้อง
บากมาน่าประหลาดใย ค่ำมืด แล้วรา
พลางนึกพลางพี่ร้อง ทักเฮ้ยใครพาย ๚ะ
๕๒๐. ทราบยายจั่นจรเข้ เผือกหมาย
นำเครื่องสักการถวาย แด่เจ้า
ให้ผ้านุ่งยายยาย หยอดเนตร์ เทียวแม่
หมอบพร่ำให้พรเฝ้า กราบแล้วลาจร ๚ะ
๕๒๑. ลือกระฉ่อนตลาดบ้านนี้ อึงเอ็ด
ว่าพบบ่อเพชร์เพชร์ ขุดได้
พระยาสุระศักดิ์เม็ด หนึ่งชอบ นักแม่
ร้อยบาทขาดค่าให้ รับซื้อดวงมณี ๚ะ
๕๒๒. มีลายแทงผุดขึ้น เมืองเหนือ
เขาชื่อศรีเพชร์เหลือ โคตรแก้ว
พระสงฆ์รีบลงเรือ มาถิ่น นี้แม่
วันหนึ่งคืนหนึ่งแผ้ว มนัศได้ดวงวิเชียร ๚ะ
๕๒๓. นายพลอยเพียรพูดเย้า ยอหนุน
ตาที่คลั่งเพชร์ฉุน เห่อให้
พี่ดูเพชร์ดีบุญ มีเกิด มาแม่
อุบ๊ะเพชรน้ำค้างได้ ตรวจสิ้นคำเถียง ๚ะ
๕๒๔. เพียงสิบหกพรรษเพี้ยร ผิดปลาด
เมื่อพี่ตามเสด็จประพาศ แพรกนี้
จรเข้เผือกแพอาจ จำแม่น แม่เอย
น้อยกว่าสิบแปดชี้ ช่องให้เห็นเจริญ ๚ะ
๕๒๕. เขาเชิญเสวยโภชน์ปลื้ม เปรมกระมล
นั่งผูกประพันธ์นิพนธ์ นิราษน้อง
เพลินจิตรติดใจจน ยามเศษ แม่เอย
ออกกระหายหาห้อง สู่ห้องไสยา ๚ะ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ