วันที่ ๑๓

วันที่ ๑ มินาคม ๒๖ร.ศ. ๑๑๒

๔๖๖. ห่วงทุ่งนาคราชขึ้น เขินอรัญ
ก่อนรุ่งไตรยทศวัน พี่ฟื้น
กินฟองไก่ประกัน หิวอ่า องค์เอย
เรือบางจากหาดตื้น ถ่อข้ามตรงถึง ๚ะ
๔๖๗. ขมึงทึงพรานเพชร์คว้า ปืนแบก
นำยะเหยาะเลาะดงแหวก ป่าตื้อ
พวกเราเหย่าตามแปลก ตาตื่น ไพรแม่
เสียงแต่โจทย์กันอื้อ เอิกด้าวดงเดิน ๚ะ
๔๖๘. เมิลไม้มากอย่างพื้น ใผ่พนอม
ดกดอกสุรภีพยอม ลูกย้อย
นานาปักษาถนอม กายส่ง เสียงแม่
ไก่ป่าแอบป่าคล้อย เนตร์แล้วขันคนอง ๚ะ
๔๖๙. พรานมองย่องเขม้นขยับ ยิงสัตว์
ตามไก่ไล่นกสกัด อิเก้ง
บุกรกวกเดินลัด ออกเทือก เกวียนแม่
ไป่เหมาะเดาะลูกเป้ง ปับได้ตัวกิน ๚ะ
๔๗๐. จวนถิ่นนาคราชแล้ว แสดงฤทธิ นาคฤๅ
ดินจึ่งแดงแผงผิด ภาคเพี้ยน
ไม้สูงพรืดสพรั่งชิด ชลอกิ่ง เปลาแม่
ลายถ่านปนหญ้าเที้ยร ทาบฟื้นพรมปู ๚ะ
๔๗๑. ครู่ถึงทุ่งนาคล้วน ลานดิน แดงแม่
ตากตพดเทียบปัถพิน พ่างแต้ม
เพลินเก็บลูกเกตกิน กิ่งเพียบ ผลเฮย
กลดื่มขีรรศแปล้ม โอษฐ์โอ้เอ็นดู ๚ะ
๔๗๒. แผนภูมิดูพิลึกด้าว แดงฉาด
แร่เหล็กหรือนาคผาด พิศร้อน
คูตนาคพี่นึกปลาศ แลเที่ยว แสวงแม่
พเอิญเหมาะเคราะห์ดีก้อน หนึ่งได้ดังประสงค์ ๚ะ
๔๗๓. ขืนหลงดงนาคช้า ชายเขา
สายแดดจะแผดเผา พี่ร้อน
ด่วนเดินกลับลำเนา ทางที่ มาแม่
พรานเพชร์เล็ดลอดย้อน ย่างจ้องมองสมัน ๚ะ
๔๗๔. ครั้นถึงท่ารีบเลี้ยง พลพาย
ด่วนออกเรื่อเมื่อสาย ถ่อแปร้
เสียงแต่ตื่นตเกียกตกาย กันบอก ข่าวแม่
โน่นนกโน่นไก่แจ้ โน่นเหี้ยหันหนี ๚ะ
๔๗๕. นางแอ้งมีบ้านโอ้ อนาถทาง
มาป่าเห็นแต่นาง ย่านแอ้ง
แม้พี่อยู่วังปาง เปรมสวาสดิ แม่เอย
โฉมแม่อ้องแอ้งแกล้ง พี่เย้ายวนกระศัล ๚ะ
๔๗๖. ถั่นถั่นถ่อเรี่ยวเลี้ยว แลสยอง ใจเอย
ลุแก่งหลวงมเลืองฟอง เฟื่องฟุ้ง
หินพืดยืดคลองคนอง น้ำหลุด ทลาดแม่
โยงเชือกเสือกเรือทุ้ง เทือกข้างทางเกวียน ๚ะ
๔๗๗. เลี่ยงหินลินลาศพ้น แก่งหลวง
พักทอดจอดเรือปวง ไพร่ร้า
อ้อมทางหว่างแก่งทรวง กระซิกใคร่ สนานแม่
ลงแก่งสรงกระแสรกล้า กระหลบฟื้นฟองถวาย ๚ะ
๔๗๘. คล้ายคล้ายโครงแก่งแกล้ง กรอพจน์
ยังจับใจกำหนด นึกได้
กรมหลวงพิชิตประชด ชมแก่ง หลวงแม่
ให้สะสมแก่งให้ สุขผู้มาเห็น ๚ะ
๔๗๙. น้ำใสใหลควั่งคว้าง ชลวน
ปลาว่ายสายสินธุ์ยล คล่ำคล้ำ
หาดลาดปราศจากมล ฑิณเปือก แปมนา
สนานสนุกน้ำตื้นน้ำ ลึกเหล้นเย็นสบาย ๚ะ
๔๘๐. ตาขันหายหน้าตก แก่งปลิว ไปฤๅ
เดี๋ยวกลับโกรธเพื่อนฉิว ปล่อยแกล้ง
ลอยน้ำด่ำถึงทิว ท้ายหาด โน้นแม่
ตโกนแทบคอหอยแห้ง ฮึดดั้นเดินมา ๚ะ
๔๘๑. ศาลเทพารักษ์ตั้ง ฝ่ายสดำ
เขาก็ต่างคนคำ รพเส้น
ค่อยถ่อค่อยชลอลำ เรือแล่น มาแม่
ถึงเรี่ยวแก่งน้อยเขม้น คมักพ้นชลเนือย ๚ะ
๔๘๒. เฉื่อยลมร่มแดดปลื้ม ปรีดา
เขาทับหมีหมีมา เมื่อนี้
ไม่แคล้วลูกปืนปา ปักอก หมีเอย
หมีขยาดหลบอาตม์ลี้ เลี่ยงเข้าเขาบัง ๚ะ
๔๘๓. มากระทั่งถึงเบื้องท่า กระบือกระบือ ใดแม่
ฤๅว่าทรพีฤๅ ฤทธิร้าย
ชลเนตร์เชี่ยวชลคือ เขาคูต ตาฤๅ
ใหนสุครีพครวญอยู่ท้าย โขตท่าพาลี ๚ะ
๔๘๔. โป่งนกที่นกกล้ำ เกลือกิน ฤๅพ่อ
ใหนโป่งพี่ปองถวิล ใคร่แจ้ง
จักบอกพี่พรานลิน ลานั่ง โป่งแม่
คอยนกยกปืนแกล้ง ลั่นเป้าเอาตัว ๚ะ
๔๘๕. มัวแวะตามชอบน้ำ ใจตู
พึ่งลุวังอ้ายหมู พลบแล้ว
อ้ายหมูแค่นมีคู หาเรียก วังแม่
พี่พรากเวียงวังแล้ว แซ่วไร้เรือนเกษม ๚ะ
๔๘๖. จำเปรมปราโมทย์ด้วย เรือเป็น สุขแม่
มั่งตั่งพริกกับเกลือเหม็น ไม่เคี้ยว
อดอยากยากลำเค็ญ เกลือกัด อร่อยแม่
รู้ศึกฝึกขับเขี้ยว จิตรบ้างเทอญสหาย ๚ะ
๔๘๗. พลพายพักหาดอ้าย หมูจอด นอนแม่
พบเพื่อนเรือคุยออด อุ่นบ้าง
กองไฟนั่งยามตลอด ระยะที่ แรมเฮย
เป็นสุขทุกคนค้าง ค่ำครื้นเครงฮา ๚ะ
๔๘๘. พฤกษาสูงสลั่งล้วน หลังหาด
เขียวฉอุ่มพุ่มใบดาษ ป่าครึ้ม
ยามค่ำส่ำจตุบาท ตเบ็งสุร เสียงแม่
กรีดโครกโฮกกระหึ่มฮึ้ม เอิกห้องหิมวา ๚ะ
๔๘๙. ไสยายามค่ำแล้ว เราเคย
เพลินอ่านอักษรเลย ดึกน้อย
สี่ทุ่มง่วงรงมเฉย ชาเชื่อม ใจแม่
คนเงียบเรียมเหงาชม้อย มืดฟ้าผทมฝัน ๚ะ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ